Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
จิตคหบดี - Coggle Diagram
จิตคหบดี
วันหนึ่ง พระมหานามะ หนึ่งใน ปัญจวัคคีย์ ได้จาริกมายังนครมัจฉิกาสณฑ์ จิตตคหบดีได้พบพระมหานามะจึงเกิดความเลื่อมใส จึงได้นิมนต์มายังเรือนของตนพร้อมกับถวายภัตตาหาร เมื่อพระมหานามะฉันเสร็จจึงได้นิมนต์ท่านไปยัง สวนอัมพาฏกวัน หรือสวนมะกอก เพื่อถวายเป็นพระอาราม ต่อมาจิตตคหบดีได้บรรลุเป็นโสดาบัน พระมหานามะได้จาริกไปที่อื่นโดยมอบหมายให้พระสุธรรม เป็นผู้ดูแลอารามแห่งนี้แทน
คราวหนึ่ง จิตตคหบดีได้ฟังพระธรรมเทศนาจาก พระสารีบุตร จนสำเร็จเป็นอนาคามีบุคคล แล้วท่านได้ชักชวนชาวเมือง 3,000 คนไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ที่ เชตวันมหาวิหาร กรุงราชคฤห์ โดยจัดเตรียมทานไปมากมาย แต่แทบไม่ได้ใช้สอยเลย เพราะเหล่าเทวดาได้จัดเตรียมข้าวปลาอาหารจำนวนมากไว้ให้คณะของจิตตคหบดีตลอดการเดินทาง1เดือน และตลอดที่อาศัยอยู่อีก1เดือน พระพุทธเจ้าจึงทรงมอบหมายให้ พระอานนท์ พุทธอุปัฏฐากจัดหาสถานที่เก็บสิ่งของเหล่านี้ ซึ่งถือเป็นโรงครัวแห่งแรกในพระพุทธศาสนา
ต่อมาพระพุทธเจ้าได้ทรงยกย่องจิตตคหบดีให้เป็นเลิศกว่าอุบาสกทั้งหลายในทางเป็นธรรมกถิกะหรือนักบรรยายธรรม
จิตตคหบดีเป็นชาวเมืองมัจฉิกาสัณฑะแคว้นมคธ วันที่ท่านเกิดมีปรากฎการณ์ประหลาด คือมีดอกไม้หลากสีตกลงทั้งเมือง ซึ่งเป็นนิมิตหมายแห่งความวิจิตรสวยงาม ท่านจึงได้นามว่า จิตตกุมาร แปรว่า กุมารผู้น่าพิศวงหรือกุมารผู้ก่อให้เกิดความวิจิตรสวยงาม
บิดาของท่านเป็นเศรษฐี ท่านจึงได้เป็น เศรษฐีสืบต่อมาจากบิดา ในวงการพระพุทธศาสนาเรียกท่านว่า จิตตคหบดี ก่อนที่จะมานับถือพระพุทธศาสนาท่านมีโอกาสพบพระมหานามะ (หนึ่งในปัญจวัคคีย์) เห็นท่านสงบสำรวมน่าเลื่อมใสมาก จึงมีความศรัทธานิมนต์ท่านไปฉันภัตตาหารที่คฤหาสน์ของตน และได้สร้างที่พำนักแก่ท่านในสวนชื่อ อัมพาฏการาม นิมนต์ให้ท่านอยู่เป็นประจำ พระมหานามะได้แสดงธรรมให้จิตตคหบดีฟังอยู่เสมอ
วันหนึ่งได้แสดงเรื่อง อายตนะ ๖ (สื่อสำหรับติดต่อโลกภายนอก ๖ ประการ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ) หลังจบธรรมเทศนา จิตตคหบดีได้บรรลุอนาคามิผล
จิตตคหบดีเอาใจใส่พิจารณาธรรมอยู่เนือง ๆ จนแตกฉาน มีความสามารถในการอธิบายธรรมได้ดี ความสามารถของท่านในด้านนี้เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในเวลาต่อมา ท่านเคยโต้วาทะกับบุคคลสำคัญของศาสนาอื่น ๆ มาแล้วหลายท่าน เช่น นิครนถ์นาฏบุตร (ศาสดาของศาสนาเชน) และอเจลกนามกัสสปะ (นักบวชชีเปลือย)
ท่านเป็นผู้มีใจบุญได้ถวายทานอย่างประณีตมโหฬารติดต่อกันครึ่งเดือนก็เคยมี เคยพาบริวารสองพันคนบรรทุกน้ำตาล น้ำผึ้งน้ำอ้อย เป็นต้น จำนวนมากถึง ๕๐๐ เล่มเกียน ไปถวายพระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์
ครั้งหนึ่งท่านป่วยหนัก เทวดามาปรากฏให้เห็นกล่าวกับท่านว่าคนมีบุญอย่างท่านนี้ แม้ปรารถนาราชสมบัติหลังตายแล้วก็ย่อมได้ ท่านตอบเทวดาว่าถึงราชสมบัติก็ไม่จีรัง เราไม่ต้องการ บรรดาลูกหลานที่นั่งเฝ้าไข้อยู่ นึกว่าท่านเพ้อจึงกล่าวเตือนสติ ท่านบอกบุตรหลานว่ามิได้เพ้อ เทวดามาบอกให้ปรารถนาราชสมบัติ ต่อท่านปฏิเสธยังมีสิ่งอื่นที่ดีกว่า น่าปรารถนากว่า เมื่อถูกถามว่าคืออะไร ท่านกล่าวว่าคือ ศรัทธาอันแน่วแน่ มั่นคงในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์
อัมพาฏการามนั้นเป็นวัดที่ท่านสร้างถวายพระมหานามะนิมนต์ให้ท่านอยู่ประจำ แต่พระเถระพักอยู่ชั่วเวลาหนึ่งก็จาริกไปยังที่อื่น พระเถระอื่น ๆ ก็แวะมาพักอยู่เสมอๆ ต่อมามีพระรูปหนึ่งนามว่า สุธรรมเถะ ยังเป็นปุถุุชนมาพำนักอยู่เป็นประจำเป็นเวลานานจนกระทั่งนึกว่าตัวท่านเป็นสมภารวัด พระสุธรรมเป็นปุถุชน จิตตคหบดีเป็นอริยบุคคลระดับอนาคามี ถือเพศฆราวาสก็ยังแสดงความเคารพกราบไหว้พระภิกษุปุถุชน เพราะถือเพศบรรพชิตเป็น "ธงชัยแห่งพระอรหันต์" อุปถัมภ์บำรุงท่านเป็นอย่างดี
วันหนึ่งพระอัครสาวกทั้งสอง คือ พระสารีบุตรกับพระโมคคัลลานะเดินทางผ่านมา ท่านจิตตคหบดีนิมนต์ให้พระอัครสาวกทั้งสองพำนักอยู่ที่อัมพาฏการาม พร้อมนิมนต์เพื่อฉันอาหารที่บ้านท่านในวันรุ่งขึ้น แล้วก็ไปนิมนต์พระสุธรรมไปฉันด้วย
- 1 more item...
จิตตคหบดี เป็นมหาอุบาสกคนสำคัญในสมัย พุทธกาล ถือกำเนิดในตระกูลของเศรษฐีที่ นครมัจฉิกาสณฑ์ แคว้นมคธ โดยท่านมีชื่อเมื่อแรกเกิดว่า จิตตกุมาร ที่แปลว่า กุมารผู้ทำให้เกิดความวิจิตร เพราะวันที่ท่านเกิดได้มีเหตุอัศจรรย์ คือมีฝนดอกไม้ทิพย์ตกลงมาทั่วนคร