Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โปรเเกรมจัดการฐานข้อมุล, Memo, Lookup Wizard, Bit (บิต), Byte (ไบท์),…
โปรเเกรมจัดการฐานข้อมุล
-
-
ความสัมพันธ์ระหว่างตาราง
เป็นพื้นฐานที่อยู่บนสิ่งที่คุณสามารถบังคับให้มี Referential Integrity เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้มีระเบียนที่ไม่มีการเชื่อมโยงในฐานข้อมูลของคุณ ระเบียนที่ไม่มีการเชื่อมโยงเป็นระเบียนที่มีการอ้างอิงกับระเบียนอื่นที่ไม่มีอยู่ ตัวอย่างเช่น ระเบียนใบสั่งซื้อที่อ้างอิงระเบียนลูกค้าที่ไม่มีอยู่
ER Diagram
ER Diagram คือ แบบจำลองที่ใช้อธิบายโครงสร้างของฐานข้อมูลซึ่งเขียนออกมาในลักษณะของรูปภาพ การอธิบายโครงสร้างและความสัมพันธ์ของข้อมูล (Relationship) ประกอบด้วย
เอนทิตี้ (Entity) หมายถึง ชื่อของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ได้แก่ คน สถานที่ สิ่งของ การกระทำ ซึ่งต้องการจัดเก็บข้อมูลไว้ เช่น เอนทิตี้ลูกค้า เอนทิตี้พนักงาน
- เอนทิตี้ชนิดอ่อนแอ (Weak Entity) เป็นเอนทิตี้ที่ไม่มีความหมาย หากขาดเอนทิตี้อื่นในฐานข้อมูล
แอททริบิวต์(Attribute) หมายถึง รายละเอียดข้อมูลที่แสดงลักษณะและคุณสมบัติของเอนทิตี้ หนึ่ง ๆ เช่น เอนทิตี้นักศึกษา ประกอบด้วย
ความสัมพันธ์ (Relationships) หมายถึง ความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี้ เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี้นักศึกษาและเอนทิตี้คณะวิชา เป็นลักษณะว่า นักศึกษาแต่ละคนเรียนอยู่คณะวิชาใดคณะวิชาหนึ่ง ในการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี้ เราจะใช้หัวลูกศรเพื่อแสดงความสัมพันธ์
-
คีย์ (key)
ในการอ้างอิง การค้นหา การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูล หรือการกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลจะเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องกำหนด คีย์ (Key) ให้กับ Table ก่อน นอกจากนี้การกำหนดคีย์จะทำให้การอ้างอิงและการประมวลผลข้อมูลได้สะดวกขึ้นและยังช่วยประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ คีย์ที่ใช้ในระบบฐานข้อมูลแบ่งออกได้หลายประเภท ดังต่อไปนี้
Primary Key หมายถึง คีย์หลักที่กำหนดจากฟิลด์ที่ไม่มีข้อมูลซ้ำซ้อน (unique) ใน Table เดียวกันโดยเด็ดขาด และจะต้องมีค่าเสมอ จะเป็นค่าว่าง (Null) ไม่ได้ สามารถนำมาจัดเรียงลำดับและแยกแยะข้อมูลแต่ละรายการออกจากกันได้เป็นอย่างดี
Secondary Key หมายถึง คีย์รอง โดยโปรแกรม Access จะเรียกคีย์ชนิดนี้ว่า Index (ดัชนี) ซึ่งเป็นคุณสมบิตหนึ่งในการกำหนดคีย์หลัก (Primary Key) และยังใช้ Index ในการค้นหาและจัดเรียงรายการข้อมูลที่มีจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว
Foreign Key คือ คีย์เชื่อม หรือ คีย์นอกมีไว้สำหรับเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของตารางข้อมูลอย่างน้อย 2 ตาราง
Candidate Key คือ คีย์คู่แข่ง เวลาที่เราทำการเลือกให้ข้อมูลใดเป็น Primary Key นั้นอาจจะเป็นไปได้มากกว่า 1 ข้อมูลซึ่งข้อมูลเหล่านั้นเรียกว่า คีย์คู่แข้ง หรือ Candidate Key
Alternate Key คือ คีย์สำรอง เป็นผลสืบเนื่องมาจาก Candidate Key เมื่อเราทำการเลือกให้ข้อมูลใดเป็น Primary Key เรียบร้อยแล้ว ข้อมูลทั้งหมดที่ไม่ได้ถูกเลือกจะเป็น คีย์สำรอง หรือ Alternate Key
Memo
-
สูงสุด 65,635 ตัวอักษร
ตัวหนังสือหรือตัวเลขที่เป็นคำอธิบาย
หรือบักทึกที่มีความยาวมากๆ
-
-
-
Character (อักขระ)
ตัวอักขระหรือสัญลักษณ์อะไรก็ตามที่พิมพ์ได้จากแป้นพิมพ์ เช่นตัวอักษร (A, B, C, D..) ตัวเลข ( 1, 2, 3.... ) เครื่องหมายต่าง ๆ เช่น $ หรือ @ หรือ-หรือ ^ หรือแม้แต่ช่องว่าง (blank) ก็ถือว่าเป็นตัวอักขระตัวหนึ่งด้วย
Field (เขตข้อมูล)
หน่วยของข้อมูลที่ประกอบขึ้นจากตัวอักขระตั้งแต่หนึ่งตัวขึ้นไปมารวมกันแล้วได้ความหมายของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น ชื่อ ที่อยู่ เป็นต้น
-
Record (ระเบียน)
หน่วยของข้อมูลที่เกิดจากการนำเอาเขตข้อมูลหลาย ๆ เขตข้อมูลมารวมกัน
เพื่อเกิดเป็นข้อมูลเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
-
File (แฟ้มข้อมูล)
หน่วยของข้อมูลที่เกิดจากการนำข้อมูลหลาย ๆ ระเบียนที่เป็นเรื่องเดียวกันมารวมกัน เช่น แฟ้มข้อมูลนักศึกษา แฟ้มข้อมูลลูกค้า แฟ้มข้อมูลพนักงาน
Table (ตาราง)
การจัดเสนอข้อมูลในรูปที่มีช่องแนวตั้งที่เรียกว่า แถว (row) และแนวนอนที่เรียกว่า คอลัมน์ (column) เป็นส่วนสำคัญ การเก็บข้อมูลในรูปของตารางนี้ ทำให้ดูง่าย เข้าใจง่าย และค้นหาง่าย
Entity(เอนทิติ้)
ชื่อของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เปรียบเสมือนคำนาม อาจได้แก่ คน สถานที่ สิ่งของ การกระทำ ซึ่งต้องการจัดเก็บข้อมูลไว้
Database (ฐานข้อมูล)
กลุ่มของข้อมูลที่ถูกเก็บรวบรวมไว้ โดยมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน โดยไม่ได้บังคับว่าข้อมูลทั้งหมดนี้จะต้องเก็บไว้ในแฟ้มข้อมูลเดียวกันหรือแยกเก็บหลาย ๆ แฟ้มข้อมูล
-
-
-
-
-
-
Hyperlink
สูงสุด 2,048 ตัวอักษร
จุด Link ต่างๆ
แบบหนึ่งต่อหนึ่ง
ความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง เป็นความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งหนึ่งกับสิ่งหนึ่งที่มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เช่น อธิการบดีมีหน้าที่บริหารมหาวิทยาลัยเพียงมหาวิทยาลัยเดียวและในมหาวิทยาลัยนั้น ๆ จะมีอธิการบดีบริหารงานในขณะนั้น ๆ เพียงคนเดียวเช่นกัน สามารถเขียนเป็นไดอะแกรมได้ดังนี้
แบบหนึ่งต่อกลุ่ม
ความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อกลุ่ม เป็นความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งหนึ่งกับสิ่งหนึ่งที่มีเพียงหนึ่งกับอีกด้านหนึ่งเป็นกลุ่ม เช่น สมาชิกผู้บริจาคโลหิตสามารถบริจาคโลหิตได้หลาย ๆ ครั้งและการบริจาคนั้นบริจาคโดยสมาชิกคนเดียว สามารถเขียนเป็นไดอะแกรมได้ดังนี้
แบบกลุ่มต่อกลุ่ม
ความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่ม เป็นความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งหนึ่งกับสิ่งหนึ่งที่มีได้หลาย ๆ อย่าง เช่น นักศึกษาสามารถลงทะเบียนเรียนได้หลาย ๆ รายวิชาและในแต่ละรายวิชามีนักศึกษาลงทะเบียนเรียนได้หลาย ๆ คน สามารถเขียนเป็นไดอะแกรมได้ดังนี้
-
-
-
- แอททริบิวต์ที่อยู่นักศึกษา