Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Diffused large B-cell lymphoma stage 4 : โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง,…
Diffused large B-cell lymphoma stage 4 : โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
DLBCL ตามทฤษฎี
สาเหตุ
1.สารก่อมะเร็งในสิ่งแวดล้อม
สารเคมี
แสงอัลตราไวโอเลต
เชื้อไวรัส ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสฮิวแมนแพบพิลโลมา
อาหาร
2.ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
3.พันธุกรรม
พยาธิ
ลักษณะเซลล์เปลี่ยนแปลงไป ไม่เหมือนเซลล์ดั้งเดิม
ไม่อยู่ใต้การควบคุมของเซลล์ปกติ มีนิวเคลียสขนาดใหญ่ การเจริญเติบโตไม่เป็นระเบียบไม่มีแคปซูลหุ้ม ทำให้เนื้อเยื่อรอบนอกตายเพราะขาดเลือดไปเลี้ยงเซลล์มะเร็งสามารถลุกลามไปยังอวัยวะอื่นทางกระเเสโลหิต ระบบน้ำเหลืองหรือรุกรานโดยตรงไปยังเซลล์ใกล้เคียง
มะเร็งก่อให้เกิด
การอุดตันทำให้เสียหน้าที่
กดลงบนอวัยวะข้างเคียง
รุกรานและทำลายเนื้อเยื่อรอบๆ
เลือดออก
การติดเชื้อและเป็นแผล
ความเจ็บปวด
กลุ่มอาการผอมแห้ง-เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
อาการแสดง
เกิดการบวมที่ต่อมน้ำเหลืองไม่มีอาการเจ็บ
มีไข้ / มีอาการเหงื่อออกตอนกลางคืน
น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
รู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลีย
การวินิจฉัย
การตัดชิ้นเนื้อตรวจ(biopsy)
การตรวจโดยใช้เครื่องมือส่องให้เห็นอวัยวะภายใน(endoscopic examination)
อัลตราซาวด์ (ultrasound)
การตรวจด้วยรังสี (radioisotope studies)
การตรวจด้วยเอ็มอาร์ไอ (magnetic resonance imaging : MRI)
การส่องกล้องตรวจ(laparoscopy)
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ (laboratory tests)
การรักษา
การใช้เคมีบำบัด (Chemotherapy)
การใช้รังสีรักษา (Radiation Therapy)
การผ่าตัด
การปลูกถ่ายไขกระดูก (Bone Marrow Transplant)
การป้องกัน
คือ 1.ออกกำลังกาย 2.ทำจิตใจให้แจ่มใส 3.กินผักผลไม้ 4.กินอาหารที่หลากหลาย 5.ตรวจร่างกายเป็นประจำ 6.ไม่สูบบุหรี่หรือสูดดมควันบุหรี่
ภาวะแทรกซ้อน
เห็นภาพซ้อน ชาที่ใบหน้า มีปัญหาทางการพูด
ไอ หายใจลำบาก หรือรู้สึกเจ็บหน้าอก
ปวดหัว พฤติกรรมเปลื่ยนไป หรือบางครั้งเกิดอาการชัก
ข้อมูลส่วนบุคคลกรณีศึกษา
เพศหญิงอายุ 42 ปี เชื้อชาติไทย
สิทธิหลักประกันสุขภาพ
รับประทานอาหารโรงพยาบาลได้เพียงเล็กน้อย
มีสีหน้าวิตกกังวล
อาการแสดงของกรณีศึกษา
ไข้ หนาวสั่น
เห็นภาพซ้อน ชาที่ใบหน้า
ตาพร่ามัว
สาเหตุของกรณีศึกษา
ไม่ทราบแน่ชัด แต่อาจเกิดจากพันธุกรรม เพราะบุคคลในครอบครัวเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง 5 คน
มีการติดเชื้อไวรัสHepatitis B Virus หลายปีก่อนเป็นโรคมะเร็ง โดยไม่ทราบสาเหตุ
ประวัติการเจ็บป่วยในปัจจุบัน
ประมาณต้นปี 2563 ผู้ป่วยมีอาการที่ผิดปกติ คือ เปลือกตาตก ตาพร่า เห็นภาพซ้อน
โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าจึงได้ส่งตัวไปฉายรังสีและทำMRIที่โรงพยาบาลธัญบุรีคลอง10
แพทย์จึงได้นัดมาโรงพยาบาลเพื่อทำเคมีบำบัดครั้งที่ 3 ในวันที่ 24 สิงหาคม 2563
อาการสำคัญที่มาโรงพยาบาล
แพทย์นัดมาให้เคมีบำบัดครั้งที่ 3
ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต
มีการติดเชื้อ Hepatitis B Virus หลายปีก่อนที่จะเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ซึ่งผู้ป่วยไม่ทราบมาก่อนว่าติดเชื้อได้อย่างไร
การวินิจฉัยกรณีศึกษา
การฉายรังสีและการตรวจด้วยMRI พบก้อนในสมองด้านซ้ายเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 cm.
ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
WBC = 3,600 cell/uL
%Neutrophil = 71%
การรักษากรณีศึกษา
การทำเคมีบำบัดในครั้งที่3
Etoposide 60 mg
Doxorubicin 10 mg
Vencristine 0.3 mg
ใน NSS 500 mL
Cyclophosphamide 900 mg in NSS 250 mL
Filgrastim 300 µg
ยากิน
Lamivudine (250) 1 tab O OD
Acyclovir (200) 1 tab bid pc
B.Co 1 tab O tid pc
Gaba (100) 1 tab O hs
Motilium 1 tab O tid ac
Losec (20) 1 tab O OD ac
Senokot 2 tab O prn hs
Pred (5) 5 tab O bid pc
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
1.เสี่ยงต่อการติดเชื้อเนื่องจากภูมิต้านทานโรคในร่างกายลดลง
2.เสี่ยงต่อการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเนื่องจากเบื่ออาหาร
3.มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความรุนแรงของโรค
4.ส่งเสริมในการดูแลสุขภาพตนเองอย่างต่อเนื่องเนื่องจากบกพร่องในการปฏิบัติตัวเมื่อกลับไปอยู่บ้าน
ประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว
มีบุคคลในครอบครัวเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง 5 คน
นางสาวสรินญา มานิตย์ เลขที่76 ห้อง3B