Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 59 ปี Dx.schizophrenia - Coggle Diagram
ผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 59 ปี Dx.schizophrenia
ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรค
ปัจจัยด้านชีวภาพ (Biological factors)
ทฤษฎีชีวภาพการแพทย์ (Bio-Medical Model)
ความผิดปกติของสารสื่อประสาท
Dopamin hypothesis
มีการหลั่งของ Dopamine เพิ่มขึ้นที่ limbic area
Positive Symptoms
หลงผิด(Delusion) ได้แก่ คิดว่าตนเองจะถูกทำร้าย พูดคนเดียว
ประสาทหลอน (Hallucination) ได้แก่ หูแว่ว เห็นภาพหลอน
มีการหลั่งของ Dopamine ลดลงที่ limbic area
Negative symptoms
พูดน้อย (Alogai)
แยกตัว ไม่เข้าสังคม (Asociality)
อารมณ์เฉยเมย ( fattened affect)
ปัจจัยด้านจิตใจ (Psychological factors)
ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์ (Freud,1856-1939)
ความผิดปกติของโครงสร้างของจิต
เกิดภาวะอ่อนแอและมีความผิดปกติของ Ego
ความผิดปกติของพัฒนาการของบุคลิกภาพ
มี psychic trauma เกิดขึ้น.ในระยะพัฒนาการของบุคลิกภาพโดยเฉพาะขวบปีแรก (Oral stage) ซึ่งเป็นช่วงที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาของ ego
เลือกใช้กลไกทางจิตไม่เหมาะสม
การถดถอย (regression)
การเก็บกด ( Repression)
มีความไวต่อความเครียดในชีวิตประจำวันมากกว่าปกติ
มีบุคลิกภาพแบบเก็บตัว (Schizoid personality disorder)
เป็นคนไม่มีเพื่อน พูดน้อย อารมณ์แปรปรวนง่าย
ปัจจัยด้านสังคมและวัฒนธรรม (Sociocultural factors)
สัมพันธภาพในครอบครัว
ทะเลาะกับสามีบ่อย เนื่องจากสามีดื่มสุรา
สามีทำร้ายร่างกายด้วยการทุบตีจนสลบ
สังคมและเศรษฐกิจ
รายได้ไม่พอใช้จ่ายในครอบครัว
ภาวะเครียด
การรักษา
การรักษาด้วยยา
1.ยา Chlorpromazine 100mg. 1 tab x 2 pc.
2.ยา Risperidone 1mg. 1 tab x 2 pc.
3.ยา Lorazepam (Ativan) 0.5 mg. 2 tab OD hs.
การพยาบาล
2.ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
เฝ้าระวังการเกิดอาการข้างเคียงจากการใช้ยาจิตเวช
กิจกรรมการพยาบาล
1.ประเมินอาการและอาการแสดง สัญญาณความผิดปกติจาก ผลข้างเคียงของยาที่ไม่รุนแรง เช่น ง่วงนอน ปากแห้งคอแห้ง คลื่นไส้อาเจียน ท้องผูก น้ำหนักขึ้น มือสั่น หรือมีอาการน้ำลายไหลมากกว่าปกติ และสังเกตอาการข้างเคียงที่รุนแรง เช่น ไข้ ชัก หัวใจเต้นเร็ว หายใจสั่น อ่อนเพลียมาก ปวดท้อง อุจจาระซีด มีผื่นขึ้น มีเลือดออกผิดปกติ เป็นต้น
2.อธิบายให้ผู้ป่วยและญาติเข้าใจเกี่ยวกับผลข้างเคียงของยาเพื่อไม่ให้วิตกกังวลกับอาการที่อาจเกิดขึ้นได้
3.อธิบายความสำคัญของการมีส่วนร่วมดูแลสุขภาพตนเองโดยให้สังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับตน และมาพบแพทย์
1.ข้อวนิจฉัยทางการพยาบาล
บกพร่องในการสร้างสัมพันธภาพ
กิจกรรมการพยาบาล
สร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัดอย่างต่อเนื่องโดยการทักทาย พูดคุยด้วยความเป็นมิตร เปิดโอกาสให้ระบายความรู้สึก และสร้างความไว้วางใจ
2.เปิดโอกาสให้ผู้ป่วย ระบายความรู้สึกของตนเอง
3.แสดงการยอมรับผู้ป่วย โดยการเรียกชื่อ นามสกุลของผู้ป่วย ได้ถูกต้อง และการทักทาย ไม่ควรแสดงท่าทีคุกคาม ตำหนิ หัวเราะ
4.ให้ข้อมูลถึงผลดีและประโยชน์ของ การมีสัมพันธภาพกับผู้อื่น เพื่อกระตุ้น ให้ผู้ป่วยอยากสร้างสัมพันธภาพ
5.สอนทักษะการมีสัมพันธภาพกับคน อื่น เช่น การทักทาย การยิ้ม การสบตา การพูดเรื่องราวทั่ว ๆ ไป วิธีการเริ่มต้น การสนทนากับผู้อื่นก่อน
กิจกรรมกลุ่มบำบัด
กิจกรรมอาชีวบำบัด
กิจกรรมสร้างเสริมคุณค่าในตนเอง
กิจกรรมศิลปะบำบัด
กิจกรรมนันทนาการบำบัด
กิจกรรมอ่านหนังสือพิมพ์และวิจารณ์ข่าว
การพยากรณ์โรค
การพยากรณ์โรคดี
-เริ่มมีอาการขณะอายุมาก -มีสาเหตุกระตุ้นชัดเจน -อาการเกิดขึ้นเฉียบพลัน -ลักษณะอาการแบบหวาดระแวง วุ่นวาย -เป็นกลุ่มอาการด้านบวก -เป็นมาไม่นานก่อนรักษา -มีญาติช่วยเหลือใกล้ชิด
การพยากรณ์โรคไม่ดี
-อารมณ์เรียบเฉยแยกตัวเอง -เป็นกลุ่มอาการด้านลบ -การเข้าสังคม หน้าที่การงานเดิมไม่ดีก่อนเกิดอาการ
การประเมินด้านสุขภาพจิต
แบบประเมินความเครียด กรมสุขภาพจิต SPST -20 ได้ 60 คะแนน มีความเครียดอยู่ในระดับสูง
แบบประเมินซึมเศร้า 2Q ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา รู้สึกเศร้า เบื่อ ทำอะไรไม่เพลิดเพลิน แปลผลเป็น มีแนวโน้มเป็นโรคซึมเศร้า
แบบประเมินซึมเศร้า 9Q ได้ 7 คะแนน แปลผลเป็น มีภาวะซึมเศร้าระดับน้อย
แบบประเมินการฆ่าตัวตาย 8Q ได้ 0 คะแนน แปลผลเป็นไม่มีแนวโน้มซึมเศร้าและฆ่าตัวตาย
การรับรู้ (Orientation) : ผู้ป่วยรับรู้เวลา สามารถบอกวันที่ได้ แต่ไม่สามารถบอกเดือนและปีได้
การพูดและการใช้ภาษา (Speech and language) : ลักษณะการพูดไม่ช้าหรือเร็วเกินไป มีพูดตะกุกตะกัก พูดเสียงดังฟังชัดเจน พูดน้อย
อารมณ์ :
Affect :
จากการสังเกตขณะผู้ป่วยทำกิจกรรมกลุ่มบำบัด ผู้ป่วยมีอารมณ์ราบเรียบไม่ค่อยพูดคุยกับเพื่อนในกลุ่ม มีสีหน้าเรียบเฉย แต่เมื่อผู้ป่วยถูกกระตุ้นให้พูดผู้ป่วยจะแสดงอารมณ์เหมาะสมกับสถานการณ์หรือเรื่องที่กำลังพูดคุย เช่น ผู้ป่วยเล่าถึงเหตุการณ์ที่ตนเองประทับใจ จะแสดงสีหน้ายิ้มแย้ม และ ผู้ป่วยเล่าถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ตนเองเครียด จะแสดงแววตาเศร้า สีหน้าเรียบเฉย
Mood :
แสดงท่าทางเป็นมิตร พูดน้อย ไม่มีอารมณ์โกรธ ใจเย็น
ประวัติการเจ็บป่วย
การเจ็บป่วยปัจจุบัน
: 9 ปีก่อน ผู้ป่วยถูกสามีทำร้ายร่างกายด้วยการทุบตี สามีคิดว่าเสียชีวิตแล้วจึงลากผู้ป่วยไปทิ้งไว้กลางป่า เมื่อรู้สึกตัวได้จึงมีอาการผิดปกติ หวาดระแวง กลัวคนมาทำร้าย ถอดเสื้อผ้าวิ่งรอบหมู่บ้าน
1.อาการสำคัญ
: มีอาการหูแว่ว เห็นภาพหลอน 1วันก่อนนำส่งโรงพยาบาล
3.
อาการปัจจุบัน
: ผู้ป่วยไม่มีอารมณ์หงุดหงิด อารมณ์เศร้า หรือหวาดระแวง ควบคุมตนเองได้ ถามตอบตรงคำถาม สามารถเข้ากลุ่มร่วมกิจกรรมได้และปฏิบัติกิจวัตร ร่วมมือในการรักษาและรับยาที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง
4.ประวัติในอดีต
: ผู้ป่วยให้ประวัติว่าดื่มสุราเป็นประจำ สูบบุหร่วันละ 5 ม้วน/วัน ผู้ป่วยปฏิเสธการใช้สารเสพติด ปฏิเสธโรคประจำตัว และโรคติดต่อทางพันธุกรรม
ประวัติส่วนตัว
ผู้ป่วยเพศ หญิง อายุ 59 ปี สัญชาติ ไทย เชื้อชาติ ไทย ศาสนา พุทธ สถานภาพ แยกกันอยู่ อาชีพ ไม่ได้ประกอบอาชีพ ระดับการศึกษา ไม่ได้รับการศึกษา