Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การส่งเสริมการขับถ่ายอุจจาระ, 57-68-638, images (2), ดาวน์โหลด (2) -…
การส่งเสริมการขับถ่ายอุจจาระ
ความสำคัญของการขับถ่ายอุจจาระ
โดยทั่วไปความรู้สึกอยากถ่ายอุจจาระมักเกิดขึ้นเมื่อตื่นนอนหรือหลังมื้ออาหาร
การตื่นนอนและการลุกขึ้นเดินทำให้ลำไส้มีการเคลื่อนตัวของลำไส้เพิ่มขึ้น
เป็นการขับของเสียออกจากร่างกาย
หากร่างกายไม่ขับถ่ายอาจทำให้เกิดสารพิษและของเสียที่ตกค้างอยู่ในลำไส้
เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้มากขึ้น
เป็นการสร้างระบบขับถ่ายที่ดีต่อร่างกายและดีต่อสุขภาพ
การขับถ่ายอุจจาระเป็นการนำสารพิษและของเสียที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ออกไป
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการขับถ่ายอุจจาระ
ความเหมาะสม (Opportunity)
ยา (Medication)
ความสม่ำเสมอในการขับถ่าย (Defecation habits )
การตั้งครรภ์ (Pregnancy)
อารมณ์ (Emotion)
อาการปวด (Pain)
การเคลื่อนไหวของร่างกาย (Body movement)
การผ่าตัดและการดมยาสลบ (Surgery and Anesthesia)
ปริมาณน้ำที่ร่างกายได้รับ (Fluid intake)
การตรวจวินิจฉัยโรค (Diagnostic test)
ชนิดของอาหารที่รับประทาน (Food intake)
อายุ (Age)
ลักษณะของอุจจาระปกติและสาเหตุของอุจจาระที่ผิดปกติ
ลักษณะของอุจจาระ
กลิ่น
ปกติ : มีกลิ่นเฉพาะ:จากอาหารตกค้าง
ผิดปกติ : กลิ่นเปลี่ยนเหม็นมาก
สาเหตุ : การติดเชื้อจากเลือดในอุจจาระ
ลักษณะ
ปกติ : อ่อนนุ่ม
ผิดปกติ : เหลว แข็ง
ผิดปกติ : ท้องเสียหรือการดูดซึมลดลง ท้องผูก
สี
ผิดปกติ
ขาว หรือคล้ายดินเหนียว
ดำ (Melena) แดง
ซีด และเป็นมันเยิ้ม
สาเหตุ
ไม่มีน้ำดี มีธาตุเหล็กปนอยู่หรือ มีเลือดออกในทางเดินอาหาร
มีเลือดออกในทางเดินอาหาร
มีริดสีดวงทวาร หรือบริโภคผัก
เช่น หัวผักกาดแดงหรือผลไม้
เช่น แก้วมังกรสีแดง
พร่องหน้าที่การดูดซึมของไขมัน
ปกติ
เด็ก: สีเหลือง
ผู้ใหญ่: สีน้ำตาล
รูปร่าง
ปกติ : เท่ากับขนาดความกว้างของลำไส้ตรง
ผิดปกติ : ขนาดเล็กคล้ายดินสอ
สาเหตุ : มีการอุดตันในทางเดินอาหารหรือมีการบีบตัวของลำไส้เพิ่มขึ้น
อื่นๆ
ปกติ : อาหารไม่ย่อย, แบคทีเรียที่ตายแล้ว,ไขมัน, สีน้ำดี, เซลล์หรือเยื่อบุลำไส้, น้ำ
ผิดปกติ :เลือด, หนอง, มูก,แปลกปลอม, พยาธิ, อุจจาระเป็นน้ำมันเยิ้ม, เป็นมูก
สาเหตุ
มีเลือดออกในทางเดินอาหาร , รับประทานอาหารบูด,มีการระคายเคือง,
มีการอักเสบ,และมีพยาธิ
กลุ่มอาการพร่องการดูดซึม, ลำไส้อักเสบ, โรคของตับอ่อน, มีการผ่าตัดเกี่ยวกับลำไส้
มีการระคายเคืองของลำไส้, มีการอักเสบ, มีการติดเชื้อหรือได้รับอันตราย
ความถี่
ผิดปกติ
มากกว่า วันละ 6 ครั้ง หรือ 1-2 วัน ครั้งเดียว
มากกว่าวันละ 3 ครั้งหรือ สัปดาห์ละครั้ง
สาเหตุ : มีกิจกรรมการเคลื่อนไหวมากเกินไปหรือน้อยเกินไป
ปกติ
เด็ก: (นมมารดา) วันละ 4-6 ครั้ง (นมขวด) วันละ 1-3 ครั้ง
ผู้ใหญ่: วันละ 2 ครั้ง หรือ สัปดาห์ละ 3 ครั้ง
ชนิด
Type 3
Like a sausage but with cracks on surface
(ลักษณะยาวหรือขดม้วน แต่พื้นผิวบนนุ่ม ๆ)
Type 1
Separate hard lumps, like nuts (Difficult to pass)
คล้ายเมล็ดถั่ว / “ขี้แพะ”
Type 4
Like a sausage or snake, smooth and soft
(ลักษณะยาวหรือขดม้วน เรียบ และนุ่ม)
Type 5
Soft blobs with clear-cut edges
(ลักษณะเป็นก้อนนุ่ม ๆ แยกออกจากันชัดเจน)
Type 6
Fluffy pieces with ragged edges, a mushy stool
(ลักษณะเป็นก้อนนุ่มปุย มีขอบขยักไม่เรียบ)
Type 7
Watery, no solid pieces (entirely liquid)
(ลักษณะเป็นน้ าไม่มีเนื้ออุจจาระปน)
Type 2
Sausage shaped but lumpy
(ลักษณะยาวแต่เป็นก้อน)
สาเหตุและการพยาบาลผู้ปุวยที่มีปัญหาการขับถ่ายอุจจาระ
ภาวะท้องผูก
(Constipation)
ภาวะท้องผูก
ภาวะท้องผูกแบบปฐมภูมิ
ภาวะท้องผูกแบบทุติยภูมิ
สาเหตุ
ฝิ่น การอุดกั้นของระบบทางเดินอาหาร
ความผิดปกติในการทำหน้าที่ของไขสันหลัง
ลดลงของการเคลื่อนไหวลำไส้
ภาวะผิดปกติของลำไส้
การทำหน้าที่ผิดปกติของกล้ามเนื่อพื้นเชิงกราน
ภาวะท้องผูก
ต้องออกแรงเบ่ง ถ่ายไม่สุด
เกิดความเจ็บปวด
ถ่ายอุจจาระออกมา แห้งแข็ง ขับถ่ายลำบาก
ถ่ายน้องกว่า 3 ครั้งใน 1สัปดาห์
ไม่ถ่ายอุจจาระติดต่อกัน 3 วัน
ผลที่เกิด
แน่นท้อง ท้องอืด ปวดท้อง ไม่สุขสบายเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ วิงเวียน
ปากแตก ลิ้นแตก ลมหายใจเหม็น อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
ริดสีดวงทวาร (Hemoorrhoid)
อุจจาระอาจอัดกันเป็นก้อนแข็ง หรือผนังลำไส้หย่อนตัว เป็นถุงสะสมอุจจาระไว้
พบในผู้สูงอายุ อัมพาต
การกลั้นอุจจาระไม่ได้ (Incontinence)
การอัดแน่นของอุจจาระ (Fecal impaction)
การพยาบาล
เป้าหมาย : การช่วยเหลือเอาก้อนอุจจาระออกจากร่างกาย
การล้วงอุจจาระ (Evacuation)
ให้ยาระบาย
การสวนอุจจาระในกรณีที่ใช้ยาไม่ได้ผล
การล้วงอุจจาระ
ปูผ้ายางรองให้ผู้ป่วย
ล้วงเอาก้อนอุจจาระออกใส่ในหม้อนอน
ให้ผู้ป่วยนอนตะแคงซ้ายกึ่งคว่ำ
สวมถุงมือ 2 ชั้น แล้วใช้นิ้วชี้หล่อลื่นด้วยเจลหล่อลื่น
สาเหตุ อาการเริ่มแรก
อยากถ่ายตลอดเวลาแต่ถ่ายไม่ออก
ตรวจทางทวารหนักพบก้อนแข็ง ๆ ของอุจจาระ หรือไม่พบหากก้อนนั้นอยู่สูงเกินไป
อุจจาระเป็นน้ำเหลวไหวซึมทางทวารหนักทีละเล็กละน้อยอย่างควบคุมไม่ได้
ผู้ป่วยจะรู้สึกปวดท้องมาก ปวดอุจจาระ
ไม่ได้ถ่ายอุจจาระติดต่อกันนานแล้ว
การถ่ายอุจจาระทางหน้าท้อง (Fecal diversion)
การผ่าตัดเอาลำไส้มาเปิดออกทางหน้าท้อง
ชนิดของ Stoma
Colostomy เป็นทวารหนักชนิดลำไส้ใหญ่
ระยะที่ 1 หลังผ่าตัด 4-5 วัน ทำความสะอาดแบบการทำแผลด้วยเทคนิคปราศจากเชื้อ
ระยะที่ 2 หลังผ่าตัด 7-10 วัน แผลผ่าตัดจะเริ่มติดดี และเริ่มมีอุจจาระออกทาง Stoma
ระยะที่ 3 หลังผ่าตัด 6-8 สัปดาห์ แผลจะยุบบวมและมีขนาดคงที่ ระยะนี้
สามารถทำความสะอาดด้วยน้ำ และสบู่อ่อน แล้วซับให้แห้ง
Ileostomy เป็นทวารหนักชนิดลำไส้เล็ก
การพยาบาล
การปิดถุงรองรับอุจจาระ
ทำความสะอาดช่องเปิดของลำไส้ และผิวหนังรอบ ๆ
การรับประทานอาหารที่เหมาะสม
การออกกำลังกายและการทำงาน
การฝึกหัดการขับถ่าย โดยใช้กล้ามเนื้อหน้าท้อง
ภาวะแทรกซ้อน สังเกตและดูแลตนเอง
การกลั้นอุจจาระไม่ได้ (Fecal incontinence)
ความผิดปกติกของปลายประสาทรับความรู้สึกที่เลี้ยงบริเวณทวารหนัก
การพยาบาล
ดูแลด้านจิตใจ ป้องกันการสูญเสียคุณค่าและนับถือตนเอง
ให้ผู้ป่วยได้ฝึกถ่ายอุจจาระ
การดูแลผิวหนัง ระวังไม่ให้อุจจาระค้างอยู่ที่ผิวหนังนาน
ดูแลเสื้อผ้า ที่นอน ให้สะอาดและแห้ง
ผ่าตัด : ในกรณีที่เกิดจากสาเหตุทางร่างกาย
เกิดจากการรบกวนที่หูรูดทวารหนักมีการกดทับจากอุจจาระ
ผลของการกลั้นอุจจาระไม่ได้
ผลต่อจิตใจ
สูญเสียความรู้สึกมีคุณค่าและความนับถือต่อตนเอง
อาจส่งผลรุนแรงมากขึ้นจากปฏิกิริยาของบุคคลที่อยู่รอบข้าง
การระคายเคืองต่อผิวหนังและอาจเกิดแผล
เกิดความสกปรกเปรอะเปื้อนของเสื้อผ้าและเครื่องใช้
ภาวะท้องเสีย
(Diarrhea)
การเพิ่มจำนวนครั้งของการถ่ายอุจจาระ
และการที่อุจจาระเป็นน้ำเหลว หรือมีมูกปน
ถ่ายเป็นน้ำเหลว 3 ครั้งในเวลา 12 ชั่วโมง หรือ
ถ่ายเป็นน้ำปนมูกเพียงครั้งเดียว
สาเหตุ
อาหาร การติดเชื้อ ความผิดปกติของลำไส้ ยา
ทางจิตใจ อารมณ์
การได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะและมีอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
ผลที่เกิด
ภาวะเสียสมดุลน้้ำและเกลือแร่ในร่างกาย
ผลให้เกิดภาวะกรดเกิน (Acidosis)
เกิดความไม่สุขสบาย ปวดท้อง
การพยาบาล
ให้โอกาสผู้ป่วยได้อยู่ตามลำพัง
ช่วยเหลือชำระล้างและทำความสะอาดหลังการถ่ายอุจจาระ
ช่วยเหลือด้วยท่าที่เหมาะสมและเต็มใจ
ติดตามผลการตรวจอุจจาระ
ช่วยเหลือผู้ป่วยให้ถ่ายได้ทัน
สังเกตและบันทึกผล
พักผ่อน อาหาร
การปูองกันการแพร่กระจายเชื้อ หรือการกลับซ้ำเป็นอีก
ภาวะท้องอืด (Flatulence หรือ Abdominal distention)
เป็นความรู้สึกแน่น อึดอัด ไม่ผายลม ไม่สบายในท้อง
สาเหตุ
มีการสะสมของอาหารหรือน้ำมาก
มีแก๊สในกระเพาะอาหารหรือลำไส้ปริมาณมาก
มีการสะสมของอุจจาระมาก
ปริมาตรของช่องท้องลดลง
การพยาบาล
จัดท่านอน ให้นอนศีรษะสูง 45-60 องศา
ค้นหาสาเหตุ ให้การช่วยเหลือตามสาเหตุ
กระตุ้นและช่วยเหลือเคลื่อนไหวของร่างกาย
การใส่สายทางทวารหนัก (Rectal tube)
ให้ยาช่วยย่อยอาหาร ยาขับลม
ใส่ NG tube เพื่อระบายลม น้ำย่อย
การสวนอุจจาระ
น้ำยาที่ใช้สวนล้าง
Tap water enema (TWE) การสวนด้วยน้ำสะอาด
ไม่นิยมใช้ ในผู้ป่วยที่มีภาวะอิเล็กโตรไลต์ไม่สมดุล
ไม่ใช้ในเด็ก
การสวนล้างด้วยสบู่
Soap sud enema (SSE)
ทำให้เกิดการอักเสบ
ถ้าน้ำสบู่ได้รับความร้อนจะทำให้เกิดภาวะของ
Methemoglobinemia
เขียวคล้ำ หายใจลำบาก ชีพจรเต้นเร็ว
Normal saline solution enema (NSS enema) การสวยล้างด้วยน้ำเกลือ
ใช้ในผู้ป่วยเด็ก ผู้ป่วยลำไส้อักเสบ
เลี่ยงในผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ป่วยที่มี Na คั่ง
การสวนอุจจาระโดยน้ำยาสำเร็จรูป
Fleet enema
เป็นสารละลายโซเดียม ออกฤทธิ์เร็ว 5 นาที
การสวนด็วยน้ำมัน Oil enema
นิยมใช้ในผู้ป่วยที่มีอุจจาระอุดตัน
การสวนเก็บ
เป็นการวสวนน้ำยาเข้าไปเก็บไว้ในลำไส้ใหญ่
วัตถุประสงค์
Oil-retention enema
เพื่อให้อุจจาระอ่อนตัว
กระตุ้นให้ลำไส้มีการบีบตัวดีขึ้น
Medicated enema
เพื่อให้ยาดูดซึมเข้าไปในร่างกายทางทวารหนัก
เพื่อลดเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ใหญ
ชนิดของการสวนอุจจาระ
การสวนล้าง
การสวนเก็บ
วัตถุประสงค์
บรรเทาอาการท้องผูก
อุจจาระอัดแน่น
ล้างลำไส้ใหญ่ให้สะอาด
ใช้ในการเตรียมตรวจ ผ่าตัด หรือ X-ray
ช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ
การสวนล้าง
ทำให้เกิดการระคายเคืองของ Colon หรือ Rectum
กระตุ้นให้ลำไส้เคลื่ินไหว และขับอุจจาระออก
การสวนน้ำหรือน้ำยาเข้าไปในลำไส้
ข้อควรคำนึงในการสวนอุจจาระ
สอดสายสวนเข้าทวารหนัก สอดลึก 2-4 นิ้ว
หล่อลื่น ด้วย KY jelly
การปล่อยน้ำ เปิด Clamp ให้น้ำไหลช้า ๆ
ให้ปลายหัวสวนมุ่งไปทิศทางสะดือลึกประมาณ 2 นิ้ว
แรงดันของสารน้ำที่สวนให้แก่ผู้ป่วย
ไม่เกิน 1 ฟุตเหนือระดับที่นอน
ในเด็กเล็กไม่ควรเกิน 3 นิ้ว
ให้ผู้ป่วยหายใจทางปากยาว ๆกลั้นอุจจาระต่อไป
อีก 5–10 นาที หรือเท่าที่จะทนได้
ปริมาณสารน้ำ : ขึ้นอยู่กับอายุและขนาร่างกาย
การแก้ไขเมื่อสารละลายในหม้อสวนไม่ไหลเป็นปกติ
ปลายหัวสวนติดผนังลำไส้ ให้ถอยหัวสวน
ออกมาเล็กน้อยหลังจากเลื่อนหัวสวนแล้ว
อุจจาระติดที่ปลายหัวสวน
ค่อย ๆ ดึงหัวสวนออกมาแล้วเปลี่ยนหัวสวนอันใหม
ผู้ป่วยเบ่ง ควรบอกให้ผู้ป่วยอ้าปากหายใจเข้ายาว ๆ
อุณหภูมิของสารน้้ำ : 105˚F (40.5 ˚C)
การเก็บอุจจาระส่งตรวจ
เพื่อตรวจหาความผิดปกติใน
ระบบทางเดินอาหาร
ภาวะเลือดออก
มะเร็งในลำไส้ใหญ่
ภาวะติดเชื้อ
ชนิดการเก็บอุจจาระส่งตรวจ
การตรวจอุจจาระหาเลือดแฝง (Occult blood)
การตรวจอุจจาระโดยการเพาะเชื้อ (Stool culture)
Fecal examination หรือ Stool examination
วิธีการเก็บ
เก็บตัวอย่างที่ต้องปลอดการปนเปื้อน ปัสสาวะ น้ำ และอื่นๆ เช่นกระดษาทิชชู
ลงบันทึกทางการพยาบาล ลักษณะ สี กลิ่น สิ่งเจือปน
อธิบายให้ผู้ป่วยทราบ และเข้าใจถึงวัตถุประสงค์
ให้ผู้ปุวยถ่ายอุจจาระลงในหม้อนอนที่สะอาดและแห้ง
ตรวจหาพยาธิ ให้ตักอุจจาระส่วนที่เป็นของเหลว หรือที่ลักษณะมูก
ตรวจอุจจาระเพื่อหาเลือดแฝง ให้งดอาหารที่มีเลือดปน/ยาธาตุเหล็ก
เก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิด ใส่ถุงพลาสติกหุ้มอีกชั้น
ส่งห้องปฏิบัติการทันทีภายใน 30 นาที พร้อมใบส่งตรวจ
อุปกรณ์เครื่องใช้
ภาชนะมีฝาปิดมิดชิด , ไม้แบน สำหรับเขี่ยอุจจาระ,หม้อนอน
ใบส่งตรวจ,กระดาษชำระ
การเก็บอุจจาระส่งตรวจเพาะเชื้อ
เก็บไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิ 4-10 ˚C
ส่งห้องปฏิบัติการทันทีภายใน 30 นาที พร้อมใบส่งตรวจ
อุจจาระต้องปลอดเชื้อและมีอาหารเลี้ยงเชื้อ
กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมการขับถ่ายอุจาจาระ
การประเมินภาวะสุขภาพ (Health assessment)
ซักประวัติเกี่ยวกับการขับถ่าย สุขนิสัยการรับประทานอาหาร ยา เป็นต้น
ตรวจร่างกาย
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing diagnosis)
เช่น ท้องผูกเนื่องจากใช้ยาระบายเป็นประจำ
การประเมินผลการพยาบาล (Evaluation)
การวางแผนการพยาบาล (Planning)
เพื่อลดอาการ
เช่น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการขับถ่าย การรับประทานอาหารที่มีกากใย
การปฏิบัติการพยาบาล (Implementation)
แนะนำให้ความรู้ อธิบายประโยชน์ต่างๆ
ฝึกเข้าห้องน้ำ ฝึกการขับถ่าย