Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การส่งเสริมการขับถ่ายอุจจาระ - Coggle Diagram
การส่งเสริมการขับถ่ายอุจจาระ
ความสำคัญของการขับถ่ายอุจจาระ
โดยทั่วไปความรู้สึกอยากถ่ายอุจจาระมักเกิดขึ้นเมื่อตื่นนอนหรือหลังมื้ออาหาร
เป็นเพราะการตื่นนอนและการลุกขึ้นเดินทำให้ลำไส้มีการเคลื่อนตัวของลำไส้เพิ่มขึ้น
โดยส่วนใหญ่สารอาหารและสิ่งที่มีคุณค่าจากอาหาร จะ
ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดผ่านทางลำไส้เล็กก่อนที่อาหารจะเดินทางเข้าสู่ลำไส้ใหญ่
การรับประทานอาหารทำให้เกิดปฏิกิริยารีเฟล็กซ์กระเพาะอาหาร
ถึงลำไส้ใหญ่ (Gastrocolonic reflex) การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นเหตุให้อุจจาระเคลื่อนเข้าสู่ไส้ตรง
ในภาวะปกติอุจจาระจะมีส่วนประกอบเป็นน้ำประมาณร้อยละ 70-80 ส่วนที่เป็น
ของแข็งครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งเป็นแบคทีเรีย
การขับถ่ายอุจจาระจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นการขับของเสียออกจากร่างกายหากร่างกายไม่ขับถ่ายอาจทำให้เกิดสารพิษและของเสียที่ตกค้างอยู่ในลำไส้
การขับถ่ายอุจจาระจึงถือได้ว่าเป็นทั้งการนำสารพิษและของ
เสียที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ออกไปและเป็นการสร้างระบบขับถ่ายที่ดีต่อร่างกาย
4 .สาเหตุและการพยาบาลผู้ปุวยที่มีปัญหาการขับถ่ายอุจจาระ
1.ภาวะท้องผูก (Constipation)
.1 สาเหตุ ภาวะท้องผูก
1) ภาวะท้องผูกแบบปฐมภูม
2) ภาวะท้องผูกแบบทุติยภูม
(1) ฝิ่น
(2) การอุดกั้นของระบบทางเดินอาหาร
(3) ความผิดปกติในการทำหน้าที่ของไขสันหลัง
(6) ภาวะผิดปกติของลำไส้มีความสัมพันธ์กับภาวะท้องผูก
(4) ภาวะท้องผูกจากการลดลงของการเคลื่อนไหวของลำไส้
(5) การทำหน้าที่ผิดปกติของกล้ามเนื้อพื้นเชิงกราน
2 .ผลที่เกิดจากภาวะท้องผูก
2) เกิดอาการปากแตก ลิ้นแตก ลมหายใจเหม็น อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
3) เป็นโรคริดสีดวงทวาร (Hemorrhoid)
1) เกิดอาการแน่นท้อง ท้องอืด ปวดท้อง ไม่สุขสบายเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
ปวดศีรษะวิงเวียน
4) แบคทีเรียในลำไส้ จะเปลี่ยนยูเรียจากกากอาหาร
6) การกลั้นอุจจาระไม่ได้ (Incontinence)
5) ถ้าทิ้งไว้นานอุจจาระอาจอัดกันเป็นก้อนแข็ง หรือผนังลำไส้หย่อนตัวเป็นถุง
สะสมอุจจาระไว้
3 การพยาบาลผู้ปุวยที่มีภาวะท้องผูก
2) แนะนำและกระตุ้นให้ผู้ปุวยรับประทานอาหารให้มากเพียงพอ
3) แนะนำ กระตุ้น และช่วยให้ผู้ปุวยได้รับน้ าให้เพียงพอ
1) แนะนำให้ความรู้และเน้นความสำคัญของการดูแลสุขภาพส่วนบุคคล
4) แนะนำและช่วยเหลือเกี่ยวกับการถ่ายอุจจาระ และควรฝึกระบบขับถ่าย
อุจจาระให้เป็นเวลา
5) จัดสรรเวลาในตอนเช้าเพื่อฝึกให้เคยชินกับการถ่ายอุจจาระตรงเวลาทุกวัน
6) แนะนำให้ออกกำลังกาย
7) สังเกตความถี่การใช้ยาระบายหรือยาถ่าย
8) แนะนำสมุนไพรซึ่งเป็นอาหารหรือน ามาปรุงอาหารจะช่วยการขับถ่ายอุจจาระ
ใช้เป็นยาระบายอ่อน ๆ
2 การอัดแน่นของอุจจาระ (Fecal impaction)
4 อุปกรณ์เครื่องใช้
1) ถุงมือสะอาด 2 คู่ และหน้ากากอนามัย (Mask)
2) สารหล่อเลื่อน เจล หล่อลื่น ถ้าไม่มีใช้วาสลิน หรือสบู่เหลว
3) ผ้ายางรองก้นและกระดาษชำระ
4) หม้อนอนหรือ ถุงพลาสติกสำหรับใช่อุจจาระ
5 วิธีปฏิบัต
1) แนะนำตัว และบอกวัตถุประสงค์ให้ผู้ปุวยทราบ
2) ให้ผู้ปุวยนอนตะแคงซ้ายกึ่งคว่ำ ขาขวา งอเล็กน้อย (Sim’s position)
3) ปูผ้ายางรองให้ผู้ปุวย และวางหม้อนอนหรือถุงพลาสติกไว้ใกล้ ๆ
4) พยาบาลสวมถุงมือ 2 ชั้น แล้วใช้นิ้วชี้หล่อลื่นด้วยเจลหล่อลื่น (วาสลินหรือ
สบู่เหลว)
5) ล้วงเอาก้อนอุจจาระออกใส่ในหม้อนอนหรือถุงพลาสติกที่เตรียมไว้
6) เช็ดทำความสะอาด จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย และเก็บเครื่องใช้
7) ทำความสะอาดเครื่องใช้และเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
8) ลงบันทึกทางการพยาบาล
3 การล้วงอุจจาระ (Evacuation)
2 การพยาบาลผู้ปุวยที่มีการอัดแน่นของอุจจาระ
1 สาเหตุ อาการเริ่มแรก
3 ภาวะท้องอืด (Flatulence หรือ Abdominal distention)
1 สาเหต
2) มีแก๊สในกระเพาะอาหารหรือลำไส้ปริมาณมาก
3) มีการสะสมของอุจจาระมาก เนื่องจากไม่ได้ขับถ่ายออกตามปกต
1) มีการสะสมของอาหารหรือน้ำมาก อาหารไม่ย่อย
4) ปริมาตรของช่องท้องลดลงจากความผิดปกติของอวัยวะที่อยู่ใกล้เคียง
2 .การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะท้องอืด
2) อธิบายสาเหตุและวิธีการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดอาการท้องอืด
3) ค้นหาสาเหตุของอาการท้องอืดและให้การช่วยเหลือตามสาเหตุ
3.1 สาเหตุจากการถูกจ ากัดการเคลื่อนไหว
2) กระตุ้นและช่วยเหลือเคลื่อนไหวของร่างกาย
3) การใส่สายทางทวารหนัก (Rectal tube) เพื่อระบายลม
1) อธิบายการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง
4) พิจาณาการใช้ยา
3.2 สาเหตุจากได้รับยาระงับปวดที่มีอาการข้างเคียงทำให้ลดการ
เคลื่อนไหวของลำไส้
2) ตรวจร่างกายโดยวิธีการดู การคล า การเคาะและการฟัง Bowel
sound ลงบันทึกไว้ทุก 4 ชั่วโมงตามเวลาวัดสัญญาณชีพ
3) พิจารณาให้ยารับงับปวดตามความจ าเป็น (PRN) โดยการประเมิน
คะแนนความเจ็บปวดทุกครั้ง
1) สังเกตอาการท้องอืดโดยการสอบถามผู้ป่วยถึงอาการท้องอืด
3.3 สาเหตุจากอาหารไม่ย่อย
2) ตรวจร่างกายโดยวิธีการดู การคล า การเคาะและการฟัง Bowel
sound ลงบันทึกไว้ทุก 4 ชั่วโมงตามเวลาวัดสัญญาณชีพ
3) แนะนำให้รับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย หรืองดน้ำและอาหาร
ทางปากชั่วคราวหรือจนกว่าอาการจะดีขึ้น
1) สังเกตอาการท้องอืดโดยการสอบถามผู้ป่วยถึงอาการท้องอืด
1) จัดท่านอน ให้นอนศีรษะสูง 45-60 องศา
4 การกลั้นอุจจาระไม่ได้ (Fecal incontinence)
.1 ผลของการกลั้นอุจจาระไม่ได้
2) ผลด้านจิตใจ
3) ผลด้านสังคม
1) ผลด้านร่างกาย
4) ผลด้านจิตวิญญาณ
2 การพยาบาลผู้ปุวยที่กลั้นอุจจาระไม่ได้
1) ด้านร่างกาย
2) ด้านจิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ
5 ภาวะท้องเสีย (Diarrhea)
1 สาเหตุของภาวะท้องเสีย
2 ผลที่เกิดจากภาวะท้องเสีย
3 การพยาบาลผู้ปุวยที่มีภาวะท้องเสีย
6 การถ่ายอุจจาระทางหน้าท้อง (Fecal diversion)
1 การพยาบาลผู้ปุวยที่ถ่ายอุจจาระทางหน้าท้อง
2) การปิดถุงรองรับอุจจาระ
3) การรับประทานอาหารที่เหมาะสม
1) การทำความสะอาดช่องเปิดของลำไส้ และผิวหนังรอบ ๆ
4) การออกกำลังกายและการทำงาน
5) การฝึกหัดการขับถ่าย
6) ภาวะแทรกซ้อน สังเกตและดูแลตนเอง
2 การทำความสะอาดแผลทวารเทียม
3 คำแนะนำสำหรับผู้ปุวยผ่าตัดเปิดลำไส้ทางหน้าท้อง
การสวนอุจจาระ
วัตถุประสงค์
3) เตรียมผ่าตัดในรายที่ผู้ปุวยจะต้องดมยาสลบ
4) เตรียมคลอด
2) เตรียมตรวจทางรังสี
5) เพื่อการรักษา
1) ลดปัญหาอาการท้องผูก
2 .ชนิดของการสวนอุจจาระ
1 Cleansing enema
2 Retention enema การสวนเก็บ
8 .กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมการขับถ่ายอุจาจาระ
การวางแผนการพยาบาล (Planning)
เกณฑ์การประเมินผล
การวางแผน
วัตถุประสงค
การปฏิบัติการพยาบาล (Implementation)
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing diagnosis)
การประเมินผลการพยาบาล (Evaluation)
การประเมินภาวะสุขภาพ (Health assessment)
2 .ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการขับถ่ายอุจจาระ
8.ยา (Medication)
9.การตั้งครรภ์(Pregnancy)
7.ความเหมาะสม (Opportunity)
10.อาการปวด (Pain)
5.อารมณ์ (Emotion)
11.การผ่าตัดและการดมยาสลบ (Surgery and Anesthesia)
4.การเคลื่อนไหวของร่างกาย (Body movement)
12.การตรวจวินิจฉัยโรค (Diagnostic test)
3.ปริมาณน้ำที่ร่างกายได้รับ (Fluid intake)
2.ชนิดของอาหารที่รับประทาน (Food intake)
1.อายุ (Age)
3 .ลักษณะของอุจจาระปกติและสาเหตุของอุจจาระที่ผิดปกติ
ลักษณะของอุจจาระปกติทั่วไปจะอ่อนนุ่มมีสีอยู่ระหว่าง เหลือง น้ำตาลอ่อนไปจนถึงน้ำตาลเข้มขึ้นอยู่กับอาหารที่รับประทาน
ลักษณะอุจจาระผิดปกติสามารถบ่งบอกโรคและพฤติกรรม
สุขภาพได้เช่นกัน
ลักษณะของอุจจาระช่วยบอกถึงการมีภาวะสุขภาพดีของระบบทางเดินอาหารได้เพราะการสังเกตลักษณะของอุจจาระ
แยกความผิดปกติได้ถูกต้องจะช่วยวินิจฉัยแยกโรคเบื้องต้น
ของระบบทางเดินอาหารได้
ข้อควรคำนึงในการสวนอุจจาระ
1 .อาการแทรกซ้อนจากการสวนอุจจาระ
3) ภาวะเป็นพิษจากน้ำ (Water intoxication)
4) การติดเชื้อ เช่นลำไส้อักเสบ ตับอักเสบ
2) ผนังลำไส้ถลอก หรือทะล
5) การคั่งของโซเดียม เพราะปกติลำไส้จะดูดซึมโซเดียมได้ดีมาก
1) การระคายเคืองต่อเยื่อบุลำไส้
6) ภาวะ Methemoglobinemia
2 .ข้อห้ามในการสวนอุจจาระ
2) มีการอักเสบของลำไส้ เช่น ไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis) เป็นต้น
3) มีการติดเชื้อในช่องท้อง (Infection of abdomen)
1) ลำไส้อุดตัน (Bowel obstruction)
4) ผู้ปุวยภายหลังผ่าตัดลำไส้ส่วนปลาย (Post rectal surgery)
7 .การเก็บอุจจาระส่งตรวจ
1.ชนิดการเก็บอุจจาระส่งตรวจ
3) การตรวจอุจจาระโดยการเพาะเชื้อ (Stool culture)
2) การตรวจอุจจาระหาเลือดแฝง (Occult blood)
1) การตรวจอุจจาระหาความผิดปกติ(Fecal examination หรือ Stool
examination)
2 .อุปกรณ์เครื่องใช้
3) ไม้แบน สำหรับเขี่ยอุจจาระ
4) กระดาษชำระ
2) ใบส่งตรวจ
5) หม้อนอน
1) ภาชนะมีฝาปิดมิดชิด
วิธีปฏิบัติ
1) การเก็บอุจจาระส่งตรวจหาความผิดปกติและส่งตรวจหาเลือดแฝง มีวิธีการ
ปฏิบัต
2) การเก็บอุจจาระส่งตรวจเพาะเชื้อ มีวิธีการปฏิบัติ