Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ทารกโตช้าในครรภ์ . (Intrauterine growth restriction) - Coggle Diagram
ทารกโตช้าในครรภ์ .
(Intrauterine growth restriction)
ความหมาย
ภาวะที่ทารกในครรภ์มีนน้ำหนักตัวจากการคาดคะเนน้อยกว่าเปอร์เซ็นไทล์ที่ 10 เมื่อเทียบกับอายุครรภ์นั้น
ทารกที่มีภาวะแทรกซ้อนในด้านการเจริญเติบโตที่ท้าให้ทารกเติบโตไม่ได้เป็นไปตามเกณฑ์ขณะที่อยู่ในครรภ์มารดา และเมื่อทารกคลอดจะมีความเสี่ยงต่อการเกิด
ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ
อาการและอาการแสดง
1.ขนาดหน้าท้องไม่สัมพันธ์กับอายุครรภ์ โดยเฉพาะ symphysis-fundal height น้อยกว่าค่าเฉลี่ยปกติในอายุครรภ์ที่เท่ากัน
2.สามารถคลำตัวทารกได้ชัดเจน เนื่องจากมีปริมาณน้ำคร่ำน้อย
ผลกระทบต่อภาวะสุขภาพของสตรีและทารก
ผลต่อสตรีตั้งครรภ์
สูญเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลทารกที่เจริญเติบโตช้าในระยะหลังคลอด
มีความวิตกกังวลในการเลี้ยงดูทารก
เมื่อทารกมีภาวะเจริญเติบโตช้า ส่งผลให้ในระยะคลอดทารกอาจมีภาวะ fetal distress ทำให้ต้องสิ้นสุดการตั้งครรภ์ด้วยการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง
ผลต่อทารก
ช่วงแรกคลอด ทารกจะมีภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ การเกิดภาวะ fetal distress ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เกิดภาวะสำลักน้ำคร่ำแรกคลอด (meconium aspiration Syndrome)
ทารกที่มีภาวะ perinatal asphyxia ในระยะยาวอาจมีภาวะเรื่องพัฒนาการตามวัยได้เนื่องจากสมองขาดออกซิเจน ปัญหาจะมากน้อยขึ้นกับปัญหาที่เกิดในระยะคลอดด้วย ส่วนในทารกตัวเล็กชนิด อื่น ๆ ส่วนใหญ่มักโตทันทารกปกติรายอื่น
การประเมินและการวินิจฉัย
จากการวัดขนาดหน้าท้อง (fundal height measurement) โดยเฉพาะสัปดาห์ 24-38 สัปดาห์ถ้าพบว่าขนาดหน้าท้องไม่สัมพันธ์กับอายุครรภ์อาจสงสัยภาวะทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์แพทย์อาจส่งตรวจพิเศษอื่น
การวินิจฉัยด้วยการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง
เช่น biparietal diameter, head cimcumference,
abdominal circumference ,femur length,
การตรวจหา doppler velocity ของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงรก
อาการแสดงร่วมอื่น ๆ เช่น การมีภาวะน้ำคร่ำน้อย (oligohydramnio) HC/AC ผิดปกติเป็นต้น
สาเหตุและปัจจัยส่งเสริม
สาเหตุจากมารดา
1 สาเหตุที่เกิดมาก่อนตั้งครรภ์คือ มารดามีน้ำหนักตัวก่อนตั้งครรภ์น้อย มีภาวะโรคต่างๆ เช่นเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน มีความผิดปกติของหลอดเลือด หรือมีการใช้สารเสพติด ต่าง ๆ เช่นเหล้า บุหรี่ เป็นต้น
2.มารดามีภาวะแทรกซ้อนในระยะตั้งครรภ์เช่น มีภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์เลือดจางขณะตั้งครรภ์เบาหวานขณะตั้งครรภ์ติดเชื้อหรือมีน้ำหนักตัวที่ขึ้นระหว่างตั้งครรภ์น้อยกว่าเกณฑ์เป็นต้น
สาเหตุจากทารก
ทารกมีความผิดปกติ ได้แก่ โครโมโซมผิดปกติกลุ่ม Trisomy 13, 18 มีภาวะ โรคหัวใจตั้งแต่แรกเกิด ผนังหัวใจไม่ปิดและผนังหน้าท้องปิดไม่สนิท
การตั้งครรภ์แฝด
1.มีความผิดปกติที่ต้าแหน่งที่รกหรือสายสะดือเกาะรก เกาะบริเวณส่วนล่าง เช่น placenta previa สายสะดือเกาะบริเวณถุงน้ำคร่ำ เป็นต้น
2.รกมีความผิดปกติเช่น รกเสื่อม รกมีหินปูนเกาะ หรือมีขนาดเล็กกว่าปกติเส้น เลือดแดงในสายสะดือมีเส้นเดียว เป็นต้น
พยาธิสรีรวิทยา
ทารกที่มีขนาดเล็กตามกรรมพันธุ์ไม่ได้มีการเจริญเติบโตช้า
ซึ่งทารกมักเกิดจากมารดาที่มีน้ำหนักตัวน้อยก่อนตั้งครรภ์ (น้อยกว่า 45 กิโลกรัม) ทารกกลุ่มนี้ไม่ได้มีความเสี่ยงแตกต่างจากทารกปกติอื่น โดยเฉพาะไม่พบความแตกต่างของการเกิด inter uterine asphyxia ในทารกกลุ่มนี้
ทารกที่มีการเจริญเติบโตช้า
สามารถจำแนกออกเป็น 3 กลุ่ม
ทารกมีการเจริญเติบโตช้าแบบไม่สมมาตร (asymmetrical IUGR) สาเหตุมักเกิดจาก ปัจจัยที่ท้าให้เลือดไปเลี้ยงทารกได้ไม่ดีในระยะท้าย ๆ หรือสาเหตุจากรก ได้แก่ รกเสื่อม มารดามีภาวะแทรกซ้อน เช่น ความดันโลหิตสูงเส้นเลือดตีบ ทำให้เลือดจะไปเลี้ยงทารกน้อย
ทารกที่มีการเจริญเติบโตช้าแบบผสมผสาน (Combined IUGR) หมายถึงทารกที่มีการเจริญเติบโตช้าทั งแบบ Symmetical IUGR และ แบบasymmetrical IUGR มีปัญหาของการไหลเวียนเลือดจากมารดาไปสู่ทารกไม่ดีทารกจึงเกิด asymmetrical IUGR ซ้ำซ้อน ทารกกลุ่มนี ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์การตั้งครรภ์ของทารกมี ปัญหามากที่สุด
1.ทารกมีการเจริญเติบโตช้าแบบสมมาตร ในลักษณะเติบโตช้าไปในทุกส่วน (Symmetical IUGR) สาเหตุมักเกิด ตั้งแต่ไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์โดยเฉพาะสาเหตุที่เกิดจากตัวของทารกเอง เช่น ทารก ติดเชื้อหัดเยอรมัน ทารกมีความผิดปกติทางโครโมโซม เป็นต้น
การรักษาภาวะทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้า
การตรวจติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
แพทย์จะติดตามอาการของมารดาอย่างใกล้ชิดจนกว่าอายุครรภ์จะครบ 34 สัปดาห์หรือมากกว่านั้น โดยอาจมีการตรวจร่างกายเพื่อตรวจดูสุขภาพของมารดา และตรวจอัลตราซาวด์เพื่อตรวจสุขภาพของทารกในครรภ์ โดยแพทย์อาจนัดหมายทุก 2-6 สัปดาห์จนกว่าจะคลอด
การพิจารณาทำคลอด
แพทย์อาจต้องชักนำให้เจ็บครรภ์คลอดในกรณีที่อายุครรภ์มากกว่า 34 สัปดาห์และแพทย์ประเมินว่าภาวะ IUGR อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของทารก ส่วนผู้ที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 34 สัปดาห์ อาจจำเป็นต้องคลอดก่อนกำหนดเช่นกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
การดูแลโภชนาการ
การได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและเหมาะสมอาจช่วยเพิ่มน้ำหนักครรภ์และช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของทารกให้ดีขึ้น วางแผนและแนะนำให้มารดารับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง รวมทั้งอาจเสริมวิตามินที่จำเป็นสำหรับหญิงตั้งครรภ์ด้วย
การพักผ่อน
การพักผ่อนอย่างเพียงพออาจช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ และยังส่งผลดีต่อสุขภาพ ในบางกรณี แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยนอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียงในท่าทางเฉพาะ เพื่อช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปยังทารกได้ดีขึ้น