Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้คลอดที่มีภาวะแทรกซ้อนในระยะที่ 1,2,3 และ 4 ของการคลอด,…
การพยาบาลผู้คลอดที่มีภาวะแทรกซ้อนในระยะที่ 1,2,3 และ 4 ของการคลอด
Amniotic fluid embolism
สาเหตุ : 1. มีการฉีกขาดของถุงน้ำคร่ำบริเวณริมรก
- มีการลอกตัวของรก หรือปากมดลูกฉีกขาด
- มดลูกหดรัดตัวรุนแรง ซึ่งอาจเกิดจาการได้รับ oxytocin ในการเร่งคลอด ทำให้ความดันภายในมดลูกเพิ่มขึ้นและผลักดันให้น้ำคร่ำเข้าสู่หลอดเลือดดำของมดลูกบริเวณที่มีรอยแผลหรือรอยปริที่ผนังโพรงมดลูก หรือปากมดลูก
อาการและอาการแสดง :
- มีอาการหายใจลำบากอย่างเฉียบพลัน
- เหนื่อย หัวใจเต้นเร็ว มีอาการเขียว (cyanosis)
- ความดันโลหิตต่ำอย่างเฉียบพลัน และหัวใจหยุดเต้น
- ภาวะสับสน กระวนกระวาย หมดสติอย่างกะทันหัน
- มีเลือดออก เป็นจ้ำตามผิวหนัง
- ทารกในครรภ์มีภาวะขาดออกซิเจนรุนแรง
ภาวะน้ำคร่ำอุดหลอดเลือด (Amniotic fuid embolism) คือ ภาวะที่ร่างกายมีปฏิกิริยาไวเกิน ที่เรียกว่า anaphylactoid reaction ต่อส่วนประกอบในน้ำคร่ำ เช่น น้ำ ไขมัน เส้นขน เซลล์ผิวหนังและขี้เทาของทารก ที่พลัดย้ำสู่หลอดเลือดดำของมดลูก และทำให้เกิดความล้มเหลวของระบบไหลเวียนโลหิต หัวใจ และระบบหายใจ ซึ่งเป็นเหตุให้มารดาเสียชีวิตได้
-
ภาวะแทรกซ้อน : Shock, DIC
-
Preterm labor
อาการและอาการแสดง : Labor pain : ปวดเกร็งในท้องคล้ายมีรอบประจำเดือน มีปวดหลังอย่างสม่ำเสมอ ท้องแข็งจากมดลูกหดรัดตัวเป็นระยะๆ อาจสม่ำเสมอ และอาจมีมูกเลือดออกทางช่องคลอด
การคลอด : ต้องตัดฝีเย็บให้กว้าง เพื่อลดแรงกดต่อเนื้อสมองขณะศีรษะทารกคลอด และห้ามใช้ vaccuum extraction เด็ดขาด
GA 28-37 week, < 28 week = แท้ง
การพยาบาล : Nifedipine, Magnesium sulfate, Terbutaline
Postterm labor
ภาวะแทรกซ้อนต่อทารก : Macrosomia, Placental dysfunction
ภาวะแทรกซ้อนต่อมารดา : 1. ความเครียดและวิตกกังวลทำให้มีการหลั่ง catecholamine มาก ส่งผลให้เกิด prolonged active phase
- คลอดยาก prolonged second stage of labor เนื่องจากทารกตัวโตหรือ เกิดการคลอดติดไหล่ (shoulder dystocia)
- เสี่ยงต่อการใช้สูติศาตร์หัตถการช่วยคลอด และภาวะแทรกซ้อนจากการทำสูติศาตร์หัตถการ เช่น ตกเลือดหลังคลอด ติดเชื้อหลังคลอด
-
-
-
Uterine rupture
-
มีการฉีกขาดของกล้ามเนื้อมดลูกตลอดความหนาของกล้ามเนื้อมดลูก มดลูกแตกขณะตั้งครรภ์เป็นภาวะฉุกเฉินทางสูติกรรม มีอันตรายมากทั้งต่อมารดา และต่อทารกในครรภ์เพราะทำให้เกิดการเสียเลือดมากของมารดา เกิดเลือดออกในช่องท้องมาก จึงอาจทำให้
ทั้งมารดาและทารกในครรภ์เสียชีวิตได้
อาการและอาการแสดง: 1. Obstructed labor จะมีสัญญาณเตือน
(warning signs) ว่ามดลูกใกล้แตกแล้ว ดังนี้
กระสับกระส่าย ปวดท้องมาก ไม่ให้จับ
uterine contraction ไม่ให้แตะหน้าท้อง 2. พบ Bandl's ring หรือ contraction ring
ผลกระทบต่อมารดา : Intrapartum hemorraghe, Shock, Dead
ผลกระทบต่อทารก : Intrauterine asphyxia, เสียชีวิต
Precipitate labour
สาเหตุ :เคยคลอดหลายครั้ง (Grand multipara) และมีประวัติคลอดเร็วหรือคลอดเฉียบพลันมาก่อน
กล้ามเนื้อมดลูกและกล้มนื้อหนท้องมีการหดรัดตัวรุนแรง และ ความต้านทานของเนื้อเยื่อ
ช่องทางคลอด (soft passage) น้อย ทารกตัวเล็ก (Small fetus) ทำให้ descent ได้อย่างรวดเร็ว
มารดามีเชิงกรานกว้าง มารดาใช้สารเสพติด เช่น โคเคน รกลอกตัวก่อนกำหนด
ความผิดพลาดทางการแพทย์ ช่น ได้รับการเร่งคลอด หรือชักนำการคลอดไม่เหมาะสม ร่วมกับ
เฝ้าคลอดไม่มีประสิทธิภาพ
อาการและอาการแสดง :1. มดลูกหดรัดตัวแรง และถี: Interval 2 นาที Duration 75-90 วินาที โดยไม่มีระยะพัก (no resting period)
- มารดาอยากเบ่งในขณะที่ปากมดลูกยังเปิดไม่หมด
- ปากมดลูกเปิดขยายเร็วมากไม่สัมพันธ์กับการหดรัดตัวของมดลูก
- กราฟการคลอดชันมาก
การคลอดที่ใช้เวลาตั้งแต่ปากมดลูกเริ่มเปิดจนถึงทารกคลอดน้อยกว่า 3 ชั่วโมงและใช้เวลาในการคลอดระยะที่ 2 ไม่ถึง 10 นาที
การป้องกัน : 1. สังเกตความก้วหน้ำของการคลอดอย่างใกล้ชิด หรือดูแลตลอดเวลาในผู้คลอดที่เคยคลอดเฉียบพลัน หรือมีเหตุส่งเสริมที่อาจทำให้เกิดการคลอดเฉียบพลัน 2. ดูแลให้มดลูกหดรัดตัวดี เพื่อป้องกันการตกเลือดในระยะหลังคลอด
การรักษา: 1. การรักษาให้ทันเหตุการณ์ทำได้ยาก วิธีที่ดีที่สุดคือการป้องกัน 2. งดให้ยาเร่งคลอด เช่น oxytocin vein drip หรือ เหน็บ Cytotec ในรายที่มีประวัติเคยคลอดเร็วหรือคลอดเฉียบพลันมาก่อน
Vasa previa
อาการและอาการแสดง:จากการตรวจภายในจะคลำพบเส้นเลือดที่เต้นเข้าจังหวะ (Synchronous) กับเสียงหัวใจทารก มีเลือดออกทางช่องคลอดตามหลังหรือพร้อม ๆ กับ ถุงน้ำคร่ำแตกแล้ว ซึ่งต้องแยกให้ได้จากการมีเลือดออกจากสาเหตุอื่น ช่น รกกาะต่ำ หรือรกลอกตัวก่อนกำหนด นำเลือดในช่องคลอดไปตรวจพิสูจน์ พบว่าเป็นเลือดของทารก การทำ color ultrasound จะเห็นเส้นเลือดทอดอยู่ต่ำกว่าส่วนนำ และมี fetal distress หรือทารกเสียชีวิต การตวจรกหลังคลอดจะพบมีรอยฉีกขาดของเส้นเลือดที่ทอดอยู่บนเยื่อหุ้มทารก
การตรวจ Alkali denaturation test, หรือ Apt test ซึ่งเป็นการตรวจหา F-hemoglobin ของทารกในครรภ์ เพื่อแยกเลือดลูกกับเลือดแม่ที่ปนมากับน้ำคร่ำ
การรักษา :กรณีวินิจฉัยได้ก่อนถุงน้ำแตก
ต้องรีบช่วยหลือโดยการผ่ตัดคลอดทางหน้าท้อง (Cesarean section) เพื่อช่วยชีวิตของ
ทารกในครรภ์ เพระการคลอดเองตามธรรมชาติมือถุงน้ำแตกอาจช่วยเหลือไม่ทัน ทำให้
ทารกขาดออกซิเจน สมองทารกขาดเลือดไปเลี้ยง หรือทารกเสียชีวิตขณะคลอด
2 กรณีวินิจฉัยได้หลังถุงน้ำแตกแล้ว ถ้ามีความก้าวหนของการคลอดดี ปากมดลูกเปิดหมด ระดับส่วนนำต่ำ มารดามีลมเบ่ง
และทารกยังไม่มีภาวะ fetal distress อาจใช้ Forceps extraction
ถ้ายังไม่มีอาการเจ็บครรภ์ หรือยังไมใกล้คลอด มีเลือดออกมาก ต้องรีบช่วยเหลือผ่าตัดเอาเด็กออกทางหนท้องทันที หรือให้คลอดเองถ้าทารกเสียชีวิตแล้ว
ภาวะที่หลอดเลือดสายสะดือทอดพาดผ่านบริเวณปากมดลูก หรือด้านล่างของส่วนนำ
Vasa previa จะเกิดอันตรายเมื่อเส้นเลือดที่ทอดขวางถุงน้ำคร่ำแตกพร้อมกับถุงน้ำคร่ำ ซึ่งอาจเป็นการแตกเอง หรือ จากการเจาะถุงน้ำคร่ำ ถ้าช่วยเหลือไม่ทัน จะทำให้ทารกเสียชีวิตได้
Prolapsed cord
Classification :1. Occult prolapsed of cord หรือ Hidden prolapsed of cord หมายถึง สายสะดือพลัดต่ำลงมาถูกส่วนนำกดทับกับช่องทางคลอด แต่ตำแหน่งของสายสะคือจะอยู่สูงกว่าส่วนล่งสุดของส่วนนำมักทำให้สายสะตือถูกกด (cord compression) เกิดขึ้นเมื่อทารก descent ต่ำลงมา หรือเมื่อมดลูกหดรัดตัว ซึ่งเกิดได้ทั้งในกรณีที่ถุงน้ำคร่ำแตกหรือยังไม่แตกก็ได้
Forelying prolapsed of cord หรือ Fonic presentation หมายถึง สายสะดือพลัดต่ำลงมาในตำแหน่งต่ำกว่าส่วนนำ หรืออาจอยู่บริเวณปากมดลูกแต่ ถุงน้ำคร่ำยังไม่แตก
- Complete prolapsed of cord หรือ Overt prolapsed cord หมายถึง สายสะคือพลัดออกมาพ้นปากมดลูคอและยู่ในช่องคลอด พบในกรณีที่ ถุงน้ำแตกแล้ว
ผลกระทบต่อมารดา:
เป็นภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับยาสลบจากการผ่าตัดช่วยคลอดอย่างเร่งด่วน
ประสบกับภาวะเศร้าโศกเนื่องจากบุตรเจ็บปวย หรือเสียชีวิต
ผลกระทบต่อทารก :
- ทารกขาดออกซิเจน 2.ทารกเสียชีวิต
สายสะดือพลัดต่ำหรือสายสะดือย้อย ภาวะที่สายสะดือเคลื่อนลงมาอยู่ต่ำกว่าส่วนนำของทารก อาจอยู่ในช่องคลอด หรือ
โผล่ออกมานอกปกช่องคลอด ซึ่งมักเกิดขึ้นหลังจากมีการแตกของถุงน้ำคร่ำ ไม่ว่าจะเป็นการแตกเอง (spontaneous rupture of membranes) หรือได้รับการเจาะถุงน้ำคร่ำ (artificial rupture of membranes)
การรักษา : การช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน
1.1 ลดแรงกดต่อสายสะดือโดยจัดให้มารดาอยู่ในท่ายกก้นสูง เช่น Trendelenburg' s position, knee chest's position หรือ sim's position โดยใช้หมอนรองก้นให้สูงขึ้น
Inversion of the uterus
-
การป้องกัน : ก่อนล้วงรกและหลังคลอดรกควรคลึงมดลูกให้แข็งตัวอยู่เสมอ ไม่ดันหรือบีบเค้นยอดมดลูกขณะที่มดลูกคลายตัว
ภาวะที่มดลูกปลิ้นตลบกลับเอาผนังด้านนอกมาอยู่ด้านนอก ซึ่งอาจพ้นปากมดลูกออกมาหรือโผล่ออกมาทางช่องคลอดหรือโผล่ออกมาทางแผลผ่าตัด
-
การรักษา : ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ให้ยาระงับปวด ใช้ผ้าชุบ NSS คลุมมดลูกบริเวณที่มดลูกปลิ้น และดันยอดมดลูกกลับไปในโพรงมดลูกโดยแพทย์
-
-