Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลข้ามวัฒนธรรม ประเทศจีน - Coggle Diagram
การพยาบาลข้ามวัฒนธรรม ประเทศจีน
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อเต็ม : สาธารณรัฐประชาชนจีน อักษรจีน: 中华人民共和国
ที่ตั้ง : ตั้งอยู่ด้านตะวันออกของทวีปเอเชีย มีพื้นที่ 9.6 ล้านตารางกิโลเมตร นับว่าใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชีย มีพรมแดนติดต่อประเทศต่าง ๆ โดยรอบ 15 ประเทศ
เมืองหลวง: ปักกิ่ง เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ ปักกิ่งเป็นศูนย์กลางทางการปกครอง การศึกษา การขนส่ง และวัฒนธรรมจีน ในขณะที่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจนั้นจะอยู่ที่ เซี่ยงไฮ้ และ ฮ่องกง
ภูมิอากาศ ประเทศจีนมีสภาพภูมิอากาศส่วนใหญ่เป็นฤดูแล้งและฤดูมรสุมชื้น ซึ่งทาให้เกิดความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิในฤดูหนาวและฤดูร้อน ในฤดูหนาว ลมทางเหนือซึ่งพัดลงมาจากละติจูดสูงทาให้เกิดความหนาวเย็นและแห้งแล้ง ขณะที่ในฤดูร้อน ลมทางใต้ซึ่งพัดมาจากพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่ละติจูดต่าจะอบอุ่นและชุ่มชื้น
ฤดูกาล : ฤดูหนาว (Winter) ฤดูใบไม้ผลิ (Spring) ฤดูร้อน (Summer) ฤดูใบไม้ร่วง (Autumn)
การทักทาย : การทักทายให้พูดคาว่า หนีห่าว กับฝ่ายตรงข้ามและยิ้มให้แก่ฝ่ายตรงข้าม
ชนชาติ มีชนชาติต่าง ๆ อยู่รวมกัน 56 ชนชาติ โดยเป็นชาวฮั่น ร้อยละ 93.3 ที่เหลือเป็น ชนกลุ่มน้อยอื่นๆ
ศาสนา : ลัทธิขงจื้อ เต๋า พุทธ อิสลาม และคริสต์ โดยเฉพาะความคิดลัทธิขงจื้อและเต๋ามีอิทธิพลหยั่งรากลึกซึ้งในภาษาและ วัฒนธรรมของจีน
ภาษา : ภาษาจีนกลาง เป็นภาษาราชการ ชาวจีนในมณฑลต่างๆ มีภาษาพูดท้องถิ่นที่แตกต่างกัน และการออกเสียงภาษาจีนกลางก็มีสาเนียงเพี้ยนไปตามท้องถิ่น
วัฒนธรรมการรับประทานอาหารของประเทศจีน
ลำดับการนั่ง
สำหรับลำดับการนั่งบนโต๊ะอาหาร จะเรียงตามละดับความอาวุโส ผู้อาวุโสที่สุดจะนั่งก่อนและจะนั่งหัวโต๊ะเสมอ
สำหรับบางพื้นที่ในชนบท หากมีแขกมารับประทานอาหารที่บ้าน ผู้หญิงไม่สามารถนั่งรวมโต๊ะอาหารกับผู้ชายได้
ข้อห้ามในการใช้กาน้ำชา
ห้ามหันปากกาน้ำชาชี้เข้าหาผู้อื่น เพราะ เปรียบเสมือนเป็นการใช้นิ้วชี้หน้าผู้อื่น ซึ่งถือเป็นการไม่เกียรติฝ่ายตรงข้าม
ยกชาส่งแขก
ห้ามพูดคุยกันขณะรับประทานอาหาร
ห้ามคว่ำชามอาหาร
การปฏิบัติตัวเมื่อพบกับคนท้องถิ่น
เลือกคำทักทายหรือคำสรรพนามที่เหมาะสม ควรนำหน้าด้วย “Mister / Miss” แล้วตามด้วยนามสกุล ไม่ควรเรียกแซ่เฉยๆ
ผู้ที่อาวุโสน้อยกว่าควรเป็นฝ่ายทักทายผู้อาวุโสก่อน หรือถ้าต้องการแนะนำผู้น้อยให้ผู้ใหญ่รู้จักก่อน ต้องลุกขึ้นยืนจนเสร็จสิ้นการทำความรู้จักทั้งสองฝ่าย
การจับมือ ควรจับมือฝ่ายหญิง เบาๆ และพอเป็นพิธี ไม่ควรกุมหรือบีบเพื่อแสดงความมั่นใจ เนื่องจากชาวจีนเห็นว่าการจับมือแน่นเกินไป
ไม่ควรใช้มือปิดปาก ป้องปาก หรือทำปากขมุบขมิบ ไม่ควรพูดเสียงเบาไป เพราะอาจหมายถึงการนินทา
การใช้มือประกอบคำอธิบายไม่ควรออกท่าทางมากนัก เพราะอาจสร้างความรำคาญแก่ฝ่ายตรงข้าม ไม่ควรชี้นิ้วไปยังสิ่งต่างๆ เพื่ออธิบาย
พึงสำรวมและอ่อนน้อมถ่อมตนในการพูดคุยกับชาวจีน ไม่ควรพูดตลก ลามก
ชาวจีนถือว่าการตรงต่อเวลาเป็นการให้เกียรติ จึงควรไปถึงก่อนเวลานัดหมาย
ความเชื่อ
ความเชื่อด้านการกินอาหาร ชาวจีนเน้นกินอาหารให้สมดุลถูกธาตุ
โภชนาศาสตร์แผนจีนเชื่อว่า การกินอาหารให้ถูกธาตุ สอดรับกับพยาธิสภาพที่เกิดขึ้นกับอวัยวะหนึ่งใดในร่างกาย ย่อมจะช่วยแก้ไขปัญหาและเสริมสร้างสุขภาพได้
การนอนตามหลักแพทย์แผนจีนโบราณ
ตามหลักแพทย์แผนจีนแล้ว ถือว่าการนอนเป็นเรื่องสำคัญมาก เป็นการบำบัดโรคที่ส่งผลต่อสุขภาพการนอนที่ถูกต้องจะเป็นการช่วยปรับสมดุล เพิ่มภูมิต้านทาน ภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
พฤติกรรมเสี่ยงของชาวจีน
ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากกว่า1.39 พันล้านคน จึงมีความหลากหลายทางความเชื่อ วัฒนธรรม และอาหารเป็นอย่างมาก โดยที่นิยมรับประทานในปัจจุบัน คือ หมูทอดราดซอสเปรี้ยวหวาน ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็ดปักกิ่ง ขนมที่นิยมรับประทาน คือ โตวฮัว ยู่หยวน ชา ชา ถือเป็นเครื่องดื่มที่ดื่มของประเทศจีน
การดูแลผู้ป่วย
การพยาบาลที่เน้นการให้คุณค่าและการปฏิบัติโดยเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างทางวัฒนธรรมของบุคคลหรือกลุ่ม รวมทั้งวิเคราะห์พฤติกรรมการดูแลและการให้บริการทางการพยาบาล ค่านิยม เกี่ยวกับความเจ็บป่วย
แบบแผนพฤติกรรมต่างๆของคนแต่ละเชื้อชาติ แต่ละวัฒนธรรมของบุคคล เช่น ประเทศจีนมีแผนการรักษาแบบแพทย์แผนจีน
คนจีนมักจะนิยมรักษาตามแพทย์แผนจีน เพราะ เชื่อว่าการรักษาแบบแพทย์แผนจีนจะเห็นผลมากกว่าการไปโรงพยาบาล
มีการใช้สมุนไพรและความเชื่อในด้านการนวด การฝังเข็ม เข้ามารักษา คนจีนจะปลูกพืชสมุนไพรหรือไปเก็บสมุนไพรเพื่อเอาไว้ทำยาสมุนไพร รักษาเมื่อมีคนเจ็บป่วยภายในครอบครัว จึงทำให้การรักษาแบบแพทย์แผนจีนเป็นพื้นฐานของบริการสุขภาพของประเทศจีนเป็นส่วนใหญ่ การที่ชาวจีนไม่นิยมไปรักษาที่โรงพยาบาล เนื่องจากมีความเชื่อในการฉีดยามอร์ฟีน ว่าเป็นยาอันตราย ดังนั้นจึงมีการปฏิเสธที่ใช้ยาชนิดนี้ และไม่นอนเตียงหมายเลข 4 เพราะมีคำพ้องเสียงคล้ายกับคาว่า ตาย
แนวทางในการนำทฤษฎีไปใช้ในการปฏิบัติการพยาบาลโดยใช้กระบวนการพยาบาล
การประเมิน
ชาวจีนทักทายโดยกล่าวคำสวัสดีว่า “หนี ห่าว” และตามด้วยการเรียกชื่อ ให้เรียกนามสกุลก่อน แล้วตามด้วยคำว่า “เซียน เซิง”
การรับประทานอาหารร่วมกันภายในครอบครัว โดยต้องให้คนภายในครอบครัวมาร่วมโต๊ะอาหารให้ครบจึงจะเริ่มรับประทานอาหาร
คนจีนจะนิยมเดินทางโดย รถไฟฟ้าใต้ดิน ปั่นจักรยาน หรือ เดิน
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ชาวจีนจะไปปิกนิคกับครอบครัวเพื่อดูดอกไม้ที่ร่วงในช่วงฤดูใบไม้ผลิเสมือนกับการต้อนรับฤดูกาลใหม่ เทศกาลใหม่
ชาวจีนจะนิยมรับประทานสัตว์ป่า และ มีการขายสัตว์ป่าตามตลาดหรือ ซุปเปอร์มาเก็ตทำให้คนจีนสามารถเลือกซื้อสัตว์ป่าได้อย่างสะดวก
ชาวจีนมีการวางขายสุราหรือแอลกอฮอล์ ทุก 24 ชั่วโมง และ สามารถเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ง่าย
สามารถสูบุหรี่ตามสถานที่สาธารณะได้ โดยไม่มีขอบเขตจำกัดในการสูบบุหรี่
ข้อวินิจฉัย
การทักทายของคนจีน จะเป็นการทักทายโดยการพูดทักทายคาว่า หนีห่าว ให้แก่ฝ่ายตรงข้าม ดังนั้นอาจจะมีน้ำลายกระเด็นเข้าใส่ฝ่ายตรงข้าม
การรับประทานอาหารภายในครอบครัวคนจีนที่ต้องรอรับประทานอาหารพร้อมกัน ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดปัญหา โรคกระเพาะ
คนจีนจะนิยมเดินทางโดย รถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งเป็นแหล่งที่มีประชากรเยอะและเดินทางมาจากที่อื่น จึงมีความเสี่ยงในการติดโรคใน ทางเดินหายใจ น้ำลาย การสัมผัส ได้ง่าย
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ชาวจีนจะไปปิกนิคกับครอบครัวตามสวนสาธารณะ จึงมีความเสี่ยงในเรื่องของโรคติดต่อในการรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
ชาวจีนจะนิยมรับประทานสัตว์ป่า อาจจะมีความเสี่ยงของโรคติดต่อจากสัตว์ป่าสู่คน และพฤติกรรมการรับประทานที่กึ่งสุกกึ่งดิบ
การวางขายสุรา ชาวจีนจะนิยมดื่มสุราในงานสร้างสรรค์ หรือการผสมสุราในอาหารเป็นความเชื่อว่าจะช่วยบำรุงร่างกาย เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากก็จะเสี่ยงเป็นโรคตับแข็ง
สูบบุหรี่ตามสถานที่สาธารณะ จะทำสิ่งแวดล้อมเสียสุขลักษณะ และ เป็นผลร้ายต่อคนภายในชุมชนที่ไม่ได้สูบแต่ได้สูดควันบุหรี่เข้าไปในปอด
วิธีการส่งเสริมการดูแลผู้ป่วยชาวจีน
จัดหาล่าม
ทำป้ายสัญลักษณ์ที่มีภาษาจีน
จัดอบรมวัฒนธรรมที่มีความแตกต่างกันในการดูแลผู้ป่วย
พัฒนาด้านการสื่อสาร
เข้าใจและยอมรับในวัฒนธรรมและความเชื่อของบุคคลอื่น
การคมนาคม
ทางรถไฟ ทางรถไฟเป็นการขนส่งที่สำคัญที่สุดของประเทศจีน เมื่อถึงตอนปลายปี ค.ศ. 2005
ทางหลวง หลังจากที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนได้สถาปนาขึ้น (1949) การสร้างทางหลวงได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงปลายปี ค.ศ. 2005 ความยาวทางหลวงมี ทั้งหมด 1,930,500 กิโลเมตร
การบิน การบินได้กลายเป็นวิธีขนส่งและการคมนาคมที่สำคัญของจีนแล้วถึงปลายปี ค.ส. 2000 สายการบินในประเทศจีนมีถึง 1,000 กว่าสายการบิน
การขนส่งทางน้า เมื่อสมัยราชวงศ์ซัง จีนก็เริ่มมีเรือใบแล้ว ต่อมาในสมัยราชวงศ์สุยได้ขุดเปิดคลองใหญ่เป็นทางเดินเรือได้ เมื่อถึงรางวงศ์หมิง เจิ้งเหอออกเดินเรือสู่มหาสมุทรไปทางตะวันตก รวมเจ็ดครั้ง
โครงการระบายน้ำจากภาคใต้ไปสู่ภาคเหนือ ทรัพยากรในประเทศจีนมีการกระจายไม่สม่ำเสมอกัน โดยทั่วไปแล้ว ภาคใต้มีน้ำมาก ภาคเหนือมีน้ำน้อย ภาคตะวันออกน้ำมาก ภาคตะวันตกน้ำน้อย การพัฒนาของเศรษฐกิจและการเพิ่มขึ้นของประชากร