Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หลักกฎหมายด้านการประกอบอาชีพที่เกี่ยวกับสุขภาพอนามัย - Coggle Diagram
หลักกฎหมายด้านการประกอบอาชีพที่เกี่ยวกับสุขภาพอนามัย
พรบ.การประกอบโรคศิลปะ พศ.2542
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่10 พ.ค. พศ 2542
พรบ.การประกอบโรคศิลปะ(ฉบับที่๔)
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ
วันที่ 5 ก.พ. พ.ศ.2556
มาตรา3 ยกเลิก
นิยาม ในมาตรา4
'เวชกรรมไทย'
'การผดุงครรภ์ไทย'
'การแพทย์แผนไทย'
'เภสัชกรรมไทย'
'การแพทย์แผนไทย'
มาตรา4 เพิ่มบทนิยาม
ระหว่างนิยามคำว่า'การประกอบศิลปะ'
'การแก้ไขคำพูด'
'การแก้ไขการได้ยิน'
'การแก้ไขความผิดปกติของการสื่อความหมาย'
'เทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก'
'กิจกรรมบำบัด
'รังสีเทคนิค'
'จิตวิทยาคลินิก'
'กายอปกรณ์'
'การแพทย์แผนจีน'
มาตรา5
การประกอบโรคศิลปะแบ่งเป็นสาขาต่างๆ
สาขากิจกรรมบำบัด
สาขาการแก้ไขความผิดปกติของการสื่อความหมาย
สาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก
สาขารังสีเทคนิค
สาขาจิตวิทยาคลินิก
สาขาอุปรณ์
สาขาการแพทย์แผนจีน
สาขาอื่นตามที่กำหนดโดย
พระราชกกฤษฎีกา
มาตรา8
ให้มีคณะกรรมการการประกอบโรคศิลปะ
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
เป็น
ประธาน
กรรมการ
อธิบดีสนับสนุนบริการสุขภาพ
เป็น
รองประธาน
มาตรา 14 ให้มีคณะกรรมการวิชาชีพในสาขาต่างๆ
มาตรา 33
ผู้ขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะในแต่ละสาขาต้องมีความรู้ในวิชาชีพ
พรบ.วิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ.2537
ให้ไว้ ณ วันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ.2537
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
พรบ.วิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ.2537(ฉบับที่2)
ให้ไว้ ณ วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ.2558
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
มาตรา29
ห้ามมิให้ผู้ใดใช้คำหรือข้อความอัด้วยกษรไทยหรืือต่างอักษรต่างประเทศว่าเภสัชกร เภสัชกรหญิง แพทย์ปรุงยา นักปรุงยา
มาตรา30
ห้ามมิให้ผู้ใดใช้คำหรือข้อความที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้ที่มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมสาขาต่างๆ
มาตรา 28
ห้ามมิให้ผู้ใดเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมทำการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมหรือแสดงด้วยวิธีการใดๆใหเผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าวโดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต
"วิชาชีพเภสัชกรรม" วิชาชีชีพเกี่ยวกับ การเตรียมยา ผลิตยา ประดิษฐ์ยา เลือกสรรยา วิเคราะห์ยา ควบคุมและการประกันคุณภาพยา ปรุงยา จ่ายยา
มาตรา3 ยกเลิกบทนิยาม
"วิชาชีพเภสัชกรรม"ในมาตรา 4 แห่ง พรบวิชาชีพเภสัชกรรม 2537
พรบ.วิชาชีพทันตกรรม พ.ศ.2537
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 6 กันยายน พ.ศ.2537
มาตรา 4
'วิชาชีพทันตกรรม'หมายความว่า วิชาชีพที่กระทำต่อมนุษย์เกี่ยวกับการตรวจ การวินิฉัย การบำบัด การป้องกันโรค โรคฟัน โรคอวัยวะที่เกี่ยวกับฟัน โรคอวัยวะในช่องปาก โรคขากรรไกรและกระดูกใบหน้าที่เกี่ยวเนื่องกับขากรรไกร รวมทั้งการกระทำศัลกรรมและการกระทำใดๆในการบำบัด บูรณะและฟื้นฟูสภาพของอวัยวะในช่องปากกระดูกใบหน้าที่เกี่ยวเนื่องกับขากรรไกรและการทำฟันในช่องปาก
มาตรา25
ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาทันตกรรมทำการประกอบวิชาชีพทันตกรรมหรือแสดงด้วยวิธีใดๆให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าวโโยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต
พรบ.วิชาชีพการพยาบาลและผดุงครรภ์ พ.ศ.2528 (ฉบับที่2 พศ.2540)
"การพยาบาล"
หมายความว่า การกระทำต่อมนุษย์เกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือเมื่อเจ็บป่วย การฟื้นฟูสภาพ การป้องกันโรค และการส่ง้สริมสุขภาพ รวมทั้งการช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค ทั้งนี้ โดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์และศิลปะการพยาบาล
มาตรา3 ยกเลิกบทนิยาม
"การพยาบาล" และ"การผดุงครรภ์"ในมาตรา4
"การผดุงครรภ์"
หมายความว่า กาากระทำเกี่ยวกับการดูแลปละการช่วยเหลือหญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอด และทารกแรกเกิด รวมถึงการตรวจ การทำคลอด การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันความผิดปกติในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และระยะหลังคลอด รวมทั้งการช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค ทั้งนี้ โดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์และศิลปะการผดุงครรภ์
"การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์"หมายความว่า การปฏิบัติหน้าที่ผดุงครรภ์ต่อหญิงตั้งครรภ์ หญิงหลังคลอด ทารกแรกเกิดและครอบครัว
พรบ.ส่งเสริมและคุมครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พศ.2542
มาตรา3 "ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย"
หมายความว่า พื้นความรู้ความสามารถเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทย
"การแพทย์แผนไทย"
หมายความว่า กระบวนการทางการแพทย์เกี่ยวกับการตรวจ วินิจฉัย บำบัด รักษา ป้องกันโรค หรือการส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพของมนุษย์หรือสัตว์
มาตรา16
ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยมี
สาม ประเภท
ตำรับยาแผนไทย
ทั่วไป
หรือตำราการแพทย์แผนไทยทั่วไป
ตำรับยาแผนไทย
ส่วนบุคค
ลหรือตำราการแพทย์แผนไทยส่วนบุคคล
ตำรับยาแผนไทยของ
ชาติ
หรือตำราการแพทย์แผนไทยของชาติ
"สมุนไพร"
หมายความว่า พืช สัตว์ จุลชีพ ธาตุวัตถุ สารสกัดดั้งเดิมจากพืชหรือสัตว์ที่ใช้หรือปรสภาพหรือผสมหรือปรุงเป็นยาหรืออาหาร
มาตรา 21
บุคคลซึ่งมีสิทธิในภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยตามมาตรา 21ต้องมีสัญชาติไทยและมีคุณสมบัติดังนี้ 1.เป็นผู้คิดค้น 2.เป็นผู้ปรับปรุงหรือพัฒนา 3.เป็นผู้สืบทอดตำรับยาแผนไทย
ให้ไว้ ณ
วันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ.2541
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
มาตรา20
ตำรับยาแผนไทยส่วนบุคคลหรือตำราการแพทย์แผนไทยส่วบุคคลตามาตรา16(3)อาจนำมาจดทะเบียนสิทธิในปัญญาการแพทย์แผนไทยเพือ่ขอรับการคุ้มครองและส่งเสริมตามที่กำหนดโดยบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ได้ โดยยื่นคำขอต่อนายทะเบียน