Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การดูแลทารกแรกเกิด - Coggle Diagram
การดูแลทารกแรกเกิด
-
-
สรีวิทยาของทารกแรกเกิด
ระบบขับถ่ายปัสสาวะ
ทารกแรกเกิดจะถ่ายปัสสาวะทันทีหลังคลอดแต่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง ลักษณะปัสสาวะใสสีเหลืองอ่อน ไม่มีกลิ่น อาจพบลักษณะปัสสาวะสีชมพูหรือแดงคล้ายอิฐ เนื่องจาก uric acid ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็น hematuria ได้
-
-
-
ระบบทางเดินอาหาร
-
-
ทารกจะขับถ่ายขี้เทา ซึ่งประกอบไปด้วย meconium ในลำไส้ lanugo hair และ venix Caseosa มีลักษณะเหนียวข้นสีดำอมเขียว ไม่มีกลิ่นส่วนใหญ่เด็กจะถ่ายขี้เทาใน 24 ชั่วโมง อาจรอได้ถึง 48 ชั่วโมง
-
วันที่ 3-4 เด็กจะถ่ายอุจจาระมีลักษณะสีเหลืองอมเขียว เป็นเม็ด ๆ ปนน้ำเล็กน้อยอุจจาระระยะนี้เรียกว่า Transitional stool ต่อเมื่อเด็กได้นมในระยะต่อมาจึงจะถ่ายเป็น True stool ซึ่งจะพบในวันที่ 5-6
เด็กที่กินนมแม่จะถ่ายอุจจาระเป็นสีเหลืองเข้ม มีส่วนประกอบที่เป็นน้ำสูง ความเป็นกรดสูงกว่านมผสม เด็กที่กินนมผสม อุจจาระจะซีดขาว แห้งกว่า บางคราวจะเห็นมี curd นมเป็นเม็ด ๆ
-
ระบบทางเดินหายใจ
ทารกจะหายใจอย่างต่อเนื่องจากการที่ถุงลมขยายตัวและมีสารลดแรงตึงผิว ทำให้ถุงลมคงรูปอยู่ได้ประมาณครึ่งหนึ่งของอากาศจากการหายใจครั้งแรกจะยังคงอยู่ในปอด ซึ่งจะเป็นปริมาณของก๊าซที่เหลืออยู่ในปอดหลังการหายใจออกตามปกติ
การร้องครั้งแรกของทารกแรกเกิดจะทำให้ความดันในปอดเพิ่มขึ้น เป็นสาเหตุให้น้ำในปอดไหลเข้าสู่ช่องว่างระหว่างเซลล์ (intercellular space) และดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด และระบบน้ำเหลือง ส่วนมากน้ำในปอดจะดูดซึมภายใน 2-3 ชั่วโมงและดูดซึมหมดภายใน 24 ชั่วโมง
-
Periodic breathing: เป็นลักษณะการหายใจที่พบได้ในทารกคลอดก่อนกำหนดคือจะหายใจเร็วสลับกับหยุดหายใจเป็นพัก ๆ โดยจะหายใจเร็ว 10-20 วินาทีสลับกับหยุดหายใจ 5-10 วินาทีช่วงที่ทารกหยุดหายใจจะไม่เขียวชีพจรไม่เปลี่ย
เกิดจาก
การเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่เกิดขึ้นในเลือด ความเป็นกรดเป็นด่างของเลือดลดต่ำลง ระดับ O2 ต่ำระดับ CO2 เพิ่มขึ้น จะไปกระตุ้น chemoreceptor ทำให้เกิดการหายใจ
-
-
-
-
ระบบไหลเวียนโลหิต
-
ระบบโลหิต
ภายหลังคลอด ไขกระดูกจะทำหน้าที่สร้างเม็ดเลือด โดยในทารกคลอดครบกำหนดจะมีปริมาณเลือดประมาณ 85 มิลลิลิตร / กิโลกรัมในสัปดาห์แรก
ค่าฮีโมโกลบินมีประมาณ 15-20 กรัมเปอร์เซ็นต์ และลดลงเหลือประมาณ 12 กรัมเปอร์เซ็นต์ในสัปดาห์ที่ 8 หลังคลอด ซึ่งไขกระดูกของทารกแรกเกิดจะเริ่มกระตุ้นให้มีการสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่ออายุประมาณ 6 เดือน
เม็ดเลือดขาวในระยะแรกเกิดสูงประมาณ 15,000-25,000 ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร ร้อยละ 40-80 เป็นนิวโตรฟิล (Neutrophil) และจะลดลงเท่าผู้ใหญ่เมื่ออายุประมาณ 13-14 ปี
ระดับเกร็ดเลือดในทารกแรกเกิดประมาณ 150,000-250,000 ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร และจะเพิ่มเท่าผู้ใหญ่ในเดือนที่ 3 หลังคลอด
การแข็งตัวของโลหิต Coagulation factors ยังทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่ โดยเฉพาะสารที่ต้องพึ่งวิตามินเคเช่น Factors I, VI, IX และ X เนื่องจากวิตามินเคในกระแสเลือดมีน้อยจึงเป็นสาเหตุให้เลือดออกง่ายพบในช่วง 2-3 วันแรกหลังคลอด และจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นในปลายสัปดาห์แรกหลังคลอดเมื่อร่างกายมีวิตามินเคเพิ่มขึ้น
-
-
-
การใช้พลังงาน
ในระยะ 2-3 ชั่วโมงแรกหลังเกิด ส่วนใหญ่ทารกได้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรตที่สะสมไว้ ต่อมาในวันที่ 2 และ 3 ส่วนใหญ่จะได้จากไขมัน หลังจากนั้นจึงกลับมาใช้จากคาร์โบไฮเดรตเพิ่มขึ้น
ในวันแรก ต้องการพลังงาน 40-50 แคลอรี่ / กก. / วันแล้วค่อยๆเพิ่มเป็น 100-120 แคลอรี่ / กก. / วันภายหลัง 7 วัน
ระบบภูมิคุ้มกัน
IgM : เป็นภูมิคุ้มกันตัวแรกที่ร่างกายสร้างได้เอง มีคุณสมบัติต่อต้านเชื้อแบคทีเรียแกรมลบ IgM เริ่มสร้างเมื่ออายุครรภ์ 20 สัปดาห์และสร้างเพิ่มมากขึ้นหลังเกิด 2-3 วันและจะมีปริมาณเท่ากับผู้ใหญ่ใหญ่เมื่ออายุ 1 ปี
IgA : เป็นภูมิคุ้มกันที่ไม่สามารถผ่านรก IgA จะช่วยป้องกันโรคในระบบทางเดินอาหาร และระบบทางเดินหายใจ IgA พบในน้ำนมโดยเฉพาะน้ำนมเหลือง (colostrum)
IgG : เป็นภูมิคุ้มกันที่สามารถผ่านรก มีคุณสมบัติต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ทารกแรกเกิดจะมีปริมาณ lgG ใกล้เคียงกับมารดาและจะหมดไปในเวลา 6-8 เดือน
สารน้ำและอิเล็คโทรลัยต์
ทารกแรกเกิดมรปริมาณของน้ำในร่างกายต่อน้ำหนักตัวมากว่าผุ้ใหญ่ ยิ่งทารกเกิดก่อนกำหนดก็ยิ่งมีจำนวนน้ำสูงขึ้น
-
-
-