Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (SEXUALLY TRANSMITTED INFECTIONS: STIS),…
การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
(SEXUALLY TRANSMITTED INFECTIONS: STIS)
การตกขาว (LEUKORRHEA)
การมีของเหลวไหลออกทางช่องคลอดซึ่งไม่ใช่เลือด เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนของร่างกายต่อเยื่อบุช่องคลอด และ lactobacillus ซึ่งเป็นแบคทีเรียดีในช่องคลอด เปลี่ยน glycogenจากเยื่อบุช่องคลอดให้เป็นกรดlactic acid และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ทำให้สภาพในช่องคลอดมีฤทธิ์เป็นกรดค่า pH ต่ำกว่า 4.5 ช่วยป้องกันไม่ให้แบคทีเรียอื่นเจริญเติบโตเป็นการป้องกันการติดเชื้อในช่องคลอดของสตรีตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยก่อนหมดประจำเดือน
การตกขาวจากการติดเชื้อรา
(VULVOVAGINAL CANDIDIASIS)
ปัจจัยและปัจจัยเสี่ยง
ยา ABO การรักษาบางชนิด ทำให้มีการทำลาย lactobacillus ที่ฆ่าเชื้อราในช่องคลอด ทำให้มีโอกาสทำให้เชื้อราในช่องคลอดเจริญเติบโต เกิดการอักเสบในช่องคลอดและปากช่องคลอด
การได้รับ Steroid hr. ยากดภูมิต้านทานทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายลดลง
การรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดhigh dose ทำให้มีการเพิ่มระดับฮอร์โมนestrogen และกระตุ้นการเจริญเติบโตของเชื้อราได้
ภูมิต้านทานของร่างกายถูกกดจากการเป็นโรคAIDSหรือได้รับเคมีบำบัด
การควบคุมภาวะเบาหวานไม่ดี มีระดับBS ในเลือดสูง น้ำตาลเป็นอาหารที่ดีของเชื้อรา ทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี
อาการและอาการแสดง
คันและระคายเคืองมากในช่องคลอดและปากช่องคลอด
dyspareunia
external dysuria
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
อาการเป็นมากขึ้นเป็น 2เท่า
มีทั้งทั้งแบบไม่มีอาการและมีอาการ
ระคายเคือง คันช่องคลอดมากขึ้น
ไม่มีผลเสียต่อการตั้งครรภ์
ผลกระทบต่อทารก
ทารกแรกเกิดเป็นเชื้อราในช่องปาก (oral thrush) ได้มากกว่าปกติ 2-35 เท่า
การประเมินและการวินิจฉัย
การซักประวัติอาการและอาการแสดง ระยะเวลาที่แสดงอาการ การรักษา
2.การตรวจร่างกาย: PV พบช่องคลอดบวมแดง ตกขาวขุ่นรวมตัวกันเป็นก้อนเหมือนนมตกตะกอน
3.การตรวจพิเศษ Wet mount smear : พบyeast cell และmycelium pH < 4.5 Culture ใน sabourauddextrose agar จะเจริญได้ดี Gram stain : gram positive pseudomycelialthreads และ(yeast-like form)
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
อธิบายให้เข้าใจสาเหตุของการติดเชื้อ และการดูแลตนเองให้มีอาการสุขสบายขึ้นจากอาการคันในช่องคลอด และปากช่องคลอด
แนะนำการใช้ยาทา และยาเหน็บช่องคลอดตามแพทย์สั่ง โดยการเหน็บยาในช่องคลอดอย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาติดต่อกันจนยาหมด หากอาการยังไม่ดีขึ้น หรือยังมีอาการหลงเหลืออยู่ ให้ไปพบแพทย์ เพื่อการรักษาอย่างต่อเนื่อง
การทำความสะอาดบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก และการทำความสะอาดชุดชั้นในต้องซักให้สะอาดและตากแดดให้แห้งเสมอ ชุดชั้นในควรเป็นผ้าฝ้ายไม่ควรใช้ไนลอนเพราะจะทำให้อับชื้น
หากอาการติดเชื้อเป็นซ ้าๆหรือสามีมีอาการแสดง ควรพาสามีให้มารักษาพร้อมกัน
ระยะคลอด
สามารถให้คลอดทางช่องคลอดได้ตามปกติ
การตกขาวจากการติดเชื้อพยาธิ
(VAGINAL TRICHOMONIASIS)
อาการและอาการแสดง
10% ไม่แสดงอาการ
0% พบโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ร่วม
ระคายเคืองปากช่องคลอด ในช่องคลอด ปากช่องคลอดบวมแดงและปากมดลูกอักเสบมีจุดเลือดออกเป็นหย่อมๆ
ปัสสาวะแสบขัดหรือบ่อย
ปวดแสบปวดร้อนบริเวณต้นขาด้านใน
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
PROM
Preterm labor
ผลกระทบต่อทารกในครรภ์
Prematurity
LBW
การประเมินและวินิจฉัย
1.การซักประวัติ ตกขาวจำนวนมากเป็นฟองมีกลิ่นเหม็นร่วมกับอาการคันประวัติการตกขาวจากการติดเชื้อพยาธิและการรักษา
การตรวจร่างกาย PV พบตกขาวเป็นฟองสีเหลืองเขียว, strawberry spot
3.การตรวจพิเศษ wet mount smear : WBC จำนวนมาก,ตัวพยาธิเคลื่อนไหวไปมา,ตกขาวมีฤทธิ์เป็นด่างค่าpH >4.5
การพยาบาล
ให้คำแนะนำและการดูแลเหมือนสตรีตั้งครรภ์ทั่วไป
แนะนำการเหน็บยาหรือการรับประทานยาตามแผนการรักษาอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ
แนะนำให้สามีมารับการรักษาพร้อมกัน
แนะนำการมีเพสสัมพันธ์อย่างปลอดภัย
แนะนำการรักษาความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกให้แห้งสะอาดเสมอ และซักชุดชั้นในให้สะอาดตากแดดให้แห้ง
ระยะหลังคลอด
ให้การพยาบาลเหมือนมารดาหลังคลอดทั่วไป
แนะนำให้ BF ได้ ล้างมือทุกครั้งก่อนสัมผัสบุตร
ดูแลความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกเสมอ
ต้องได้รับการรักษาทั้งสามีและภรรยาให้หาย ช่วงมีอาการ ให้งด SI และรักษาให้หาย
หากอาการยังไม่ดีขึ้น ให้พบแพทย์
การตกขาวจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
(BACTERIAL VAGINOSIS)
อาการและอาการแสดง
คัน ปวดแสบปวดร้อนปากช่องคลอด ในช่องคลอด
abnormal Leukorrhea : ตกขาวสีขาว สีเทา หรือสีเหลือง ข้นเหนียว
Fishy smell : โดยเฉพาะหลังการมีSI แล้ว น้ำอสุจิมีฤทธิ์เป็นด่างทาปฏิกิริยากับbacteria แล้วปล่อยสารเคมีออกมาทำให้มีกลิ่นเหม็นเน่า
การประเมินและวินิจฉัย
การซักประวัติการมีตกขาวจำนวนมาก ปวดแสบปวดร้อนบริเวณปากช่องคลอดและในช่องคลอด ประวัติการตกขาวจากการติดเชื้อแบคทีเรียและการรักษา
การตรวจร่างกายPV + pap smear พบเชื้อแบคทีเรีย ตรวจความเป็นกรด-ด่างในช่องคลอด ได้ผลมีฤทธิ์เป็นด่างค่า pH >4.5
3.การตรวจพิเศษ Wet smear : 10% Potassium Hydroxide (KOH) ลงไปบนตกขาว 2 หยดแล้วคนให้เข้ากันจะได้กลิ่นเหม็นเน่าเหมือนคาวปลา lactobacilli ลดลง WBC > 5 cells/OF Positive clue cells (epithelial cell มี gram-negative coccobacilli เกาะรอบ > 20%) Culture : Bacteria growth
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์:
•ให้คำแนะนำและการดูแลเหมือนสตรีตั้งครรภ์ทั่วไป
•รับประทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบ ความสำคัญของการมาตรวจตามนัด
•รักษาความสะอาดของอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกไม่ให้อับชื้นหลีกเลี่ยงการใช้สบู่
•แนะนำให้พาสามีตรวจและรักษาพร้อมกัน
•แนะนำการใช้Condom ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์•หากมีอาการปวดท้อง ท้องแข็งบ่อย มีเลือดออกทางช่องคลอด ให้รีบไปพบแพทย์
ระยะหลังคลอด •ให้การดูแลเหมือนมารดาหลังคลอดทั่วไป •สามารถBF ได้เน้นการล้างมือทุกครั้งก่อนสัมผัสบุตร •ทำความสะอาดของอวัยวะสืบพันธุ์ให้สะอาดและแห้งเสมอ•หากมีอาการผิดปกติให้รีบมาพบแพทย์ทันที
ซิฟิลิส (SYPHILIS)
อาการและอาการแสดง
Primary stage(Sore)
ต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบโตกดไม่เจ็บ
เกิดแผลกลมนิ่ม ขอบนูนแข็ง ไม่เจ็บบริเวณlabia, vulva, cervix
secondary stage
ขณะที่แผลกำลังจะหาย หรือหลังจากแผลหายพบผื่นกระจายทั่วร่างกาย ฝ่ามือฝ่าเท้า เยื่อบุรวมทั้งอวัยวะสืบพันธุ์
ผื่นที่พบบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์จะยกนูน
อาการในระยะนี้จะหายได้เองแม้ไม่ได้รับการรักษา
Latent syphilis
ระยะนี้จะไม่มีอาการ
แต่กระบวนการติดเชื้อยังดำเนินอยู่และสามารถแพร่กระจายเชื้อได้
อาจมีการกำเริบของโรคได้
ระยะแฝงของซิฟิลิสจะอยู่ได้นานเป็นปี
Tertiary syphilis
ระยะนี้เชื้อจะเข้าไปทำลายระบบหัวใจและหลอดเลือด
ถ้าเชื้อเข้าสู่ระบบประสาทจะเกิดผิวหนังอักเสบ กระดูกผุ เยื่อบุสมองอักเสบ และเสียชีวิต
เกิดรอยโรคgummalesion ที่อวัยวะและกระดูก
ตรวจพบArgyll Robertson Pupil
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
สตรีตั้งครรภ์
ทำให้ผิวหนังและเนื้อเยื่ออักเสบ
Preterm labor
Abortion
ทารกในครรภ์
Prematurity
Still birth
Neonatal syphilis
Congenital abnormalities : ตับม้ามโต
เยื่อบุส่วนต่าง ๆ ของร่างกายอักเสบ ผิวหนังที่ฝ่ามือฝ่าเท้าอักเสบและลอกเป็นขุย
Mental retardation
การประเมินและวินิจฉัย
การซักประวัติ การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อซิฟิลิส หรือมีประวัติเคยป่วยด้วยโรคซิฟิลิสมาก่อน
การตรวจ :ไข้ต่ำๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว PV: อวัยวะสืบพันธ์ภายนอกพบแผลที่มีลักษณะขอบแข็ง กดไม่เจ็บ อาจพบผื่นบริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโตกดไม่เจ็บ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร และน ้ำหนักลด หรืออาจไม่พบอาการแสดงใด ๆ
หนองใน (GONORRHEA)
อาการและอาการแสดง
มีการอักเสบของปากมดลูกและช่องคลอด
ตกขาวเป็นหนองข้นปริมาณมาก
กดเจ็บบริเวณbartholin’sgland
ปัสสาวะกระปิดกระปรอย เป็นหนองข้น และhematuria
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
สตรีตั้งครรภ์
Infertility
Chorionitis, amnionitis, chorioamnionitis
PROM
Abortion
ทารกในครรภ์
NB with ND ที่มีการติดเชื้อหนองในที่ปากมดลูก ช่องคลอด หรืออวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
บริเวณเยื่อเมือกที่ตาของทารก ท าให้เกิดตาอักเสบ (gonococcal ophalmianeonatorum)
การประเมินและวินิจฉัย
การซักประวัติเกี่ยวการมีSI กับผู้ติดเชื้อหนองใน เคยป่วยด้วยโรคหนองในมาก่อน อาการและอาการแสดง
การตรวจร่างกาย PV: พบหนองสีขาวขุ่น บางรายอาจพบเลือดปนหนอง หากมีการอักเสบมากขาหนีบจะบวม กดเจ็บบริเวณต่อมบาร์โธลินหรือต่อมข้างท่อปัสสาวะ
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
•Gram stain smear จะพบ intracellular gram negative diplocooci
•Culture หรือNucleic acid test (NAT)
•positive แปลผลว่ามีการติดเชื้อ
การติดเชื้อเริม (HERPES SIMPLEX)
อาการและอาการแสดง
อาการของการติดเชื้อปฐมภูมิมักเกิด 3-7วันหลังการสัมผัสเชื้อ
มีอาการปวดแสบปวดร้อน และคันบริเวณที่สัมผัสโรค
จากนั้นจะกลายเป็นตุ่มน ้าใสๆ แล้วแตกกลายเป็นแผลอยู่ 2สัปดาห์ ก่อนจะตกสะเก็ด
บางรายอาจมีอาการคล้ายหวัด : ไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
สตรีตั้งครรภ์
Abortion
Preterm labor
การติดเชื้อซ ้าขณะตั้งครรภ์มีผลกระทบค่อนข้างน้อย
ผลกระทบต่อทารก
IUGR
Preterm labor
การประเมินและการวินิจฉัย
การซักประวัติการเคยติดเชื้อเริมมาก่อนหรือไม่ หรือเคยมีSI ผู้ที่เป็นเริมที่อวัยวะสืบพันธ์หรือไม่
การตรวจร่างกายพบตุ่มน ้าใส หากตุ่มน ้าแตกจะพบแผลอักเสบ แดง ปวดแสบปวดร้อนบริเวณขอบแผลค่อนข้างแข็ง แต่ไม่ติดแน่นกับอวัยวะข้างเคียงเหมือนกับแผลจากการติดเชื้อซิฟิลิส อาจพบต่อน ้ำเหลืองที่ขาหนีบโตแบบกดไม่เจ็บ
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
หูดหงอนไก่(CONDYLOMA ACUMINATE)
อาการและอาการแสดง
มีรอยโรคเป็นติ่งเนื้อสีชมพูคล้ายหงอนไก่ ขนาดแตกต่างกัน มักเกิดบริเวณอับชื้นปากช่องคลอด หรือในช่องคลอด
การติดเชื้อขณะตั้งครรภ์รอยโรคจะขยายใหญ่ มีผิวขรุขระคล้ายดอกกะหล่ำและยุ่ยมาก
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารกผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
สตรีตั้งครรภ์
หากเกิดรอยโรคใหญ่อาจขัดขวางช่องทางคลอด
ตกเลือดหลังคลอด
ทารก
ทารกอาจติดเชื้อหูดหงอนไก่ระหว่างตั้งครรภ์และขณะคลอด
อาจเกิด laryngeal papillomatosis ทำให้เกิดการอุดกั้นของระบบทางเดินหายใจส่วนบน
Voice change
การประเมินและการวินิจฉัย
การซักประวัติเคยติดเชื้อหูดหงอนไก่มาก่อน หรือเคยมีSI กับผู้ที่เป็นหูดหงอนไก่รวมถึงอาการและอาการแสดงของการติดเชื้อหูดหงอนไก่
การตรวร่างกาย จะพบรอยโรคเป็นติ่งเนื้อสีชมพูคล้ายหงอนไก่ ผิวขรุขระคล้ายดอกกะหล ่าบริเวณปากช่องคลอด ในช่องคลอด หรือบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
3.การตรวจพิเศษ
ตรวจ Pap smear •ตรวจหาเชื้อ HPV โดยวิธี Polymerase Chain Reaction (PCR) •ตรวจ DNA (DNA probe)
การติดเชื้อเอชไอวีในสตรีตั้งครรภ์ (HUMAN IMMUNODEFICIENCY VIRUS [HIV] DURING PREGNANCY)
อาการและอาการแสดง
ระยะเริ่มแรกของการติดเชื้อ HIV
เริ่มมีไข้ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัว มีผื่นขึ้น ต่อมน ้าเหลืองโต
อาการเหล่านี้จะเป็นอยู่ 1-2wk. แล้วหายไปได้เอง
ระยะติดเชื้อโดยไม่มีอาการ
ระยะติดเชื้อโดยไม่มีอาการจะนาน 5-10 ปี
ระยะนี้ร่างกายจะแข็งแรงเป็นปกติเหมือนคนทั่วไป
ระยะติดเชื้อที่มีอาการ
Temp. > 37.80C เป็นพักๆ หรือติดต่อกันทุกวัน
ท้องเดินเรื้อรัง หรืออุจจาระร่วงเรื้อรัง
น ้าหนักลดเกิน 10% ของน ้าหนักตัว
ต่อมน ้าเหลืองโตมากกว่า 1 แห่ง
เป็นงูสวัด
พบเชื้อราในปากหรือฝ้าขาว (hairy leukoplakia) ในช่องปาก
ระยะป่วยเป็นเอดส์
ไข้ผอมต่อมน้าเหลืองโตหลายแห่งซีดอาจพบลิ้นหรือช่องปากเป็นฝ้าขาวจากเชื้อราแผลเริมเรื้อรังผิวหนังเป็นแผลพุพอง
TB, pneumoniaปอดอักเสบสมองอักเสบเยื่อหุ้มสมองอักเสบGI infectionเป็นมะเร็ง เช่น Kaposi’s sarcoma, lymphoma
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
สตรีตั้งครรภ์
CD4 ต่ำ
มีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนจากการติดเชื้อฉวยโอกาสได้ง่ายขึ้น
ทารก
IUGR
Preterm labor
SGA
LBW
การประเมินและการวินิจฉัย
การซักประวัติ เกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ หรือสงสัยว่าจะติดเชื้อ ประวัติการใช้ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าหลอดเลือดด า รวมทั้งซักประวัติอาการและอาการแสดงของโรคเอดส์
การตรวจร่างกาย โดยการตรวจร่างกายทั่วไป ซึ่งหากเป็นระยะที่แสดงอาการอาจพบว่ามีไข้ ไอ ต่อมน ้าเหลืองโต มีแผลในปาก มีฝ้าในปาก ติดเชื้อราในช่องคลอด
3.ตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ตรวจหาโปรตีนชนิด p24 antigen หรือสารพันธุกรรมของเชื้อ HIV ด้วยเทคนิค nucleic acid amplification testing (NAT) สามารถวินิจฉัยการติดเชื้อในช่วงเวลาที่ไม่สามารถตรวจพบ antibody ต่อเชื้อได้
การตรวจหา antibody ต่อเชื้อ HIV เป็นวิธีมาตรฐานส าหรับการวินิจฉัยการติดเชื้อ HIV
การตรวจนับเม็ดเลือดขาวชนิด CD4 lymphocyte และการตรวจวัดปริมาณ viral load
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
1.คัดกรองสตรีตั้งครรภ์และสามีที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการด าเนินของโรค ความแตกต่างระหว่างการติดเชื้อ HIV กับการเป็นเอดส์ โอกาสในการแพร่กระจายเชื้อจากมารดาสู่ทารก
แนะนำให้มาฝากครรภ์ตามนัดทุกครั้ง
ให้ความรู้เกี่ยวกับหลักมาตรฐานในการควบคุมและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
ติดตามผลLAB
ประเมินภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับยาต้านไวรัส
แนะนำการปฏิบัติตัวของสตรีตั้งครรภ์
ประเมินระดับความวิตกกังวล ความกลัวของสตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ HIV และเปิดโอกาสให้สตรีตั้งครรภ์และครอบครัวได้ระบายความรู้สึก หรือความไม่สบายใจ
ให้การพยาบาลด้วยท่าทีที่ปราศจากความรังเกียจ ให้กำลังใจ และช่วยเหลือให้สตรีตั้งครรภ์และครอบครัวสามารถเผชิญปัญหาและสามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสม
ระยะคลอด
ยึดหลัก universal precaution เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
ให้การดูแลเช่นเดียวกับผู้คลอดทั่วไป : V/S, FHS อย่างใกล้ชิด ติดตามความก้าวหน้ายองการคลอด
3.ทำคลอดด้วยวิธีที่ท าให้เกิดการบาดเจ็บต่อผู้คลอดและทารกน้อยที่สุด และหลีกเลี่ยงการใช้สูติศาสตร์หัตถการที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ
4.ดูแลให้ผู้คลอดและทารกได้รับยาต้านไวรัสตามแผนการรักษา
5.ประเมินอาการเปลี่ยนแปลงและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ
ระยะหลังคลอด
ดูแลมารดาหลังคลอดโดยยึดหลัก universal precaution
ให้คำแนะนำแก่มารดาหลังคลอด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
ระยะตั้งครรภ์