Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

สวนปัสสาวะ - Coggle Diagram

- - - - เปิดชุดสวนปัสสาวะอย่างถูกต้องตามหลักการเปิดห่อของปราศจากเชื้อ
      - เติมน้ำยาชำระอวัยวะสืบพันธุ์ในภาชนะรองน้ำยาที่มีอยู่ในชุดสวนปัสสาวะ
      - เปิดซองสายสวนปัสสาวะอย่างสะอาดปราศจากเชื้อลงในภาชนะชุดสวนปัสสาวะ
      - บีบน้ำยาหล่อลื่นสายสวนปัสสาวะลงในก๊อส
      - เปิดซองถุงสะอาดปราศจากเชื้อรองน้ำปัสสาวะ urine bag ใส่ใน Set
      - เตรียมกระบอกน้ำกลั่น ดูดน้ำกลั่น 10 cc ใส่ถาดไว้
      - หลังจากเตรียมอุปกรณ์ในชุดสวนปัสสาวะเรียบร้อยแล้วให้ปิด Set ตามหลักปราศจากเชื้อ
      - จัดท่านอนในเพศหญิงจัดให้นอนหงายชันเข่าแยกขาใช้ผ้าคลุมไว้จัดท่านอนในเพศชาย จัดให้นอนหงายแยกขาเล็กน้อย ใช้ผ้าคลุมไว้ ใช้ผ้าปิดตาผู้ป่วย
      - วางถุงกระดาษ/ถุงพลาสติกตำแหน่งที่เหมาะสม
      - เปิดชุดสวนปัสสาวะอย่างถูกต้องตามหลักการเปิดห่อของปราศจากเชื้อ
      - สวมถุงมืออย่างสะอาดปราศจากเชื้อ
      - หล่อลื่นปลายสายสวน ด้วยน้ำยาหล่อลื่น ต่อสายสวนปัสสาวะกับถุง urine bag และตรวจสอบให้ถุง urine bag อยู่ในระบบปิด
      - ปูผ้าสี่เหลี่ยมเจาะกลาง ให้ชายผ้าต่อกับห่อชุดสวนปัสสาวะ
      - ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธ์เพศหญิงใช้สำลี 7 ก้อน ผู้ชายใช้สำลี 3 ก้อน
      - สอดปลายสายสวนเข้าไปในท่อปัสสาวะอย่างเบามือ โดยจับสายสวนให้ห่างจากปลายพอสมควร เพศหญิง ใส่ลึก 1-2 นิ้ว เพศชาย ใส่ลึก 6-8 นิ้วฟุต จนกระทั่งน้ำปัสสาวะไหลออกมา
      - ฉีดน้ำกลั่นเข้าสายสวน เพื่อทำบอลลูนและทำการทดสอบบอลลูน หลังจากทดสอบให้สายสวนเข้าไปลึกประมาณ 1-2 นิ้ว
      - ถอดถุงมือออกและ clamp สายสวนสอดผ่านผ้า เจาะกลางพร้อมติดพลาสเตอร์ และนำถุง urine bag แขนกับข้างเตียง
- - - - แสดงปริมาณมากกว่าปริมาณที่แนะนำให้ดื่มในแต่ละวัน ทำให้ระดับเกลือแร่ในร่างกายต่ำเกินไป ในบางกรณีระดับเกลือแร่ที่ต่ำมากอาจทำให้เสียชีวิตได้ นอกจากนี้ปัสสาวะใสยังบอกถึงโรคบางอย่างได้ เช่น โรคเบาหวาน เบาจืด การกินยาขับปัสสาวะ โรคไต
    - - พบได้ในคนที่ดื่มนมปริมาณมากจนทำให้เกิดผลึกของฟอสเฟตหรือเกิดจากโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เช่น โรคกรวยอักเสบ โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ รวมถึงอาจเกิดจากการมีน้ำเหลืองปนอยู่ในปัสสาวะหรือมีโปรตีนมากเกินไปร่างกาย
    - - ภาวะปกติที่สามารถพบได้
    - - ปัสสาวะสีส้มอาจหมายถึง ร่างกายขาดน้ำและอาจหมายถึงมีปัญหาเกี่ยวกับถุงน้ำดีหรือตับ รวมถึงอาจเกิดจากการกินแครอท การกินวิตามินบี 2 ในปริมาณมาก ยาบางชนิดที่ทำให้ปัสสาวะเป็นสีส้ม เช่น ยาซัลฟาซาลาซีน ยาฟีนาโซไพริดีน ยาไอโซไนอาซิด ยาระบายบางชนิด เป็นต้น
    - - สาเหตุเกิดขึ้นได้จากการขาดน้ำอย่างรุนแรง เป็นดีซ่าน มีภาวะกล้ามเนื้อลายสลาย (rhabdomyolysis) นอกจากนี้ยาบางชนิดยังทำให้ปัสสาวะมีสีน้ำตาลได้ เช่น ยาเมโทรนิดาโซลที่ใช้รักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียหรือยาควีนินซึ่งใช้ป้องกันโรคมาลาเรีย
    - - อาจเกิดจากการกินถั่วบางชนิดในปริมาณมาก ผักรูบาร์บ ว่านหางจระเข้ หรือแสดงถึงโรคบางชนิด เช่น โรคตับ โรคมะเร็งผิวหนัง นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากผลข้างเคียงของยา เช่น ยาควีนินซึ่งใช้ป้องกันโรคมาลาเรีย ยาปฏิชีวนะเมโทรนิดาโซล
    - - ปัสสาวะสีชมพูไปจนถึงสีแดงอาจหมายถึงการมีเลือดเจือปนอยู่ในปัสสาวะหรือเป็นสัญญาณของโรคไต โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ โรคนิ่วในไต เนื้องอกหรือมะเร็งที่ไต กระเพาะปัสสาวะหรือต่อมลูกหมาก
    - - ผักแอสพารากัสอาจทำให้ปัสสาวะมีสีเขียวและมีกลิ่น ยาบางชนิดและสีผสมอาหารสีเขียวอาจทำให้ปัสสาวะเป็นสีเขียวได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะได้
    - - อาจเกิดจากโรคทางพันธุกรรมเมตาบอลิกที่หายากซึ่งทำให้เกิดภาวะแคลเซียมในเลือดสูงผิดปกติ (familial hypercalcemia หรือ blue diaper syndrome) หรือเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ส่วนใหญ่แล้ว เกิดจากยาหรือสีผสมอาหารสีน้ำเงิน เช่น ยาแก้ปวดอินโดเมทาซิน ยารักษาอาการซึมเศร้าอะมิทริปไทลีน
    - - ปัสสาวะสีม่วงมีชื่อเรียกเฉพาะว่า อาการปัสสาวะในถุงเป็นสีม่วง (purple urine bag syndrome) ซึ่งพบได้ไม่บ่อยในผู้ป่วยที่ใส่สายสวนปัสสาวะที่มีอาการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะทำให้ปัสสาวะเป็นสีม่วง