Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การประเมินสภาวะทารกในครรภ์, การแปลผล, ถ้าดิ้น< 10 ครั้ง/วัน…
การประเมินสภาวะทารกในครรภ์
ความหมาย
เป็นการตรวจสอบสุขภาพทารกในครรภ์ตั้งแต่ระยะตั้งครรภ์-คลอด
clinic assessment
3.วัดส่วนสูงของมดลูก
4.FHR
5.นับทารกดิ้น(FMC)
count to ten & cardift
นับทารกดิ้น 10 ครั้ง ใน 4 ชม.
เริ่มนับเมื่อ34 wks.
sadovsky
นับดิ้นวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 ชม. หลังอาหารเช้า กลางวัน เย็น ผลรวม ดิ้น 3 เวลา มากกว่าาหรือเท่ากับ 10 ครั้ง = สุขภาพทารกปกติ
การพยาบาล
สร้างสัมพันธภาพ ท่าทางเป็นมิตร
ประเมินอายุครรภ์ / ซักประวัติความรู้สึกทารกดิ้นในครรภ์
อธิบายลักษณะการดิ้น : กลิ้งตัว การยืดหาลำแขน ขา สะอึก
แนะนำวิธิบันทึกการดิ้น
เปิดโอกาสซักถาม
2.ชั่งน้ำหนัก
1.ซักประวัติ
biochemical assessment
เก็บตัวอย่างเลิอดทารกในครรภ์
หาโรคทางพันธุกรรม
ไม่นิยม
ตรวจระดับ estriol(E3)ในเลือดจากปัสสาวะมารดา
จะเพิ่มรวดเร็วตอนอายุครรภ์35-36 wks.เป็นต้นไป
การดูดเนื้อเยื่อรก
transaddominal cdorionic villus samplinh
trancervical chorionic villus sampling
ทะเมื่ออายุครรภ์ 10-14 wks.
ตรวจ human placenta lactogen
เริ่มสร้างในwks.3 หลังจากตกไข่ สูงสุดเมื่อGA 36-37 wks.
คัดกรองจากเลือดมารดาหาระดับแอลฟาฟีโตโปรตีน
ตรวจเมื่ออายุครรภ์ 15 wks.
ค่าปกติ AFP = 2.5 MoM ถ้า>2.5 =เสี่่ยงท่อประสาทเปิด <2.5 = เสี่ยงเป็นดาวน์
การเจาะน้ำคร่ำ
ตรวจโครโมโซมประเมินDown syndome
ประเมินระหว่างอายุครรภ์15-18 wks.
ทดสอบความสมบูรณืของทารก
ประเมินระหว่างอายุครรภ์36-37 wks.
เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดภาวะ respiratory distress syndome
การพยาบาล
ก่อนเจาะน้ำคร่ำ
อธิบายเหตุผล ขันตอนการเจาะ
ประเมินอายุครรภ์ก่อนเจาะ
อธิบายการดูแลตนเองขณะทำและหลังทำ
เปิดให้ซักถาม
เตรียมเครื่องมือก่อนเจาะ
ปัสสาวะก่อนทำ
ให้กำลังใจ
สร้างสัมพันธภาพ
หลังเจาะน้ำคร่ำ
สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้อง เลือดออก
ตรวจหาโครโมโซมเสี่ยงเป็นดาวน์ นัดฟังผล 4 wks.
ให้นอนพัก15-30 น.หลังเจาะ
biophysical assessment
baseline rate : ค่าเฉลี่ยของP ปกติ 110-160 ครั้ง/นาที ใน10 นาที
bradycardia < 110 ครั้ง/นาที
tachycardia > 160 ครั้ง/นาที
variability
P เปลี่ยนไม่สม่ำเสมอ
acceleration
<32 wks. FHR สูงจาก baseline >10 bpm in 10 sec.
32wks FHR สูงจาก baseline > 15 bpm in 15 sec.
deceleration
การลดลงของ FHR
ระยะตั้งครรภ์ วิธีการตรวจ
NST
ทำเมื่อทารกดิ้นน้อยลง ตั้งครรภ์เกินกำหนด ทารกเจริญเติบโตในครรภ์ช้า มีภาวะแทรกซ้อนร่วมกับตั้งครรภ์เช่น เบาหวาน ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด ครรภ์แฝด มีภาวะRh isoimmunization อายุ> 35 yr. มีประวัติทารกตายในครรภ์
การพยาบาล
แนะนำกดปุ่ม fetal movement marker เมื่อรู้สึกทารกดิ้น เคลื่อนไหว
ถ้าจะประเมินการหดรัดตัวมดลูกให้คาดหน้าท้องยอดมดลูกด้วย toco tranducer เพื่อบันทึก ระยะเวาลา ความถี่ห่าง ความรุนแรง
ตรวจหาตำแหน่งหลังส่วนสะบักด้วยวิธีleopold maneuver คาดสายรัดหน้าท้อง โดยให้หัว ultrasonic transducer วางบนตำแหน่งที่ฟีงหัวใจได้ชัดเจน
เปิดเครื่องบันทีการเต้นหัวใจลงบนกราฟนาน 20 นาที
หัวมารดาสูง 30 องศา
เปิดเครื่องบันทีการเต้นหัวใจลงบนกราฟนาน 20 นาที
ปัสสาวะก่อนตรวจ
อธิบายเหตุผล ขั้นตอนการทำNST
ถ้าเด็กไม่ดิ่นเพราะอาจหลับ กระตุ้นหน้าท้องด้วย fetal acustic stimulator
เป็นการตรวจดูอัตราการเต้นของหัวใจที่มีการเคลื่อนไหว
CST
เป็นการตรวจดูการเปลี่ยนแปลงอัตราการเต้นของหัวใจทารกเมื่อมดลูกหดรัดตัว
การพยาบาล
อธิบายเหตุผลของการตรวจสุขภาพ CST
ให้มารดานอนท่า semi-fowler position เพื่อป้องกัน supine hypotensive syndrome
เตรียมoxytocin 5 U in nss 500 ml rate 5-10 drop/min จนกระทั่งมดลูกหดรัดตัว 3 ครั้งใน 10 นาที นานครั้งละ 40-60 วิ.
สร้างสัมพันธภาพ
ประเมิน FHR เมื่อมดลูกหดรัดตัวและรายงานผลให้แพทย์ทราบ
ติดตามการหดรัดตัวของมดลูกทุก 10 น. เพื่อป้องกันคลอดก่อนกำหนด
Fetal biophysical profile(BPP)
เป็นการตรวจหาจาก Ultrasound
ดูการหายใจทารก(FBM) การเคลื่อนไหว(FM) กำลังกล้ามเนื้อ(FT) หัวใจตอบสนองเมื่อทารกเคลื่อนไหว(FHS) ปริมาณน้ำคร่ำ
วืธีประเมิน
การเคลื่อนไหวของลำตัว แขน ขา
ใน 30 น. มีหมุนตัวแขน ขาไปมา อย่างน้อย 3 ครั้ง
ใน 30 น. มีหมุนตัวแขน ขาไปมา น้อยกว่า 2 ครั้ง
กำลังกล้ามเนื้อ
เห็นแขน ขาหรือลำตัวเหยียดออกและหดเข้าบิดไปมาแล้วคืนสภาะหรือเห็นแบมือ กำมือ
ไม่เห็นทารกเคลื่อนไหว หรือเคลื่อนไหวแขน ขาอย่างช้าๆ
การเคลื่อนไหวแสดงถึงการหายใจ
ใน 30 น. เห็นการเคลื่อนไหว แสดงหายใจนาน 30 วิ อย่างน้อย 1 ครั้ง
ผิดปกติ = ใน 30 นาที เห็นการเคลื่อนไหว แสดงหายใจไม่ถึง 30 วิ
การนับอัตราเต้นหัวใจ
ใน20-40 น. มีการเคลื่อนไหวของทารกและP เร็วขึ้นมากกว่า 15 ครั้ง/นาที นาน 15 วิ. อย่างน้อย 2 ครั้ง
ใน20-40 น. P<15 ครั้ง/นาที และ <2 ครั้ง
ปริมาณน้ำคร่ำ
ในแนวดิ่งเห็นน้ำคร่ำอย่างน้อย 1 ช่อง ขนาดไม่น้อยกว่า 2 cm.
ไม่เห็นน้ำคร่ำหรือวัดในแนวดิ่งน้อยกว่า 2 cm.
ระยะคลอด
EFM
ลักษณะ Uterine contraction คุณภาพ ระยะห่าง เวลาที่มีการหดรัดตัวแต่ละครั้ง
FHR Baseline
ความเร็วของกระดาษ แบบ 1 cm/นาทีแบบ 3 cm/นาที
variability
Identify ชื่อผู้ป่วย วันที่ เวลา
Acceleration
Deceleration
Late Deceleration : FHR ค่อยๆลดกลับสู่ Baseline ไม่สัมพันธ์กับการหดรัดตัวของมดลูก
เกิดขึ้นตามหลังการหดรัดตัวของมดลูกที่สูงที่สุด พบใน Utero-placental insufficiency
การพยาบาล
5 more items...
Variable deceleration : มีการลดของ FHR ต่ำกว่า baseline มากกว่า 15 bpm เวลามากกว่า 15 วินาทีแต่น้อยกว่า 2 นาที ความลึก ระยะเวลา ไม่สัมพันธ์กับการหดรัดตัว เกิดจากภาวะที่สายสะดือของทารกถูกกด
variable decelerations : ลักษณะของ late component กลับสู่สภาวะการเต้นของหัวใจที่ปกติช้า หลังการหดรัดตัวสิ้นสุดลง pH ของทารกลดลง
ลักษณะการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ที่ลดลงทันทอาจสัมพันธ์หรือไม่สัมพันธ์กับการหดรัดตัวลักษณะคล้ายกราฟ U-, V- หรือ W- shapedmild หรือ moderate variable decelerations ไม่มีลักษณะ late component ระยะเวลาการเกิดสั้นัตราการเต้นของหัวใจลดลงไม่มาก
การพยาบาล
6 more items...
Early Deceleration : FHR ค่อยๆลด กลับเข้าสู่ Baseline ปกติ สัมพันธ์กับการหดรัดตัวของมดลูก
สาเหตุ ศีรษะของทารกถูกกด ส่วนใหญ่เกิดในช่วงที่มีการเปิดของปากมดลูก 4-7 cm.
การพยาบาล
4 more items...
IFM
ประโยชน์การประเมิน
secondary goal
เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บต่อระบบประสาทของทารกในครรภ์
primary goal
เพื่อป้องกันภาวะพิการแต่กำเนิดและภาวะขาดO2และเลือดเป็นกรดในทารก
วิธีทดสอบความสมบูรณ์ปอดในครรภ์
shake test/form test
ตรวจหาสาร phosphatidyglycerol
วัดอัตราส่วนของ lecithin/sphingomyelin
การวางแผนการดูแลระยะคลอด
Category II : สัมพันธ์กับสภาวะเลือดเป็นกรดของทารกในครรภ์ช่วงเวลานั้น
การที่ไม่มี variability บอกถึง ทารกในครรภ์มีภาวะสมองขาดออกซิเจน
บอกถึงการที่ทารกไม่สามารถ /63 compensate ภาวะ Hypoxia ได้
Absent หรือ Minimal variability with deceleration หรือBrady cardia
Category III : คือลักษณะที่ไม่เข้าเกณฑ์ ทั้ง CAT Iและ CAT II
Recurrent late deceleration
Fetal tachycardia
Bradycardia
Prolong deceleration
Recurrent variable deceleration
Tachysystole
เป็นภาวะที่มดลูกหดรัดตัวมากกว่า 5 ครั้งใน 10 นาที ทารกในครรภ์เสี่ยงเกิดการภาวะขาดออกซิเจน
การดูแลรักษา
ใช้ prostaglandin เหน็บช่องคลอดให้นำเม็ดยาออก
ใช้ oxytocin ให้หยุดการให้ยาหรือลดปริมาณลง
ให้ออกซิเจน
หลังจากหยุดยาหรือเอาเม็ดยาออกแล้วยังมี tachysystole อยู่ แก้ไขด้วย tocolytic drugs เช่น terbutaline(Bricanyl) 0.25 mg ฉีดใต้ผิวหนังหรือทางหลอดเลือด
ให้มารดานอนตะแคงซ้าย
เตรียมผ่าตัดคลอด หลังจากแก้ไขด้วยวิธีข้างต้นแล้วยังไม่สามารถได้
Intermittent Variable deceleration (< 50 %)
Category I : ทารกจะมีภาวะเลือดเป็นกรดน้อยมาก
deceleration
มี Moderate FHR variability (6 ถึง 25 bpm)
FHR baseline อยู่ระหว่าง 110 ถึง 160 bpm
มี early deceleration
การแปลผล
8-10 คะแนน = ปกติ ให้ตรวจซ้ำใน 1 wks.
4-6 คะแนน = เฝ้าระวังใกล้ชิดเนื่องจากขาดO2เรื้อรัง ตรวจซ้ำใน4-6 hr.
0-2 คะแนน = ผิดปกติ ควรคลอดโดยเร็ว
ถ้าดิ้น< 10 ครั้ง/วัน ให้มาพบแพทย์ก่อนนัด เพราะเป็นสัญญาณอันตราจต่อการเกิดภาะขาดออกซิเจน
เรียก movement alarm signal(MAS)