Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กรณีศึกษาที่ 1 การพยาบาลในระยะตั้งครรภ์ - Coggle Diagram
กรณีศึกษาที่ 1
การพยาบาลในระยะตั้งครรภ์
ในการฝากครรภ์ครั้งที่ 2 วันที่ 21 ตุลาคม 2562)
ระดับยอดมดลูกมพันธ์กับอายุครรภ์หรือไม่อย่างไร
ไม่สัมพันธ์กันเพราะสัปดาห์ที่ 1 ระดับยอดมดลูกต้องอยู่ที่ระดับ 214 เหนือสะดือ
ท่านจะให้คำแนะนำเพื่อส่งเสริม
สุขภาพสตรีตั้งครรภ์และทารกในครรภ์
ในประเด็นใดบ้างอย่างไรบ้าง
สตรีตั้งครรภ์รายนี้มีผลเลือด VDRL เป็นบวก
แนะนำถึงวิธีการปฏิบัติตนที่ถูกต้องเพื่อให้สามารถในการดูแลตนเองและทารกในครรภ์ให้ปลอดภัย
โดยการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคและการปฏิบัติตนการแนะนำวิธีลดและการจัดการกับความวิตกกังวล
โดยเปิดโอกาสให้ระบายความรู้สึกการฝึกวิธีการผ่อนคลายการเสริมสร้างพลังด้านบวกทั้งพลังใจในตนเอง
และพลังสนับสนุนของครอบครัวเพื่อช่วยให้สตรีตั้งครรภ์คลายความเครียดและลดความวิตกกังวล
การส่งเสริมสุขภาพด้านความรู้เรื่องการใช้ยาขณะตั้งครรภ์
เน้นย้ำให้สตรีตั้งครรภ์ไปรับบริการฝากครรภ์ในสถานบริการทางสาธารณสุขตั้งแต่เนิ่นๆให้คำแนะนำการดูแล
สุขภาพเบื้องต้นเช่นการเลิกหรืองดสูบบุหรี่การหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์การรับประทานอาหาร
ที่มีประโยชน์และพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ยาขณะตั้งครรภ์
การส่งเสริมสุขภาพปากและฟันขณะตั้งครรภ์
สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดลงได้ในการรับบริการฝากครรภ์พยาบาลหน่วยฝากครรภ์
จะทำการประเมินภาวะสุขภาพปากและฟันเบื้องต้นและส่งต่อให้ทีมทันตกรรมดูแลรักษาการามรู้และคำแนะนำ
รวมทั้งข้อควรระวังในการดูแลสุขภาพปากและฟันขณะตั้งครรภ์เป็นสิ่งจำเป็นเช่นการหลีกเลี่ยงอาหาร
ที่มีรสหวานหรือเปรี้ยวจัดการทำความสะอาดช่องปากและฟันด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้งภายหลังรับประทาน
อาหารรสเปรี้ยวหรือหลังมีอาการอาเจียนรวมทั้งการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงเพื่อเสริมสร้างกระดูก
และฟันของสตรีตั้งครรภ์และทารกในครรภ์
การส่งเสริมด้านโภชนาการขณะตั้งครรภ์
เน้นให้เห็นความสำคัญของการเริ่มต้นพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่เหมาะสมสตรีตั้งครรภ์จะได้รับความรู้
เกี่ยวกับภาวะโภชนาการและการตั้งครรภ์คำแนะนำเรื่องการรับประทานอาหารขณะตั้งครรภ์เช่นควรรับประทาน
อาหารให้ครบ 5 หมู่ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรตโปรตีนวิตามินเกลือแร่และไขมันในปริมาณที่เพียงพอ
กับความต้องการของร่างกายทุกวัน
จากการฟังบริเวณหน้าท้องได้ยินเสียง
เท่ากับเสียง FHS ปกติหรือไม่เพราะเหตุใด
เสียงหัวใจทารกที่ปกติจะเป็นเสียงคู่อัตราเต้นประมาณ 120-160 ครั้งต่อนาที่สม่ำเสมอในบางรายอาจได้ยินเäga funic Souffle เป็นเสียงเลือดที่สายสะดือทารกในครรภ์งเป็นเสียงแผ่วเบาดังฟูคล้ายเสียง uterine Souffle แต่มีอัตราเท่ากับเสียง fetal heart sound
นักศึกษาคิดว่าสตีตั้งครรภ์รายนี้สามารถ
มีเพศสัมพันธ์ได้ไหมเพราะเหตุใด
ควรแนะนำอย่างไรเพิ่มเติม
มีเพศสัมพันธ์ไม่ได้เพราะหญิงตั้งครรภ์มีการติดเชื้อซิฟิลิส
เนื่องจากตรวจพบ VDRL reactive ซึ่งจะส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อน
ต่อทารกในครรภ์พิการหรือตายได้โดยโรคซิฟิลิสสามารถติดต่อผ่านรก
ของมารดาสู่ทารกร่างกาย
ในการฝากครรภ์ครั้งที่ 2 ทารกในครรภ์อยู่ในทำใด
ส่วนนำคืออะไรส่วนนำเข้าสู่อุ้งเชิงกรานหรือไม่
อยู่ในท่า transverse ไม่มีส่วนนำเพราะคลำพบ ballottement ใต้ large part อยู่ด้านซ้ายมือของหญิงตั้งครรภ์ตล่าพบก้อนนิ่ม ๆ บริเวณหัวเหน่ายลำท่าที่ 4 พบปลายนิ้วของผู้ตรวจสอบชนกัน
การฝากครรภ์ของสตรีตั้งครรภ์รายนี้
เป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่อย่างไร
ไม่ เพราะฝากครรภ์ไม่ครบตามมาตรฐานของการฝากครรภ์คือฝากครรภ์ครั้งแรกเมื่ออายุครรภ 20 สัปดาห์ครั้งที่ 2 เมื่ออายุครรภ์ 28 สัปดาห์ครั้งที่ 3 เมื่ออายุ 34 สัปดาห์
ควรส่งเสริมบทบาทสามี
ในการดูแลสตรีตั้งครรภ์รายนี้อย่างไร
การดูแลด้านจิตใจ
การดูแลหญิงตั้งครรภ์ด้วยการหาเมนูอร่อยที่มีประโยชน์ให้กินการดูแลหญิงตั้งครรภ์ด้วยการ
อยู่ใกล้ ๆ การดูแลหญิงตั้งครรภ์ด้วยการชื่นชม
คุณพ่อควรดูแลหญิงตั้งครรภ์ด้วยการหาข้อมูลศึกษาถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้สัญญาณต่าง ๆ
ที่บ่งบอกถึงความผิดปกติเพื่อช่วยดูแลหญิงตั้งครรภ์ระหว่างตั้งครรภ์
การดูแลด้านร่างกาย
คุณพ่อควรดูแลหญิงตั้งครรภ์ด้วยการบีบนวดช่วยให้หญิงตั้งครรภ์ผ่อนคลาย
คุณพ่อควรดูแลหญิงตั้งครรภ์ด้วยการชวนกันไปออกกำลังกายเช่นเดินเล่นสวนสาธารณะ
หรือพาหญิงตั้งครรภ์ไปศึกษาโยคะคนท้องหรือการออกกำลังกายสำหรับคนท้องการดูแล
-ควรดูแลหญิงตั้งครรภ์ด้วยการเตือนสิ่งสำคัญ เช่น คอยเตือนให้หญิงตั้งครรภ์์นับลูกดิ้น
คอยสอบถามอาการในแต่ละวันคอยเตือนให้หญิงตั้งครรภ์ กินวิตามินบำรุงครรภ์หรือกินยา
ตามหมอสั่ง คอยเตือนเรื่องฉีดวัคซีนคอยเตือนให้หญิงตั้งครรภ์ดื่มน้ำบ่อย ๆ
ดัชนีมวลกายและการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัว
ระหว่างตั้งครรภ์ของสตรีรายนี้เป็นอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่
จะให้คำแนะนำอย่างไรในประเด็นนี้
ผิดปกติหญิงตั้งครรภ์น้ำหนักตัวก่อน้งครรภ์ 60 กิโลกรัมส่วนสูง 162 เซนติเมตร BMI 22.86 น้ำหนักตัวหลังตั้งครรภ์ 65 กิโลกรัม (BMI 18.5- 24.9kg / m2 ควรมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 11.5-16 กิโลกรัม)
นักศึกษาจะแนะนำการรับประทาน
ยา Triferdine 1 * 20 pc
Calcium 1 * 1 0 pc อย่างไรจึงจะเหมาะสม
1. Triferdine
ขนาดและวิธีใช้ : วันละ 1 เม็ดหลังอาหารเช้าตลอดการตั้งครรภ์และขณะเลี้ยงลูกด้วยนม
แม่หญิงตั้งครรภ์ ผลข้างเคียง : ผู้ที่รับประทานแคลเซียมบางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ ท้องอืด ท้องเฟ้อ
และท้องผูก การรับประทานอย่างต่อเนื่องในปริมาณมากอาจก่อให้เกิดโรคนิ่วในไตตามมา
2. Calcium
ขนาดและวิธีใช้ : หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร: 1,200 มิลลิกรัม 7 วันหญิงตั้งครรภ์
ผลข้างเคียง : ผู้ที่รับประทานแคลเซียมบางรายอาจมีอาการ 8 คลื่นไส้ท้องอืดท้องเฟ้อและท้องผูกการรับ
ประทานอย่างต่อเนื่องในปริมาณมากอาจก่อให้เกิดโรคนิ่วในไตตามมาผลข้างเคียง
การเปลี่ยนแปลงด้านจิตใจในสตรีตั้งครรภ์รายนี้
เป็นอย่างไรและควรให้การพยาบาลอย่างไร
สร้างสัมพันธภาพกับผู้คลอดด้วยการแนะนำตนเองและให้กาลังใจด้วยคำพูดที่สุภาพเข้าใจง่ายเป็นมิตรรวมทั้งแสดงพฤติกรรมที่บ่งบอกถึงความเข้าใจและเห็นใจเช่นการจับมีเคารพสิทธิและคำนึงถึงความเป็นบุคคลของผู้คลอด ได้แก่ การเรียกชื่อการบอกให้ผู้คลอดทราบถึงเหตุผลของการพยาบาลและการตรวจทุกครั้งไม่เปิดเผยผู้คลอดเกินจำเป็นควรอยู่เป็นเพื่อนให้ผู้คลอดมีโอกาสติดต่อกับญาติโดยพยาบาลผดุงครรภ์เป็นสื่อกลางในการแจ้งข้อมูลรวมทั้งบอกสิ่งที่ผู้คลอดต้องการให้สามีและญาติทราบบางโรงพยาบาลที่อนุญาตให้สามีหรือญาติเข้ามาในห้องตลอดพยาบาลผดุงครรภ์ควรสนับสนุนให้บุคคลเหล่านี้ได้ช่วยเหลือและให้กำลังใจผู้คลอดให้การต้อนรับให้กาลังใจในการปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือผคลอดผู้ป่วยมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ดูแลความสุขสบายด้านร่างกายและอารมณ์โดยการสัมผัสเช่นการลูบหน้าท้องการนวดทั้งนี้อาจต้องสอบถามความต้องการของผู้คลอดด้วยประเมินความต้องการของผู้ตลอดและให้การตอบสนองอย่างเหมาะสมประเมินความวิตกกังวลวามกลัวของผู้คลอดเกี่ยวกับการเจ็บครรภ์กการคลอดและให้การช่วยเหลืออย่างเหมาะสม
17.สตรีรายนี้ควรได้รับการ
ฉีดวัคซีนบาดทะยักอีกหรือไม่
ควรได้รับวัคซีนอีกครั้งคือเข็มที่ 2 อีก 1 เดือนห่างจากเข็มแรกและควรฉีดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนคลอดคือควรฉีดเข็มที่ 2 วันที่ 1 เมษายน 2563 และฉีดเข็มที่ 3 อีก 6 เดือนห่างจากเข็มที่ 2