Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การรับผู้ป่วยใหม่และการจำหน่ายผู้ป่วย ออกจากโรงพยาบาล - Coggle Diagram
การรับผู้ป่วยใหม่และการจำหน่ายผู้ป่วย
ออกจากโรงพยาบาล
ชนิดของการรับผู้ป่วยใหม่
ผู้ป่วยใน (Inpatient)
ระยะเวลาของการนอนพักรักษาในโรงพยาบาลมากกว่า
24 ชั่วโมง
ประสบอุบัติเหตุกระดูกหัก
ผู้ป่วยโรคปอดบวม โรคหัวใจวาย
วางแผนเป็นผู้ป่วยในหรือกรณีไม่เร่งด่วน (Planned or Non-urgent)
ผู้ป่วยในตามปกติ เป็นการรับแบบที่มีการจัดตารางนอนผู้ป่วยไว้ล่วงหน้า
ผู้ป่วยที่นัดมาทำการผ่าตัด
นัดมาเข้ารับการรักษาด้วยการให้ยาเคมีบำบัด
การรับแบบฉุกเฉิน( Emergency admission)
เป็นการนอนพักรักษา
ในโรงพยาบาลแบบไม่ได้วางแผนไว้
รักษาที่แผนกฉุกเฉินก่อนจนอาการคงที่จึงย้ายไปนอนพักรักษาตัวที่หอผู้ป่วย
ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บหน้าอก
การรับโดยตรง (Direct admission)
เป็นการนอนพักรักษาในโรงพยาบาลแบบไม่ได้วางแผนไว้
ไม่ได้ตรวจที่แผนกฉุกเฉิน
ผู้ป่วยนอก (Outpatient)
ระยะเวลาของการอยู่ในโรงพยาบาลน้อยกว่า 24 ชั่วโมง
กลุ่มที่มาตรวจเป็นครั้งๆ ที่แผนกตรวจผู้ป่วยนอก
กลุ่มที่ได้รับการผ่าตัดเล็ก การให้ยาเคมีบำบัดแบบเป็นครั้งๆ
จำเป็นต้องได้รับการเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิดระยะเวลาหนึ่งภายใน 24 ชั่วโมง
มีอาการดีขึ้นก็ให้กลับบ้านได้
ถ้าอาการไม่ดีขึ้นแพทย์อาจพิจารณาให้รับไว้เป็นผู้ป่วยใน
หลักการส่งเสริมการปรับตัวของผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาล
ความแปลกใหม่ต่อสถานที่ สิ่งแวดล้อม บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ต่างๆ ของโรงพยาบาล และการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน
จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องช่วยผู้ป่วยปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง
การอธิบายและแนะนำถึงข้อปฏิบัติตัวต่างๆ ที่ผู้ป่วยต้องการทราบ
ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อตัวผู้ป่วย
ความกังวลต่อความเจ็บป่วย พยาบาลช่วยลดความวิตกกังวลของผู้ป่วยได้
บอกให้ผู้ป่วยทราบถึงโรคที่ผู้ป่วยเป็นอยู่
การพยากรณ์โรค และการรักษา
หากคำถามใดที่ไม่สามารถที่จะตอบ
ผู้ป่วยได้ เนื่องจากข้อมูลไม่เพียงพอ
หาข้อมูลเพิ่มเติม
ควรหรือปรึกษากับผู้เกี่ยวข้องกับคำถามนั้นโดยตรง
ไม่ควรพูดศัพท์ทางการแพทย์หรือภาษาอังกฤษที่ผู้ป่วยไม่เข้าใจ
ประสบการณ์ในอดีตมีความสำคัญต่อการแสดงออกของผู้ป่วย
พยาบาลควรจะพูดคุยกับผู้ป่วยโดยการซักถามถึงประสบการณ์ในอดีตเกี่ยวกับโณงพยาบาล
ให้ทราบทัศนคติของผู้ป่วยเพื่อน าข้อมูลที่ได้มา
มาใช้ในการวางแผนการให้การพยาบาลต่อไปได้ดียิ่งขึ้น
การคำนึงถึงความเป็นบุคคลของผู้ป่วย
พยาบาลจะต้องให้เกียรติผู้ป่วยตาม
ความเหมาะสม
การเรียกผู้ป่วยควรเรียกชื่อ และมีคำนำหน้านามที่เหมาะสม
ความเชื่อและพฤติกรรมต่างๆ เป็นของผู้ป่วย
หากผู้ป่วยมีความเชื่อที่แปลกไปแต่ไม่ทำให้เกิดอันตราย
พยาบาลควรยอมรับไม่แสดงความดูถูก
หรือหัวเราะเยาะ
ควรให้ความเคารพในสิทธิส่วนบุคคลของผู้ป่วย
การวางแผนให้การพยาบาลโดยอาศัยข้อมูลที่ได้จากการสังเกตและการซักถามต่างๆ
แผนการพยาบาลจะเปลี่ยนแปลง
เมื่ออาการหรือปัญหาของผู้ป่วยเปลี่ยน
มีประสิทธิภาพหากผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการวางแผนด้วย
วัตถุประสงค์และขั้นตอนการรับผู้ป่วยใหม่
วัตถุประสงค์
ผู้ป่วยและญาติมีความรู้และปฏิบัติตามกฎระเบียบและกิจวัตรของโรงพยาบาลได้อย่างถูกต้อง
ผู้ป่วยมีเครื่องใช้ที่จำเป็นในการรักษาพยาบาล เหมาะสม ครบถ้วน
ผู้ป่วยได้รับการประเมินปัญหาและความต้องการทางร่างกาย และจิตสังคมได้ถูกต้อง
ผู้ป่วยและญาติคลายความวิตกกังวล เต็มใจและให้ความร่วมมือในการรักษาพยาบาล
ผู้ป่วยมีความปลอดภัยและสุขสบายเพิ่มขึ้น
ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง เหมาะสมกับสภาพความเจ็บป่วย
การเตรียมอุปกรณ์
ตรียมเตียงหรือห้องพักผู้ป่วยให้พร้อมเพื่อต้อนรับการพักรักษาตัวของผู้ป่วย
เอกสารรายงานการรับผู้ป่วยใหม่หรือแบบบันทึกต่างๆ
แบบตรวจสอบการเข้าพักรักษาในโรงพยาบาล (Admission checklist)
แบบบันทึกต่าง ๆ สำหรับจัดทำแฟ้มผู้ป่วย
แบบบันทึกคาร์เดกซ์ (Nursing kardex)
อุปกรณ์ที่จำเป็นตามความเหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย
เสื้อผ้าชุดโรงพยาบาล
ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า เหยือกใส่น้ำและแก้วน้ำ อ่างน้ำ
เสาน้ำเกลือ อุปกรณ์ให้ออกซิเจน อุปกรณ์ดูดเสมหะ
เครื่องมือตรวจสัญญาณชีพ น้ำหนักและส่วนสูง
เทอร์โมมิเตอร์
เครื่องวัดความดันโลหิตและหูฟัง
สมุดบันทึกการรับใหม่
เครื่องใช้ส่วนตัว บางโรงพยาบาลอาจมีเตรียมไว้ให้สำหรับผู้ป่วย
ขั้นตอนการรับผู้ป่วยใหม่
เตรียมสิ่งแวดล้อมเพื่อรับผู้ป่วยใหม
สร้างสัมพันธภาพ ให้การต้อนรับผู้ป่วยและญาติด้วยถ้อยคำ สีหน้า แววตา กิริยาท่าทางที่เป็นมิตร สุภาพ
ตรวจสอบชื่อ นามสกุลของผู้ป่วย การลงทะเบียนรับเป็นผู้ป่วยใน และลายเซ็นรับผู้ป่วยของแพทย์จากบัตรตรวจโรคของโรงพยาบาลให้ตรงกับเจ้าหน้าที่แผนกผู้ป่วยนอกที่แจ้งมา
ชั่งน้ำหนัก และวัดส่วนสูง ตามสภาพอาการของผู้ป่วย
นำผู้ป่วยไปที่เตียง แนะนำให้รู้จักผู้ป่วยอื่นที่อยู่ร่วมห้อง และให้นอนพักสักครู
วัดอุณหภูมิ ชีพจร การหายใจ และความดันโลหิต
อธิบายกิจกรรมการรักษาพยาบาลที่จะให้ผู้ป่วย และให้คำแนะนำ
ชี้แจงนโยบายของโรงพยาบาลและกฎระเบียบ
แนะนำสถานที่และสิ่งแวดล้อมภายในหอผู้ป่วย
สาธิตวิธีการใช้สิ่งต่างๆ
การควบคุมเตียงโดยใช้อุปกรณ์ควบคุม
การเปิด-ปิดไฟ การเปิด-ปิดโทรทัศน
กริ่งหรือสัญญาณขอความช่วยเหลือ
หน้าที่และความรับผิดชอบโดยคร่าวๆ ของเจ้าหน้าที่ในหอผู้ป่วย
แจ้งให้ผู้ป่วยเกี่ยวกับของมีค่าให้ญาติเอากลับบ้าน
ผู้ป่วยสามารถเก็บของส่วนตัวที่ไม่ใช่ของมีค่าไว้ที่โต๊ะข้างเตียง
แนะนำการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมกับโรค
ให้ผู้ป่วยหรือญาติที่มีสิทธิ
ตามกฎหมายเซ็นอนุญาต
ให้พยาบาลเซ็นชื่อเป็นพยาน
หรือยินยอม เข้ารับการตรวจ
รักษา รับเลือด ผ่าตัด แล้วแต่กรณี
เก็บรวบรวมข้อมูลผู้ป่วย โดยการสัมภาษณ์ผู้ป่วยและญาติ การตรวจร่างกาย การส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ให้ความช่วยเหลือหรือให้คำแนะนำในการอาบน้ำแรกรับเข้ารักษาในโรงพยาบาล
เบิกอาหารให้ผู้ป่วยที่เหมาะสมกับโรค และแผนการรักษา
แจ้งแพทย์เจ้าของผู้ป่วยหรือแพทย์ประจำหอผู้ป่วยรับทราบการเข้ารับการรักษา
ลงทะเบียนรับผู้ป่วยใหม่ จัดทำแฟ้มประวัติ (Chart) ตรวจรับแผนการรักษา
การรับแผนการรักษา
วัตถุประสงค์ เพื่อถ่ายทอดแผนการรักษาไปสู่การปฏิบัติได้อย่างถูกต้องครบถ้วน
อุปกรณ์ ประกอบด้วย แผ่นคำสั่งการรักษา ใบรับคำสั่งแผนการรักษา ใบบันทึกการให้ยา ป้ายสำหรับติดขวดสารละลาย ปากกา
วิธีการรับแผนการรักษา
อ่านแผนการรักษาทั้งเฉพาะวันและตลอดไปให้เข้าใจ
กรอกรายละเอียดแผนการรักษาในใบรับคำสั่งแผนการรักษา
หากมีคำสั่งแผนการรักษาให้สารละลายทางหลอดเลือดดำให้เขียนป้ายสำหรับติดขวดสารละลายตามจำนวนที่แพทย์กำหนด
ปฏิบัติตามแผนการรักษา พร้อมทั้งทำเครื่องหมายหรือบันทึกชื่อผู้ทำในใบรับคำสั่งแผนการรักษา
สาเหตุและอุปกรณ์การจำหน่ายผู้ป่วย
การจำหน่ายผู้ป่วยเมื่อมีอาการทุเลาลงจากภาวะที่อันตราย
การจำหน่ายโดย ไม่สมัครอยู่พยาบาลจะต้องอธิบายให้ผู้ป่วยและญาติทราบว่า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับผู้ป่วย แพทย์จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
การจำหน่ายเนื่องจากผู้ป่วยหนีกลับ ในกรณีผู้ป่วยหนีกลับจะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่พยาบาลเพื่อทำการบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
การจำหน่าย เนื่องจากผู้ป่วยถึงแก่กรรม ผู้ช่วยพยาบาลจะต้องให้ความช่วยเหลือในการให้ข้อมูล
การจำหน่ายผู้ป่วยเนื่องจากมีการส่งต่อให้ไปรับการดูแลรักษายังสถานบริการสุขภาพอื่น
การจำหน่ายผู้ป่วย มีวัตถุประสงค์
เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตัวได้ถูกต้องเมื่อกลับไปอยู่บ้าน
เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้ผู้ถึงแก่กรรมได้รับการปฏิบัติอย่างถูกต้องตามขนบธรรมเนียม และความเชื่อทางศาสนา
เพื่อให้ผู้ถึงแก่กรรมมีร่างกายสะอาด อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่สงบเรียบร้อย
เพื่อได้รับการปฏิบัติที่ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย
อุปกรณ์ในการจำหน่ายผู้ป่วย
รายงานผู้ป่วยทั้งหมด
สมุดจำหน่ายผู้ป่วย
เสื้อผ้าผู้ป่วย
บัตรประจำตัวของโรงพยาบาล
ใบนัด
ใบสั่งยา
กรณีถึงแก่กรรมให้เตรียมเครื่องใช้ในการอาบน้ำ
บทบาทพยาบาลในการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยตามรูปแบบ D-M-E-T-H-O-D
การวางแผนจำหน่าย (Discharge planning)
ส่งเสริมให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง
พัฒนาศักยภาพในการดูแลตนเองของผู้ป่วย ครอบครัว
และผู้ดูแล
ลดความวิตกกังวลของผู้ป่วย ครอบครัว และผู้ดูแล
ส่งเสริมการใช้แหล่งประโยชน์ที่จำเป็น
ควบคุมค่าใช้จ่ายของสถานพยาบาล
การดูแลอย่างต่อเนื่อง (Continuing care)
กระบวนการส่งเสริมการดูแลผู้ป่วยภายหลัง
การจำหน่าย
โดยความร่วมมือระหว่างทีมสุขภาพ ผู้ป่วย ครอบครัว และผู้ดูแล
วางแผนการจำหน่ายแบบ D-METHOD
D = Diagnosis
ให้ความรู้เรื่องโรคที่เป็นอยู่ เกี่ยวกับสาเหตุ อาการ
การปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง
M = Medication
ให้ความรู้เกี่ยวกับยาที่ต้องรับประทานอย่างต่อเนื่องที่บ้าน
ข้อควรระวังในการใช้ยา ผลข้างเคียง
ข้อห้ามสำหรับการใช้ยา และการเก็บรักษายา
E = Environment & Economic
กระตุ้นให้ผู้ป่วย/ ครอบครัว/ ผู้ดูแล เห็นความสำคัญ
ของการใช้สถานบริการสุขภาพในชุมชน
การจัดการสิ่งแวดล้อม ที่บ้านให้เหมาะสมกับภาวะสุขภาพ
T = Treatment
แนะนำผู้ป่วย/ ครอบครัว/ ผู้ดูแล ให้เข้าใจเป้าหมายการรักษา
แนะนำให้ปฏิบัติกิจกรรมการรักษา
H = Health
ให้ความรู้เกี่ยวกับข้อจำกัดในการทำกิจกรรมให้เหมาะสมกับภาวะสุขภาพ กระตุ้นให้ผู้ป่วย
มีส่วนร่วมในการเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับภาวะสุขภาพ
O = Outpatient referral
ชี้แจงให้ผู้ป่วย/ ครอบครัว/ ผู้ดูแล ตระหนักและเข้าใจถึง
ความสำคัญของการมาตรวจตามนัด
อาการผิดปกติที่ต้องมาก่อนนัด
D = Diet
ให้ความรู้เรื่องอาหารเฉพาะโรค
หลีกเลี่ยงหรืองดอาหารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ข้อบ่งชี้และการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาภายหลังผู้ป่วยถึงแก่กรรม
Algor mortis อุณหภูมิของร่างกายลดลง 1◦C (1.8◦F) ต่อชั่วโมงจนเท่าอุณหภูมิห้อง
Livor mortis เมื่อการไหลเวียนเลือดหยุด ผิวหนังจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ าๆ (Bluish purple) ตามบริเวณส่วนล่างของร่างกาย
Rigor mortis คือ การแข็งทื่อของร่างกายหลังเสียชีวิต ประมาณ 2-4 ชั่วโมง เกิดจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อโครงกระดูก และกล้ามเนื้อเรียบ
การพยาบาลภายหลังผู้ป่วยถึงแก่กรรม ตามประเพณี และศาสนาของผู้ป่วย
การพยาบาลภายหลังถึงแก่กรรม
การดูแลศพให้เรียบร้อยพร้อมเคลื่อนย้ายไปยังห้องศพ
การแต่งศพจะต้องคำนึงถึงขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมของผู้ตาย
ต้องศึกษาข้อมูลของผู้ตาย
ข้อปฏิบัติจากญาติและให้ญาติได้มีส่วนร่วมด้วย
การพยาบาลภายหลังผู้ป่วยถึงแก่กรรมตามประเพณี
และศาสนาของผู้ป่วย
ทำให้ร่างกายสะอาดและแต่งตัวให้สมฐานะของผู้ตาย
ประเพณีไทยใช้วิธีการรดน้ำศพเป็นการขอขมา
หลักปฏิบัติทางกฎหมายและระเบียบของโรงพยาบาล
กรณีที่เป็นอุบัติเหตุ ฆาตกรรมให้แจ้งนิติเวช
เพื่อหาสาเหตุการตาย
แพทย์จะเป็นผู้เขียนใบมรณบัตร แล้วญาติน าไปแจ้งที่อำเภอภายใน 24 ชั่วโมง