Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Preterm with Early sepsis with mild Respiratory distress syndrome,…
Preterm with Early sepsis with mild Respiratory distress syndrome
ระยะของทารกคลอด
ก่อนกำหนด
ทฤษฎี
ทารกอายุครรภ์น้อยมาก (Extremely prematurity) อายุครรภ์ 23-28สัปดาห์ น้ำหนักแรกเกิด 400-1000 กรัม
ทารกอายุครรภ์น้อยปานกลาง (Moderately prematurity) อายุครรภ์ระหว่าง 29-33 สัปดาห์ น้ำหนักแรกเกิด ประมาณ 1000-1500
ทารกเกิดก่อนกำหนดเล็กน้อย (Late preterm) อายุครรภ์ 34-36 สัปดาห์ปัจจุบันจะเรียกทารก กลุ่มนี้ว่า Late preterm
กรณีศึกษา
ทารกอายุครรภ์น้อยปานกลาง (Moderately prematurity) : อายุครรภ์ 32 สัปดาห์น้ำหนักตัวแรกเกิด 1,780 g.
ลักษณะของทารก
เกิดก่อนกำหนด
ทฤษฎี
น้ำหนักน้อย
รูปร่างรวมทั้งแขนขามีขนาดเล็ก
ศีรษะจะมีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับลำตัว กะโหลกศีรษะนุ่ม รอยต่อกะโหลก ศีรษะและขม่อมกว้าง
เปลือกตาบวมและนูนออกมา ตามักปิดตลอดเวลา
ผิวหนังบางสีแดงและเหี่ยวย่น มองเห็นเส้นเลือดใต้ผิวหนังได้ชัดเจน มักบวมตามมือและเท้า ไขมันคลุมตัว (Vernix caseosa) มีน้อยหรือไม่มีเลย
พบขนอ่อน (Lanugo hair) ได้ที่บริเวณใบหน้า หลังและแขน ส่วนผมมีน้อย
การเจริญของกระดูกหูมีน้อย ใบหูอ่อนนิ่มเป็นแผ่นเรียบ งอพับได้ง่าย
ลายฝ่ามือฝ่าเท้ามีน้อยและเรียบ เล็บมือเล็บเท้าอ่อนนิ่มและสั้น
มีกล้ามเนื้อ และไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous fat) น้อย
กล้ามเนื้อระหว่างกระดูกซี่โครงยังเจริญไม่ดี กระดูกซี่โครงค่อนข้างอ่อนนิ่ม ขณะหายใจอาจถูกกระบังลมดึงรั้งเข้าไปเกิด Intercostal retraction
หัวนมมีขนาดเล็ก หรือมองไม่เห็นหัวนม
ขนาดของอวัยวะเพศค่อนข้างเล็ก ในเพศชายลูกอัณฑะยังไม่ลงในถุงอัณฑะ รอยย่นบริเวณถุง (Rugae) มีน้อย ในเพศหญิงเห็นแคมเล็กชัดเจน
กรณีศึกษา
ทารกแรกคลอด น้ำหนัก 1,780 g.
ลำตัว แขนและขาของทารกมีขนาดเล็ก
ใบหูอ่อนนิ่ม พับงอได้ง่าย
ลายฝ่ามือ ฝ่าเท้า มีน้อย
ทารกหายใจมีลักษณะ Sternal retraction
ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อย
ทฤษฎี
ควบคุมอุณหภูมิร่างกายไม่ได้ ภาวะตัวเย็น
หยุดหายใจ เขียวเป็นพักๆ (hypoxic episode)
ระดับกลูโคสต่ำในเลือด (hypoglycemia)
ตัวเหลือง (hyperbilirubinnemia)
หายใจลำบาก (respiratory distress)
การติดเชื้อ (sepsis)
กรณีศึกษา
หายใจลำบาก (respiratory distress)
การติดเชื้อ (sepsis)
กลุ่มอาการหายใจลำบาก RDS
(Respiratory distress syndrome)
หมายถึง ภาวะหายใจลำบากในทารกที่เกิดก่อนกำหนด เนื่องจากขาดสารลดแรงตึงผิว (Surfactant) ในปอด ที่มีสาเหตุเริ่มต้นจากการเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์ของปอด เป็นปัญหาในระบบทางเดินหายใจในทารกแรกเกิดที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเจ็บป่วยและการตายของทารกเกิดก่อนกำหนด
ปัจจัยเสี่ยง
ทฤษฎี
การเกิดก่อนกำหนด
มารดาเป็นเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง
มารดามีเลือดออกก่อนกำหนด
ทารกที่คลอดโดยการผ่าตัดออกทางหน้าท้อง
ทารกที่มีภาวะเลือดขาดออกซิเจน เลือดเป็นกรดจากเมตาบอลิซึม และอุณหภูมิกายต่ำทำให้การสร้างสารลดแรงตึงผิวลดลง
ทารกมีประวัติว่าพี่เคยเป็น RDS
ทารกแฝดน้องมีโอกาสจะเป็นโรคนี้มากกว่าแฝดพี่
ทารกเพศชาย
กรณีศึกษา
คลอดก่อนกำหนด อายุครรภ์ 32สัปดาห์
คลอดโดยการผ่าตัดออกทางหน้าท้อง
มีภาวะพร่องออกซิเจนหลังคลอด
สาเหตุ
ทฤษฎี
การขาดสารลดแรงตึงผิว ซึ่งอยู่ที่ผิวของถุงลม และมีประโยชน์ในการป้องกันถุงลมแฟบในตอนท้ายและการหายใจออก โดยช่วยให้ลดแรงตึงผิวทำให้ถุงลมคงรูปอยู่ได้ จะเริ่มสร้างสารลดแรงตึงผิวเมื่อทารกมีอายุครรภ์ประมาณ 22 สัปดาห์ และมีปริมาณเพียงพอเมื่ออายุครรภ์ตั้งแต่ 35 สัปดาห์ขึ้นไป สารลดแรงตึงผิว ประกอบด้วย Phospholipid และโปรตีนใน Phospholipid ประกอบด้วย Phosphatidylcholine เป็นส่วนใหญ่ และPhosphatidylglycerol
กรณีศึกษา
เป็นทารกคลอดก่อนกำหนด อายุครรภ์ 32 สัปดาห์ การสร้างสาร surfactant ยังไม่สมบูรณ์
พยาธิสภาพ
การขาดสารลดแรงตึงผิวจะทำให้หลังจากทารกหายใจออกถุงลมจะแฟบ ปริมาตรและความยืดหยุ่นของปอด (Lung compliance) ลดลง ทารกต้องใช้แรงในการหายใจเข้าเพิ่มขึ้น เกิดความไม่สมดุลระหว่างการระบายอากาศ (Ventilation) การกำซาบ (Perfusion) ทำให้ทารกมีภาวะเลือดขาดออกซิเจน(Hypoxemia) มีการคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์ (Hypercapnia) และมีภาวะเลือดเป็นกรด (Metabolism acidosis) จากการเกิดกรดแลคติค ส่งผลให้หลอดเลือดที่ปอดหดตัว จึงทำให้เลือดไปที่เลี่ยงที่ปอดลดน้อยลง ในทารกที่มีอาการรุนแรงอาจจะมีการไหลวงจรของเลือดนอกปอดจากขวาไปซ้าย(Extrapulmonary right-to-left shunting) ที่ ductus arteriosus, Foramen ovale และภายในปอดซึ่งจะทำให้เลือดขาดออกซิเจนรุนแรงมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปความรุนแรงจะเพิ่มมากขึ้นผนังของถุงลมและเซลล์เยื่อบุหลอดหลอดเลือดฝอยที่อยู่รอบถุงลมจะบวมและถูกทำลาย ทำให้โปรตีน Fibrin เม็ดเลือดขาวซึมออกจากหลอดเลือดฝอยและเข้าไปอยู่ด้านในผนังของถุงลม ซึ่งเมื่อย้อมสีและดูด้วยกล้องจุลทรรศน์จะเห็นเป็นลักษณะแผ่นแดงชมพูติดอยู่รอบผนังด้านในของผนังถุงลม เรียกว่า Hyaline ซึ่งพบในทารกที่เสียชีวิตหลังอายุ 6 ชั่วโมง
อาการและอาการแสดง
ทฤษฎี
หายใจเร็ว(Tachypnea) มากกว่า 60 ครั้ง/นาที หรือมีอาการหายใจลำบาก (Dyspnea)
หน้าอกบุ๋ม
มีการหายใจที่ทรวงอกและหน้าท้องเคลื่อนไหวไม่พร้อมกัน
เสียง grunting
หายใจมีเสียงคราง (Moaning)
หายใจปีกจมูกบาน (Nasal flaring)
อาการเขียวเมื่อหายใจออกธรรมดา
อาการอื่นๆ เช่นอุณหภูมิในร่างกายต่ำ ไม่ค่อยเคลื่อนไหว
กรณีศึกษา
ลักษณะการหายใจใช้กล้ามเนื้ออื่นช่วยในการหายใจ ลักษณะ sternal retraction
RR = 78/min
แรกเกิดหายใจมีเสียง grunting
การวินิจฉัย
ทฤษฎี
ประวัติเกิดก่อนกำหนด และปัจจัยส่งเสริม
อาการ และอาการแสดง
การถ่ายภาพรังสี ปอดระดับกระบังลมด้านขวาอยู่สูงกว่ากระดูกซีโครงซี่ที่ 7 และพบจุดเล็กๆ (Ground glass appearance) และพบAir bronchogram
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผลการวิเคราะห์ก๊าซในเลือด เลือดจะมีการขาดออกซิเจน มีคาร์บอนไดออกไซด์สูง และภาวะกรดจากเมตาบอลิซึม
กรณีศึกษา
คลอดก่อนกำหนด อายุครรภ์ 32 สัปดาห์
อัตราการหายใจแรกเกิด 78 ครั้ง/นาที
การหายใจใช้กล้ามเนื้ออื่นช่วยในการหายใจ ลักษณะ sternal retraction
ผลตรวจ Arterial Blood Gas :
pH ต่ำ
pCO2 สูง
pO2 ต่ำ
การรักษา
ทฤษฎี
การให้ออกซิเจน
การให้สารน้ำและอิเล็กโทรไลต์
การรักษาประคับประคองอื่นๆ ได้แก่ การรักษาอุณหภูมิกาย การให้เลือดเพื่อรักษาค่า HCT ให้เกิน 40% การให้ยาปฏิชีวนะหากปอดอักเสบ
การใช้เครื่องช่วยหายใจ
การรักษาโดยการใช้สารลดแรงตึงผิว (Surfactant )
กรณีศึกษา
ได้รับการรักษาโดย On CPAP PEEP 5 Flow 7 FIO2 0.6 และ On O2 box 8 LPM ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ คือ 10%DW 500 ml Keep warm โดยนอนใน Incubator
ภาวะแทรกซ้อน
ทฤษฎี
ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อย ได้แก่ อาการรั่วในปอด PDA ภาวะเลือดออกในช่องสมอง ปอดอักเสบ ภาวะลิ่มเลือดแพร่กระจายในหลอดเลือด และภาวะติดเชื้อ
ภาวะแทรกซ้อนระยะยาว มักเกิดจากการใช้เครื่องหายใจและการให้ออกซิเจนความเข้มข้นสูงเป็นเวลานาน ได้แก่ โรคปอดเรื้อรัง (BPD) การเกิดพิษของออกซิเจนต่อตา (ROP) และ neurodevelopmental disorder
กรณีศึกษา
กรณีศึกษาไม่พบภาวะแทรกซ้อน
ภาวะบิลิรูบินในเลือดสูง
(hyperbilirubinemia)
ภาวะที่มีSerum Bilirubin สูงกว่า 5 มิลิกรัม/เดซิลิตร พบได้บ่อยในทารกแรกเกิด อาจเป็นเหลืองปกติจากสรีระภาวะ( physiological jaundice) หรือภาวะเหลืองผิดปกติจากพยาธิภาวะ (pathological jaundice)เมื่อทารกมีค่าบิลิรูบินใน ซีรั่มเกิน 5 มิลลิกรัม /เดซิลิตร จะปรากฏอาการตัวเหลืองให้เห็นที่ผิวหนัง เปลือกลูกตาและเล็บ อาการเหลืองที่ปรากฏจะเริ่มจากบริเวณใบหน้าเข้าหาลำตัวไปสู่แขนขา ที่ฝ่ามือ และฝ่าเท้า ระดับบิลิรูบินที่สูงมากอาจทำให้สมองพิการและเสียชีวิตได้
พยาธิสภาพ
บิลิรูบินถูกเปลี่ยนเป็น direct bilirubinและถูกขับออกทางลำไส้ได้ช้ากว่าปกติหรือมีการสร้างบิลิรูบินมากเกินปกติ บิลิรูบิน เกิดจากการสลายตัวของ heme ซึ่งประมาณร้อยละ 75 ได้จากเม็ดเลือดแดงที่แตกสลายเมื่อแก่ ตัวลงอีกร้อยละ 25 เป็น hemeได้จากการทำลายของสารอื่นๆ เช่น myoglobin เอนไซม์ใน เซลล์ต่างๆ และเม็ดเลือดแดงตัวอ่อนที่ถูกทำลายในไขกระดูกและม้ามก่อนที่จะเข้ากระแสเลือด
สาเหตุ
ทฤษฎี
มีการสร้างบิลิรูบินเพิ่มขึ้นกว่าปกติจากภาวะต่างๆ
จากการที่มีการทำลายเม็ดเลือดแดง ได้แก่
มีการแตกของเม็ดเลือดแดง
ความผิดปกติของเยื้อหุ้มของเม็ดเลือดแดง
มีความผิดปกติของเอนไซม์ในเม็ดเลือดแดง
มีเลือดออกในร่างกาย เช่น Cephaihematoma
ภาวะเลือดแดงเกิน ( polycythemia )
มีการดูดซึมกลับของบิลิรูบินจากลำไส้เพิ่มขึ้น
มีการกำจัดบิลิรูบินได้น้อยลงจากท่อน้ำอุดตัน
มีการสร้างบิลิรูบินเพิ่มร่วมกับการกำจัดบิลิรูบินได้น้อยลง
กรณีศึกษา
กรณีศึกษาเป็นทารกคลอดก่อนกำหนด
อายุครรภ์ 32 สัปดาห์ มีการกำจัดบิลลิรูบินได้น้อย
เนื่องจากตับทำงานยังไม่สมบูรณ์
ปัจจัยเสี่ยง
ทฤษฎี
ประวัติเหลืองในทารกครรภ์ก่อน
มารดาเป็นเบาหวาน
ทารกเชื้อสายเอเชีย
ทารกคลอดก่อนกำหนด
มารดาได้รับยา Oxytocin
กินนมมารดา
ภาวะเลือดออก เช่น bruising , petechiae,ecchymosis , cephalhematoma, subgaleadhemorrhage
ภาวะเลือดข้น (Polycythemia)
การงดอาหาร
กรณีศึกษา
ทารกเชื้อสายเอเชีย
ทารกคลอดก่อนกำหนด
การรักษา
ทฤษฎี
การรักษาด้วยการส่องไฟ (Phototherapy) แสงสีฟ้า เขียว (blue-greenlight)
ที่มีความถี่ในช่วง 450 - 480 นาโนเมตร จะช่วยลดระดับของซีรั่มบิลิรูบินชนิดที่ไม่ละลายน้ำในไขมันลงได้ ทำให้โครงสร้างของโมเลกลุของบิลิรูบินชนิดที่ไม่ละลายน้ำให้กลับกลายเป็น
สารที่ละลายน้ำได้และถูกขับออกทางปัสสาวะและอุจจาระ
การเปลี่ยนถ่ายเลือด (Exchangetransfusion)โดยทั่วไปควรเปลี่ยนเลือด
เมื่อระดับไมโครบิลลิรูบินสูงกว่า 20 mg/dl ในกรณีที่สาเหตุไม่ได้เกิดจาก
โรคเม็ดเลือดแดงแตกง่ายจะทำการเปลี่ยนเลือดเมื่อระดับไมโครบิลลิรุบินสูง
กว่า 23 mg/dl สำหรับทารกอายุ 3 - 5 วัน และระดับไมโครบิลลิรุบินสูงกว่า
25 mg/dl สำหรับทารกอายุมากกว่า 5 วัน การเปลี่ยนถ่ายเลือดควรทำเมื่อ
ระดับบิลิรูบินไม่ลดลงภายหลังการรักษาโดยการส่องไฟ
กรณีศึกษา
การรักษา โดยการ On photo therapy
ดูแลให้ได้รับสารน้ำทาง Umbilical vein และดูแลให้ทารกให้ได้ดื่มนมตามแผนการรักษา
ภาวะแทรกซ้อน
ทฤษฎี
สมองพิการอย่างเฉียบพลันจากบิลิรูบิน (Acute Bilirubin Encephalopathy)
เคอร์นิกเตอรัส (Kernicterus)
ระยะยาว ร่างกาย แขน ขา รวมทั้งลูกตาเคลื่อนไหวผิดปกติ ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายไม่ได้ และมีความผิดปกติของการได้ยินร่วมด้วย
กรณีศึกษา
กรณีศึกษา ไม่พบภาวะแทรกซ้อนจากภาวะตัวเหลือง
ทารกเกิดก่อนกำหนด
(Premature infant)
ทฤษฎี
หมายถึง อายุครรภ์น้อยกว่า 37 สัปดาห์
การนับอายุของทารกเกิดก่อนกำหนด มีดังต่อไปนี้
อายุครรภ์ (Gestational age, GA) เป็นอายุที่ทารกอยู่ใน ครรภ์มารดานับเป็นสัปดาห์
อายุหลังเกิด (Chronological age) เป็นอายุหลังเกิดของ ทารกนับเป็นวันหรือสัปดาห์
อายุหลังปฏิสนธิ (Postconceptional age, PCA) เป็น อายุในครรภ์รวมกับอายุหลังเกิด ใช้นับไม่เกิน 40 สัปดาห์
อายุจริงหรืออายุที่ปรับแล้ว (Corrected age หรือ Adjusted age) เป็นอายุในครรภ์รวมกับอายุหลังเกิดของทารกที่เกินจาก 40สัปดาห์ นับเป็นสัปดาห์หรือเดือน
กรณีศึกษา
ทารกแรกคลอดแบบ Emergency ceasarean section วันที่ 18 ธันวาคม 2563 อายุครรภ์ 32 สัปดาห์ น้ำหนักตัวแรกเกิด 1,780 g.