Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การช่วยฟื้นคืนชีพในเด็กและทารก - Coggle Diagram
การช่วยฟื้นคืนชีพในเด็กและทารก
การฟื้นคืนชีพในผู้ป่วยเด็ก
การประเมินภาวะ cardiopulmonary arrest
•
การประเมิน
ขึ้นกับการเปลี่ยนแปลงของแต่ละช่วงอายุซึ่งมีอาการและอาการแสดงออกของ Impending Pediatric Cardiopulmonary Arrest
มีภาวะหายใจลำบาก (Respiratory Distress) เช่นหายใจเร็ว หายใจตื้น ผนังทรวงอกปุ่ม ปลายจมูกบาน
มีอาการเปลี่ยนแปลงทางระบบประสาท เช่น ระดับความ รู้สึกตัวลดลด
มีอาการเปลี่ยนแปลงทางระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น หัวใจเต้นเร็ว ตัวลาย เขียว ดังนั้น หากผู้ป่วยมีอาการและอาการแสดงของภาวะ Impending Pediatric Cardiopulmonary Arrest และพยาบาลสามารถวินิจฉัยและช่วยเหลือได้ทัน ผู้ป่วยก็จะไม่เข้าสู่ภาวะ Cardio pulmonary Arrest
การกู้ชีพขั้นพื้นฐาน
ประกอบด้วย CAB
C = circulation ช่วยให้โลหิตไหลเวียนได้ดี
ประเมิประเมินโดยคลำชีพจรที่ซอกคอ cardio pulse
ประมาณ 10 วินาที หากไม่มี pulse ก็ให้ทำการนวดหัวใจ
External chest compression
• ในเด็กโตให้ผู้ช่วยเหลือวางส้นมือลงบนส่วนกลางค่อน
ไปข้างล่างของกระดูกหน้าอก หรือประมาณ 2 นิ้วมือ
เหนือ Xyphoid process แล้ววางส้นมืออีกข้างหนึ่งทับ
บนมือแรกแขน 2 ข้างเหยียดตรง โดยผู้ที่ต้องอยู่ในระดับ
ที่สูงกว่าผู้ป่วยแล้วโน้มตัวไปข้างหน้า
เริ่มนวดหัวใจ โดยออกแรงจากไหลาและลำตัวในท่าที่
ข้อศอกเหยียดตรงตลอดเวลา กดให้อกยุบ 1 ใน 3 ของ
ความหนาของทรวงอก อัตราเร็ว 100 ครั้งต่อนาที
การนวดหัวใจ : การช่วยหายใจเป็น 30: 2 (คนเดียว)
และระหว่างการทำ CRR จะหยุดได้ไม่เกิน 7 วินาที
(CRR จนกว่าจะถึงโรงพยาบาล แต่หากอยู่โรงพยาบาล
อยู่แล้วอาการไม่ดีขึ้น พิจารณาเปิดเส้นให้ยาหรือใช้
เครื่องกระตุ้นหัวใจขึ้นกับแผนการรักษาของแพทย์)
A = airway ทำให้ทางเดินหายใจโล่งใช้ทักษะ jaw
thrust เพื่อ safe c-spine กรณีผู้ป่วยได้รับอุบัติเหตุ
B = breathing การช่วยหายใจโดยการเป่าปาก
15:2 / อาจใช้ Ambu face mase O2 12-15LPM
ควรหยุด CPR เมื่อไร
กรณี CRR แล้วไม่ตอบสนองต่อ CRR เมื่อ CRR นานกว่า 1 ชั่วโมง และ sign ของ cardiac deaths
brain death
ผู้ป่วยอาการดีขึ้น
Complications
ภาวะแทรกซ้อนของการทำ CPR ได้แก่
อาเจียน,Sternumหัก, ซี่โครงหัก
,pneumothorax,hemothorax,อวัยวะภายในฉีกขาด,
ปอดช้ำ,กระดูกซี่โครงแยกจากกระดูกหน้าอก
การฟื้นคืนชีพในทารก
การช่วยกู้ชีพขั้นพื้นฐาน
Basic steps
1.การดูแลเรื่องความอบอุ่นป้องกันการสูญเสีย
ความร้อน ให้แก่ทารก (Warmth) โดยการเช็ดตัวทารก
ให้แห้งวางทารกใต้เครื่องรังสีความร้อน (Radiant
warmer) และห่อตัวให้ทารกด้วยผ้าที่อุ่นหรืออาจให้ทารก
นอนบนหน้าอกหรือท้องของมารดา (skin to skin contact)
2.เปิดทางเดินหายใจให้โล่ง (Clearing the airway) โดย
ใช้นิ้วชี้ดึงคางขึ้นมืออีกข้างหนึ่งกดหน้าผากลงเล็กน้อย
เอียงหูและแก้มฟังเสียงหายใจตามองที่หน้าอกเพื่อสังเกต
การเคลื่อนไหวของทรวงอกและประเมินการหายใจ
หลังจากนั้นดูดเสมหะในปากและจมูกตามลำดับ
3.กระตุ้นให้หายใจ เช่น ดีดฝ่าเท้า
4.ให้ O2หากทารกตัวเขียว
การช่วยหายใจ
Ventilation
การกระตุ้นการหายใจควรให้ออกซิเจนทางสายเข้า
face mask แต่ถ้าทารกยังหายใจไม่ดีขึ้นควรให้
positive pressure ventilation (PPV) ด้วยออกซิเจน
100% โดยการทำ PPV ควรจัดท่าให้ทารก
โดยการแหงนคอขึ้นเล็กน้อยเลือกขนาดของ mask
ให้เหมาะสมกับทารกโดย mask ต้องคลุมคางถึง
ดั้งจมูกการบีบให้บีบค้างไว้ 2-3 วินาทีในการบีบ
ช่วงแรกควรบีบแรงพอประมาณให้เห็นทรวงอกขยับได้ดี
พอควรแล้วจึงบีบในอัตรา 40-60 bpm.โดยผู้ที่บีบ bag
ควรประเมินว่าทรวงอกทั้งสองข้างของทารกขยับเท่ากัน
หรือไม่เสียงหายใจของทารกอัตราการเต้นของหัวใจ
และสีผิวหากทารกอาการไม่ดีขึ้นให้ตรวจสอบว่าขอบ
ของ mask แนบสนิทกับใบหน้าของทารกหรือไม่ทางเดิน
หายใจของทารกอุดตันหรือไม่ซึ่งการทำ PPV
อาจทำให้ลมเข้าในกระเพาะอาหารของทารกได้
จึงอาจต้องใส่สาย OG-tube แล้ว aspirate Content
และเปิดปลายสายไว้หากทารกอาการยังไม่ดีขึ้นอาจต้อง
แจ้งแพทย์พิจารณาใส่ท่อช่วยหายใจendotracheal tube
(ET tube)
ข้อบ่งชี้ในการให้ PPV
คือ
ทารกที่ไม่หายใจ
ทารกที่ไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้นการหายใจ
ในรายที่ทารกมี apnea หรือ gasping respirations
ทารกหายใจ แต่มีอัตราการเต้นของหัวใจน้อยกว่า 100 ครั้งต่อนาที
ทารกที่มีภาวะ Cyanosis แม้ว่าได้ให้ 100% ออกซิเจนผ่านทาง face mask and flow-inflating bag หรือ Oxygen mask หรือวิธี hand cupped around oxygen tubing
การให้ยา epinephrine
หรือสารน้ำ (volume expansion)
สารน้ำที่ให้ขึ้นอยู่กับดยาธิของ shock
ได้แก่ เลือด plasma colloidsulution หรือ
crystalloidsolution
การให้ยา
Adrenaline (Epinephrine) เป็นทั้งแอลฟาและเบต้า
-Receptor Stimulating Action ซึ่งจะช่วยให้หัวใจ
บีบตัวแรงและเต้นเร็วขึ้นคือเพิ่ม Myocardial Contractility
และ Conductivity และ Excitability ของหัวใจมีผลทำให้
เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ
เพิ่ม Myocardial Contractility
เพิ่ม Systemic Vascular Resistant
ขนาดบรรจุ 1 มก / มลหรือ 1: 1,000 เจือจางด้วยน้ำกลั่น
เป็น 10 มล. จะได้เป็น 1: 10,000 และในเด็กใช้
Adrenaline 1: 10,000 0.1-0.3 มล. / กก. ให้ได้ทั้งทาง
Intravenous และทาง Endotracheal tube ซึ่งในผู้ป่วย
เด็กมักจะใส่ Endotracheal tube ได้ก่อนการให้
Intravenous Fluid ซึ่งทำให้สามารถใช้ยาได้เร็วขึ้น
ข้อบ่งชี้ในการใช้ยา : หัวจใจหยุดเต้น (Asystole)
หรือ HR < 60 bpm
หลังได้รับการช่วยหายใจและการนวดหัวใจอย่าง
มีประสิทธิภาพอย่างน้อย 30 วินาที
การกดหน้าอก
ข้อบ่งชี้ : HR < 60 bpmหลังช่วยหายใจด้วย PPV
อย่างน้อย 30 วินาที
ให้ทารกนอนบนพื้นแข็งใช้นิ้วอบหลังทารก ( สำหรับ 2-
thum encircling hand technique) หรือใช้มือประคอง
ข้างหลัง ( สำหรับ 2 finger technique )ขณะนวดหัวใจ
โดยทั่วไปผู้ทำการนวดหัวใจยืนข้างลำตัวทารกและ
ผู้ช่วยหายใจยืนด้านศีรษะ
วางนิ้วตำแหน่งเดียวกันทั้ง 2 วิธี คือ บริเวณ 1 ใน 3
ด้านล่างตำแหน่งระหว่าง Xyphoid และราวนมให้
ตั้งฉากกับทรวงอก
กดทรวงอกลักษณะประมาณ 1/3 ของเส้นผ่าน
ศูนย์กลางแนวหน้าหลัง ความหนาของทรวงอก
นวดหัวใจต่อด้วยหายใจเป็น15:2(2คน)หรือ30:1(1คน)
ใช้เวลาในการนวดนานประมาณ 45-60 วินาที ครบแล้ว
ประเมินการตอบสนองของทารก หากอัตราหัวใจยังคง
ต่ำกว่า 60 bpm ให้ยาร่วมกับให้ PPV และนวดหัวใจ