Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การรับผู้ป่วยใหม่และการจำหน่ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล - Coggle Diagram
การรับผู้ป่วยใหม่และการจำหน่ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล
ชนิดของการรับผู้ป่วยใหม่
ผู้ป่วยใน (Inpatient) ระยะเวลาของการนอนพักรักษาในโรงพยาบาลมากกว่า24 ชั่วโมง
การรับโดยตรงเป็นการนอนพักรักษาในโรงพยาบาลแบบไม่ได้
วางแผนไว้ไม่ได้ตรวจที่แผนกฉุกเฉินอาจตรวจที่แผนกตรวจผู้ป่วยนอก
การรับแบบฉุกเฉินป็นการนอนพักรักษาในโรงพยาบาลแบบไม่ได้วางแผนไว้
วางแผนเป็นผู้ป่วยในหรือกรณีไม่เร่งด่วนหรือเป็น
ผู้ป่วยในตามปกติเป็นการรับแบบที่มีการจัดตารางนอนผู้ป่วยไว้ล่วงหน้า
ผู้ป่วยนอก (Outpatient) ระยะเวลาของการอยู่ในโรงพยาบาลน้อยกว่า 24 ชั่วโมง
หลักการส่งเสริมการปรับตัวของผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาล
ความกังวลต่อความเจ็บป่วยพยาบาลช่วยลดความวิตกกังวลของผู้ป่วยได้โดยบอกให้ผู้ป่วยทราบถึงโรคที่ผู้ป่วยเป็นอยู่ไม่ควรพูดศัพท์ทางการแพทย์หรือภาษาอังกฤษที่ผู้ป่วยไม่เข้าใจเพราะจะทำให้ผู้ป่วยยิ่งกังวลมากขึ้น
ประสบการณ์ในอดีตมีความสาคัญต่อการแสดงออกของผู้ป่วย พยาบาลควรจะพูดคุยกับผู้ป่วยโดยการซักถามถึงประสบการณ์ในอดีตในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลและเจ้าหน้าที่ต่างๆของโรงพยาบาล
ความแปลกใหม่ต่อสถานที่สิ่งแวดล้อม บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ต่างๆของโรงพยาบาลและการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันอธิบายและแนะนำถึงข้อปฏิบัติตัวต่างๆที่ผู้ป่วยต้องการทราบและให้คำแนะนาที่เป็นประโยชน์ต่อตัวผู้ป่วย
การคำนึงถึงความเป็นบุคคลของผู้ป่วยพยาบาลจะต้องให้เกียรติผู้ป่วยตามความเหมาะสม
ความเชื่อและพฤติกรรมต่างๆเป็นของผู้ป่วยพยาบาลควรยอมรับไม่แสดงความดูถูกหรือหัวเราะเยาะควรให้ความเคารพในสิทธิส่วนบุคคลของผู้ป่วย
การวางแผนให้การพยาบาลโดยอาศัยข้อมูลที่ได้จากการสังเกตและการซักถามต่างๆโดยวางแผนการพยาบาลตั้งแต่ผู้ป่วยเริ่มเข้ามาอยู่ในโรงพยาบาล
วัตถุประสงค์และขั้นตอนการรับผู้ป่วยใหม่
วัตถุประสงค์
ผู้ป่วยได้รับการประเมินปัญหาและความต้องการทางร่างกายและจิตสังคม ได้ถูกต้อง
ผู้ป่วยและญาติคลายความวิตกกังวลเต็มใจและให้ความร่วมมือในการรักษาพยาบาล
ผู้ป่วยมีเครื่องใช้ที่จำเป็นในการรักษาพยาบาลเหมาะสม ครบถ้วน
ผู้ป่วยมีความปลอดภัยและสุขสบายเพิ่มขึ้น
ผู้ป่วยและญาติมีความรู้และปฏิบัติตามกฎระเบียบและกิจวัตรของโรงพยาบาล ได้อย่างถูกต้อง
ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตัวได้ถูกต้องเหมาะสมกับสภาพความเจ็บป่วย
การเตรียมอุปกรณ์
อุปกรณ์ที่จำเป็นตามความเหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย
เครื่องมือตรวจสัญญาณชีพ น้ำหนักและส่วนสูง
เอกสารรายงานการรับผู้ป่วยใหม่หรือแบบบันทึกต่างๆ
สมุดบันทึกการรับใหม่
เตรียมเตียงหรือห้องพักผู้ป่วยให้พร้อมเพื่อต้อนรับการพักรักษาตัวของผู้ป่วย
เครื่องใช้ส่วนตัว
ขั้นตอนการรับผู้ป่วยใหม่
ตรวจสอบชื่อ นามสกุลของผู้ป่วยการลงทะเบียนรับเป็นผู้ป่วยในและลายเซ็นรับผู้ป่วยของแพทย์จากบัตรตรวจโรคของโรงพยาบาลให้ตรงกับเจ้าหน้าที่แผนกผู้ป่วยนอกที่แจ้งมา
ชั่งน้าหนักและวัดส่วนสูง
สร้างสัมพันธภาพ
นำผู้ป่วยไปที่เตียงแนะนำให้รู้จักผู้ป่วยอื่นที่อยู่ร่วมห้องและให้นอนพักสักครู่
เตรียมสิ่งแวดล้อมเพื่อรับผู้ป่วยใหม่
อธิบายกิจกรรมการรักษาพยาบาลที่จะทำให้ผู้ป่วย
เก็บรวบรวมข้อมูลผู้ป่วย
ให้ผู้ป่วยหรือญาติที่มีสิทธิตามกฎหมายเซ็นอนุญาตหรือยินยอมเข้ารับการตรวจ รักษา รับเลือด ผ่าตัด แล้วแต่กรณี
ให้ความช่วยเหลือหรือให้คำแนะนาในการอาบน้ำแรกรับเข้ารักษาในโรงพยาบาลเปลี่ยนใช้เสื้อผ้าของโรงพยาบาลพร้อมทั้งสังเกตอาการทั่วไปของผู้ป่วยตลอดจนการประเมินสภาวะของผู้ป่วยทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
เบิกอาหารให้ผู้ป่วยที่เหมาะสมกับโรค และแผนการรักษา
นำป้ายข้อมือติดที่ข้อมือผู้ป่วยติดป้ายหน้าเตียงและป้ายแจ้งข้อที่ควรปฏิบัติกับผู้ป่วย
แจ้งแพทย์เจ้าของผู้ป่วยหรือแพทย์ประจำหอผู้ป่วยรับทราบการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของผู้ป่วย
ลงทะเบียนรับผู้ป่วยใหม่จัดทาแฟ้มประวัติตรวจรับแผนการรักษา
การรับแผนการรักษา
อุปกรณ์
วิธีการรับแผนการรักษา
วัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดแผนการรักษาไปสู่การปฏิบัติได้อย่างถูกต้องครบถ้วน
สาเหตุและอุปกรณ์การจาหน่ายผู้ป่วย
วัตถุประสงค์
เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตัวได้ถูกต้องเมื่อกลับไปอยู่บ้าน
เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้ผู้ถึงแก่กรรมได้รับการปฏิบัติอย่างถูกต้องตามขนบธรรมเนียมและความเชื่อทางศาสนา
เพื่อให้ผู้ถึงแก่กรรมมีร่างกายสะอาดอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดอยู่ในสิ่งแวดล้อม ที่สงบเรียบร้อย
เพื่อได้รับการปฏิบัติที่ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย
การจำหน่ายผู้ป่วยเมื่อถึงแก่กรรม
จัดท่าให้เร็วที่สุด
ใส่อวัยวะปลอม (ถ้ามี)
ใช้มือลูบหนังตาผู้ป่วยให้ปิดลงเมื่อแพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตแล้ว ถอดอุปกรณ์ทุกชนิดในการรักษาออก อาบน้ำ ใส่เสื้อผ้าให้ถ้ามีแผลเปลี่ยนผ้าปิดแผลให้ใหม่ถ้ามีของเหลวจากจมูก หู ใช้สำลีอุดไว้ถ้าออกจากช่องคลอดหรือทวารหนักให้ใช้ผ้าอนามัยหรือผ้าอ้อมสาเร็จรูปห่อไว้เหมือนกับผู้ป่วยยังมีชีวิตอยู่
ผูกบัตรแข็งประจำตัวของโรงพยาบาลไว้ที่ข้อมือข้างหนึ่งส่วนอีกข้างหนึ่ง ผูกบัตรติดข้อมือศพที่เขียนไว้เรียบร้อยห่มผ้าคลุมหน้าอกเหมือนคนมีชีวิต และเก็บเครื่องใช้ให้เรียบร้อย
ภายหลังศพอยู่ในหอผู้ป่วยอย่างน้อย 2 ชั่วโมงตามเจ้าหน้าที่มารับศพ ตรวจความเรียบร้อยและเคลื่อนย้ายโดยปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้ป่วยทั่วไป
รวบรวมรายงานลงสมุดจำหน่าย
ประเภทการจำหน่ายผู้ป่วย
การจาหน่ายโดย ไม่สมัครอยู่พยาบาลจะต้องอธิบายให้ผู้ป่วยและญาติทราบว่า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับผู้ป่วย
การจาหน่ายเนื่องจากผู้ป่วยหนีกลับ
การจาหน่ายผู้ป่วยเมื่อมีอาการทุเลาลงจากภาวะที่อันตราย
การจาหน่าย เนื่องจากผู้ป่วยถึงแก่กรรม
การจาหน่ายผู้ป่วยเนื่องจากมีการส่งต่อให้ไปรับการดูแลรักษายังสถานบริการสุขภาพอื่น
การจาหน่ายผู้ป่วยเนื่องจากมีการส่งต่อให้ไปรับการดูแลรักษายังสถานบริการสุขภาพอื่น
บทบาทพยาบาลในการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยตามรูปแบบ D-M-E-T-H-O-D
วางแผนการจำหน่ายแบบ D-METHOD
D = Diagnosis ให้ความรู้เรื่องโรคที่เป็นอยู่เกี่ยวกับสาเหตุ อาการ การปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง
M = Medication ให้ความรู้เกี่ยวกับยาที่ต้องรับประทานอย่างต่อเนื่องที่บ้าน ชื่อยา ฤทธิ์ของยา วิธีการใช้ ขนาด จำนวนครั้ง ระยะเวลาที่ใช้ ข้อควรระวังในการใช้ยา ผลข้างเคียง ข้อห้ามสาหรับการใช้ยา และการเก็บรักษายา
E = Environment & Economic กระตุ้นให้ผู้ป่วย/ ครอบครัว/ ผู้ดูแล เห็นความสำคัญของการใช้สถานบริการสุขภาพในชุมชน การจัดการสิ่งแวดล้อมที่บ้านให้เหมาะสมกับภาวะสุขภาพ
T = Treatment แนะนำผู้ป่วย/ ครอบครัว/ ผู้ดูแล ให้เข้าใจเป้าหมายการรักษา
H = Health ให้ความรู้เกี่ยวกับข้อจำกัดในการทากิจกรรมให้เหมาะสมกับภาวะสุขภาพกระตุ้นให้ผู้ป่วย/ ญาติ มีส่วนร่วมในการเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับภาวะสุขภาพ
O = Outpatient referral ชี้แจงให้ผู้ป่วย/ ครอบครัว/ ผู้ดูแล ตระหนักและเข้าใจถึงความสำคัญของการมาตรวจตามนัดและอาการผิดปกติที่ต้องมาก่อนนัด
D = Diet ให้ความรู้เรื่องอาหารเฉพาะโรค หลีกเลี่ยงหรืองดอาหารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แนะนำแหล่งประโยชน์หรือสถานที่ให้คาปรึกษาเมื่อมีปัญหาเรื่องอาหาร
การดูแลอย่างต่อเนื่องเป็นกระบวนการส่งเสริมการดูแลผู้ป่วยภายหลังการจำหน่ายโดยความร่วมมือระหว่างทีมสุขภาพผู้ป่วยครอบครัว และผู้ดูแล เริ่มจากการประเมินความจาเป็นในการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยตั้งแต่แรกรับวิเคราะห์ปัญหาความต้องการการดูแลที่ผู้ป่วยจะต้องเผชิญเมื่อกลับบ้านรวมถึงการประเมินครอบครัวและผู้ดูแล
การวางแผนจำหน่ายเป็นการวางแผนและจัดสรรบริการในการดูแลรักษาผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลต่อเนื่องหลังการจำหน่ายอย่างเป็นระบบ องค์รวม มีการประสานของทีมสหสาขาวิชาชีพในการสนับสนุนและเสริมพลังผู้ป่วยและครอบครัวเป็นรายกรณี
ข้อบ่งชี้และการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาภายหลังผู้ป่วยถึงแก่กรรม
Rigor mortis คือ การแข็งทื่อของร่างกายหลังเสียชีวิต ประมาณ 2-4 ชั่วโมง เกิดจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อโครงกระดูก และกล้ามเนื้อเรียบ
Livor mortis เมื่อการไหลเวียนเลือดหยุดผิวหนังจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำๆ
Algor mortis อุณหภูมิของร่างกายลดลง 1◦C (1.8◦F) ต่อชั่วโมงจนเท่าอุณหภูมิห้องเนื่องจากการไหลเวียนเลือดหยุดและ Hypothalamusหยุดทำงาน
การพยาบาลภายหลังผู้ป่วยถึงแก่กรรม ตามประเพณี และศาสนาของผู้ป่วย
การพยาบาลภายหลังผู้ป่วยถึงแก่กรรมตามประเพณีและศาสนาของผู้ป่วย
การปฏิบัติตามหลักศาสนาและประเพณีภายหลังถึงแก่กรรม คือการอาบน้ำแต่งตัวศพหลังจากตายแล้วประเพณีไทยใช้วิธีการรดน้ำศพเป็นการขอขมา
สำหรับศาสนาอิสลามใช้น้ำผสมการบูรหรือใบพุทราอาบน้ำให้ศพและใช้ผ้ากะพัน(ผ้าห่อศพ)แทนการสวมเสื้อผ้าให้ปฏิบัติต่อศพอย่างนุ่มนวลเปรียบเสมือนยังมีชีวิต อนุญาตให้นำศพออกจากโรงพยาบาลได้อย่างเร็วที่สุดเพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนาไม่อนุญาตให้ผ่าศพหรือกระทำการ ใดๆอันเกิดความเสียหายต่อศพ
คนจีนใช้น้ำผสมธูปยอดทับทิมและใบเซียงเช่าเช็ดตัวศพเพื่อให้วิญญาณ ขึ้นสู่สวรรค์และสวมเสื้อผ้าสวยงามพร้อมทั้งหมวกและรองเท้าให้กับผู้ตาย
หลักปฏิบัติทางกฎหมายและระเบียบของโรงพยาบาล
นำใบรายงานของแพทย์ไปแจ้งเทศบาลหรือที่ว่าการเขตท้องถิ่นที่ที่บ้านตั้งอยู่เพื่อแก้ไขทะเบียนบ้านภายใน 24 ชั่วโมงและขอใบมรณะบัตร
นำใบมรณะบัตรไปแจ้งที่วัดเพื่อเผาศพ
นำหลักฐานต่างๆมายื่นให้กับเจ้าหน้าที่ในหอผู้ป่วย
ในกรณีขอเคลื่อนย้ายศพออกจากเขตหรือข้ามจังหวัดให้นำใบมรณะบัตรไปแจ้งเทศบาลหรือที่ว่าการเขต
ผู้ตายไม่สามารถทำนิติกรรมใดๆได้อีกต่อไป
การพยาบาลภายหลังถึงแก่กรรม
วัตถุประสงค์ของการแต่งศพ
ดูแลจัดการตามข้อกฎหมายขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรมเชื้อชาติ ศาสนาของผู้ตาย
ดูแลจัดเก็บของใช้ ของต้องทิ้งหรือทำลายได้ถูกต้อง
เตรียมศพให้สะอาด เรียบร้อยพร้อมย้ายไปยังห้องศพ
ประสานงานหน่วยงานหรือบุคลากรที่เกี่ยวข้องได้ถูกต้อง
เขียนบันทึกรายงานที่เกี่ยวข้องได้ถูกต้อง
การแต่งศพการดูแลศพให้เรียบร้อยพร้อมเคลื่อนย้ายไปยังห้องศพการแต่งศพจะต้องคำนึงถึงขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมของผู้ตาย โดยต้องศึกษาข้อมูลของผู้ตาย ข้อปฏิบัติจากญาติและให้ญาติได้มีส่วนร่วมด้วย