Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กรณีศึกษาที่ 3
เรื่อง การพยาบาลมารดาที่มีภาวะตกเลือดหลังคลอด, 0.9% NSS 1…
-
0.9% NSS 1,000 ml + Syntocinon 20 unit v drip 120 ml/hr
-
ควรเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน
1.ภาวะความดันโลหิตต่ำ จากการให้ยาsyntocinon เนื่องจาก oxytocin ทำให้มีหลอดเลือดส่วนปลายขยายตัว ทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำมีการเพิ่มขึ้นของอัตราการเต้นของหัวใจและstroke volume ส่งผลให้มีcadiac output เพิ่มขึ้น
2.ภาวะมดลูกแตก เนื่องจาก syntocinon มีฤทธิ์คล้ายกับ oxytocin เป็นฮอร์โมนจากanterior pituitary มีฤทธิ์กระตุ้นกล้ามดนื้อเรียบของมดลูกทำให้มดลูกหดรัดตัวเร็ว หากผู้หญิงรายนี้ได้รับยาในปริมาณที่ไม่เหมาะสมจะส่งผลให้เกิดภาวะ ruptured uterus ได้
แนวทางการบริหารยา
-Syntocinon 10 units + 5% D / W หรือ 5% D / NSS 1,000 ml IV drip ด้วย rate 2mU-40mU / min (3-60 drops / min) มักไม่เกิน 20 mU / min (30 d / min)
-ปรับ rate ทุก 15-30 นาทีโดยเพิ่มครั้งละ 2 mu / min หรือ 3 d/min เพื่อให้ได้ adequate uterine contraction คือ duration 40-60 second, interval 2-3 minutes, intensity แรงดี
-ควรมี main tube IV ด้วยเสมอเป็น 5% D / NSS หรือ LRS โดย Oxytocin เป็น side tube เนื่องจากผู้ป่วย NPO และเพื่อในกรณีฉุกเฉินที่ต้องให้สารน้ำผู้ป่วยอย่างรวดเร็วเนื่องจากเสียเลือดมากหรือเพื่อทำ intrauterine resuscitation และป้องกันการให้ bolus dose Oxytocin ซึ่งถ้าให้ IV bolus dose จะทำให้เกิด hypotension ได้
-
Syntocinon (synthetic oxytocin 5,10 unit / amp)
-
Methergine 1 amp V stat
-
แนวทางการบริหารยา
-
-IV: doseเหมือน l.M.เจือจางด้วย 0.9%NSS ให้ได้ปริมาตรเท่ากับ 5 mL ให้ทาง IV ช้าๆ มากกว่า 1 นาที แต่ต้องระมัดระวังความดันเลือดที่อาจะสูงผิดปกติเฉียบพลันและการทำลายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง (cerebrovascular ccidents)
-
การประเมินเพิ่มเติม
-
- ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก
ซึ่งพบมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 70 ของการตกเลือดหลังคลอดทั้งหมด อาจเกิดจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น กล้ามเนื้ดมดลูกขยายมากเกินไป ทารกตัวโต ได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกเป็นเวลานาน เป็นต้น
- ประเมินการฉีกขาดของช่องคลอด
และปากมดลูก
เป็นสาเหตุอันดับสองของการตกเลือดหลังคลอด พบได้ร้อยละ20 ปัยจัยที่ทำให้เกิดการฉีกขาดช่องคลอด ได้แก่ ทารกตัวโต การตัดแผลฝีเย็บ ทารกมีส่วนนำไม่ใช่ศรีษะ เป็นต้น
- ประเมินเศษรกหรือเยื่อหุ้มทารกค้าง
อยู่ในโพรงมดลูก
เป็นสาเหตุของการตกเลือดหลังคลอด ร้อยละ10 ของการคลอดปกติทั้งหมด ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้รกติดหรือรกค้าง ได้แก่ มารดามีอายุมากกว่าหรือเท่ากับอายุ35ปี การคลอดก่อนกำหนด การเคยผ่าตัดเนื้องอกมดลูก เป็นต้น
- ประเมินความผิดปกติของ
การแข็งตัวของเลือด
พบได้ประมาณร้อยละ1 โดยมีปัจจัยส่งเสริม ได้แก่ การมีเลือดออกขณะตั้งครรภ์หรือมีประวัติตกเลือดหลังคลอด ทานกตายในครรภ์ เป็นต้น
- ประเมินเลือดที่ออกทางช่องคลอด
-
-
-
-
-
-
-
-
Reference
ทิพวรรณ์ เอี่ยมเจริญ.(2560).การตกเลือดหลังคลอด:บทบาทสำคัญของพยาบาลในการป้องกัน.วารสารวิชาการสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย.6(2):142-157
พัชรียา นิวัฒน์ภูมินทร์. (2562). การใช้ยาเพิ่มการหดรัดตัวของมดลูกในการผ่าคลอดบุตรทางหน้าท้อง: ภาควิชาวิสัญญีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ประเทศไทย.
แพรวพรรณ สุวรรณกิจ. (2561). เครื่องหัวใจและปอดเทียม: หลักการและการปฏิบัติ. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยนเรศวร.
Moncrieff, G. (2018). Postpartum haemorrhage: Aetiology and intervention. British Journal of Midwifery, 26(4), 224–231.
-