Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาษาคอมพิวเตอร์🌹 - Coggle Diagram
ภาษาคอมพิวเตอร์🌹
ประเภทของภาษา😎
ภาษาระดับต่ำ(Low Level Language)✨
มีการพัฒนาภาษาคอมพิวเตอร์ขึ้นอีกระดับหนึ่ง โดยการ
ใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษเป็นรหัสแทนการทำงานการใช้และการตั้งชื่อ
ตัวแปรแทนตำแหน่งที่ใช้เก็บจำนวนต่างๆซึ่งเป็นค่าของตัวแปรนั้นๆ
การใช้สัญลักษณ์ช่วยให้การเขียนโปรแกรมนี้เรียกว่า“ภาษาระดับต่ำ”
ภาษาระดับต่ำเป็นภาษาที่มีความหมายใกล้เคียงกับภาษาเครื่องมาก
บางครั้งจึงเรียกภาษานี้ว่า“ภาษาอิงเครื่อง” (Machine – Oriented
Language) ตัวอย่างของภาษาระดับต่ำได้แก่ ภาษาแอสเซมบลีเป็น
ภาษาที่ใช้คำในอักษรภาษาอังกฤษเป็นคำสั่งให้เครื่องทำงาน เช่น ADD
หมายถึงบวกSUBหมายถึงลบเป็นต้น
ภาษาเครื่อง(Machine Language)👌
การเขียนโปรแกรมเพื่อสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน
ในยุคแรกๆ จะต้องเขียนด้วยภาษาซึ่งเป็นที่ยอมรับของเครื่อง
คอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า “ภาษาเครื่อง” ภาษานี้ประกอบด้วย
ตัวเลขล้วน ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถท ํางานได้ทันที
ผู้ที่จะเขียนโปรแกรมภาษาเครื่องได้ ต้องสามารถจำรหัสแทน
คำสั่งต่างๆได้และในการคำนวณต้องสามารถจำได้ว่าจำนวน
ต่างๆที่ใช้ในการคำนวณนั้นถูกเก็บไว้ที่ตำแหน่งใดดังนั้น
โอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดในการเขียนโปรแกรมจึงมีมาก
นอกจากนี้เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละระบบมีภาษาเครื่องที่
แตกต่างกันออก ทำให้เกิดความไม่สะดวกเมื่อมีการเปลี่ยน
เครื่องคอมพิวเตอร์เพราะจะต้องเขียนโปรแกรมใหม่ทั้งหมด
ภาษาระดับสูง(High Level Language)🎂
ภาษาระดับสูงเป็นภาษาที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยอำนวยความสะดวก
ในการเขียนโปรแกรมกล่าวคือลักษณะของคำสั่งจะประกอบด้วย
คำต่างๆในภาษาอังกฤษซึ่งผู้อ่านสามารถเข้าใจความหมายได้ทันที
ผู้เขียนโปรแกรมจึงเขียนโปรแกรมด้วยภาษาระดับสูงได้ง่ายกว่าเขียนด้วย
ภาษาแอสเซมบลีหรือภาษาเครื่องภาษาระดับสูงมากมายหลายภาษา
อาทิเช่นภาษาฟอร์แทรน (FORTRAN) ภาษาโคบอล (COBOL)
ภาษาปาสคาล(Pascal)ภาษาเบสิก(BASIC)ภาษาวิชวลเบสิก
(Visual Basic) ภาษาซี (C) และภาษาจาวา (Java) เป็นต้น
ภาษาฟอร์แทรน(Fortran)✔
จัดเป็นภาษาระดับสูงที่เก่าแก่ที่สุดได้รับการคิดค้นขึ้นเป็น
ครั้งแรกราวพ.ศ. 2497 โดยบริษัท ไอบีเอ็ม เป็นภาษาที่เหมาะสำหรับ
งานที่ต้องการการคำนวณเช่น งานทำงด้านวิท ยาศาสตร์
วิศวกรรมศาสตร์ และงานวิจัยต่างๆ เนื่องจากแนวคิดในการเขียน
โปรแกรมในระยะหลังนี้เปลี่ยนมานิยมการเขียนโปรแกรมแบบโครงสร้าง
มากขึ้นลักษณะของคำสั่งภาษาฟอร์แทรนแบบเดิมไม่เอื้ออำนวยที่จะให้
เขียนได้ จึงมีการปรับปรุงโครงสร้างของภาษาฟอร์แทรนให้สามารถเขียน
โปรแกรมแบบโครงสร้างขึ้นมาได้ในปี พ.ศ. 2509 เรียกว่า FORTRAN 66
และในปี พ.ศ. 2520
ภาษาโคบอล(Cobol)🎶
เป็นภาษาที่พัฒนาขึ้นในราว พ.ศ. 2502 ต่อมาได้รับการ
ปรับปรุงจากคณะกรรมการซึ่งเป็นตัวแทนของหน่วยงานธุรกิจและรัฐบาล
ของสหรัฐอเมริกา เป็นภาษาโคบอลมาตรฐานในปี พ.ศ. 2517 เป็นภาษา
ที่เหมาะสมสำหรับงานด้านธุรกิจเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ส่วนมาก
มีโปรแกรมแปลภําษําโคบอล
ภาษาเบสิก(ฺBasic)💖
เป็นภาษาที่ได้รับการคิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่วิทยาลัยดาร์ทมัธ
(Dartmouth College) และเผยแพร่เป็นทางการในปี พ.ศ. 2508
ภาษาเบสิกเป็นภาษาที่สร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้สอนเพื่อใช้สอน
เขียนโปรแกรมแทนภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาอื่น เช่น ภาษาฟอร์แทรน
ซึ่งมีขนาดใหญ่และต้องใช้หน่วยความจำสูงในการทำงาน ซึ่งไม่เหมาะกับ
เครื่องคอมพิวเตอร์ในสมัยนั้น ภาษาเบสิกเป็นภาษาที่มีขนาดเล็ก เป็น
ตัวแปลภาษาชนิดที่เรียกว่ําอินเทอร์พรีเตอร์
ภาษาปาสคาล(Pascal)🐬
ตั้งชื่อตามนักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ชื่อ เบลส ปาสคาล
(Blaise Pascal) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องคิดเลขโดยใช้เฟืองหมุน
ภาษาปาสคาลคิดขึ้นในปี พ.ศ. 2514 โดยนิคลอส เวียซ (Niklaus Wirth)
ศาสตราจารย์วิชาคอมพิวเตอร์ชาวสวิต ภาษาปาสคาลได้รับการออกแบบ
ให้ใช้ง่ายและมีโครงสร้างที่ดี จึงเหมาะกับการใช้สอนหลักการเขียน
โปรแกรม ปัจจุบันภาษาปาสคาลยังคงได้รับความนิยมใช้ในการเรียน
เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ภาษาซีเเละซีพลัสพลัส(C เเละ C++)🐖
ภาษาซีเป็นภาษาที่พัฒนาจากห้องปฏิบัติการเบลล์ของบริษัทเอทีแอนด์ที
ในปี พ.ศ. 2515 ภาษาซีเป็นภาษาที่นิยมในหมู่นักเขียนโปรแกรมมาก และมีใช้
งานในเครื่องทุกระดับ ทั้งนี้เนื่องจากภาษาซีได้รวมเอาข้อมูลของภาษําระดับสูงและ
ภาษาระดับต่ำเข้าไว้ด้วยกัน กล่าวคือเป็นภาษาที่มีไวยากรณ์ที่เข้าใจง่าย ทำให้
เขียนโปรแกรมได้ง่ายเช่นเดียวกับภาษาระดับสูงทั่วไป แต่ประสิทธิภาพและ
ความเร็วในการทำงานดีกว่ามาก เนื่องจากมีการทำงานเหมือนภาษาระดับต่ำ
สามารถทำงานได้ในระดับที่เป็นการควบคุมฮาร์ดแวร์ได้มากกว่าภาษาระดับสูงอื่น
ดังจะเห็นว่าภาษาซีเป็นภาษาที่สามารถพัฒนาระบบปฏิบัติการได้ เช่น
ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์
ภาษาวิชวลเบสิก(Visual Basic)🐉
เป็นภาษาที่พัฒนาต่อมาจากภาษาเบสิก ใช้ไวยากรณ์
บางส่วนของภาษาเบสิกในการเขียนโปรแกรม แต่มีแนวคิดและ
วิธีการพัฒนาโปรแกรมที่แตกต่างจากภาษาเบสิกโดยสิ้นเชิง
รวมทั้งการใช้เนื้อที่ในหน่วยความจำก็แตกต่างกันมาก ทั้งนี้
เนื่องจากภาษาวิชวลเบสิกใช้แนวคิดที่ต่างออกไป
การเขียนโปรเเกรมเเบบจินตภาพ(Visual Programming)🐷
ภาษานี้พัฒนาขึ้นโดยบริษัทไมโครซอฟต์ออกแบบเพื่อ
เขียนโปรแกรมที่สามารถใช้งานได้บนระบบปฏิบัติการแบบจียู
ไอ เช่น ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟต์วินโดวส์ มีการติดต่อกับ
ผู้ใช้โดยใช้รูปภาพ การเขียนโปรแกรมทำได้ง่ายกว่าการเขียน
โปรแกรมแบบเก่ามาก
ภาษาจาวา(Java)🎪
พัฒนาขึ้นในปี พ.ศ. 2534 โดยบริษัทซันไมโครซิสเตมส์
เป็นภาษาที่ได้รับความนิยมสูงมาโดยตลอด เนื่องจากเป็นภาษาที่มีความ
ยืดหยุ่นสูง สามารถเขียนโปรแกรมและใช้งานได้บนเครื่องคอมพิวเตอร์
ทุกประเภทและระบบปฏิบัติการทุกรูปแบบ ในช่วงแรกที่เริ่มมีการนำ
ภาษาจาวามาใช้งานจะเป็นการใช้งานบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็น
ภาษาที่เน้นการทำงานบนเว็บ แต่ปัจจุบันสามารถสามารถนำมา
ประยุกต์สร้างโปรแกรมใช้งานทั่วไปได้
ภาษาเดลฟาย(Delphi)🎨
เป็นภาษาที่ได้รับความนิยมภาษาหนึ่ง แนวคิดในการเขียน
โปรแกรมภาษาเดลฟายเหมือนกับแนวคิดในการเขียนโปรแกรมภาษา
วิชวลเบสิก คือ เป็นการเขียนโปรแกรมเชิงจินตภาพ แต่ภาษาพื้นฐานที่
ใช้ในการเขียนโปรแกรมจะเป็นภาษาปาสคาล ในการเขียนโปรแกรมเชิง
จินตภาพนี้มีคอมโพเนนต์ (Component) ที่สามารถใช้เป็นส่วนประกอบ
เพื่อสร้างส่วนติดต่อผู้ใช้ที่เป็นแบบกราฟิกทำให้ซอฟต์แวร์ที่พัฒนามี
ความน่าสนใจและใช้งานง่ายขึ้น
ความหมาย❤
สำหรับใช้ติดต่อสั่งงานกับคอมพิวเตอร์
ภาษาคอมพิวเตอร์จะเป็น “ภาษาระดิษฐ์” (Artificial
Language) ที่มนุษย์คิดสร้างมาเอง เป็นภาษาที่มีจุดมุ่งหมําย
เฉพาะ มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัวและจำกัด คืออยู่ในกรอบให้ใช้คำ
และไวยากรณ์ที่กำหนดและมีการตีความหมายที่ชัดเจน
จึงจัดภาษาคอมพิวเตอร์เป็นภาษาที่มีรูปแบบเป็นทางการ
(Formal Language) ต่างกับภาษาธรรมชาติที่มีขอบเขต
กว้างมาก ไม่มีรูปแบบตายตัวที่แน่นอน