Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การติดเชื้ออื่น ๆ ขณะตั้งครรภ์ - Coggle Diagram
การติดเชื้ออื่น ๆ ขณะตั้งครรภ์
การติดเชื้อไวรัสรับอักเสบชนิดเอ
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
มารดาจะสร้าง antibody ต่อเชื้อ HAV
สามารถผ่านไปยังทารกในครรภ์ได้
มีผลคุ้มกันทารกไปจนถึงหลังคลอดประมาณ 6-9 เดือนจากนั้นจะหมดไป
การป้องกันและการรักษา
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาการติดเชื้อ HAV ให้หายได้อย่างเด็ดขาด
อาจพิจารณาให้ immune serum globulin (ISG) ในรายที่สัมผัสเชื้อ
สตรีตั้งครรภ์ที่มีการติดเชื้อในระยะใกล้คลอดควรได้รับ ISG ขนาด 0.5 mg แก่ทารกทันที
อาการและอาการแสดง
มักไม่มีอาการของดีซ่าน
ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ
อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
ผู้ที่หายจากการเป็นโรคแล้วมักจะมีภูมิคุ้มกัน และจะไม่เป็นพาหะ
การพยาบาล
อธิบายให้สตรีตั้งครรภ์และครอบครัวเข้าใจเกี่ยวกับโรค การรักษา การดูแลตนเอง ป้องกันภาวะแทรกซ้อน
แนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัว
พักผ่อนอย่างเพียงพอ
รับประทานอาหารที่สุก สะอาด และย่อยง่าย
มาตรวจตามนัดเพื่อประเมินสภาวะของสตรีตั้งครรภ์และทารกในครรภ์
หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีผลต่อตับ
การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี
เกิดจากการติดเชื้อ Hepatitis B virus ผ่านทางเลือด น้ำลาย อสุจิ สิ่งคัดหลั่งทางช่องคลอด น้ำนม และผ่านทางรก
พยาธิสภาพ
ระยะที่สอง
ประมาณ 2-3 เดือนหลังจากได้รับเชื้อ Hepatitis B virus
อาการอ่อนเพลียคล้ายเป็นหวัด
ระยะที่สาม
เป็นระยะที่ anti-HBe ทำลาย HBeAg จนเหลือน้อยกว่า 105 copies/mL
ระยะแรก
รับเชื้อ Hepatitis B virus เข้าสู่ร่างกาย
เชื้อจะแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว
ระยะที่สี่
ระยะที่เชื้อกลับมามีการแบ่งตัวขึ้นมาใหม่
ทำให้เกิดการอักเสบของตับขึ้นมาอีก
อาการและอาการแสดง
อาการจะเริ่มด้วยมีไข้ต่ำ ๆ เบื่ออาหาร
อาเจียน ปวดท้อง
อาจปวดทั่วไปหรือปวดบริเวณชายโครงขวา
คลำพบตับโต กดเจ็บ
ปัสสาวะมีสีเข้มขึ้นเป็นสีชา
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารกในครรภ์
ต่อสตรีตั้งครรภ์
ไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์จะเพิ่มความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนด
ต่อทารก
แรกเกิดน้ำหนักตัวน้อย
ตายในครรภ์ หรือเสียชีวิตแรกเกิด
ทารกที่คลอดมามีโอกาสที่จะติดเชื้อได้
สามารถพัฒนาเป็นโรคตับแข็งและมะเร็งตับในอนาคต
แนวทางการป้องกันและรักษา
Hepatitis B virus DNA ในกระแสเลือดมากกว่า 20,000 IU/ml
หลีกเลี่ยงการทำหัตถการที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีแก่ทารกในครรภ์
ควรได้รับการฉีด Hepatitis B immunoglobulin (HBIG) ให้เร็วที่สุด
ฉีด HB vaccine ภายใน 12 ชั่วโมงหลังคลอด
ตรวจหา HBsAg เมื่อมาฝากครรภ์ครั้งแรก และตรวจซ้ำอีกครั้งในไตรมาสที่ 3
แนะนำว่าสามารถเลี้ยงบุตรด้วยนมารดาได้
การพยาบาล
ระยะคลอด
หลีกเลี่ยงการเจาะถุงน้ำคร่ำ
เมื่อศีรษะทารกคลอด ดูดมูก เลือดและสิ่งคัดหลั่งต่าง ๆ ออกจากปากและจมูกของทารก
ดูแลให้ทารกได้รับภูมิคุ้มกันภายหลังคลอด
ระยะหลังคลอด
ไม่จำเป็นต้องงดให้นมมารดาแก่ทารก
แนะนำการปฏิบัติตัวเช่นเดียวกับมารดาหลังคลอดทั่วไป
แนะนำให้นำทารกมารับวัคซีนเพื่อป้องกันไวรัสตับอักเสบบี และนำบุตรมาตรวจตามนัด
ระยะตั้งคลอด
ให้คำแนะนำเกี่ยวกับสาเหตุ การติดต่อ การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ การดำเนินของโรค แผนการรักษาพยาบาล
ในรายที่มีการติดเชื้อเรื้อรัง แนะนำการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
ตรวจคัดกรองสตรีตั้งครรภ์ทุกคนว่าเป็นพาหะของโรคหรือไม่
หัดเยอรมัน
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
ต่อสตรีตั้งครรภ์
จึงไม่เกิดผลกระทบต่อมารดา
แต่อาจรู้สึกไม่สุขสบายเล็กน้อย
ต่อทารกในครรภ์
ความผิดปกติที่เกิดขึ้นชั่วคราว
ตับม้ามโต ตัวเหลือง
โลหิตจาง เกล็ดเลือดต่ำ
ความผิดปกติถาวร
หูหนวก หัวใจพิการ
สมองพิการ
ตาบอด
ความผิดปกติที่ไม่พบขณะแรกเกิด
ภาวะเบาหวาน
โรคต่อมไทรอยด์
สูญเสียการได้ยิน
ลิ้นหัวใจผิดปกต
การป้องกันและการรักษา
ให้ภูมิคุ้มกันเนื่องจากเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง
ทารกแรกเกิดที่เกิดจากมารดาที่ติดเชื้อหัดเยอรมัน
อาการและอาการแสดง
มีไข้ต่ำ ๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว
เบื่ออาหาร ตาแดง
ต่อมน้ำเหลืองบริเวณหลังหูโต
ไข้จะเป็นอยู่ 1-2 วันก็จะหายไป
หลังจากนั้นจะมีผื่นขึ้นเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีแดง
การพยาบาล
แนะนำให้มาฝากครรภ์อย่างสม่ำเสมอ
ประเมินสุขภาพของสตรีตั้งครรภ์
ให้วัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อเยอรมันแก่สตรีวัยเจริญพันธุ์
สุกใส
พยาธิสรีรภาพ
โรคสุกใสเกิดขึ้นตั้งแต่แรกคลอด จะเรียกว่า congenital varicella syndrome
รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเยื่อเมือกบุทางเดินหายใจ
อาการและอาการแสดง
มีไข้ต่ำ ๆ
ลักษณะของผื่น
มักจะขึ้นตามไรผม
จะเห็นเป็นตุ่มน้ำใสๆ บนฐานสีแดง
เหมือนหยาดน้ำค้างบนกลีบกุหลาบ
มีอาการปวดเมื่อยตามตัว
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
ต่อสตรีตั้งครรภ์
ระบบหายใจล้มเหลว
มีอาการทางสมอง
มีปัญหาภาวะปอดอักเสบ ปอดบวม
ต่อทารก
การติดเชื้อในครรภ์
ในไตรมาสแรก
ทำให้ทารกเกิดความพิการก่อนกำเนิด
การติดเชื้อปริกำเนิด
แนวทางการป้องกันและการรักษา
หลีกเลี่ยงยาในกลุ่มแอสไพริน เพราะอาจทำให้เกิด Reye’s syndrome
ใช้ยาต้านเชื้อไวรัสสุกใส Acyclovir
ให้นวด อย่าเกา
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
แนะนำให้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง
ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
ระยะคลอด
เน้นหลัก Universal precaution
ระยะก่อนตั้งครรภ์
แนะนำให้สตรีวัยเจริญพันธุ์ที่วางแผนตั้งครรภ์ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันสุกใสก่อนการตั้งครรภ์
ระยะหลังคลอด
มารดามีการตกสะเก็ดแล้ว สามารถแนะนำเกี่ยวกับการให้นมมารดา
ดูแลให้ทารกรับวัคซีน VariZIG แก่ทารกแรกเกิดทันที
มารดามีอาการ ให้แยกทารกแรกเกิดจากมารดาในระยะ 5วันแรกหลังคลอด
โรคติดเชื้อไซโทเมกะโรไวรัส
ประชากรส่วนใหญ่มักได้รับเชื้อ CMV ตั้งแต่วัยเด็ก
อาการและอาการแสดง
ไข้สูงนาน ปวดกล้ามเนื้อ
ปอดบวม ตับอักเสบ
อาการทางสมอง
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารกในครรภ์
ต่อสตรีตั้งครรภ์
เสี่ยงต่อการแท้ง
รกลอกตัวก่อนกำหนด
คลอดก่อนกำหนด
ต่อทารก
เสี่ยงต่อภาวะ IUGR
คลอดก่อนกำหนด
น้ำหนักแรกเกิดน้อย
ทารกเสียชีวิตในครรภ์
แนวทางการป้องกันและการรักษา
การป้องกัน
สตรีที่เคยมีประวัติการติดเชื้อ CMV ควรวางแผนเว้นระยะการมีบุตรไปก่อนอย่างน้อย 2 ปี
วิธีการหลักในการป้องกันคือการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล
วัคซีนที่ให้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ CMV โดยตรงนั้นยังไม่มี
การรักษา
การให้ยาต้านไวรัส เช่น Valtrex, Ganciclovil, Valavir
การประเมินอาการและอาการแสดงของทารกแรก
การให้ immunoglobulin ของ anti-cytomegalo viral human
การพยาบาล
ระยะคลอด
เน้นหลัก Universal precaution
ขณะคลอดควรดูดเมือกออกจากปากและจมูกทารกโดยเร็ว
ระยะหลังคลอด
ให้การดูแลในระยะหลังคลอดเหมือนมารดาทั่วไป
งดให้นมมารดา
แนะนำให้สังเกตอาการผิดปกติของทารกที่ต้องรีบพามาพบแพทย์
ระยะตั้งครรภ์
อธิบายให้ทราบเกี่ยวกับโรค สาเหตุ อาการและอาการแสดง การดำเนินของโรค ผลกระทบ และแผนการรักษาพยาบาล
การติดเชื้อโปรโตซัว
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
ต่อสตรีตั้งครรภ์
คลอดก่อนกำเนิด
ถุงน้ำคร่ำและเยื่อหุ้มทารกอักเสบ
แท้ง
ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด
รกลอกตัวก่อนกำหนด
ต่อทารกในครรภ์
ทารกหัวบาตร microcephaly
หินปูนจับในสมอง
ตับและม้ามโต
ทารกมักเสียชีวิตหลังคลอด
แนวทางการป้องกันและการรักษา
ให้ผู้อื่นเป็นผู้ดูแลแมวแทนในช่วงที่ตั้งครรภ์
หลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ปรุงสุก ผักผลไม้ที่ไม่ผ่านการล้าง
การวินิจฉัยในทารกก่อนคลอด สามารถกระทำได้
อาการและอาการแสดง
ถ้ามีจะมีอาการน้อย
อ่อนเพลีย
ปวดกล้ามเนื้อ
รายที่รุนแรงจะมีพยาธิที่สมอง Chorioretinitis
มักไม่ค่อยแสดงอาการ
การพยาบาล
ระยะคลอด
ภายหลังทารกคลอดเช็ดตาด้วย 0.9%NSS เช็ดตาทันที
เน้นหลัก Universal precaution
ระยะหลังคลอด
เฝ้าระวังการตกเลือดและการติดเชื้อหลังคลอด
แนะนำการปฏิบัติตนหลังคลอด
ระยะตั้งครรภ์
ติดตามผลการตรวจเลือด
เน้นการรักษาอย่างต่อเนื่อง
แนะนำเกี่ยวกับการสัมผัสเชื้อ
การติดเชื้อไวรัสซิก้า
เกิดจากเชื้อฟลาวิไวรัสโดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค
โรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย
อาการและอาการแสดง
ส่วนใหญ่มักมีอาการไข้
ปวดเมื่อยตามตัว
ปวดกล้ามเนื้อ
เยื่อบุตาอักเสบ ตาแดง
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
ต่อสตรีตั้งครรภ์
มักแสดงอาการมากในไตรมาสที่ 3
มีผื่นขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์
หนาวสั่นรู้สึกไม่สุขสบาย
อาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรง
ปวดตามร่างกาย
บวม ตามปลายมือปลายเท้า
ต่อทารกในครรภ์
ความผิดปกติเกี่ยวกับระบบประสาท ตาและการมองเห็น
ทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้า
ทารกตายในครรภ์ และตายหลังคลอด
แนวทางการป้องกันและการรักษา
แนวทางการป้องกัน
ระบบเฝ้าระวังทางกีฏวิทยา
ระบบเฝ้าระวังทารกที่มีความพิการแต่กำเนิด
ระบบเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา
ระบบเฝ้าระวังกลุ่มอาการผิดปกติทางระบบประสาท
การรักษา
การรักษาทำได้ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ
ดื่มน้ำมาก ๆ และรักษาตามอาการ
ในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคไข้ซิกาโดยเฉพาะ
การพยาบาล
ให้คำแนะนำในการป้องกันสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคติดเชื้อไวรัสซิกา อาการและอาการ
แสดงของโรค ความรุนแรงของโรค วิธีการปฏิบัติ
ประเมินสัญญาณชีพโดยเฉพาะอุณหภูมิ
เตรียมสตรีตั้งครรภ์เพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ประเมินสุขภาพทารกในครรภ์
เน้นย้ำการมาตรวจครรภ์ตามนัด
โรคโควิด-19 กับการตั้งครรภ์
แนวทางการรักษา
เน้นให้บุคลากรใส่ชุด PPE
การดูแลรักษา
สตรีตั้งครรภ์ที่สงสัยจะติดเชื้อโรคโควิด-19
ถ้ามีไข้ห้ามใช้ยากลุ่ม NSAIDs
หากเป็นไปได้ให้เลื่อนการนัดผ่าตัดคลอดหรือการกระตุ้นคลอดออกไปอย่างน้อย 14 วัน
สตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อแต่อาการไม่รุนแรง
ให้ยาต้านไวรัส
สตรีตั้งครรภ์ที่มีอาการรุนแรง
ไม่ให้ออกซิเจนทาง face mask หรือ face mask with bag
On EFM ถ้าอายุครรภ์ 28 สัปดาห์ขึ้นไป
ยุติการตั้งครรภ์ตามขอ้บ่งชี้ด้านสูติศาสตร
การดูแลรักษากรณีฉุกเฉิน
หากไม่สามารถซักประวัติได้
ให้ทำการรักษาเช่นเดียวกับผู้ป่วยที่เข้าข่ายการสืบสวนโรค
การดูแลขณะเจ็บครรภ์คลอด
กรณีเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
การยับยั้งการหดรัดตัวของมดลูก
ให้ magnesium sulfate สำหรับ neuroprotection
การดูแลทารกแรกเกิด
การดูแลมารดาหลังคลอด ห
การดูแลด้านจิตใจ
การพยาบาล
การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์และมารดาหลังคลอดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ COVID-19
หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดผู้ที่มีอาการไอ เป็นไข้
ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง
รักษาระยะห่าง social distancing
หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสบริเวณดวงตา ปาก และจมูก
เน้นย้ำให้สตรีตั้งครรภ์มาฝากครรภ์ตามนัดได้ตามปกติ
กลุ่มเสี่ยงที่มีประวัติการเดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง
หรือสัมผัสหรือใกล้ชิดผู้ป่วย COVID-19 ควรปฏิบัติตน
แยกตนเองออกจากครอบครัว และสังเกตอาการจนครบ 14 วัน
กรณีเจ็บครรภ์คลอด ต้องไปโรงพยาบาลทันท
แนวทางการปฏิบัติในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เมื่อคำนึงถึงประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และยังไม่มี
หลักฐานทางวิชาการในการแพร่เชื้อไวรัสผ่านทางน้ำนม
ข้อแนะนำการปฏิบัติสำหรับมารดาหลังคลอด ในกรณีแม่เป็นผู้ที่สงสัยว่าจะติดเชื้อ
อาบน้ำหรือเช็ดทำความสะอาดบริเวณเต้านมและหัวนมด้วยน้ำและสบู
สวมหน้ากากอนามัย ตลอดการทำกิจกรรมเกี่ยวกับการเตรียมนม และการปั๊มนม
ล้างทำความสะอาดอุปกรณ์ เช่น ที่ปั๊มนม ขวดนม ด้วยน้ำยาล้างอุปกรณ์ และทำการนึ่งเพื่อฆ่าเชื้อ
ผลกระทบต่อการสตรีตั้งครรภ์และทารก
ต่อสตรีตั้งครรภ์
เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด
มีการติดเชื้อของเยื่อหุ้มเด็ก
ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด
ต่อทารกในครรภ์
พัฒนาการล่าช้า
คลอดน้ำหนักตัวน้อย
คลอดก่อนกำหนด
การติดเชื้อ COVID-19 ของทารกแรกเกิดอาจตรวจพบการติดเชื้อได้ในทันทีหลังคลอด
อาการและอาการแสดง
อุณหภูมิร่างกายตั้งแต่37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป
มีอาการของระบบทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง
ไอ
น้ำมูก
เจ็บคอ
หายใจติดขัด