Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการคลอด - Coggle Diagram
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการคลอด
ชนิดของการคลอด แบ่งออกเป็น 2 ชนิด
1.การคลอดปกติ (Normal labour)
-อายุครรภ์ครบกำหนด
คือ อายุครรภ์ตั้งแต่ 38 สัปดาห์ขึ้นไปจนถึง 42สัปดาห์
คือ ถ้าก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ ถือว่าเป็นการคลอดก่อนกำหนด
แต่ถ้า อายุครรภ์มากกว่า 42 สัปดาห์ ถือว่าเป็นการคลอดเกินกำหนด
-ทารกมียอดศีรษะเป็นส่วนนำ
คือ ศีรษะคลอดออกมาทางท้ายทอยต้องอยู่ทางด้านหน้าของช่องเชิงกราน
-ขบวนการคลอดทั้งหมดเป็นไปตามธรรมชาติ
คือ ไม่ต้องใช้เครื่องมือ
-ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มเจ็บครรภ์จริงจนคลอดรวมกันไม่เกิน 24 ชม.
-ไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆเกิดขึ้นในระยะคลอด
2.การคลอดผิดปกติหรือคลอดยาก
-คลอดโดยที่ต้องได้รับความช่วยเหลือ
-โดยต้องใช้เครื่องมือต่างๆในการช่วยทำคลอด
-ส่วนใหญ่เกิดจากทารกมีส่วนนำผิดปกติศีรษะทารกไม่ได้สัดส่วนกัน
องค์ประกอบของการคลอด
1.Power (แรงผลักดัน)
แบ่งออกเป็น 2 ชนิด
1.แรงผลักดันที่ 1
คือ แรงที่เกิดจากการหดรัดตัวของมดลูกส่วนบน
-เกิดจากการเปิดขยายของปากมดลูก
-การเคลื่อนต่ำของทารก
-การก้มของศีรษะทารก
2.แรงผลักดันที่ 2
คือ แรงเบ่งของสตรีตั้งครรภ์
-เกิดจากการหดรัดตัวของกล้ามเนื้อหน้าท้องและกระบังลม
-เกิดจากการอยากถ่ายอุจจาระและอยากเบ่งซึ่งเกิดขึ้นในระยะที่2
2.Passage (ช่องทางคลอด)
แบ่งออกเป็น 2 ส่วน
1.ช่องทางคลอดส่วนที่เป็นกระดูก
คือ ส่วนที่มีอิทธิพลต่อการคลอด เช่น ขนาดและรูปร่างของเชิงกราน
2.ช่องทางคลอดส่วนที่เป็นเนื้อเยื่อ
คือ เป็นช่องที่สามารถยืดขยายหรือตัดให้ขาดหรือมีการฉีกขาดได้
3.Passengers (สิ่งที่คลอดออกมา)
คือ ทารก รก เยื่อหุ้มเด็ก และน้ำคร่ำ
ส่วนสำคัญของการคลอด ได้แก่ ทารก เนื่องจากขนาด และรูปร่าง เหมาะสมกับช่องคลอด โดยใช้ศีรษะเป็นส่วนนำ
ศีรษะทารก
ขม่อมหน้า(greater)
ขม่อมหลัง(lesser)
Temporal
ส่วนสำคัญของศีรษะทารก
-หน้า
-หน้าผาก
-ยอดศีรษะ
-ท้ายทอย
-ใต้ท้ายทอย
เส้นผ่าศูนย์กลางและเส้นรอบวงศีรษะ
-Occipitofrontal (OF)
-Biparietal
-Bitemporal
-Occipitomental (OM)
-Suboccipitobregmatic (SOB)
-โดยทั่วไปแล้ว ศีระษะทารกผู้ชายจะใหญ่กว่าผู้หญิง
-ครรภ์หลังจะใหญ่กว่าครรภ์แรก
ความสัมพันธ์ในส่วนต่างๆของตัวเด็ก
Lie แบ่งเป็น 2 ชนิด
1.ความยาของลำตัวเด็กอยู่ในแนวตามยาวของโพรงมดลูก
2.ลำตัวหรือสันหลังเด็กจะอยู่ในแนวขวางกับความยาวของโพรงมดลูก
Attitude
1.Flexion attitude คือ ศีรษะเด็กจะก้มคางชิดอก
2.Deflexion attitude คือ ศีรษะเด็กจะเงย
4.Presentation (ส่วนนำ)
คือ ส่วนที่ต่ำสุดของเด็กที่อยู่ส่วนล่างของมดลูก
1.Cephalic presentation
Vertex presentation ลักษณะเด็กอยู่ในทรงก้มงอ
Face presentation ลักษณะเด็กเงยแหงน
Brow presentation ลักษณะเด็กเงย
2.Breech presentation
Frank breech presentation
Footling presentation
Knee presentation
Complete breech presentation
3.Shoulder presentation
-พบในทารกที่อยู่ใน transverse lie
4.Compound presentation
คือ ส่วนทารกผ่านลงช่องเชิงกรานมากกว่าหนึ่งส่วนขึ้นไป
5.Funic presentation
คือ สายสะดือทารกอยู่ต่ำกว่าส่วนนำ
Denomitor
Vertex presentation ส่วนท้ายทอย occiput หรือ O
2.Brow presentation กระดูก frontal หรือ F
3.Face presentation คาง mentrum หรือ M
4.Breech presentation กระดูก sacrum หรือ S
5.Shoulder presentation กระดูก scapula (Sc)
5.Position (ท่าของเด็ก)
ท่าของผู้คลอด(position of labour)
ท่าในแนวตรง เช่น ท่ายืน ท่านั่งยองๆ ท่ายกศีรษะ
ภาวะร่างกาย(physical condition)
ผู้คลอดมีอาการอ่อนเพลีย หมดแรง ขาดน้ำ
6.Psychological condition (ภาวะจิตใจ)
-ผู้คลอดมีความวิตกกังวล ความเครียด ความกลัวต่างๆ
-ประสบการณ์ความเจ็บปวดหรือการคลอดในอดีต
-เกิดจากสภาพแวดล้อมทางสังคมและครอบครัว
สรีรวิทยาของการเจ็บครรภ์และการหดรัดตัวของมดลูก
Phase O
เรียกว่า ระยะสงบ เป็นระยะที่มดลูกเงียบสงบ
Phase I
เรียกว่า ระยะเตรียมตัว เป็นระยะที่มีการเปลี่ยนแปลงการทำงานของมดลูก
Phase II
เรียกว่า ระยะหดรัดตัว เป็นระยะที่มดลูกหดรัดตัวในช่วงเจ็บครรภ์คลอดจริง
Phase III
เรียกว่า ระยะคืนสู่สภาพสงบ เป็นระยะที่มดลูกเปลี่ยนแปลงเพื่อกลับสู่สภาพปกติ
อาการและอาการแสดงเมื่อใกล้คลอด
1.อาการท้องลด(lightening)
-เกิดจากทารกเคลื่อนเข้าช่องเชิงกรานพบในสตรีตั้งครรภ์ 10-14 วันก่อนคลอด
-ถ่ายปัสสาวะบ่อยเนื่องจากส่วนนำของทารกกดทับกระเพาะปัสสาวะ
-รู้สึกปวดหน้าท้องในอุ้งเชิงกราน ปวดขา หัวเหน่า
2.มีสารคัดหลั่งจากช่องคลอด(mucous show)
-ทำให้ปากมดลูกนุ่มลงและเปิดขยายเล็กน้อย
-เกิดจากสารคัดหลั่งที่คอมดลูกจะหลุดออกมามีลักษณะเป็นเมือกเหนียวๆ
3.การนุ่มของปากมดลูก(ripening of cervix)
-จะพบว่าปากมดลูกมีความนุ่มมากขึ้น
-หดสั้นและบางลง
4.อาการปวดหลัง(persistent backache)
-จะมีการผลิตฮอร์โมน relaxin ออกมา
-เกิดการคลายตัวของมดลูกส่วนล่างถูกดึงรั้งเพิ่มขึ้น
5.ถุงน้ำทูนหัวแตก(spontaneous rupture of membranes)
-ถุงน้ำคร่ำแตกในปลายระยะที่ 1 หรือต้นระยะที่2 ของการคลอด
-ส่วนใหญ่ภายใน 8-12 ชม.หลังจากถุงน้ำคร่ำแตกมีอาการเจ็บครรภ์จริง
6.อาการน้ำหนักลดลงและการเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินอาหาร
-ฮอร์โมน estrogen และ progesterone สูญเสียน้ำออกจากร่างกาย
-ทำให้น้ำหนักลดลง 0.5-1.5 กก.
-ทำให้ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน
7.การทำกิจกรรมเพิ่มขึ้น(increase in level ofactivity)
-เมื่อครบกำหนดสตรีตั้งครรภ์จะตื่นนอนเร็ว
-ทำกิจกรรมต่างๆมากขึ้น
-ในช่วง 1-2 วันก่อนคลอด สตรีตั้งครรภ์อาจเตรียมทุกอย่างให้พร้อมเช่น จัดบ้าน
8.เจ็บครรภ์เตือน(false labour pain)
-ใกล้คลอดประมาณ 2-3 สัแดาห์ก่อนคลอดมดลูกจะหดรัดตัวไม่สม่ำเสมอ
-ความถี่และความรุนแรงไม่เพิ่มขึ้น จะไม่รู้สึกปวด