Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ทฤษฎีเกี่ยวข้องกับกรณีศึกษา - Coggle Diagram
ทฤษฎีเกี่ยวข้องกับกรณีศึกษา
การตั้งครรภ์
ผู้รับบริการอายุ 19 ปี G1P0A0L0 GA 24+2 Weeks by U/S
EDC วันที่ 22 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 by U/S
LMP วันที่ 8 มีนาคม 2563
พยาธิสรีรวิทยา
ผู้รับบริการอายุ 19 ปี G1P0A0L0 GA 24+2 Weeks by U/S FHS = 154 bpm
การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น
ผู้รับบริการ อายุ 19 ปี GA 24+2 week เป็นTeenage
สาเหตุที่ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น
4.การขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องเพศศึกษา
ก่อนการตั้งครรภ์ผู้รับบริการให้ประวัติว่าไม่มีการคุมกำเนิด
5.ปัจจัยทางด้านจิตสังคม
3.ทัศนคติและค่านิยมเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศเปลี่ยนแปลงไป
6.ปัจจัยด้านพฤติกรรม
2.การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายและเป็นประจำเดือนเร็วขึ้น
มีประจำเดือนครั้งแรกตอนอายุ 13 ปี
1.ปัจจัยทางด้านสังคมประชากร ความยากจน ด้อยโอกาสทางการศึกษา
ผลกระทบของการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น
1.ผลกระทบต่อหญิงรัยรุ่น
ด้านจิตใจ
ผู้รับบริการให้ประวัติว่า เมื่อทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ มีความเครียด และวิตกกังวล กลัวว่าผู้ปกครองจะรู้และผิดหวังในตัวผู้รับบริการ
ด้านการศึกษา เศรษฐกิจ และสังคม
ผู้รับบริการกำลังศึกษาอยู่ระดับชั้น ปวส.1 จำเป็นต้องพักการศึกษา
ผู้รับบริการตั้งครรภ์ขณะกำลังศึกษาอยู่ จึงไม่มีรายได้เป็นของตนเอง ต้องพึ่งพาผู้ปกครอง
ผู้รับบริการให้ประวัติว่าเมื่อตัดสินใจบอกผู้ปกครองแล้ว ผู้ปกตรองยอมรับและเข้าใจ และบอกให้ผู้รับบริการรีบมาฝากครรภ์
ด้านร่างกาย
ผู้รับบริการอายุ 19 ปี GA 24+2 Weeks มาฝากครรภ์ล่าช้า ฝากครรภ์ครั้งแรกตอนอายุครรภ์ 22+2 week by U/S
2.ผลกระทบต่อบุตร
ผลกระทบต่อทารกในครรภ์และทารกแรกเกิด
ผู้รับบริการมีการฝากครรภ์ล่าช้า ฝากครรภ์ครั้งแรกตอนอายุครรภ์ 22+2 weeks by U/S ไม่มีแนวโน้มที่จะทำแท้ง
ผลกระทบต่อบุตรในวัยเรียนและวัยรุ่น
ผลกระทบต่อครอบครัว
ผู้รับบริการให้ประวัติว่าเมื่อตัดสินใจบอกผู้ปกครองแล้ว ผู้ปกตรองยอมรับและเข้าใจ และบอกให้ผู้รับบริการรีบมาฝากครรภ์
4.ผลกระทบต่อสังคม
พัฒนาการของการตั้งครรภ์ในหญิงวัยรุ่น
3.การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงในตนเอง
การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย
ผู้รับบริการมีการปรับตัวต่อ การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายทั้งขนาด การเคลื่อนไหว และการทำหน้าที่ของร่างกายขณะตั้งครรภ์ ยอมรับในภาพลักษณ์ของตนเอง
การเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์
ผู้รับบริการให้ประวัติว่าตนเองเป็นคนขี้หงุดหงิดง่าย
4.การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงด้านสัมพันธภาพกับคู่สมรส
ผู้รับบริการมีการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงด้านสัมพันธภาพกับคู่สมรส จะมีการอาศัยพึ่งพาคู่สมรสมากขึ้น มีสัมพันธภาพทางเพศลดลงเมื่อทราบว่าตนเองตั้งครรภ์
2.การสร้างสัมพันธภาพกับทารกในครรภ์
ผู้รับบริการยอมรับว่าทารกเป็นบุตรของตนเอง และมีความรู้สึกผูกพันต่อทารก มีการลูบหน้าท้องและพูดคุยกับทารกในครรภ์อยู่เสมอ
การยอมรับบทบาทการเป็นมารดา
-ผู้รับบริการยอมรับบทบาทการเป็นมารดา โดยเริ่มเรียนรู้บทบาทการเป็นมารดาในระหว่างตั้งครรภ์ จากอินเตอร์เน็ต และเรียนรู้จากจินตนาการ มีการสังเกตจากมารดาคนอื่น ๆ การเลือกพฤติกรรมเพื่อเลียนแบบหรือหลีกเลี่ยง
1.การยอมรับการตั้งครรภ์
ผู้รับบริการเป็นหญิงตั้งครภ์ในวัยรุ่น อายุ 19 ปี GA 24+2 weeks
หลังทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ มียอมรับการตั้งครรภ์ครั้งนี้ และไม่มีความคิดที่จะทำแท้ง มีการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมขณะตั้งครรภ์
การวินิจฉัยการตั้งครรภ์
Probable signs of pregnancy
การเปลี่ยนแปลงของมดลูกและปากมดลูก
Hegar’s sign
McDonald’s sign
Goodell’s sign
การขยับคลอนทารก
การหดรัดตัวของมดลูก
ยังไม่พบการหดรัดตัวของมดลูก
คลำขอบเขตตัวทารกได้
สามารถคลำขอบเขตตัวทารกได้ จาก 2 ท่า
ท่าที่ 1 Fundal grip พบระดับยอดมดลูกอยู่ที่ระดับ 1/4 เหนือระดับสะดือ วัดได้ 19 cms.
ท่าที่ 2 Umbilical grip พบ large part ด้านซ้ายของมารดา Small part ด้านขวาของมารดา
หน้าท้องโตขึ้น
ผู้รับบริการให้ประวัติว่าตนเองรู้สึกว่าขนาดท้องโตขึ้น
ได้ยินเสียงของหลอดเลือดมดลูก
จากผลการตรวจครรภ์วันที่ 4 สิงหาคม 2563 ได้ยินเสียงของหลอดเลือดมดลูก (uterine soufflé) ชัดเจน
การตรวจพบฮอร์โมน human chorionic gonadotropin (hCG)
อาการแสดงว่าตั้งครรภ์แน่นอน (positive signs of pregnancy)
เห็นการเคลื่อนไหวและคลำส่วนต่างๆ ของทารกได้
จากการซักประวัติผู้รับบริการให้ประวัติว่ารู้สึกว่าทารกดิ้นเมื่อตอนอายุครรภ์ 20 week
ขณะตรวจครรภ์วันที่ 4 สิงหาคม 2563 สามารถสังเกตการเคลื่อนไหวของทารกที่มากระทบผนังหน้าท้องของมารดาได้ชัดเจน และมีการดิ้นของทารกมากระทบที่มือขณะตรวจครรภ์
เห็นทารกผ่านทางคลื่นเสียงความถี่สูง
ได้ยินเสียงหัวใจทารก
ผลตรวจการตรวจครรภ์ วันที่ 4 สิงหาคม 2563 คำนวณGAจากUltrasound ได้ GA 24+2 week
FHS = 154 ครั้ง/นาที
Presumptive signs of pregnancy
อาการเหนื่อยล้ามาก
ผู้รับบริการมีอาการเหนื่อยอ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายกว่าปกติ
ความรู้สึกว่าเด็กดิ้นครั้งแรก
ผู้รับบริการรู้สึกว่าลูกดิ้นครั้งแรก ตอนอายุครรภ์ประมาณ 20 week
อาการถ่ายปัสสาวะบ่อย
ผู้รับบริการปัสสาวะวันละ 6-7 ครั้ง มีลักษณะขุ่นเล็กน้อย ไม่มีตะกอน ไม่แสบขัด สามารถกลั้นปัสสาวะเองได้
การเปลี่ยนแปลงของเต้านม
จากผลการตรวจร่างกาย วันที่ 4สิงหาคม 2563 เต้านมและหัวนม: ลักษณะเต้านมปกติ มีเต้านมคัดตึงเล็กน้อย คลำไม่พบก้อน พบหัวนมสั้นประมาณ 0.5 เซนติเมตร ลานนมมีความยืดหยุ่นดี
อาการคลื่นไส้
ผู้รับริการไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน
การเปลี่ยนแปลงของสีผิวและการเกิดรอยแตกของผิวหนัง
จากผลการตรวจร่างกาย วันที่ 4สิงหาคม 2563 : ตรวจพบ linea nigra ที่บริเวณหน้าท้อง
การขาดประจำเดือน
pregnancy ผู้รับบริการรับรู้ว่าตนเองตั้งครรภ์จากประจำเดือนขาดไปประมาณ 3 เดือนกว่า
การเปลี่ยนสีของเยื่อบุช่องคลอด
การคาดคะเนอายุครรภ์และกำหนดวันคลอด (Expected date of confinement =EDC)
การคาดคะเนวันครบกำหนดคลอด
EDC 22 พฤศจิกายน 2563 by ultrasound
1.การประเมินอายุครรภ์
กรณีจำประจำเดือนไม่ได้ ให้ถามประวัติทารกในครรภ์ดิ้นครั้งแรก
ตรวจด้วยการใช้คลื่นความถี่
นับจากวันแรกของการเป็นประจำเดือน
การวัดยอดมดลูกจากกระดูกหัวเหน่า
จาการตรวจครรภ์ วันที่ 4 สิงหาคม พ.ค.2563 พบว่า ระดับยอดมดลูกอยู่ที่ระดับ 1/4 เหนือระดับสะดือ วัดได้ 19 cms
การเปลี่ยนแปลงด้านสรีรวิทยาของผู้รับบริการ
การเปลี่ยนแปลงของอวัยวะสืบพันธุ์
มดลูก
การเพิ่มขึ้นของมดลูกเป็นไปตามทฤษฏีและการวัดระดับยอดมดลูกในการฝากครรภ์แต่ละครั้งมีความเหมาะสม
GA 22+2 week ขนาดของมดลูก > ระดับสะดือเล็กน้อย
GA 24+2 week ขนาดของมดลูกมีขนาด ¼ เหนือระดับสะดือ
จากการตรวจครรภ์วันที่ 4 สิงหาคม 2563 วัดระดับยอดมดลูก ได้ 19 cms.
การหดรัดตัวของกล้ามเนื้อมดลูก
ในระยะไตรมาสที่ 1 ของการตั้งครรภ์ ผู้รับบริการบอกว่ายังไม่มีการหดรัดตัวของมดลูก
ปากมดลูก
รังไข่และท่อนำไข่
การเปลี่ยนแปลงที่อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกและช่องคลอด
เอ็นยึดข้อต่อของกระดูกและอวัยวะในอุ้งเชิงกราน
เต้านม (Breasts)
ผลการตรวจเต้านม วันที่ 4 สิงหาคม 2563 ลักษณะเต้านมปกติ มีเต้านมคัดตึงเล็กน้อย พบหัวนมสั้นประมาณ 0.5 เซนติเมตร ไม่มีการบวมแดง ไม่มีรอยแตก คลำเต้านมปกติ ไม่พบก้อน ลานนมมีความยืดหยุ่นดี
การเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินหายใจ
จากการซักประวัติผู้รับบริการหายสะดวกดี ทั้งในช่วงนอนหงาย นอนตะแคง ไม่มีอาการหายใจเหนื่อยหอบผิดปกติ RR = 20 ครั้ง/นาที
การเปลี่ยนแปลงของระบบไหลเวียนเลือดและหัวใจ
Lab 1 (21 กรกฎาคม 2563)
Hematocrit 31%
ซึ่งค่าความดันโลหิต Systolic อยู่ระหว่าง 101-119 mmHg. Diastolic อยู่ระหว่าง 62-74 mmHg.
ปัจจุบันอัตราการเต้นหัวใจของผู้รับบริการอยู่ในช่วง 116 ครั้งต่อนาที (วันที่ 4 สิงหาคม 2563)
จากการตรวจร่างกายพบว่า ผู้รับบริการเท้าไม่บวม ไม่มีเส้นเลือดขอด
การเปลี่ยนแปลงของระบบต่อมไร้ท่อ
ต่อมไทรอยด์ (Thyroid gland)
ต่อมพาราไทรอยด์ (Parathyroid gland)
ต่อมพิทูอิทารี่ (Pituitary gland)
ต่อมหมวกไต (Adrenal gland)
รังไข่ (Ovary)
ตับอ่อน (Pancreas)
รก (placenta)
การเปลี่ยนแปลงทางเมทาบอลิซึม
ไขมัน
โปรตีน
คาร์โบไฮเดรต
การเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินปัสสาวะ
ผลการตรวจUrine วันที่ 04/08/ 2563 พบว่า
Urine Sugar = negative
Urine Albumin = negative
ผู้รับบริการปัสสาวะบ่อยครั้ง 6-7 ครั้ง/วัน มีลักษณะขุ่นเล็กน้อย ไม่มีตะกอน ไม่แสบขัด ไม่มีอาการปวดหน่วงท้องน้อย
การเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินอาหาร
ปากและช่องปาก
จากผลการตรวจทันตกรรม ไม่มีอาการเหงือกบวมและเหงือกอักเสบ และไม่มีฟันผุ
หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้
ผู้รับบริการไม่มีอาการเรอเปรี้ยว หรือแสบร้อนทรวงอกไม่มีอาการเจ็บเสียดแน่นท้อง
ผู้รับบริการมีอาการท้องอืดขณะตั้งครรภ์ ท้องผูก อุจจาระวันเว้นวัน ขับถ่ายลำบากเล็กน้อย สามารถกลั้นปัสสาวะและอุจจาระได้ ปฏิเสธการใช้ยาระบาย ไม่มีริดสีดวงทวาร
การเปลี่ยนแปลงของระบบกล้ามเนื้อและกระดูก
น้ำหนักของผู้รับบริการผู้รับบริการเพิ่มจาก 48 กิโลกรัม ปัจจุบันน้ำหนัก 51 กิโลกรัม ลักษณะท่าทางการเดินปกติ ไม่มีการแอ่นหลังขณะเดิน
การเปลี่ยนแปลงของระบบผิวหนัง
จากการตรวจครรภ์วันที่ 4 สิงหาคม 2563 ผู้ตรวจครรภ์สังเกตว่าหน้าท้องของผู้รับบริการมีขนาดขยายใหญ่มากขึ้นร่วมกับมีเส้นสีน้ำตาลที่หน้าท้อง บริเวณเต้านมไม่มีรอยแตกของผิวหนัง จากการตรวจครรภ์พบ Linea nigra แต่ยังไม่พบ striae gravidarum ลักษณะสีน้ำตาล
การฝากครรภ์คุณภาพ
ผู้รับบริการมาฝากครรภ์ครั้งแรก วันที่ 17/07/2563 GA 18+5 by LMP
ผู้รับบริการมาฝากครรภ์ครั้งที่2 วันที่ 21/07/2563 GA 22+2 by Ultrasound
ผู้รับบริการมาฝากครรภ์ครั้งที่ 3 วันที่ 04/08/2563 GA 24+2 by Ultrasound
การฝากครรภ์ของผู้รับบริการไม่เป็นไปตามการฝากครรภ์คุณภาพ
น้ำหนักตัวขณะตั้งครรภ์
น้ำหนักตัวของผู้รับบริการก่อนการตั้งครรภ์ 48 kg.
ส่วนสูง 157 cms.
BMI ก่อนการตั้งครรภ์ = 19.47
น้ำหนักตัวของผู้รับบริการขณะตั้งครรภ์ GA 18+5 week by LMP วันที่ 17/07/2563 ได้ 50 kg.
น้ำหนักตัวของผู้รับบริการขณะตั้งครรภ์ GA 22+2 week by U/S
วันที่ 21/07/2563 ได้ 50 kg.
น้ำหนักตัวของผู้รับบริการขณะตั้งครรภ์ GA 24+2 week by U/S วันที่ 04/08/2563 ได้ 51 kg.
BMI ขณะตั้งครรภ์ = 20.69
ตลอดการตั้งครรภ์ 24+2 สัปดาห์
ในไตรมาสที่ 1 เพิ่มขึ้น 1.5 กิโลกรัม
ในไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้น 1.5 กิโลกรัม
น้ำหนักของผู้รับบริการเพิ่ม 3 กิโลกรัม
เป็นไปตามน้ำหนักตัวที่ควรเพิ่มขึ้น ตลอดการตั้งครรภ์ (kg)
การตรวจครรภ์
การคลํา
ท่าที่ 2 Second Leopold Handgrip
พบ large part ด้านซ้ายของมารดา Small part ด้านขวาของมารดา
ท่าที่ 3 Third Leopold Handgrip (Pawlik's Grip)
ไม่สามารถตรวจได้เนื่องจากอายุครรภ์ยังน้อย
ท่าที่ 1 First Leopold Handgrip (Fundal Grip)
พบระดับยอดมดลูกอยู่ที่ระดับ 1/4 เหนือระดับสะดือ วัดได้ 19 cms.
ท่าที่ 4 Fourth Leopold Handgrip (Bilateral Inguinal Grip)
ไม่สามารถตรวจได้เนื่องจากอายุครรภ์ยังน้อย
การฟังเสียงหัวใจทารก
ฟังเสียงหัวใจของทารกได้ 154 ครั้ง/นาที
การดู
การดู ท้องไม่หย่อน ไม่พบรอยแผลผ่าตัดบริเวณหน้าท้อง ไม่พบตุ่มนูนแดง ตรวจพบ linea nigra ไม่พบ striae gravidarum ที่บริเวณหน้าท้อง ขนาดของท้องโตตามอายุครรภ์ Lie: longitudinal
วัคซีนที่แนะนำให้ฉีดสำหรับทุกการตั้งครรภ์
1.วัคซีนคอตีบและบาดทะยัก (Td )
ผู้รับบริการได้รับการฉีดวัคซีนบาดทะยัก ครั้งที่1 เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2563
2.วัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ( Influenza vaccine, inactivated type )
ผู้รับบริการได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2563
โรคธาลัสซีเมียในหญิงตั้งครรภ์
โอกาสของการที่จะมีลูกเป็นโรคธาลัสซีเมีย
2.ในกรณีที่พ่อหรือแม่มียีนแฝงเพียงคนเดียว โอกาสลูกจะมียีนแฝงเท่ากับ 50% แต่ไม่มีลูกคนใดเป็นโรคเลย
1.ในกรณีที่พ่อและแม่มียีนแฝงทั้งคู่ โอกาสลูกจะเป็นโรคเท่ากับ 25% โอกาสลูกจะมียีนแฝงเท่ากับ 50% และโอกาสลูกจะปกติเท่ากับ 25%
3.ในกรณีที่พ่อและแม่ฝ่ายหนึ่งเป็นโรค และอีกฝ่ายหนึ่งมียีนแฝง โอกาสที่ลูกจะเป็นโรคเท่ากับ 50% โอกาสที่ลูกจะมียีนแฝงเท่ากับ 50%
ผู้รับบริการมียีนส์แฝง สามีมียีนส์แฝง บุตรที่เกิดมาโอกาสจะเป็นโรคเท่ากับ 50%
อาการ
ผู้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมียจะมีอาการซีดเรื้อรัง เหลือง เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ตับม้ามโต ปัสสาวะสีเข้ม เนื่องจากมีการแตกของเม็ดเลือดแดงเรื้อรัง
ผู้รับบริการมีอาการซีดเล็กน้อย มีอาการเหนื่อยอ่อนเพลียง่าย
ชนิดของธาลัสซีเมีย
1.Alpha (α) thalassemia
2.Beta (β) thalassemia
การแบ่งระดับของความรุนแรงของโรคตามการรักษา
1.Thalassemia major (Transfusion-dependent thalassemia: TDT)
2.Thalassemia intermedia (Non-transfusion-dependent thalassemia: NTDT)
ผลLab ผู้รับบริการ Hb 10 g/dl
การดูแลรักษาขณะตั้งครรภ์
3.รับประทานกรดโฟลิกเสริม 5 มก.ต่อวัน ทั้งก่อนและระหว่างการตั้งครรภ์
4.เฝ้าระวังการติดเชื้อ
2.ให้เลือดเพื่อรักษาระดับ Hb ให้อยู่ที่ระดับ ไม่ต่ำกว่า 7-10 g/dl
5.ตรวจคัดกรองหรือค้นหาภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้บ่อยเมื่อตั้งครรภ์
1.งดการรักษาด้วยยาขับเหล็ก
6.เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนทางสูติกรรม
7.หลังคลอดสามารถให้นมแม่ได้ถ้าแม่ไม่มีการติดเชื้อ
หมู่โลหิต
หมู่โลหิตระบบ ABO (ABO system)
(ผู้รับบริการ) Blood Group : B
(สามีของผู้รับบริการ) Blood Group : A
หมู่โลหิตระบบ Rh (Rh system)
(ผู้รับบริการ) Rh Positive
(สามีของผู้รับบริการ) Rh Negative
การตั้งครรภ์กับความสำคัญของหมู่เลือด Rh+ และ Rh-
ถ้าหญิงตั้งครรภ์เป็น Rh positive สามีจะเป็นกลุ่มเลือดใดก็ไม่มีปัญหา
(ผู้รับบริการ) Blood Group : B Rh Positive
(สามีของผู้รับบริการ) Blood Group : A Rh Negative
ถ้าหญิงตั้งครรภ์เป็น Rh negative สามีเป็น Rh positive ลูกเกิดมามีโอกาสเป็น Rh positive
มารดาที่มีแอนติบอดีต่อเม็ดเลือดแดงชนิด IgG มีโอกาสสูง
ที่แอนติบอดีเหล่านี้จะเข้าสู่ระบบหมุนเวียนเลือดของทารก หลังจากนั้นเม็ดเลือดแดงเหล่านี้จะถูกทำลาย ส่งผลให้
ทารกมีภาวะซีดและความสามารถในการขนส่งออกซิเจนไปยังอวัยวะต่างๆลดลง
ถ้าเป็น Rh negative ทั้งคู่ก็ไม่มีปัญหา
ถ้าเป็น Rh positive ทั้งคู่ก็ไม่มีปัญหา