Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

หญิงตั้งครรภ์อายุ 38 ปี G2P1A0L1, Insulin, คำแนะนำ, Insulin, Week 5 HF…

- - - - น้ำหนัก 53 กิโลกรัม ความดันโลหิตสูง 110/70 mmHg
        urine albumin/sugar=negative/negative
        ยังคลำมดลูกไม่ได้ ไม่ได้ยินเสียง FHS
        
        BMI 20.31
        
        น้ำหนักตัวปกติ (BMI=19.8-26) พลังงานที่ร่างกายต้องการต่อวัน = 30 แคลอรี/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
        
        ผล 50 g GCTเท่ากับ 150 mg/dl
        
        มากกว่า140มก./ดล.
        
        ผลการตรวจ 100 g OGTT พบว่า
        FBS=100mg
        1 hr-PPG = 170 mg
        2 hr-PPG = 150 mg
        3 hr-PPG = 130 mg
        
        ค่าFBS มากกว่า92มก./ดล.
        เป็นเบาขณะตั้งครรภ์ ตรวจซ้ำเมื่อ สัปดาห์ 24-28
  - - - น้ำหนัก 54 กิโลกรัม
        ความดันโลหิต 130/60 mmHg
        urine Albumin = negative
        และ sugar = trace HF 1/3 >sp,
        FHS 132 bpm
        
        BMI 21.09
        
        น้ำหนักหนักเพิ่มขึ้น แต่เพิ่มขึ้นน้อย ควรเพิ่ม 0.5 กิโลกรัมต่อสัปดาห์
        
        ข้อวินิจฉัยการพยาบาลข้อที่ 3 มารดามีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นน้อยเนื่องจากการใช้ไขมันและเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อของร่างกาย
        
        พบ sugar=trace
        HF 1/3 >sp ประมาณ 12 week
        FHS 132 bpm(110-160)
        BP เพิ่ม แต่ไม่เกิน140/90
  - - - BMI 21.09
        
        น้ำหนักไม่เพิ่มขึ้น
      - sugar = +1/+1, HF 2+/3 >sp ประมาณ 16 wks
        FHS 148 bpm(110-160)
  - - - BMI 20.70
        
        น้ำหนักหนักลดลง จากการใช้ไขมันและเนื้อเยื่อร่างกายเพิ่มขึ้น ควรเพิ่ม 0.5 กิโลกรัมต่อสัปดาห์
      - sugar = negative/negative
        HF เท่ากับระดับสะดือ ประมาณ 20 week, FHS 150 bpm (110-160)
  - - - ผล 50 g GCTเท่ากับ 150 mg/dl
        
        มากกว่า140 มก./ดล.
      - ผลการตรวจ 100 g OGTT พบว่า
        FBS=110mg
        1 hr-PPG = 192 mg
        2 hr-PPG = 168 mg
        3 hr-PPG = 140 mg
        
        ผลการตรวจ 100 g OGTT ตามเกณฑ์ของCarpenter และ Coustan พบว่า
        FBS=110mg ผิดปกติ(ค่าปกติไม่เกินหรือเท่ากับ 95)
        1 hr-PPG = 192 mg ผิดปกติ(ค่าปกติไม่เกินหรือเท่ากบั 180)
        2 hr-PPG = 168 mg ผิดปกติ( ค่าปกติไม่เกินหรือเท่ากบั 155)
        3 hr-PPG = 140 mg ผิดปกติ(ค่าปกติไม่เกินหรือเท่ากบั 140)จากผลตรวจพบว่า 100g OGTT ผิดปกติ2 ค่า ขึ้นไป แต่FBS มากกวาปกติ(ตรวจอย่างน้อย 2 ครั้ง) แปล ผลเป็น GDM A2แพทย์นัดติดตามอาการอีก3สัปดาห์ผลการตรวจ 100g OGTT
        
        ตามเกณฑ์ของNational Diabetes Data Groupพบว่า
        FBS=110mg ผิดปกติ(ค่าปกติไม่เกินหรือเท่ากบั 105)
        1 hr-PPG = 192 mg ผิดปกติ(ค่าปกติไม่เกินหรือเท่ากบั 190)
        2 hr-PPG = 168 mg ผิดปกติ(ค่าปกติไม่เกินหรือเท่ากบั 165)
        3 hr-PPG = 140 mg ผิดปกติ(ค่าปกติไม่เกินหรือเท่ากบั 145)จากผลตรวจพบว่า 100gOGTT ผิดปกติ2 ค่า ขึ้นไป แต่FBS มากกวาปกติ(ตรวจอยางน้อย 2 ครั้ง)แปลผลคือGDM A2
      - sugar= 1+, HF 2/4> ระดับสะดือ,
        ปกติต้องประมาณ 28 week จึงพบว่า ทารกตัวโต
        FHS 148 bpm(110-160)
        ความดันโลหิต 130/70 mmHg เสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูงในไตรมาสที่3
        
        ข้อวินิจฉัยการพยาบาลข้อที่ 2 เสี่ยงต่อภาวะ hypertensive disorder เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือด
- - - - กรณีต้องยับยั้งการเจ็บครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการให้ beta-agonist แต่อาจให้ calcium
        chanelblocker(nifedipine) หรือ magnesium sulfate แทน
        
        การทดสอบความพร้อมสมบูรณ์ของปอดทารกในครรภ์ โรคเบาหวาน Class AB,C มี delayed lung
        maturity ไต้แม้ว่า L/S ratio จะมากกว่า 2 ส่วนใหญ่เป็นเพราะยังไม่มี PG ส่วนในโรคเบาหวาน class D,FG มักมีพัฒนาการของปอดเร็วกว่ากำหนด การทดสอบความพร้อมสมบูรณ์ของปอดจะ ช่วยในการพิจารณาการคลอดทารก ถ้าจะให้คลอดก่อนอายุครรภ์ 38 สัปดาห์ควรทดสอบความพร้อม ของปอดทารกก่อน โดยการตรวจน้ำคร่ำหา
        
        ตรวจครรภ์ทุก 1-2 สัปดาห์ ติดตามระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
        
        ตรวจติดตามการทำงานขอไต การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ระดับ HbAIC
        
        ไตรมาสที่ 3 ตรวจครรภ์ทุก 1 สัปดาห์
        เฝ้าระวังภาวะความดันโลหิตสูง การทำงานของไต
        ตรวจอัลตราชาวด์ติดตามอัตราการเจริญ
        เติบโต ของทารกในครรภ์ช่วง 28-32 สัปดาห์
        
        ตรวจสุขภาพทารกในครรภ์ ด้วย การนับลูกดิ้น ตั้งแต่ 28 สัปดาห์เป็นตันไป และ nonstress test(NST) 1-2 ครั้งต่อสัปตาห์ ตั้งแต่ 32 สัปตาห์ จนกระทั่งคลอด
        
        1 more item...
        
        Foam stability test หรือ shake test
        
        อัตราส่วนระหว่าง lecithin ต่อ sphingomyelin (L/S)
        
        ระดับ phosphatidylglycerol (PG)
  - - - ในรายที่ได้รับอินซูลิน เมื่อเข้าสู่ระยะคลอด (active labor) ให้งดน้ำและอาหาร และหยุดยาตอนเช้า
        
        ตรวจระดับน้ำตาลก่อนให้สารน้ำ
        
        ถ้าน้อยกว่า 70-80 มก./ดล. ให้ 5% dextrose ในอัตรา 100-150 มล /ชม. (2.5 มก./กก/
        นาที)
        
        ถ้ามากกว่า 70-80 มก./ดล. ให้ normal saline
        
        ตรวจติดตามระดับน้ำตาลทุก 1 ชั่วโมง ให้มีค่าประมาณ 80-120 มก./ดล.
        
        ให้ Regular (short-acting) insulin ถ้าระดับน้ำตาลมากกว่า 120 มก/คล. โดยให้ในอัตรา 1.25 ยูนิต/ชม. ถ้ามากกว่า 140 มก,/ดล. หรือน้อยกว่า 80 มก/คล. ให้ปรับเพิ่มหรือลดครั้งละ 1 ยูนิต/ชม.
        
        ตรวจสอบการฉีกขาดของ
        แผลฝีเย็บอย่างละเอียด
        
        ระหว่างการคลอดสตรีตั้งครรภ์ต้องใช้พลังงาน
        มากในระหว่างการคลอด พลังงานส่วน
        ใหญ่ได้มาจากคาร์โบไฮเดรต ระดับน้ำตาล
        ในเลือดจึงลดลง ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของ
        ทารกลดลงด้วย จึงอาจไม่จำเป็นต้อง
        ให้อินสุลินเป็นเวลาหลายชั่วโมง
        
        1 more item...
- - - - ทารกผลิตเองเมื่ออายุครรภ์ 10 สัปดาห์
    - - หลังคลอด
        
        ไม่ได้รับกลูโคสจากแม่
        
        แต่อินซูลินสูง
        
        Hypoglycemia
        
        ทำลายเซลล์สมอง
      - GDM
        
        ตับอ่อนไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เลยหรือน้อย
    - - รกผลิตฮอร์โมนสูงขึ้น
        
        Insulinase enzyme
        
        ย่อยอินซูลิน
        
        น้ำตาลในเลือดสูง
        
        นำกลูโคสเข้าเซลล์ไม่พอเหลือน้ำตาลในเลือด
        
        กลูโคสผ่านรก
        
        1 more item...
        
        อินซูลินไม่ไหลผ่านสู่รก
        
        2 more items...
        
        ขับมาทางปัสสาวะ ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย
        
        HPL สูง
        
        เกิดในช่วงไตรมาสที่ 2
        
        HCG สูง
        
        Cortisol สูง
        
        Estrogenสูง
        
        โปรเจสเทอโรนสูง
    - - เอสโตรเจนและโปรเจสเทอโรนสูง
      - มีการแพ้ท้อง
  - - - ด้านมารดา
        
        แท้ง
        
        hypoglycemia ในช่วงไตรมาสแรก
        
        เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
        
        ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
        
        น้ำคร่ำมากกว่าปกติ
        
        ติดเชื้อง่าย โดยทางช่องคลอด
        และทางเดินปัสสาวะ
        
        Diabetic ketoacidosis
        
        คลอดยาก เนื่องจากทารกโต
        และอาจติดไหล่
        
        มีโอกาสผ่าคลอด
        
        มีโอกาสเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ซ้ำได้
        และพัฒนาเป็นเบาหวาน type 2 ได้
      - ด้านทารก
        
        พิการแต่กำเนิด
        
        เสียชีวิตในครรภ์ได้ จาก asphyxia,ketoacidosis
        
        ทารกตัวโต
        
        เพิ่มอัตราคลอดติดไหล่
        
        ทารกโตช้าในครรภ์
        
        บาดเจ็บจากการคลอด
        
        อัตราการเกิดRDS สูง
        
        ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำหลังคลอด
        
        polycythemia
        
        hyperbilirubinemia หลังคลอด
        
        เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะความทนต่อ
        กลูโคสบกพร่องและอ้วนในอนาคต
        
        การตายของทารกหลังคลอด
- - - - กลูโคสนำไปใช้เป็นพลังงานในการเจริญ
        เติบโตของทารก
      - hypoglycemia
- - - - Hyperglycemia
        
        ทำลายเส้นทำลายเส้นเลือด
        
        Premature atherosclerosis ( หลอดเลือดแข็งตัวเร็วกว่าปกติ)
        
        ดูดเอาน้ำในเซลล์ร่างกายออกมาสูงหลอดเลือด
        
        ปริมาตรของเลือดเพิ่มขึ้นทำให้ไปเลี้ยงไตมากขึ้น
        
        Polyuria และ glycosuria
        
        Polydipsia
    - - Ketoacidosis และ acetonuria
    - - ต้องการสารอาหารเพิ่มขึ้น กินจุ หิวบ่อย
        
        Polyphagia