Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ทักษะทางภาษา - Coggle Diagram

- - - - การได้ยินเสียงที่มากกระบทโสตประสาท
      - การมีสมาธิต่อสิ่งที่เราได้ยินนั้น
      - การเข้าใจสิ่งที่ได้ยิน
      - การตีความสิ่งที่ได้ยิน
      - การตอบสนอง
    - - การฟังเพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์
      - การฟังเพื่อสังคม
    - - ประโยชน์ต่อตนเอง
        
        การฟังที่ดีเป็นพฤติกรรมของผู้มีมารยาทในการเข้าสังคม
        
        การฟังที่ดีทำให้เรารับรู้เรื่องราวที่ฟังได้โดยตลอด
        
        การฟังที่ดีช่วยพัฒนาสมรรถภาพของการใช้ทักษะภาษาอื่นๆ
      - ประโยชน์การฟังต่อสังคม
        
        การฟังที่ดีเป็นกระบวนการสื่อสารที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ในแง่ที่ผู้ฟังสามารถนำความรู้ แง่คิดต่างๆไปใช้ โดยตัวผู้ฟังเองได้รับผลลดีจากการปฏิบัติและสังคมได้ประโยชน์ทางอ้อม
    - - มารยาทในการฟังระหว่างบุคคล
      - มารยาทในการฟังกลุ่ม
    - - ทำตัวให้มีความพร้อมที่จะฟัง
      - ฟังอย่างสุภาพและตั้งใจจริง
      - ต้องรู้จักสังเกตวัจนภาษาของผู้พูด
      - ขณะฟัง ต้องหมั่นฝึกปฎิบัติให้ได้ตามขั้นตอนการฟัง
      - พยายามหาประโยชน์ในการฟัง
      - พยายามจดบันทึกทุกครั้งในขณะที่ฟัง
      - ปัญหาการจับใจความสำคัญ
      - ไม่เป็นคนใจแคบ
      - ฟังให้ครบ
      - รักษามารยาทในการฟัง
    - - การฟังที่มีความหมายครอบคลุมทั้งการได้ยินเสียงอีกฝ่ายพูด โดยไม่ใช้ประสบการณ์ อคติ หรือความคาดหวังของตนไปตัดสินใจว่าเรื่องที่ได้ยินนั้นผิดหรือถูก มีการแยกแยะ จับประเด็น และทวนกลับเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง
  - - - การมองเห็นตัวอักษร สัญลักษณ์ หรือข้อความชัดเจนแล้วเข้าใจ
      - การเข้าใจความหมายของสาร
      - การมีปฏิกิริยาต่อสาร
      - การบูรณาการความคิด
    - - อ่านเพื่อความรู้
      - อ่านเพื่อหาคำตอบ
      - อ่านเพื่อปฏิบัติตาม
      - อ่านเพื่อความเพลิดเพลิน
    - - ประโยชน์ต่อตนเอง
        
        ก่อให้เกิดความรู้ คืออ่านมากย่อรู้มาก เพราะการอ่านเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ ที่ลงทุนน้อยแต่ได้กำไรมากทำให้เป็นคนทันสมัยอยู่เสมอ
      - ประโยชน์ต่อสังคม
        
        ทางด้านวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม
        
        ทางด้านสังคม
        
        ทางด้านเศรษฐกิจ
        
        ด้านประชาธิปไตย
        
        ด้านคุณธรรมและสันติธรรม
    - - การอ่านช่วยพัฒนาสติปัญญาของผู้อ่าน ช่วยให้ผู้อ่านทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน
      - จุดมุ่งหมายและประเภทของการอ่าน
        
        1.เพื่อแสวงหาความรู้
        
        2.เพื่อแสวงหาความบันเทิง
        
        3.เพื่อแสวงหาข่าวสารความคิด
        
        4.เพื่อจุดประสงค์เฉพาะแต่ละครั้ง
        
        5.เพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
        
        6.เพื่อพัฒนาและปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพ
      - ความหมายของการอ่านเชิงวิเคราะห์ การอ่านอย่างละเอียด เพื่อทำความเข้าใจในเรื่องที่อ่าน สามารถแยกแยะสิ่งที่อ่านได้ว่า ใครทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร รวมทั้งความหมาย ความสำคัญ องค์ประกอบ และเนื้อหาแต่ละส่วนสัมพันธ์กับส่วนอื่นๆอย่างไร
      - ประโยชน์ของการอ่านเชิงวิเคราะห์
        
        ช่วยให้ผู้อ่านเห็นภาพรวมทั้งหมดของงานเขียนแต่ละชิ้น
        
        ช่วยให้ผู้อ่านเกิดทักษะในการอ่านสิ่งพิมพ์ต่างๆ
        
        ช่วยให้ผู้อ่านเพิ่มประสิทธิภาพภาพการอ่านให้แก่ตนเอง
        
        ช่วยให้ผู้อ่านนำเอาวิธีการและผลจากการอ่านมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต
      - ขั้นตอนของการอ่านเชิงวิเคราะห์
        
        ขั้นที่ 1 รวบรวมข้อมูล คือการที่ผู้อ่านต้องอ่านเนื้อหาอย่างละเอียดเพื่อรับรู้เรื่องราวและเข้าใจความหมาย
        
        ขั้นที่ 2 วิเคราะห์ คือ การที่ผู้อ่านใช้ความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยแบ่งขั้นตอนย่อยดังนี้
        
        1.จำแนกและจับใจความสำคัญของเรื่องได้ว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เมื่อไร
        
        2.แยกเนื้อหาของเรื่องราวออกเป็นสองส่วน คือ สาระสำคัญหรือข้อเท็จจริง และส่วนขยายหรือความิดเห็น
        
        พิจารณาเนื้อหาในแต่ละส่วนที่แยกไว้แล้วละเอียดว่า ประกอบกันอย่างไรหรือประกอบด้วยอะไรบ้าง
        
        ขั้นที่ 3 สรุป คือ ผู้อ่านสังเคราะห์ข้อมูล แล้วสรุปประเมินความน่าจะเป็น น่าเชื่อถือ สือบค้นข้อมูลเพิ่มเติม หาหลักฐานประกอบการตัดสินใจเชิงเหตุผล
        
        ขั้นที่ 4 ประยุกต์และนำไปใช้ คือ ผู้อ่านสามารถนำผลจากการอ่านและเรียนรู้สู่การปฎิบัติจริง โดยคัดเลือกสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ได้อย่างเหมาะสม
- - - - การเขียน หมายถึง การที่มนุษย์พยายามถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้ ความรู้สึกนึกคิดของตนเอง เพื่อให้ผู้อื่นได้รับรู้ โดยอาศัยลักษณ์ที่ดรียกว่าตัวหนังสือหรือตัวอักษรเป็นสื่อกลางในการทำความเข้าใจร่วมกัน
      - การเขียนนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อมวลมนุษยชาติเพราะสามารถถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์และวัฒนธรรมจากมนุษย์รุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง
    - - มีจุดมุ่งหมายในการเขียนที่ชัดเจน
      - มีเอกภาพ
      - มีสัมพันธภาพ
      - มีความกระจ่าง
      - มีรูปแบบการเขียนเหมาะสมกับจุดมุ่งหมายและเนื้อหา
      - มีเนื้อหาและรายอะเอียดเด่นชัด
      - มีจินตนาการที่สอดคล้องกับเนื้อหา
      - ใช้ภาษาถูกต้องเหมาะสม
      - เรื่องราวชวนติดตาม
    - - การเขียนย่อหน้า คือการเขียนข้อความตอนหนึ่งที่ประกอบด้วยประโยคหลายประโยค ประโยคเหล่านี้มีความสัมพันธ์กัน โดยมีประโยคใจความสำคัญมุ่งแสดงความคิดเป็นหลังเพียงเรื่องเดียว
        
        1.ย่อหน้าแต่ละย่อหน้าบรรจุความคิดหลักหรือความคิดสำคัญที่ผู้เขียนต้องการจะเสนอ
        
        2.ย่อหน้าทำให้ผู้อ่านมีช่วงโอกาสคิดพิจารณาเนื้อหาในย่อหน้าที่มาก่อน ช่วยทำให้ทำความเข้าใจได้ง่ายและต่อเนื่อง
      - หลักการเขียนย่อหน้า
        
        1.การย่อหน้าต้องยาวพอที่จะอธิบายความคิดได้แจ่มแจ้ง ต้องไม่สั้นจนกลายเป็นการนำหัวข้อมาเรียงๆกันโดยไม่อธิบายให้เห็นว่าหัวข้อนั้นสำคัญอย่างไรและต้องไม่ยากจนกระทั่งปะปนกันหมด
        
        2.โดยทั่วไปย่อหน้ามีความยาวโดยประมาณ 4 บรรทัด หรือ 100คำ เป็นอย่างน้อย แต่ไม่ควรเกิด 8 หรือ 10 บรรทัด หรือประมาณ
        200-250 คำ
        
        3.ความสั้นยาวของแต่ละย่อหน้าในเรื่องนั้นๆไม่ควรให้แตกตางกันมากจนเกินไป
      - องค์ประกอบของย่อหน้า
        
        ใจความสำคัญหรือประโยคใจความสำคัญ คือ ความคิดเห็นที่ผู้เขียนมุ่งเน้นเสนอแก่ผู้อ่านและในหนึ่งย่อหน้านั้นต้องมีใจความสำคัญของเรื่องนี้ด้วย
        
        ประโยคขยายความ เป็นประโยคที่ขยายประโยคใจความสำคัญ ประโยคขยายความจะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจความคิดของผู้เขียนได้อย่างชัดเจน
      - กลวิธีขยายใจความสำคัญในย่อหน้า
        
        ให้รายละเอียด
        
        ให้คำจำกัดความ
        
        ให้เหตุผล
        
        ยกตัวอย่าง
        
        เปรียบเทียบ
      - ลักษณะย่อหน้าที่ดี
        
        สมบูรณ์ ในแต่ละย่อหน้าต้องเขียนให้มีจุดหมาย เนื้อหา สาระสำคัญ รายละเอียด ส่วนขยายชัดเจน ไม่นอกเรื่อง ไม่ยกตัวอย่างมากเกินไป
        
        มีเอกภาพ
        
        มีสัมพันธภาพ
        
        มีสารัตถภาพ
    - - การเขียนเชิงสร้างสรรค์ คือ การสื่อความหมาย โดยการเรียบเรียงความรู้ ความคิดและความรู้สึก ตลอดจนประสบการณ์ต่างๆของผู้เขียนออกมาอย่างอิสระ อาจเป็นเรื่องธรรมดาของคน สัตว์
        สิ่งแวดล้อมหรือเรื่องราวที่ผิดแผกแปลกไปจากธรรมชาติ
      - หลักเกณฑ์การสอนเขียนเชิงสร้างสรรค์
        
        ผลงานที่ถือว่าเกิดจากการสอนเขียนเชิงสร้างสรรค์นั้น สิ่งแรกที่จะต้องคำนกถึงคือ จะต้องเป็นสิ่งใหม่ที่แตกต่างออกไปจากเดิมหรือมีลักษณะเฉพาะตัว
        
        จะต้องเน้นความคิดแบบอเนกนัย คือรวมความรู้ ความคิด ความจริง ความเข้าใจ และทักษะต่างๆที่เรียนรู้มาสร้างสิ่งใหม่
        
        ผู้สอนต้องใช้กลวิธีที่จะกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความคิด พัฒนาความคิดของตนเองและมีอิสระที่จะแสดงความคิดของตนเองได้อย่างเต็มที่
        
        ก่อนที่จะลงมือเขียนแต่ละครั้ง ครูควรให้เด็กได้ตั้งจุดมุ่งหมายและสำรวจความคิดของตนเองเสียก่อนและครูควรมีบทบาทเพียงเพื่อช่วยเหลือ ชี้แนะให้นักเรียนเกิดแนวความคิดเท่านั้น
        
        ควรกระตุ้นให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง รู้จักเชื่อมโยงประสบการณ์เดิมให้สัมพันธ์กับความคิดใหม่
        
        ในการสอนเขียนเชิงสร้างสรรค์นั้น กระบวนการทำงานสำคัญเท่ากับผลงาน
        
        จะต้องจัดสถานการณ์เพื่อกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ทั้งสถานการณ์ทางกาย
        
        การสอนแบบสร้างสรรค์จะประสบผลสำเร็จมากกว่าส้มเหลว
        
        ในการพิจารณาผลงานที่เกิดจากการสร้างสรรค์ ครูต้องคำนึกถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ควรเน้นและชมเชยในเรื่องความแปลกใหม่ ลักษณะเฉพาะตัว ความริเริ่มและความเป็นตัวของตัวเองในแต่ละคน
        
        จะต้องอาศัยกระบวนการแบบประชาธิปไตย
      - ลำดับขั้นในการสอนเขียนเชิงสร้างสรรค์
        
        เฟอร์เนอร์(Furner 1979 : 406)
        
        1.ขั้นจูงใจ
        
        2.ขั้นแลกเปลี่ยนความคิดในเรื่องที่สนใจ
        
        3.ขั้นเขียน
        
        4.ขั้นแลกเปลี่ยนความคิดจากเรื่องที่เขียน
        
        5.ขั้นติดตามผลกิจกรรมบางอย่างที่เหมาะสม
        
        เจือ สตะเวทิน(2541)
        
        1.วิธีการสอนให้แสดงความคิดเป็นวลี ใช้รูปง่ายๆ
        
        2.วิธีสอนให้เด็กแสดงความคิดเห็นเป็นประโยค
        
        3.วิธีสอนให้เด็กแสดงความคิดเห็นเป็นย่อหน้า
        
        4.วิธีการสอนให้แสดงความคิดเห็นเป็นเรื่อง
      - การประเมินผลการเขียนเชิงสร้างสรรค์
        
        การเขียนเชิงสร้างสรรค์เป็นงานเขียนที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์เฉพาะบุคคล เป็นการถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด และจินตนาการที่แปลกใหม่ของแต่ละคน
  - - - 1.พูดมีความสำคัญต่อตนเอง
      - 2.การพูดมีความสำคัญต่อผู้ฟังหรือผู้เกี่ยวข้อง
      - 3.การพูดมีความสำคัญต่อการประกอบอาชีพ
      - 4.การพูดมีความสำคัญต่อสังคม
      - 5.การพูดมีความสำคัญต่อประเทศชาติ
    - - ผู้พูด คือ บุคคลที่จะทำให้การพูดประสบความสำเร็จ
      - ผู้ฟังคือผู้รับสาร
      - เนื้อหาสาระ
      - เครื่องมือในการสื่อความหมาย
    - - เพื่อสอนหรือแจ้งข่าวสารให้ทราบ
      - เพื่อเกลี้ยกล่อมหรือจูงใจ
      - เพื่อกระตุ้นหรือสร้างความประทับใจ
      - เพื่อความบันเทิง
    - - พูดเป็นหรือไม่เป็น
        
        พูดเป็น
        
        เนื้อหาสาระน่าสนใจ มีข้อมูลที่ถูกต้อง
        
        มีวาทศิลป์
        
        มีบุคลิกลักษณะที่ดี
        
        มีความจริงใจต่อผู้ฟัง มุ่งประโยชน์ส่วนรวม
        
        พูดไม่เป็น
        
        พูดยาว ยืดยาดเยิ่นเย้อเวลาเกินกำหนด ทำให้ผู้ฟังน่าเบื่อ
        
        พูดสั้นไป ขาดสาระสำคัญ ไม่เกิดประโยชน์ ไม่เข้าใจเท่าที่ควร
        
        พูดไม่ชวนฟัง ไม่ใคร่ครวญก่อนพูด ทำให้ผู้ฟังไม่พอใจหรือเจ็บซ้ำน้ำใจ
        
        พูดไม่รู้เรื่อง ผู้ฟังจับใจความไม่ได้เพราะผู้พูดสับสนวกวนขาดการขยายความที่ดีพอ ไม่รู้จักใช้ถ้อยคำที่ช่วยให้เข้าใจง่าย
      - ทฤษฏีบันได 13 ขั้น
        
        1.เตรียมความพร้อม
        
        2.ซักซ้อมให้ดี
        
        3.ทำท่าทีให้สง่า
        
        4.หน้าตาให้สุขุม
        
        5.ทักในที่ประชุมไม่วกวน
        
        6.เริ่มต้นให้โน้มน้าว
        
        7.เรื่องราวให้กระชับ
        
        8.ตาจับที่ผู้ฟัง
        
        9.เสียงดังแต่พอดี
        
        10.อย่าให้มีเอ้ออ้า
        
        11.ดูเวลาให้พอควร
        
        12.สรุปจบให้จับใจ
        
        13.ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดการพูด
    - - การนำเสนอเชิงวิชาการ หมายถึง การนำเสนอเนื้อหาสาระให้แก่บุคคลเป้าหมายให้ได้รับความรู้ ความเข้าใจ และยอมรับในสาระที่นำเสนอตามเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ในการนำเสนอ
      - ขั้นตอนการนำเสนอ
        
        1.การศึกษาข้อมูล
        
        เรื่องที่จะนำเสนอ
        
        ผู้รับฟัง
        
        สถานที่ที่จะนำเสนอ
        
        เวลาที่จะนำเสนอ
        
        2.การวางแผนการนำเสนอ
        
        เนื้อหาการนำเสนอ
        
        วิธีการนำเสนอ
        
        สื่อและเอกสารการนำเสนอ
        
        สถานที่ที่จะนำเสนอ
        
        เวลาในการนำเสนอ
        
        ตัวผู้นำเสนอ
        
        3.การนำเสนอ
        
        เป็นการพูดเพื่อนำเสนอข้อมูลหรือความรู้ ให้แก่ผู้ฟัง ตามแผนที่วางไว้ การนำเสนอจึงต้องการสมาธิและความมั่นใจ
        
        4.การประเมิน
        
        วัตถุประสงค์ของการประเมินคือเพื่อเป็นการปรับปรุงและพัฒนาทักษะในการนำเสนอผลงานให้มีข้อบกพร่องน้อยที่สุด การประเมินสามารถนำได้ในขณะที่นำเสนอและภายหลังการนำเสนอ
      - สื่อการนำเสนอ
        
        สื่อคือเครื่องมือหรือวิธีการที่ผู้ส่งสารใช้ติดต่อกับผู้รับสาร สื่อการนำเสนอเป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อการรับรู้อย่างถูกต้องและดึงดูดความสนใจของผู้ฟังมากขึ้น
        
        1.พลิปชาร์ต
        
        2.วีดีทัศน์/ภาพยนต์
        
        3.แผ่นใส
        
        4.PowerPoint
        
        5.โปสเตอร์