Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารการขาย - Coggle Diagram
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารการขาย
ความจําเป็นที่ต้องนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในงานขยายและธุรกิจ
เทคโนโลยีการสื่อสาร ข้อมูล และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ องค์กรธุรกิจต่างๆ และ องค์กรที่ไม่ใช่ธุรกิจจะเชื่อมโยงข้อมูลและข่าวสารต่างๆ เข้าด้วยกัน รวมทั้งกฎหมายข้อบังคับต่างๆ ที่มี การบังคับใช้ร่วมกับเทคโนโลยี เพื่อควบคุมการใช้งานเทคโนโลยีให้มีความเป็นระเบียบและความปลอดภัย เช่น การขออนุญาตจดทะเบียนการค้าและการภาษีอากร เป็นต้น
องค์กรธุรกิจมีการแข่งขันสูง ทุกองค์กรมีความต้องการเข้าถึงผู้บริโภคของตัวเองด้วย ความแตกต่างจากคู่แข่ง ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศได้เอื้อประโยชน์ให้แต่ละองค์กรสามารถทํา ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ (E-Business) ได้ เช่น การซื้อขายสินค้า การทําธุรกรรมผ่านเว็บไซต์ หรือการพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) เป็นต้น
องค์กรธุรกิจต้องมีการปรับตัวและออกแบบองค์กรใหม่ เนื่องจากได้รับผลกระทบ จากแรงกดดันในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี สังคม การตลาด หรือลูกค้า ดังนั้นองค์กรธุรกิจจึงต้อง ปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ต่างๆ
ความสําคัญของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขาย การบริหารงานและค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเช่าพื้นที่ขาย ค่าใช้จ่ายในการตกแต่งร้าน เป็นต้น
ช่วยให้ประหยัดเวลาและขั้นตอน ทางการตลาด
ช่วยในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์
ช่วยเพิ่มช่องทางการกระจายสินค้าในประเทศและต่างประเทศ
สามารถทํากําไรได้มากขึ้น เนื่องจากต้นทุนการผลิตและการกระจายสินค้าตําทําให้ ได้รับกําไรจากการขายต่อหน่วยเพิ่มขึ้น
นําเสนอข้อมูลสินค้าได้เป็นจํานวนมากและสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง
ข้อมูลของสินค้าหรือบริการมีการปรับปรุง (Update) และพัฒนาอยู่ตลอดเวลา
สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าและสินค้าหรือบริการ เพื่อนําข้อมูลไป ทําวิจัยและวางแผนการตลาดเพื่อผลิตสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการของตลาด
ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับกิจการ ทําให้สินค้าและบริการเป็นที่ยอมรับของ
คนทั่วโลก
สินค้าสามารถเข้าสู่กลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว
ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
การทําธุรกิจระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business: B-to-B) เป็นการทําธุรกิจ ระหว่างองค์กรธุรกิจด้วยกันเอง ส่วนใหญ่เป็นการทําธุรกิจขนาดใหญ่ (Large Quantity) เช่น ผู้ผลิต วัตถุดิบจําหน่ายสินค้าให้กับโรงงานอุตสาหกรรม หรือโรงงานอุตสาหกรรมจําหน่ายสินค้าให้กับผู้ส่งออก ที่จําหน่ายสินค้าไปต่างประเทศ โดยชําระเงินผ่านระบบธนาคารและใช้ระบบการสั่งซื้อผ่านระบบ อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
การทําธุรกิจระหว่างธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer: B-to-C) เป็น การทําธุรกิจระหว่างผู้ประกอบธุรกิจกับผู้บริโภคโดยตรง ทั้งการจําหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น การจําหน่ายอาหารการจําหน่ายดอกไม้หรือการจําหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์โดยชําระค่าสินค้าผ่านระบบบัตรเครดิตเป็นต้น
การทําธุรกิจระหว่างธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government: B-to-G) เป็น การทําธุรกิจกับหน่วยงานของรัฐบาล เช่น การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐบาลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เป็นต้น
การทําธุรกิจระหว่างผู้บริโภคกับผู้บริโภค (Consumer to Consumer: C-to-c เป็นการทําธุรกิจระหว่างผู้บริโภคด้วยกันหรือระหว่างผู้ใช้อินเทอร์เน็ตด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันมีผู้เปิดเว็บไซต์ จํานวนมากเพื่อขายสินค้า เช่น อุปกรณ์สื่อสารอปกรณ์สํานักงาน คอมพิวเตอร์ สัตว์เลี้ยง เสื้อผ้า เป็นต้น
ประโยชน์ของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ประโยชน์ของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สําหรับผู้ซื้อหรือผู้บริโภค เครือข่ายสามารถทําได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สามารถทําธุรกิจได้ตลอด 24 ชั่วโมงการซื้อขายสินค้าทางคอมพิวเตอร์ผ่านระบบ สินค้ามากกว่าการซื้อสินค้าผ่านร้านค้าทั่วไป
สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตรงความต้องการ และลูกค้ามีเวลาพิจารณารายละเอียด
สามารถทราบข้อมูลสินค้าและบริการได้ในเวลารวดเร็ว เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ
สามารถหาข้อมูลสินค้าได้ เช่น เปรียบเทียบราคา คุณภาพสินค้า และข้อมูลอื่นๆ ผู้ประกอบธุรกิจไปยังลูกค้าโดยตรง
มีสินค้าหรือบริการที่หลากหลายและมีราคาถูก เพราะเป็นการขายตรงจาก การสั่งซื้อสินค้า
ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าปัจจุบันที่นิยมใช้อินเทอร์เน็ตในการสั่งซื้อสินค้า