Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ทฤษฎีการเรียนรู้ของบลูม (Bloom's Taxonomy of education object) -…
ทฤษฎีการเรียนรู้ของบลูม (Bloom's Taxonomy of education object)
ทฤษฎีการเรียนรู้เบนจามิน บลูม และคณะ
:silhouettes:
Bloom’s Taxonomy กล่าวถึงการจำแนกการเรียนรู้ตามทฤษฎีของบลูม ซึ่งแบ่งเป็น 3 ด้านโดยในแต่ละด้านจะมีการจำแนกระดับความสามารถจากต่ำสุดไปถึงสูงสุด
ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor Domain)
ด้านจิตพิสัย (Affective Domain)
ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain)
ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor Domain)
พฤติกรรมด้านกล้ามเนื้อประสาท :face_with_head_bandage:
2. กระทำตามแบบหรือเครื่องชี้แนะ
ทำตามได้ (เป็นพฤติกรรมที่ผู้เรียนพยายามฝึกตามแบบที่ตนสนใจและพยายามทำซ้ำ เพื่อที่จะให้เกิดทักษะตามแบบที่ตนสนใจให้ได้)
3. การหาความถูกต้อง
ทำได้ถูกต้อง ควบคุมและลดความผิดพลาด (ทำได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องอาศัยเครื่องชี้แนะ ทำซ้ำแล้วหาความถูกต้อง)
1. การรับรู้
สังเกตุและทำตาม(เป็นการเลือกหาตัวแบบที่สนใจ)
4. การกระทำอย่างต่อเนื่อง
เรียนรู้วิธีการที่ถูกต้องตามขั้นตอน (ทำตามรูปแบบนั้นอย่างต่อเนื่อง จนปฏิบัติงานที่ยุ่งยากซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง)
พฤติกรรมที่บ่งถึงความสามารถในการปฏิบัติงานได้อย่างคล่องแคล่วชำนิชำนาญ ซึ่งแสดงออกมาได้โดยตรงโดยมีเวลาและคุณภาพของงาน
เป็นตัวชี้ระดับของทักษะ
พฤติกรรมด้านทักษะพิสัย ประกอบด้วย พฤติกรรมย่อย ๆ 5 ขั้น
5. การกระทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ
แสดงพฤติกรรมที่ได้จากการฝึกอย่างต่อเนื่องเป็นประจำจนคล่องแคล่วโดยอัตโนมัติจนกลายเป็นธรรมชาติ
เมื่อบุคคลเกิดการเรียนรู้ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงดังนี้
:check:
2.การเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์ ความรู้สึก ทัศนคติ ค่านิยม (Affective Domain)
หมายถึง เมื่อบุคคลได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ก็ทำให้ผู้เรียนเกิดความรู้สึกทางด้านจิตใจ ความเชื่อ ความสนใจ
3. ความเปลี่ยนแปลงทางด้านความชำนาญ (Psychomotor Domain)
หมายถึง การที่บุคคลได้เกิดการเรียนรู้ทั้งในด้านความคิด ความเข้าใจ และเกิดความรู้สึกนึกคิด ค่านิยม ความสมใจด้วยแล้ว ได้นำเอาสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปปฏิบัติ จึงทำให้เกิดความชำนาญมากขึ้น เช่น การใช้มือ เป็นต้น
1. การเปลี่ยนแปลงทางด้านความรู้ ความเข้าใจ และความคิด (Cognitive Domain)
หมายถึง การเรียนรู้เกี่ยวกับเนื้อหาสาระใหม่ ก็จะทำให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ได้มากขึ้น เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสมอง
ด้านจิตพิสัย (Affective Domain)
พฤติกรรมด้านจิตใจ :<3:
2. การตอบสนอง
เป็นการกระทำที่แสดงออกมาในรูปของความเต็มใจ ยินยอม และพอใจต่อสิ่งเร้านั้น ซึ่งเป็นการตอบสนองที่เกิดจากการเลือกสรรแล้ว
1.การรับรู้
ตั้งใจสนใจในสิ่งเร้า(เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นต่อสิ่งเร้าซึ่งจะแปลความหมายแล้วแสดงออกมาในรูปของความรู้สึกที่เกิดขึ้น)
ค่านิยม ความรู้สึก ความซาบซึ้ง ทัศนคติ ความเชื่อ ความสนใจและคุณธรรม
พฤติกรรมด้านนี้อาจไม่เกิดขึ้นทันที
ดังนั้น การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และสอดแทรกสิ่งที่ดีงามอยู่ตลอดเวลา จะทำให้พฤติกรรมของผู้เรียนเปลี่ยนไปในแนวทางที่พึงประสงค์ได้ ประกอบด้วยพฤติกรรมย่อย ๆ 5 ระดับ
4. การจัดระบบ
เห็นความแตกต่างในคุณค่า แก้ไขความขัดแย้ง สร้างปรัชญาหรือเป้าหมายให้กับตนเอง
3. การเกิดค่านิยม
การเลือกปฏิบัติในสิ่งที่เป็นที่ยอมรับกันในสังคม การยอมรับนับถือในคุณค่านั้น ๆ หรือปฏิบัติตามในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จนกลายเป็นความเชื่อ แล้วจึงเกิดทัศนคติที่ดีในสิ่งนั้น
5. บุคลิกภาพ
การนำค่านิยมที่ยึดถือมาแสดงพฤติกรรมที่เป็นนิสัยประจำตัว ให้ประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งที่ถูกต้องดีงาม จะเกี่ยวกับความรู้สึกและจิตใจ
ทิศทางพฤติกรรมของคนจะรู้ดีรู้ชั่วอย่างไรนั้น ก็เป็นผลของพฤติกรรมด้านนี้
ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain)
:bulb:
3. การนำความรู้ไปใช้
เป็นขั้นที่ผู้เรียนสามารถใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้มาก่อให้เกิดสิ่งใหม่(สามารถนำความรู้ไปใช้ในการแก้ปัญหาได้)
4. การวิเคราะห์
ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดหรือแยกแยะความรู้ออกเป็นส่วน ทำความเข้าใจในแต่ละส่วนว่าสัมพันธ์หรือแตกต่างกันอย่างไร
2. ความเข้าใจ
เป็นความสามารถในการจับใจความสำคัญและสามารถแปลความ ตีความ ขยายความ ในสิ่งที่ได้เรียนรู้
5. การสังเคราะห์
มีความสามารถในการรวมความรู้หรือ
ประสบการณ์ต่างๆให้เกิดเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่สมบูรณ์ และดีกว่าเดิม (อาจเป็นการถ่ายทอดความคิดออกมาให้ผู้อื่นเข้าใจได้ง่าย)
1. ความรู้ความจำ
ความสามารถในการจำความรู้ต่างๆที่ได้เรียนรู้มา
6. การประเมินค่า
มีความสามารถในการตัดสินคุณค่าอย่างมีเหตุมีผล( สรุปเกี่ยวกับคุณค่าของสิ่งต่าง ๆ ออกมาในรูปของคุณธรรมอย่างมีกฎเกณฑ์ที่เหมาะสมอาจเป็นกฎเกณฑ์ตามสาระหรือสิ่งที่สังคมยอมรับ)
พฤติกรรมด้านสมองเป็นพฤติกรรมเกี่ยวกับสติปัญญา
ความรู้ ความคิด ความเฉลียวฉลาด ความสามารถในการคิดเรื่องราวต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นความสามารถทางสติปัญญา พฤติกรรมทางพุทธิพิสัย 6 ระดับ