Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่2 ลักษณะเฉพาะทางพฤกศาสตร์, นางสาวพิชญานิน นิสภา เลขที่ 57…
บทที่2
ลักษณะเฉพาะทางพฤกศาสตร์
ข้อแนะนำข้อควรระวัง
ห้ามใช้ยามากเกินไป
หมั่นตรวจสอบสรรพคุณ
เริ่มกินน้อยๆ
ผลที่ได้ไม่แน่นอน
ศึกษาให้ดีก่อนใช้
อย่าใช้ยาเข้มข้นเกินไป
อายุของยาสมุนไพร
ยาปั้นเป็นลูกกลอน เป็นเม็ด-แท่ง
ยาเม็ดที่ผสมด้วยแก่นไม้ล้วน
1 ปี เริ่มเสื่อมคุณภาพ
2 ปี อาจหมดคุณภาพ
ยาเม็ดที่ผสมด้วยหัว เหง้า แก่น โกศเทียน แร่ธาตุ
18 เดือน เริ่มเสื่อมคุณภาพ
2 ปี อาจหมดคุณภาพ
ยาเม็ดที่ผสมด้วยใบไม้ล้วน
6-8 เดือน เริ่มเสื่อมคุณภาพ
1 ปี อาจหมดคุณภาพ
ยาเม็ดที่ผสมด้วยใบไม้ หัว โกศเทียน แร่ธาตุ
8 เดือน เริ่มเสื่อมคุณภาพ
2 ปี อาจหมดคุณภาพ
ยาน้ำ น้ำต้ม และยาดอง
ยาต้มผสมด้วยใบไม้ล้วน ต้มกินได้ครั้งเดียว แล้วเททิ้งเสีย
ยาต้มผสมด้วยแก่นไม้ เครื่องเทศ โกฐเทียน
ถ้าต้มอุ่น เช้า-เย็นทุกวัน มีอายุ 7-10 วัน
ยาต้มผสมด้วยแก่นไม้ เครื่องเทศ โกฐเทียน หัวพืชแห้ง ถ้าต้มอุ่น เช้า-เย็นทุกวัน อายุ 7-15 วัน
ยาผง
ยาผงที่ผสมด้วยแก่นไม้ โกฐเทียน มีอายุประมาณ 6-8 เดือน
ยาผงที่ผสมด้วยใบไม้และแก่นไม้ อย่างละครึ่ง มีอายุประมาณ 4-6 เดือน
ยาผงที่ผสมด้วยใบไม้ล้วน ๆ มีอายุประมาณ 3-6 เดือน
ยาดองที่เข้าเกลือ หรือ ดีเกลือ
ยาดองอื่น ๆ ที่ไม่ได้เข้าตัวยาเค็ม ๆ
มีอายุประมาณ 1 ปี
ยาดองที่ผสมด้วยของเค็มมาก ๆ ตัวยาแห้งดี ปรุงถูกต้อง
เช่น เกลือ หรือ ดีเกลือ
มีอายุประมาณ 2 ปี
วิธีปรุงยาสมุนไพร
การปรุงยาตามแบบแผนไทย
มี 28 วิธี
ยาประสมแล้ว ตำเป็นผงกวนให้ละเอียด ใส่กล้องเป่าทางจมูกและคอ
ยาประสมแล้ว มวนบุหรี่สูบเอาควัน เช่น บุหรี่
ยาเผาหรือเผาให้ไหม้ ตำเป็นผงบดให้ละเอียด ละลายน้ำกระสายต่าง ๆ กิน
ยาประสมแล้ว ใช้เป็นยาทา
ยาตำเป็นผงแล้ว บดให้ละเอียด ละลายน้ำกระสายต่าง ๆ กิน
ยาประสมแล้ว ใช้เป็นลูกประคบ
ยาประสมแล้ว ต้มเอาน้ำสวน
ยาประสมแล้ว ทำเป็นยาพอก
ยาประสมแล้ว ต้มเอาน้ำชะ
ยาประสมแล้ว บดละเอียดเป็นผงแล้ว ปั้นเป็นเม็ดหรือลูกกลอนกลืน กิน
ยาประสมแล้ว ต้มเอาน้ำแช่
ยาประสมแล้ว บดเป็นผงปั้นเป็นแท่งหรือเป็นแผ่น แล้วใช้เหน็บ
ยาประสมแล้ว ต้มแล้วเอาน้ำอาบ
ยาประสมแล้ว บดเป็นผง ตอกอัดเม็ด
ยาประสมแล้ว ต้มเอาน้ำบ้วนปาก
ยาประสมแล้ว บดเป็นผง ปั้นเม็ดแล้วเคลือบ
ยาหุงด้วยน้ำมัน เอาน้ำมันใส่กล้องเป่าบาดแผลและฐานฝี
ยาประสมแล้ว ทำเป็นเม็ดแคปซูล
ยากลั่นเอาน้ำเหงื่อ เช่น กลั่นสุรา เอาน้ำเหงื่อกิน
ยาประสมแล้ว ห่อผ้าบรรจุลงในกลักเอาไว้ใช้ดม
ยาเผาให้เป็นด่าง เอาด่างนั้นแช่น้ำไว้ แล้วรินแต่น้ำกิน
ยาประสมแล้ว ใส่กล้องติดไฟใช้ควันเป่าบาดแผลและฐานฝี
ยากัดด้วยเหล้าหรือแอลกอฮอล์ หยดลงน้ำกิน
ยาประสมแล้ว เผาไฟหรือโรยบนถ่านไฟ ใช้ควันรม
ยาดองแช่ด้วยน้ำท่าหรือน้ำสุรา แล้วรินแต่น้ำกิน
ยาประสมแล้ว ต้มเอาไอรมหรืออบ
ยาสับเป็นชิ้นเป็นท่อนใส่ลงในหม้อเติมน้ำต้ม แล้วรินแต่น้ำกิน
ยาประสมแล้ว กวนเป็นยาขี้ผึ้งปิดแผล ซึ่งเรียกว่ายากวน
การแปรรูปพืชสมุนไพร
เพื่อการเก็บไว้ได้นานๆและในปริมาณมากๆ
การบดปั่นให้เป็นผง
เป็นวิธีที่สะดวกในการใช้งานมาก
สมัยโบราณนิยมนำมาตากแห้งและใช้ครกโขรกให้ละเอียด
การให้มีขนาดเล็กลง
เป็นการนำเอาสมุนไพรมาทำให้ขนาดเล็กลง และนำไปตากแห้ง
เพื่อให้ปริมาณน้ำของสมุนไพรลดลง
นิยมใช้กับ ราก เปลือก ลำต้น
การสกัดน้ำมันหอมระเหย
สมุนไพรที่มีกลิ่นหอมนำมาต้มสกัดน้ำมันจากสมุนไพร
มาปรุงเป็นยาดม ยาหอม ยาทา
การตากแห้ง
เป็นการเก็บรักษาสมุนไพรให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีทีสุด
ทั้งในแง่ของคุณภาพ ปริมาณและน้ำหนัก
การเก็บรักษาสมุนไพร
สถานที่ในการจัดเก็บ
ป้องกันแมลงและโรค
อากาศปลอดโปร่ง
ไม่เป็นแหล่งเพาะเชื้อ
ไม่โดนแสงแดดจัด
พื้นที่แห้งและเย็น
ภาชนะในการจัดเก็บ
ต้องสามารถ ป้องกันความชื้นได้ป้องกันเชื้อรา
ยาต้ม
การเตรียม
โดยทั่วไปใช้ ๑ กำมือ
เอาสมุนไพรมาขดมัดรวมกันเป็นท่อนกลม ยาวขนาด ๑ ฝ่ามือ กว้างขนาดใช้มือกำได้รอบพอดี
ถ้าสมุนไพรนั้นแข็ง นำมาขดมัดไม่ได้ ให้หั่นเป็นท่อนยาว ๕-๖ นิ้วฟุต กว้าง ๑/๒ นิ้ว ฟุต
แล้วเอามารวมกันให้ได้ขนาด ๑ กำมือ
การต้ม
ต้มให้เดือดนาน ๑๐-๓๐ นาที
แล้วแต่ว่าต้องการให้น้ำยาเข้มข้น หรือเจือจาง
ยาต้มนี้ต้องกินในขณะที่ยายังอุ่นๆ
ถ้าปริมาณยาที่ระบุไว้น้อยมาก เช่น ใช้เพียง ๑ หยิบมือ ให้เทน้ำลงไป ๑ แก้ว
เทน้ำลงไปพอให้น้ำท่วมยาเล็กน้อย
ยาชง
การเตรียม
ปกติใช้สมุนไพรแห้งชง
หั่นต้นสมุนไพรสดให้เป็นชิ้นเล็กๆ บางๆ ผึ่งแดดให้แห้ง
ถ้าต้องการให้ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว ให้เอาไปคั่ว ก่อนจนมีกลิ่นหอม
การชง
เติมน้ำเดือดลง ไป ๑๐ ส่วน
ปิดฝาตั้งทิ้งไว้ ๑๕-๒๐ นาที
ใช้สมุนไพร ๑ ส่วน
ยาปั้นลูกกลอน
การเตรียม
หั่นสมุนไพรสดให้เป็นแว่นบางๆ
ผึ่งแดดให้แห้ง
บดเป็นผงในขณะที่ยายังร้อนแดดอยู่ เพราะยาจะกรอบบดได้ง่าย
การปั้นยา
ปั้นยาเป็น ลูกกลมๆ เล็กๆ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๑ เซนติเมตร
เสร็จแล้วผึ่งแดดจนแห้ง
ตั้งทิ้งไว้ ๒-๓ ชั่วโมง เพื่อให้ยาปั้นได้ง่าย ไม่ติดมือ
จากนั้นอีก ๒ สัปดาห์ ให้นำมาผึ่งแดดซ้ำอีกที เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อราขึ้นยา
ใช้ผงยาสมุนไพร ๒ ส่วน ผสมกับน้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อม ๑ ส่วน
ยาดอง
การเตรียม
บดต้นไม้ยาให้แตกพอหยาบๆ
ห่อด้วยผ้าขาวบางหลวม ๆ เผื่อยาพองตัวเวลาอมน้ำ
ปกติใช้สมุนไพรแห้งดอง
การชง
เติมเหล้าโรงให้ท่วมห่อยา ตั้งทิ้งไว้ ๗ วัน
ยาตำคั้นเอาน้ำกิน
การเตรียม
นำสมุนไพรสดๆ มาตำให้ละเอียดหรือจนกระทั่งเหลว
ถ้าตัวยาแห้งไป ให้เติมน้ำลงไปจนเหลว
การคั้น
คั้นเอาน้ำยาจากสมุนไพรที่ตำไว้มารับประทาน
สมุนไพรบางอย่าง เช่น กระทือ กระชายให้นำไปเผาไฟให้สุกเสียก่อนจึงค่อยตำ
ยาพอก
การเตรียม
ใช้สมุนไพรสดตำให้แหลกที่สุดให้พอเปียก แต่ไม่ถึงกับเหลว
ถ้ายาแห้ง ให้เติมน้ำหรือเหล้าโรงลงไป
การพอก
เมื่อพอกยาแล้วต้องคอยหยอดน้ำให้ยาเปียกชื้นอยู่เสมอ
เปลี่ยนยาวันละ ๓ ครั้ง
นางสาวพิชญานิน นิสภา เลขที่ 57 (62111301059)
นักศึกษาพยาบาลศาสตรบัณฑิตชั้นปีที่ 2 รุ่นที่ 37