Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ทักษะทางภาษาเพื่อการสื่อสาร, นายสุชนม์ กล่ำทวี รหัสนิสิต 60204327 …
ทักษะทางภาษาเพื่อการสื่อสาร
ทักษะการรับสาร
การฟัง
ความหมายและความสำคัญของการฟัง
การฟังเป็นกระบวนการอย่างหนึ่งของการรับสาร (Inputting)
การฟังนั้นเกิดขึ้นได้ทั้งในสภาพที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ
การฟังเป็นทักษะทางภาษาที่มีความสำคัญ
และเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์
การฟังทำให้คนมีความรู้
ช่วยให้เกิดความเพลิดเพลิน
กระบวนการฟัง
การได้ยินเสียงที่มากระทบโสตประสาท (Hearing)
การมีสมาธิต่อสิ่งที่เราได้ยิน(Concentration)
การเข้าใจสิ่งที่ได้ยิน (Comprehension)
การตีความสิ่งที่ได้ยิน (Interpretation)
การตอบสนอง (Reaction)
จุด่หมายของการฟัง
การฟังเพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์
จุดมุ่งหมายที่จะหาความรู้ ความเข้าใจ และประเมินค่าเรื่องที่ได้ฟัง
ลักษณะการฟังแบบนี้เป็นการฟังอย่างจริงจัง
ผู้ฟังจะต้องสามารถจับใจความสำคัญ
จดจำรายละเอียดปลีกย่อยที่สำคัญได้
การฟังเพื่อสังคม
การฟังที่ผู้ฟังมีจุดมุ่งหมายที่จะหาความเพลิดเพลิน
ความบันเทิงหรือเพื่อที่จะรักษามารยาทอันดีงาม
ประโยชน์ของการฟัง
ประโยชน์ต่อตนเอง
การฟังที่ดีเป็นพฤติกรรมของผู้มีมารยาทในการเข้าสังคม
ผู้ฟังที่ดีควรให้เกียรติผู้พูดรู้จักรับฟัง
และรักษากิริยาให้สงบเรียบร้อยในขณะฟัง
ไม่พูดแทรกหรือแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบอันรุนแรง
หากได้ฟังในสิ่งที่ไม่สบอารมณ
การฟังที่ดีทำให้เรารับรู้เรื่องราวที่ฟังได้โดยตลอด
การฟังที่ดีช่วยพัฒนาสมรรถภาพของการใช้ทักษะภาษาอื่น ๆ
ประโยชน์ต่อสังคม
เป็นกระบวนการสื่อสารที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ
ในแง่ที่ผู้ฟังสามารถนำความรู้ แง่คิดต่าง ๆ ไปใช้
โดยตัวผู้ฟังเองได้รับผลดีจากการปฏิบัติและสังคมได้ประโยชน์ทางอ้อม
บางครั้งหากรัฐต้องการความร่วมมือจากประชาชนในเรื่องบางเรื่อง
การแจ้งข่าวสารเช่นนี้ทำให้ผู้ฟังรับรู้ข่าวสารและทราบความต้องการของรัฐ
ประชาชนก็ย่อมร่วมมือและปฏิบัติตาม
ึ่ซึ่งผลของการร่วมมือของประชาชนย่อมเป็นประโยชน์
ต่อประเทศชาติโดยตรง
มารยาทในการฟัง
มารยาทในการฟังระหว่างบุคคล
การพูดคุยสนทนา
การสัมภาษณ์
การถามตอบในชั้นเรียน
มารยาทในการฟังกลุ่ม
การพูดการฟังระหว่างผู้พูดกับกลุ่มคนฟังในที่สาธารณะ
การฟังโต้วาที
การอภิปราย
การแสดงปาฐกถา
การบรรยาย
การสอนของครูในชั้นเรียน
วิธีฝึกฝนและพัฒนาทักษะการฟัง
ทำตัวให้มีความพร้อมที่จะรับฟัง
ฟังอย่างสุภาพและตั้งใจจริง
ต้องรู้จักสังเกตอวัจนภาษาของผู้พูด
ขณะฟังต้องหมั่นฝึกปฏิบัติให้ได้ตามขั้นตอนการฟัง
พยายามหาประโยชน์จากการฟัง
พยายามจดบันทึกทุกครั้งในขณะที่ฟัง
การจับใจความสำคัญ
ไม่เป็นคนใจแคบ
ฟังให้ครบ
รักษามารยาทในการฟัง
ทักษะการฟังเชิงรุก
ในที่นี้มีความหมายเดียวกับการฟังด้วยใจ, การฟังอย่างตั้งใจ
การฟังที่มีความหมายครอบคลุมทั้งการได้ยินเสียงที่อีกฝ่ายพูด
โดยไม่ใช้ประสบการณ์ อคติ
มีการคิดวิเคราะห์แยกแยะ จับประเด็น และทวนกลับเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง
การสังเกตอากัปกิริยาอารมณ์ความรู้สึกของผู้พูด
การอ่าน
ความหมายและความสำคัญของการอ่าน
การอ่านเป็นทักษะประเภทหนึ่งที่มนุษย์ใช้สำหรับสืบค้นและเรียนรู้
เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้ ความคิดและประสบการณ์
กระบวนการการอ่าน
การมองเห็นตัวอักษร สัญลักษณ์ หรือข้อความชัดเจนแล้วเข้าใจ
การเข้าใจความหมายของสาร
การมีปฏิกิริยาต่อสาร
การบูรณาการความคิด
จุดมุ่งหมายของการอ่าน
อ่านเพื่อความรู้
อาจเปIนการอ่านเพื่อความรู้ทั่วไปหรือความรู้เฉพาะด้าน
เพื่อเก็บรวบรวมประเด็นสำคัญ ๆ โดยบันทึกข้อมูลไว้
เพื่อนำไปใช้ในโอกาสต่อไป
อ่านเพื่อหาคำตอบ
เปIนการอ่านที่เพื่อต้องการตอบคำถามสั้น ๆ
ต้องค้นคว้าหาคำตอบจากเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
อ่านเพื่อปฏิบัติตาม
เป็นการอ่านเพื่อทำตามคำแนะนำของข้อความ
ผู้อ่านต้องอ่านอย่างต่อเนื่องและต้องทำความเข้าใจทุกขั้นตอน
อ่านเพื่อความเพลิดเพลิน
เป็นการอ่านที่มุ่งผ่อนคลายอารมณ์ความตึงเครียด
ที่เกิดขึ้นจากสภาวะแวดล้อม
ประโยชน์ต่อสังคม
ทางด้านวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม
ทางด้านสังคม
ทางด้านเศรษฐกิจ
ทางด้านเศรษฐกิจ
ด้านคุณธรรมและสันติธรรม
ทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์
จุดมุ่งหมายและประเภทของการอ่าน
เพื่อแสวงหาความรู้
เพื่อแสวงหาความบันเทิง
เพื่อแสวงหาขLาวสารความคิด
เพื่อจุดประสงค์เฉพาะแต่ละครั้ง
เพื่อใช้เวลาว่างให่เกิดประโยชน์
เพื่อพัฒนาและปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพ
แบ่งประเภทตามวิธีการอ่านได้เป็น
5 ประเภท คือ (ลาวัณย์ สังขพันธานนท์ และคณะ, 2549)
การอ่านเชิงวิเคราะห์
การอ่านแบบศึกษาค้นคว้า
การอ่านแบบตรวจตรา
การอ่านอย่างคร่าว ๆ
การอ่านโดยใช้วิจารณญาณ
ความหมายของการอ่านเชิงวิเคราะห์
วัชรี บูรณสิงห์ และนิรมล ศตวุฒิ (2542)
การอ่านอย่างพินิจพิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน ละเอียดรอบคอบ
เพื่อทำความเข้าใจขอความที่อ่านให้ชัดเจน และแยกแยะความคิดที่กระจัดกระจายในส่วนต่างๆของขอความที่อ่าน
นำมาจัดลำดับแยกแยะประเด็นสำคัญ ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง
หรือความคิดเห็นออกจากกันได้อย่างถูกต้อง
กระทรวงศึกษาธิการ (2546)
อ่านอย่างละเอียดให้ได้ครบถ้วน
แล้วจึงแยกแยะออกได้ว่าส่วนต่าง ๆ นั้นมีความหมาย
ความสำคัญอย่างไรบ้าง แต่ละส่วนสัมพันธ์กับส่วนอื่น ๆ อย่างไร
เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ (2546)
การจำแนกเรื่องออกเป็นส่วนๆ
ให้เห็นว่าใครทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร
พิจารณาแต่ละส่วนให้ละเอียดลงไปว่าประกอบกันอย่างไร
ประกอบด้วยอะไรบ้าง
วิเคราะห์ทรรศนะของผู้แต่งเพื่อทราบจุดมุ่งหมายที่อยู่เบื้องหลัง
ผ่านภาษและถ้อยคำที่ใช้
ประโยชน์ของการอ่านเชิงวิเคราะห์
ช่วยให้ผู้อ่านเห็นภาพรวมทั้งหมดของงานเขียนแต่ละชิ้น
ช่วยให้ผู้อ่านเกิดทักษะในการอ่านสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ
ช่วยให้ผู้อ่านเพิ่มประสิทธิภาพการอ่านให้แก่ตนเอง
ช่วยให้ผู้อ่านนำเอาวิธีการและผลจากการอ่านมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต
หลักการอ่านเชิงวิเคราะห์
แยกแยะส่วนที่เป็นสาระสำคัญและส่วนขยายความ
สาระสำคัญ
ขยายความ
แยกแยะส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงออกจากข้อคิดเห็นในงานเขียนต่างๆ
ข้อเท็จจริง
ข้อคิดเห็นในงานเขียน
ขั้นตอนของการอ่านเชิงวิเคราะห์
ขั้นที่ 1 รวบรวมข้อมูล
ขั้นที่ 2 วิเคราะห์
แยกเนื้อหาของเรื่องราวออกเป็นสองส่วน
สาระสำคัญหรือข้อเท็จจริง
ส่วนขยายหรือความคิดเห็น
พิจารณาเนื้อหาในแต่ละส่วนที่แยกไว้แล้วอย่างละเอียด
จำแนกและจับใจความสำคัญ
ขั้นที่ 3 สรุป
ขั้นที่ 4 ประยุกต์และนำไปใช้
นายสุชนม์ กล่ำทวี รหัสนิสิต 60204327
วิทยาลัยการศึกษา แขนงวิชาชีววิทยา(คู่ขนาน)