Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กรณีศึกษาที่4, อ้างอิง
Madonald MG, editors. Neonatology. Pathophysiology…
กรณีศึกษาที่4
- นักศึกษาคิดว่าจะซักประวัติอะไรเพิ่มเติมจากมารดาเพราะเหตุใดพร้อมระบุเหตุผล
-
ประวัติการเจริญพันธุ์การมีประจำเดือน
อายุที่เริ่มมาครั้งแรกวงรอบความถี่ความสม่ำเสมอระยะเวลาประจำเดือนมาครั้งสุดท้าย
-
-
ตรวจร่างกายทั่วไป
ชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูงวัดความดันโลหิตฟังเสียงการายใจและเสียงหัวใจวัดความสูงของยอดมดลูกการ
-
- นักศึกษาคิดว่าสัญญาณชีพที่วัดได้จากสถานการณ์ปกติหรือไม่พร้อมระบุเหตุผล
-
อัตราการหายใจ 62 bpm อยู่ในเกณฑ์สูง (40-60 bpm) การหายใจของทารกแรกคลอดไม่สม่ำเสมอปกติอยู่ระหว่าง 40 ถึง 60 bpm อาจมากถึง 80 bpm และอาจมีการหยุดหายใจเป็นพัก ๆ แต่ไม่ควรนานเกิน 5 ถึง 10 วินาที
อัตราการเต้นของหัวใจ 144 bpm อยู่ในเกณฑ์ปกติ (110-160 bpm) Bradycardia Tachycardia ต่ำกว่า 100 bpm มากกว่า 180 bpm Tachycardia
- นักศึกษาคิดว่าพยาบาลฉีดยาชนิดใดให้ทารกเป็นยาชนิดเดียวกันหรือไม่ให้ระบุยาที่ใช้พร้อมทั้งระบุเหตุผลเลือกใช้ยาชนิดนั้น
พยาบาลฉีดยาเข็มแรกชนิด HBV1 (ไวรัสตับอักเสบบี) ให้เมื่อแรกเกิดเป็นเชื้อตายถ้ากรณีที่มารดาไม่ได้เป็นพาหะให้ Active Immunization 0.5 ml ฉีดเข้ากล้าม บริเวณหน้าขา 0.5 ml ภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอดเพื่อป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบีและโรคที่เกิดจากไวรัสชนิดผู้ซึ่งรวมไปถึงมะเร็งตับและตับแข็งซึ่งบริเวณที่ฉีดจะมีอาการปวดบวมมีไขต่ำ ๆ
ถ้าหากมารดาเป็นพาหะให้คือ Hepatitis B Immunoglobulin (HBIG) โดยให้ 0.5 มิลลิลิตรฉีดเข้ากล้ามเม้อหน้าขาควรให้เร็วที่สุดภายใน 12 ชั่วโมงแรกหลังคลอด
- นักศึกษาคิดว่าขนาดของศีรษะทารกและขนาดของหน้าอกทารกความยาวของทารกที่ได้วัดได้จากสถานการณ์ปกติหรือไม่พร้อมระบุเหตุผล
ขนาดของศีรษะทารกเคสนี้ 33cm ซึ่งทารกแรกเกิดปกติจะมีขนาดศีรษะ 33+ 2
ในรายนี้จึงถือว่าปกติรอบอกของทารกรายนี้ขนาด 32cm ซึ่งปกติแล้วทารกแรกเกิดจะมีรอบอกน้อยกว่าเส้นรอบศีรษะประมาณ 2cm ดังนั้นทารกรายนี้จึงปกติ
-
- นักศึกษาคิดว่าสิ่งที่ตรวจพบจากการตรวจร่างกายตามสถานการณ์มีสิ่งใดเป็นภาวะปกติและสิ่งเป็นภาวะผิดปกติต้องให้การพยาบาลอย่างไรและจะอธิบายกับมารดาว่าอย่างไรพร้อมระบุเหตุผล
ปกติ
-APGAR score8 คะแนน
-น้ำหนักแรกคลอด 2580 g
-เส้นรอบศีรษะเส้นรอบอกความยาวลำตัว
-ผิวหนังเห็นเส้นเลือดเล็กน้อย
-อ่อนอ่อนบริเวณหลังและไหล่เล็กน้อย
-ใบหูคืนตัวเมื่อพับหูมีจุดขาวเล็ก ๆ บริเวณด้านซ้าย
-moro reflex -HR
-
-
- นักศึกษาคิดว่าเพราะเหตุใดพยาบาลรีบนำผ้าที่เปียกออกจากทารกระบุเหตุผล
พยาบาลรีบนำผ้าที่เปียกออกจากทารกเพราะเป็นการสูญเสียความร้อนที่เย็นกว่ามาสัมผัสกับร่างกายทารกทำให้เกิดการถ่ายเทความร้อนออกจากร่างกายและต้องผลิตความร้อนออกจากร่างกายเพื่อทดแทนความร้อนที่สูญเสียไป
- นักศึกษาประเมิน Apgar Score ได้คะแนนเท่าไรและจะให้การพยาบาลอย่างไร
-
- นักศึกษาคิดว่าพยาบาลเช็ดตาด้วยสำลีชุบ 0.9% NSS และเช็ดสะดือด้วยสำลี alcohol การกระทำที่เหมาะสมหรือไม่เพราะเหตุใดพร้อมระบุเหตุผล
เหมาะสม เนื่องจากการดูแลเกี่ยวกับตาเมื่อทารกผ่านทางช่องคลอดอาจทำให้เชื้อเข้าสู่ตาเกิดเป็นตาอักเสบได้ถ้ามีเชื้อ GONOCOCCI อยู่หรือเรียกว่า Opthalmic neonatorum หรือป้องกันการติดเชื้อหนองในถ้ารักษาไม่ทันอาจทำให้ตาบอดได้
วิธีเช็ดที่ถูกต้องคือเช็ดด้วยสำลีชุบ 0.9% NSS โดยเช็ดจากหัวตาไปหางตาและหยอดตาด้วย 0.1% Ag NO3 ที่หัวตาข้างละ 1 หยดหลังจากหยอดยา 0.1% Ag NO3 แล้วควรเช็ดตาอีกครั้งด้วย 0.9% NSS เพื่อเช็ดเอาน้ำยาที่เกินอดกเพราะน้ำยานี้ทำให้ระคายเคืองผิวหนังและตรวจดูยาที่หยอดต้องไม่เป็นขุ่นหรือหมดอายุและสำหรับการเช็ดสะดือด้วยสำลีชุบ alcohol เป็นการดูแลที่เหมาะสมหรืออาจจะใช้เป็น 0.5% tincture iodine in 70% alcohol iwolañunnsantialunsyuataon la เนื่องจากเชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือดทางสายสะดือได้
- นักศึกษาคิดว่าพยาบาลป้ายตาทารกด้วยยาชนิดใดมีผลอย่างไรกับทารกระบุเหตุผล
การป้ายตาทั้งสองข้างด้วยยาชนิด 16 Terramycin eye ointment แทน 0.1% AgNO3 ก็ได้เพื่อป้องกัน Gonococcal-ophthalmia neonatorum และป้องกันการติดเชื้อหนองในหรือเยื่อตาอักเสบจากเชื้ออื่น ๆ
ผลข้างเคียงของการใช้ยาป้ายตาทารกแรกเกิดที่สำคัญคือหนังตาและเยื่อบุตาบวมแดงร้อนโดยทั่วไปเกิดภายใน 24 ชั่วโมงแล้วหายได้เองภายใน 48 ชั่วโมง แต่จะไม่เป็นอันตรายต่อดวงตาของทารกแรกเกิด
- นักศึกษาคิดว่านอกจากยาที่พยาบาลฉีดให้ทารกตามโจทย์สถานการณ์แล้วนั้นทารกควรได้รับยาชนิดใดเพิ่มหรือไม่เพราะเหตุใดพร้อมระบุเหตุผล
-
- นักศึกษาคิดว่าหญิงตั้งครรภ์รายนี้มีอายุครรภ์สัปดาห์และจะประเมินได้อย่างไรพร้อมระบุเหตุผล
-
- นักศึกษาคิดว่าพยาบาลใช้ปรอทวัดไข้ถูกต้องหรือไม่เพราะเหตุใดพร้อมระบุเหตุผล
-
- นักศึกษาคิดว่าการที่พยาบาลตบที่เบาะแล้วทารกมีอาการผวาเป็นภาวะปกติหรือไม่พร้อมระบุเหตุผล
Moro reflex ปกติ
เนื่องจากเป็นการทดสอบอาการผวาหากทารกตอบสนองด้วยการยกแขนและขาแบมือกางแขนออกอาจมีอาการร้องให้และอาการผวาอาการเหล่านี้จะหายไปหลังอายุ 6 เดือนไม่พบ Moro reflex ในทารกแรกเกิดหรือพบมากกว่า 6 เดือน
ถ้าไม่มี moro reflex ต้องนึกถึงภาวะสมองได้รับอันตรายการกางแขนขาไม่เท่ากันทั้งสองข้างอาจเนื่องจาก brachial plexus ถูกกด
- นักศึกษาคิดว่าทารกรายนี้มีการหายใจที่ผิดปกติหรือไม่อย่างไรพร้อมระบุเหตุผล
-
อ้างอิง
Madonald MG, editors. Neonatology. Pathophysiology and management of the newborn. 4th ed. Philadelphia: JB. Lippincott, pp.129-163.
สุชยา ลือวรรณ. (2558). การตรวจสุขภาพทารกในครรภ์. สืบค้น 20 สิงหาคม 2563, จากเว็บ http://1ab.in/fay
สุดา ใจห้าว. (2563). ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการคลอด. เอกสารประกอบวิชาการสอนวิชา NUR60-342 การผดุงครรภ์และการพยาบาลมารดา-ทารก, นครศรีธรรมราช: มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
เอื้ออารีย์ สมุดจาง. 2559. วารสาร แนวปฏิบัติการดูแลทารกแรกเกิดเพื่อป้องกันภาวะอุณหภูมิกายต่ำโรงพยาบาลสะเดา จังหวัดสงขลา.
-