Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การส่งเสริมการขับถ่ายอุจจาระ - Coggle Diagram
การส่งเสริมการขับถ่ายอุจจาระ
ความสำคัญของการขับถ่ายอุจจาระ
ภาวะปกติอุจจาระจะมีส่วนประกอบเป็นน้ำประมาณร้อยละ 70-80 ส่วนที่เป็น
ของแข็งครึ่งหนึ่งอีกครึ่งหนึ่งเป็นแบคทีเรีย
สารอาหารและสิ่งที่มีคุณค่าจากอาหารจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดผ่านทางลำไส้เล็กก่อนที่อาหารจะเดินทางเข้าสู่ลำไส้ใหญ่
เส้นใยอาหารประเภทเซลลูโลสและลิกนินซึ่่งไม่ถูกย่อยสลายโดยแบคทีเรียจะเหลืออยู่ในอุจจาระและช่วยอุจจาระอุ้มน้ำไว้
น้ำหนักของอุจจาระขึ้นอยู่กลับปริมาณของเส้นใยอาหาร
การทำงานของลำไส้ใหญ่ที่บีบตัวเป็นระยะ ๆ ตลอดทั้งวันเพื่อผลักดัน
ให้อุจจาระเคลื่อนต่อไปยังไส้ตรง
ความรู้สึกอยากถ่ายอุจจาระมักเกิดขึ้นเมื่อตื่นนอนหรือหลังมื้ออาหาร เพราะการตื่นนอนและการลุกขึ้นเดินท าให้ลำไส้มีการเคลื่อนตัวของลำไส้เพิ่มขึ้น
การขับถ่ายอุจจาระจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นการขับของเสียออกจากร่างกาย
หากร่างกายไม่ขับถ่ายอาจทำให้เกิดสารพิษและของเสียที่ตกค้างอยู่ในลำไส้
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการขับถ่ายอุจจาระ
อายุ (Age)
เด็กเล็กความสามารถในการควบคุมการขับถ่ายได้เมื่ออายุั้งแต่ 24-30 เดือนขึ้นไปเด็กเล็กอาจมีการถ่ายอุจจาระวันละหลาย ๆ ครั้ง
ผู้สูงอายุมักจะมีปัญหา กล้ามเนื้อหูรูดหย่อนยาน ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อลดลง ปัญหาการ
ขับถ่ายอุจจาระจึงเกิดขึ้นได้มากกว่าวัยอื่น
ชนิดของอาหารที่รับประทาน (Food intake)
อาหารจ าพวกพืชผัก ผลไม้
ที่มีกากใยมากจะช่วยท าให้อุจจาระสามารถขับเคลื่อนได้ดีกว่าอาหารที่กากใยน้อย
ปริมาณน้ำที่ร่างกายได้รับ (Fluid intake)
น้ำจะเป็นตัวสำคัญที่ทำให้อุจจาระมีลักษณะนุ่มพอดี ไม่แห้ง แข็งเกินไป ทำให้อุจจาระอ่อนตัว และยังช่วยกระตุ้นให้มีการเคลื่อนไหวของลำไส้ใหญ่ได้ดี
การเคลื่อนไหวของร่างกาย (Body movement)
จะช่วยทำให้การทำงานของลำไส้เป็นไปอย่างปกติส่งผลให้มีถ่ายอุจจาระได้ปกติผู้ปุวยที่เคลื่อนไหวได้น้อย หรือถูกจำกัดการเคลื่อนไหวจะทำให้การทำงานของลำไส้ลดลง
อารมณ์ (Emotion)
เมื่ออารมณ์มีการเปลี่ยนแปลงะการทำงานของระบบประสาท Sympatheticมีการเปลี่ยนแปลงทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้
ความสม่ำเสมอในการขับถ่าย (Defecation habits )
ควรมีการฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลา เมื่อรู้สึกอยากถ่ายให้รีบไปถ่าย หากมีการกลั้นอุจจาระไว้จะทำให้เกิดท้องผูกได้
ความเหมาะสม (Opportunity)
สิ่งแวดล้อมมีส่วนช่วยในการขับถ่าย สถานที่ไม่เป็นส่วนตัวหรือห้องน้ำไม่สะอาดส่งผลให้บุคคลไม่อยากถ่ายอุจจาระจึงกลั้นอุจจาระ และทำให้เกิดอาการท้องผูกได้
ยา (Medication)
อาการข้างเคียงของยาบางชนิดมีผลต่อระบบทางเดิน
อาหารอาจทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้
การตั้งครรภ์(Pregnancy)
เมื่ออายุครรภ์มากขึ้น ทารกในครรภ์โตขึ้นมดลงก็ขยายตัวโตด้วยทำให้จะไปเบียดกดลำไส้ส่วนปลายในการเบ่งถ่ายอุจจาระจึงต้องใช้แรงเพิ่มขึ้นทำให้เกิดท้องผูก
ลักษณะของอุจจาระปกติและ
สาเหตุของอุจจาระที่ผิดปกติ
Separate hard lumps, like nuts (Difficult to pass)
ลักษณะแข็งคล้ายเมล็ดถั่ว คนไทยเรียกว่า “ขี้แพะ”
Sausage shaped but lumpy
(ลักษณะยาวแต่เป็นก้อน)
Like a sausage but with cracks on surface
(ลักษณะยาวหรือขดม้วน แต่พื้นผิวบนนุ่ม ๆ)
Like a sausage or snake, smooth and soft
(ลักษณะยาวหรือขดม้วน เรียบ และนุ่ม)
Soft blobs with clear-cut edges
(ลักษณะเป็นก้อนนุ่ม ๆ แยกออกจากันชัดเจน)
Fluffy pieces with ragged edges, a mushy stool
(ลักษณะเป็นก้อนนุ่มปุย มีขอบขยักไม่เรียบ)
Watery, no solid pieces (entirely liquid)
(ลักษณะเป็นน้ าไม่มีเนื้ออุจจาระปน)
สาเหตุและการพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาการขับถ่ายอุจจาระ
ภาวะท้องผูก (Constipation)
สาเหตุภาวะท้องผูก
ภาวะท้องผูกแบบปฐมภูมิโดยภาวะท้องผูกปฐมภูมินี้มีความสัมพันธ์กับการ
รับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย ภาวะขาดน้ำ การเคลื่อนไหวลดลงแรงตึงตัวของกล้ามเนื้อลดลง
ภาวะท้องผูกแบบทุติยภูมิอาจเกิดจากความเจ็บป่วยหรือการรักษาด้วยยา
ผลที่เกิดจากภาวะท้องผูก เกิดจากการกัก
เก็บอุจจาระไว้นานจนทำให้เกิดอาการท้องผูก
การอัดแน่นของอุจจาระ (Fecal impaction)
สาเหตุ ไม่ได้ถ่ายอุจจาระติดต่อกันนานแล้ว
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีการอัดแน่นของอุจจาระ
การช่วยเหลือเอาก้อนอุจจาระออกจากร่างกายโดยการล้วงอุจจาระ (Evacuation)
ใช้ยาระบายเพื่อทำให้ก้อนอุจจาระอ่อนนุ่มและหล่อลื่น
การสวนอุจจาระในกรณีที่ใช้ยาไม่ได้ผล
การล้วงอุจจาระ
(Evacuation)
การล้วงอุจจาระออกโดยตรง เป็นการ
ช่วยเหลือผู้ปุวยในกรณีที่ผู้ปุวยถ่ายอุจจาระออกเองไม่ได้
อุจจาระจับเป็นก้อนและไม่ถูกขับออกมา
ตามปกติ ประมาณ 4-5 วัน
อุปกรณ์เครื่องใช้
ถุงมือสะอาด 2 คู่ และหน้ากากอนามัย (Mask)
สารหล่อเลื่อน เจล หล่อลื่น ถ้าไม่มีใช้วาสลิน หรือสบู่เหลว
ผ้ายางรองก้นและกระดาษชำระ
หม้อนอนหรือ ถุงพลาสติกสำหรับใช่อุจจาระ
ภาวะท้องอืด (Flatulence )
สาเหตุ
มีการสะสมของอาหารหรือน้ำมาก อาหารไม่ย่อย รับประทานอาหารมากเกินไป
มีแก๊สในกระเพาะอาหารหรือลำไส้ปริมาณมาก
มีการสะสมของอุจจาระมาก เนื่องจากไม่ได้ขับถ่ายออกตามปกติ
ปริมาตรของช่องท้องลดลงจากความผิดปกติของอวัยวะที่อยู่ใกล้เคียง
การพยาบาลผู้ปุวยที่มีภาวะท้องอืด
จัดท่านอน ให้นอนศีรษะสูง 45-60 องศา เพื่อให้กระบังลมหย่อยตัว
อธิบายสาเหตุและวิธีการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดอาการท้องอืด แสดงความเห็นอก
เห็นใจและให้กำลังใจ
ค้นหาสาเหตุของอาการท้องอืดและให้การช่วยเหลือตามสาเหตุ
การกลั้นอุจจาระไม่ได้
(Fecal incontinence)
ผลของการกลั้นอุจจาระไม่ได้
ผลด้านร่างกาย
การขับถ่ายอุจจาระที่ควบคุมไม่ได้จึงทำให้มีอุจจาระไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวจึงเกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง
ผลด้านจิตใจ
อุจจาระเป็นเรื่องของความไม่สะอาดทั้งกลิ่นและสิ่งขับถ่ายอุจจาระจึงทำให้เกิดการสูญเสียความรู้สึกมีคุณค่าและความนับถือต่อตนเอง
ผลด้านสังคม
เมื่่อการกลั้นอุจจาระไม่ได้เป็นเรื่องน่าอับอายส่งผลให้ไม่ต้องการออกสังคม
การพยาบาลผู้ป่วยที่
กลั้นอุจจาระไม่ได้
ด้านร่างกาย
ความสะอาดทั่วไปของร่างกาย
การควบคุมการขับถ่ายอุจจาระโดยใช้วิธีการฝึกถ่ายอุจจาระเป็นเวลาเลือก
เป็นเวลาที่สะดวก
ให้การดูแลผิวหนังให้สะอาด และแห้งตลอดเวลา
โดยเฉพาะหลังการขับถ่ายอุจจาระทุกครั้ง
ดูแลเสื้อผ้า ที่นอน ให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ
ด้านจิตใจ สังคม
และจิตวิญญาณ
ควรให้กำลังใจ และสร้างเสริมกำลังใจกับผู้ป่วยให้สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
ให้ทำสมาธิและมีสติรู้อยู่เป็นปัจจุบันตลอดเวลา เอาธรรมะเป็นที่พึ่งและปล่อยวาง
ภาวะท้องเสีย (Diarrhea)
สาเหตุของภาวะท้องเสีย
จากอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรค
จากการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจ และอารมณ์ จนทำให้เกิดการเจ็บป่วยที่แสดงออกทางร่างกาย เรียกว่า “Psychosomatic disorder”
การได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะและมีอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์(Side effect)
ผลที่เกิดจากภาวะท้องเสีย
เกิดภาวะเสียสมดุลน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย (Electrolyte imbalance)
สูญเสียทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย น้ำหนักลด
เกิดความไม่สุขสบาย ปวดท้อง
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะท้องเสีย
ประเมินสภาพผู้ป่วย
ช่วยเหลือผู้ป่วยให้ถ่ายได้ทัน ไม่หกเรี่ยราด เลอะเทอะ และอำนวยความ
สะดวกสบายให้แก่ผู้ป่วย
การดูแลเรื่องอาหาร ในระยะแรกมักให้งดอาหารและน้ำทางปาก (NPO)
บันทึกปริมาณน้ำที่ได้รับและที่ขับออกจากร่างกายให้ครบถ้วน
ส่งเสริมการพักผ่อนนอนหลับ
การสวนอุจจาระ
วัตถุประสงค์
ลดปัญหาอาการท้องผูก
เตรียมตรวจทางรังสี
เตรียมผ่าตัดในรายที่ผู้ป่วยจะต้องดมยาสลบ
เตรียมคลอด
เพื่อการรักษา
ชนิดของการสวนอุจจาระ
Cleansing enema
โดยการทำให้เกิดการระคายเคืองของ Colon
เป็นการสวนน้ำหรือน้ำยาเข้าไปในลำไส้ใหญ่เพื่อกระตุ้น
ให้มีการเคลื่อนไหวของลำไส้
มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาอาการท้องผูกอุจจาระอัดแน่นช่วยล้างลำไส้ใหญ่ให้สะอาดก่อนทำการเตรียมส่งตรวจ การผ่าตัด
ชนิดของน้ำยาที่ใช้สวนล้าง
Tap water enema (TWE)
เป็นการสวนเอาน้ำสะอาดเข้าในลำไส้ไม่นิยมใช้ใน
ผู้ป่วยที่มีภาวะอิเล็กโตรไลต์ไม่สมดุลหรือผู้ป่วยเด็ก
Soap sud enema (SSE)
ป็นการสวนอุจจาระโดยใช้น้ำสบู่ผสมน้ำใช้น้ำสบู่
Normal saline solution enema (NSS enema)
เป็นการสวนอุจจาระโดยใช้
สารละลาย 0.9 % NSS นิยมใช้ ในผู้ป่วยเด็ก ผู้ป่วยที่มีลำไส้อักเสบ
Fleet enema
เป็นการสวนอุจจาระโดยน้ำยาสำเร็จรูปคือสารละลาย Hypotonic
เหมาะสำหรับ การสวนอุจจาระแก่ผู้ใหญ่และผู้ที่ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการคั่งของโซเดียมในร่างกาย
Oil enema
เป็นการสวนอุจจาระโดยใช้น้ำมันพืช นิยมใช้ในผู้ป่วยที่มีอุจจาระอุดตัน
Retention enema
การสวนเก็บเป็นการสวนน้ำยาเข้าไปเก็บไว้ในลำไส้ใหญ่
ในผู้ใหญ่ไม่เกิน 200 ml
ชนิดที่นิยมใช้
Oil-retention enema
เป็นการสวนเก็บน้ำมันเพื่อให้อุจจาระอ่อนตัว กระตุ้นให้ลำไส้มีการบีบตัวดีขึ้น
Medicated enema
เป็นการสวนเก็บด้วยยาเพื่อให้ยาดูดซึมเข้าไปในร่างกายทางทวารหนัก
ข้อคำนึงในการสวนอุจจาระ
อุณหภูมิของสารน้ำอุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 105˚F (40.5 ˚C)
ปริมาณสารละลายใช้สวนอุจจาระ
ขึ้นอยู่กับอายุและขนาดร่างกาย
เด็กเล็ก ใช้ในปริมาณ 150–250 ml
เด็กอายุ 10 เดือน ถึง 10 ปีใช้ในปริมาณ 250–500 ml.
เด็กอายุ 10–14 ปีใช้ในปริมาณ 500–750 ml.
ผู้ใหญ่ ใช้ในปริมาณ 750–1,000 ml.
ท่านอนของผู้ป่วยท่านอนตะแคงซ้ายกึ่งคว่ำ
(Sim’s position)ให้เข่าขวางอขึ้นมาก ๆ
แรงดันของสารน้ำที่สวนให้แก่ผู้ป่วยควรแขวนหม้อสวนให้สูงไม่เกิน 1 ฟุตเหนือระดับที่นอนในเด็กเล็กไม่ควรเกิน 3 นิ้ว
การหล่อลื่นหัวสวนด้วยสารหล่อลื่น
ทิศทางการสอดหัวสวนให้ปลายหัวสวนมุ่งไปทิศทางสะดือลึกประมาณ 2 นิ้วแล้วเบนปลายกลับให้ขนานกับแนวกระดูกสันหลังตามลักษณะโค้งของลำไส้
อาการแทรกซ้อนจากการสวนอุจจาระ
การระคายเคืองต่อเยื่อบุลำไส้
ผนังลำไส้ถลอก หรือทะลุ
ภาวะเป็นพิษจากน้ำ (Water intoxication)
เป็นภาวะที่ร่างกายได้รับน้ำจำนวนมากเกินไป
การติดเชื้อ เช่นลำไส้อักเสบ ตับอักเสบ
การคั่งของโซเดียม
ภาวะ Methemoglobinemia เป็นภาวะที่เม็ดเลือดแดงในร่างกายลดความสามารถในการขนส่งออกซิเจนลง
ข้อห้ามในการสวนอุจจาระ
ลำไส้อุดตัน (Bowel obstruction)
มีการอักเสบของลำไส้
มีการติดเชื้อในช่องท้อง (Infection of abdomen)
ผู้ป่วยภายหลังผ่าตัดลำไส้ส่วนปลาย(Post rectal surgery)
การเก็บอุจจาระส่งตรวจ
ชนิดการเก็บอุจจาระส่งตรวจ
การตรวจอุจจาระหาความผิดปกติ
(Fecal examination หรือ Stoolexamination)
การตรวจอุจจาระหาเลือดแฝง (Occult blood)
ตรวจในรายที่สงสัยว่ามีเลือดแฝงในอุจจาระ
การตรวจอุจจาระโดยการเพาะเชื้อ (Stool culture) เพื่่อนำไปเพาะเชื้อ เลี้ยงเชื้อแบคทีเรียและดูความไวต่อยาของเชื้อที่เพาะได
อุปกรณ์เครื่องใช้
ภาชนะมีฝาปิดมิดชิด
ใบส่งตรวจ
ไม้แบนสำหรับเขี่ยอุจจาระ
กระดาษชำระ
หม้อนอน
การเก็บอุจจาระส่งตรวจหาความผิดปกติและ
ส่งตรวจหาเลือดแฝง
อธิบายให้ผู้ป่วยทราบและเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ในการเก็บอุจจาระส่งตรวจรวมทั้งวิธีการเก็บตัวอย่าง
ให้ผู้ป่วยถ่ายอุจจาระลงในหม้อนอนที่สะอาดและแห้งใช้ไม้แบนเขี่ย
อุจจาระจำนวนเล็กน้อยใส่ภาชนะ รีบปิดภาชนะทัที
ส่งห้องปฏิบัติการทันทีภายใน 30 นาที พร้อมใบส่งตรวจ
ลงบันทึกทางการพยาบาล ลักษณะ สี กลิ่น สิ่งเจือปน
การเก็บอุจจาระส่งตรวจเพาะเชื้อ
ให้ผู้ป่วยเบ่งถ่ายเล็กน้อยใช้ไม้พันสำลีใส่เข้าไปในรูทวาร 1-2 นิ้วแล้วจุ่ม
ไม้พันสำลีลงในอาหารเลี้ยงเชื้อ ปิดฝาทันที
ส่งห้องปฏิบัติการทันทีภายใน 30 นาที พร้อมใบส่งตรวจ
ลงบันทึกทางการพยาบาล ลักษณะ สี กลิ่น สิ่งเจือปน
กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมการขับถ่ายอุจจาระ
การประเมินภาวะสุขภาพ (Health assessment)
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing diagnosis)
การวางแผนการพยาบาล (Planning) เพื่อส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีพฤติกรรมในการรับประทานอาหารที่ถูกต้อง
การปฏิบัติการพยาบาล (Implementation)
ฝึกการขับถ่ายอุจจาระเป็นตรงเวลาทุกวัน
ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคระบบทางเดินอาหารและลำไส้
ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส ลดความเครียดหรือวิตกกังวล
แนะนำให้ความรู้และเน้นความสำคัญของการบริโภคอาหารที่มีกากใย
อธิบายประโยชน์ของการดื่มน้ำให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกายควรดื่ม
น้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว
การประเมินผลการพยาบาล (Evaluation)
มีการถ่ายอุจจาระได้โดยไม่ใช้ยาระบาย
เลือกรับประทานอาหารที่มีกากใย และดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการขับถ่ายอุจจาระตรงเวลาทุกวัน