Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การส่งเสริมการขับถ่ายอุจจาระ - Coggle Diagram
การส่งเสริมการขับถ่ายอุจจาระ
ความสำคัญของการขับถ่ายอุจจาระ
ในภาวะปกติอุจจาระจะมีส่วนประกอบเป็นน้ำประมาณร้อยละ70-80 ส่วนที่เป็นของแข็งครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งเป็นแบคทีเรีย โดยส่วนใหญ่สารอาหารและสิ่งที่มีคุณค่าจากอาหาร จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดผ่านทางลำไส้เล็กก่อนที่อาหารจะเดินทางเข้าสู่ลำไส้ใหญ่
การเก็บอุจจาระส่งตรวจ
1ชนิดการเก็บอุจจาระส่งตรวจ
2)การตรวจอุจจาระหาเลือดแฝง (Occult blood)
3)การตรวจอุจจาระโดยการเพาะเชื้อ(Stool culture)
1)การตรวจอุจจาระหาความผิดปกติ(Fecal examination หรือStool examination)
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการขับถ่ายอุจจาระ
4 การเคลื่อนไหวของร่างกาย (Body movement)
5 อารมณ์ (Emotion)
3ปริมาณน้ำที่ร่างกายได้รับ (Fluid intake)
6 ความสม่ำเสมอในการขับถ่าย (Defecation habits )
2 ชนิดของอาหารที่รับประทาน (Food intake)
7 ความเหมาะสม(Opportunity)
1 อายุ (Age)
9 ยา(Medication)
10 การตั้งครรภ์(Pregnancy)
11 อาการปวด (Pain)
12 การผ่าตัดและการดมยาสลบ (Surgery andAnesthesia)
13 การตรวจวินิจฉัยโรค (Diagnostic test)
กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมการขับถ่ายอุจจาระ
3.การวางแผนการพยาบาล(Planning)
วัตถุประสงค์
เกณฑ์การประเมินผล
การวางแผน
4.การปฏิบัติการพยาบาล(Implementation)
1.แนะนำให้ความรู้และเน้นความสำคัญของการบริโภคอาหารที่มีกากใย
2.ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคระบบทางเดินอาหารและลำไส้
อธิบายประโยชน์ของการดื่มน้ำ
4.แนะนำให้ออกกำลังกายตามความเหมาะสม
ให้ความรู้เรื่องสมุนไพรไทยช่วยในการขับถ่ายอุจจาระทดแทนการใช้ยาระบายโดยนำมาปรุงเป็นอาหาร
6.ฝึกการขับถ่ายอุจจาระเป็นตรงเวลาทุกวัน
7.ท าจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส ลดความเครียดหรือวิตกกังวล
2.ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล(Nursing diagnosis)
5.การประเมินผลการพยาบาล(Evaluation)
1.มีการถ่ายอุจจาระได้โดยไม่ใช้ยาระบาย
2.เลือกรับประทานอาหารที่มีกากใย และดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว
3.ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการขับถ่ายอุจจาระตรงเวลาทุกวัน
การประเมินภาวะสุขภาพ(Health assessment)
สาเหตุและการพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาการขับถ่ายอุจจาระ
3ภาวะท้องอืด (Flatulence หรือAbdominal distention)
1 สาเหตุ
2)มีแก๊สในกระเพาะอาหารหรือลำไส้ปริมาณมาก
3)มีการสะสมของอุจจาระมาก เนื่องจากไม่ได้ขับถ่ายออกตามปกติ
1) มีการสะสมของอาหารหรือน้ำมาก อาหารไม่ย่อย
4) ปริมาตรของช่องท้องลดลงจากความผิดปกติของอวัยวะที่อยู่ใกล้เคียง
4การกลั้นอุจจาระไม่ได้ (Fecal incontinence)
1 ผลของการกลั้นอุจจาระไม่ได้
1)ผลด้านร่างกาย
2) ผลด้านจิตใจ
3) ผลด้านสังคม
4) ผลด้านจิตวิญญาณ
2 การอัดแน่นของอุจจาระ (Fecal impaction)
สาเหตุ อาการเริ่มแรกคือ ไม่ได้ถ่ายอุจจาระติดต่อกันนานแล้ว พบอุจจาระเป็นน้ำเหลวไหวซึมทางทวารหนักทีละเล็กละน้อยอย่างควบคุมไม่ได้
2 การพยาบาลผู้ป่วยที่มีการอัดแน่นของอุจจาระ
3 การล้วงอุจจาระ (Evacuation)คือการล้วงอุจจาระออกโดยตรง
5ภาวะท้องเสีย(Diarrhea)
1 สาเหตุของภาวะท้องเสีย
1) จากอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรค
2)จากการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจและอารมณ์
3) การได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะและมีอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
2 ผลที่เกิดจากภาวะท้องเสีย
1) เกิดภาวะเสียสมดุลน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย (Electrolyte imbalance)
2)เกิดความไม่สุขสบาย ปวดท้อง เนื่องจากการบีบตัวของลำไส้และการถ่ายอุจจาระหลาย ๆ ครั้ง
1ภาวะท้องผูก(Constipation)
สาเหตุ
1) ภาวะท้องผูกแบบปฐมภูมิรับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย
2)ภาวะท้องผูกแบบทุติยภูมิอาจเกิดจากความเจ็บปุวยหรือการรักษาด้วยยา
ผลที่เกิดจากภาวะท้องผูก
1) เกิดอาการแน่นท้อง
2) เกิดอาการปากแตก
3) เป็นโรคริดสีดวงทวาร (Hemorrhoid)
4) แบคทีเรียในลำไส้
6)การกลั้นอุจจาระไม่ได้ (Incontinence)
5) ถ้าทิ้งไว้นานอุจจาระอาจอัดกันเป็นก้อนแข็ง
6การถ่ายอุจจาระทางหน้าท้อง (Fecal diversion)
ชนิดของStoma
1.Colostomy
1.3Sigmoid colostomy(End colostomy)นำส่วนปลายของลำไส้ใหญ่มาเปิดออกส่วนใหญ่จะเปิดถาวรอยู่บริเวณหน้าท้องส่วนล่างด้านซ้าย
1.2Transverse colostomy (Loop colostomy)น าส่วนขวางของลำไส้ใหญ่มาเปิดออกส่วนใหญ่จะเป็นการเปิดแบบชั่วคราว
1.1Ascending colostomyน าส่วนต้นของลำไส้ใหญ่มาเปิดออกชนิดนี้จะค่อนข้างใหญ่อยู่ด้านขวาของหน้าท้องส่วนล่าง
2.Ileostomy
เป็นรูเปิดเดียว (End ileostomy)
2 รูเปิด (Loop ileostomy)
ข้อคำนึงในการสวนอุจจาระ
3) ท่านอนของผู้ปุวยท่านอนตะแคงซ้ายกึ่งคว่ำ (Sim’s position)
4) แรงดันของสารน้ำที่สวนให้แก่ผู้ป่วย
2) ปริมาณสารละลายใช้สวนอุจจาระ
2.2เด็กอายุ 10 เดือน ถึง 10ปีใช้ในปริมาณ250–500 ml.
2.3เด็กอายุ 10–14ปีใช้ในปริมาณ500–750 ml.
2.4ผู้ใหญ่ใช้ในปริมาณ750–1,000 ml.
2.1เด็กเล็กใช้ในปริมาณ150–250 ml.
5)การปล่อยน้ำเปิดClamp ให้น้ำไหลช้าๆ
1)อุณหภูมิของสารน้ำอุณหภูมิที่เหมาะสมคือ105 ̊F (40.5 ̊C)
6) ความลึกของสายสวนที่สอดเข้าไปในลำไส้และลักษณะของสายสวนอุจจาระ
7)การหล่อลื่นหัวสวนด้วยสารหล่อลื่น
8)ทิศทางการสอดหัวสวน
10)การแก้ไขเมื่อสารละลายในหม้อสวนไม่ไหลเป็นปกติ
9)ระยะเวลาที่สารน้ำกักเก็บอยู่ในลำไส้ใหญ่
อาการแทรกซ้อนจากการสวนอุจจาระ
4)การติดเชื้อเช่นลำไส้อักเสบ ตับอักเสบ
5)การคั่งของโซเดียม เพราะปกติลำไส้จะดูดซึมโซเดียมได้ดีมาก
3)ภาวะเป็นพิษจากน้ำ (Waterintoxication)
6)ภาวะ Methemoglobinemiaเป็นภาวะที่เม็ดเลือดแดงในร่างกายลดความสามารถในการขนส่งออกซิเจนลง
2)ผนังลำไส้ถลอก หรือทะลุ
1)การระคายเคืองต่อเยื่อบุลำไส้
ข้อห้ามในการสวนอุจจาระ
1)ลำไส้อุดตัน (Bowel obstruction)
2)มีการอักเสบของลำไส้
3)มีการติดเชื้อในช่องท้อง (Infection of abdomen)
4)ผู้ปุวยภายหลังผ่าตัดลำไส้ส่วนปลาย(Post rectal surgery)
ลักษณะของอุจจาระปกติและสาเหตุของอุจจาระที่ผิดปกติ
Type 3
Like a sausage but with cracks on surface(ลักษณะยาวหรือขดม้วน แต่พื้นผิวบนนุ่มๆ)
Type 4
Like a sausage or snake, smooth and soft(ลักษณะยาวหรือขดม้วน เรียบ และนุ่ม)
Type 2
Sausage shaped but lumpy(ลักษณะยาวแต่เป็นก้อน)
Type 5
Soft blobs with clear-cut edges(ลักษณะเป็นก้อนนุ่มๆ แยกออกจากันชัดเจน)
Type 1
Separate hard lumps, like nuts(Difficult to pass)ลักษณะแข็งคล้ายเมล็ดถั่วคนไทยเรียกว่า “ขี้แพะ”
Type 6
Fluffy pieces with ragged edges, a mushy stool(ลักษณะเป็นก้อนนุ่มปุยมีขอบขยักไม่เรียบ)
Type 7
Watery, no solid pieces(entirely liquid)(ลักษณะเป็นน้ำไม่มีเนื้ออุจจาระปน)
การสวนอุจจาระ
วัตถุประสงค์
3) เตรียมผ่าตัดในรายที่ผู้ป่วยจะต้องดมยาสลบ
4) เตรียมคลอด
1) ลดปัญหาอาการท้องผูก
5) เพื่อการรักษา
1) ลดปัญหาอาการท้องผูก
ชนิดของการสวนอุจจาระ
1 Cleansing enema
3)Normal saline solution enema(NSSenema)
4)Fleet enema
2) Soap sud enema(SSE)
5) Oil enema
1) Tap water enema (TWE)
2 Retention enema
1) Oil-retention enema
2)Medicated enema