Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

กรณีศึกษาที่ 3 การพยาบาลมารดาที่มีภาวะตกเลือดหลังคลอด - Coggle Diagram

- - - - 1.Early หรือ Primary PPH หมายถึง ภาวะตกเลือดที่เกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอดเป็นสาเหตุของภาวะตกเลือดหลังคลอดที่พบได้มากและบ่อยที่สุดประมาณ 4-6% ของการตั้งครรภ์ทั้งหมดโดยประมาณ 80% มีสาเหตุมาจาก uterine atonyนอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของมารดาที่พบได้บ่ายที่สุด
      - 2.Late หรือ Secondary PPH หมายถึง ภาวะตกเลือดที่เกิดขึ้นภายหลัง 24 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 12 สัปดาห์หลังคลอด พบได้น้อยประมาณ 1 – 3 % ของการคลอดทั้งหมด
- - - - มีแนวปฏิบัติทางการพยาบาล
      - แนวทางขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติเมื่อเกิดภาวะตกเลือดหลังคลอดที่ชัดเจน
      - หน่วยงานมั่นใจได้ว่าสามารถเข้าถึงยาที่ใช้ในการรักษา
      - มีความร่วมมือกันอย่างดีระหว่างหน่วยงานกับคลังเลือด
      - มีการส่งเสริมสนับสนุนให้มีการเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีมและฝึกซ้อมทักษะที่จำเป็นในการดูแลมารดาที่ตกเลือดหลังคลอด
      - ประเมินปัจจัยเสี่ยงต่อการตกเลือดหลังคลอดตั้งแต่ระยะฝากครรภ์แรกรับรักษาในรพ และระยะคลอด เพื่อพัฒนาเป็นคำสั่งการรักษา
      - ใช้วิธีการจัดการในระยะที่ 3 ของการคลอดโดยเร็ว (AMTSL)
      - ทำการประเมินการสูญเสียเลือดสะสมตั้งแต่ระยะคลอดระยะ 2 ชั่วโมงหลังคลอดและในหน่วยงานหลังคลอด
      - สร้างวัฒนธรรมของการบอกเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ในการดูแลมารดาตกเลือดหลังคลอดที่ต้องพัฒนา เพื่อให้ทุกคนในหน่วยงานเกิดความคุ้นเคยและเห็นถึงความสำคัญ
  - - - บอลลูนทำให้เลือดหยุดไหลได้จากความดันจากตัวบอลลูน ที่กดลงบนผนังมดลูกจนทำให้ภาวะเลือดออกจกหลอดเลือดฝอยและหลอดเลือดดำจากเยื่อบุโพรงมดลูก รก และกล้ามเนื้อนี้ควรมากกว่าหรือเท่ากับ มดลูกลดลง มีข้อแนะนำว่า intraluminal pressuresystemic arterial pressure เพื่อป้องกันไม่ให้มีเลือดออกต่อเนื่อง" แต่จากรายงานของ Georgiou ซึ่งศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง intraluminal pressue ในบอลลูนและปริมาตรของน้ำในบอลลูน พบว่า intraluminal pressureไม่เกิน systolic blood pressure ในขณะที่ tamponare test ได้ผลบวก ซึ่งนอกเหนือจากปัจจัย intraluminal pressure แล้วพบว่ามีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เลือดหยุดไหลร่วมด้วย คือ balloon-endometrial face, uterine wall compliance, local effects on the uterine arteryblood flow และ secondary uterine activity
    - - ภาวะแทรกช้อนที่พบได้คือ มดลูกทะลุระหว่างวางอุปกรณ์ มดลูกแตกขณะที่ขยายบอลลูน การบาดเจ็บของปากมดลูกในกรณีที่วางบอลลูนต่ำเกินไป การติดเชื้อ นอกจากนี้อาจพบภาวะ air embolism ได้ถ้าใช้แก๊สขยายบอลลูนแทนน้ำ