Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Case Study เตียง 8 🤱🏻 นศพต.จิตร์ญาณี คงแก้ว เลขที่11 ชั้นปีที่3 -…
Case Study เตียง 8 🤱🏻
นศพต.จิตร์ญาณี คงแก้ว เลขที่11 ชั้นปีที่3
ข้อมูลส่วนบุคคล.
ประวัติส่วนตัว
มารดาหลังคลอด อายุ 30 ปี G1P0
คลอด Normal Labor อายุครรภ์ 38+6 Wks. by date
คลอดทารกเพศหญิง น้ำหนัก 3,020 กรัม
ประวัติการเจ็บป่วย
ปฏิเสธประวัติการเจ็บป่วย
ปฏิเสธการแพ้ยา แพ้อาหาร
ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา ไม่มีประวัติการผ่าตัด
ประวัติการตั้งครรภ์
G1P0 อายุครรภ์ 38+6 Wks by date.
มาฝากครรภ์ทั้งหมด12ครั้ง ที่โรงพยาบาลตำรวจ
ประวัติการคลอดปัจจุบัน
คลอด Normal Labor คลอดเวลา 17.05 น.
น้ำหนัก 3,020 กรัม Blood Loss 100 ml.
no problem at birth
ตัดฝีเย็บแบบRight Mediolateral Episiotomy tear degree 2
วันที่รับไว้ในความดูแล
วันที่ 21 ธันวาคม 2563.
T : 36.3 องศาเซลเซียส
BP : 120/80mmHg
PR : 78ครั้ง/นาที
RR : 18ครั้ง/นาที
PS : =0 ปวดมดลูก =0 ปวดแผลฝีเย็บ
คำแนะนำหลังกลับบ้าน. 💒
มดลูก ควรคลึงมดลูกให้กลมแข็ง และมดลูกควรลดขนาดลงวันละ 0.5-1 นิ้ว เมื่อครบ 2สัปดาห์ จะไม่สามารถลำพบก้อนที่บริเวณหน้าท้องได้ ถ้ายังคลำพบอยู่ แสดงว่ามดลูกยังไม่เข้าอู่ ควรรีบมาพบแพทย์
น้ำคาวปลา 1-3 วันแรกหลังคลอด น้ำคาวปลามีสีแดงคล้ำและข้น ประกอบด้วยเลือดเป็นส่วนใหญ่ 4-9 วันหลังคลอด น้ำคาวปลาสีแดงชมพู หรือสีเหลือง ยืดได้จากการมีเม็ดเลือดขาวและน้ำเหลือง
10 วันหลังคลอด น้ำคาวปลาสีเหลืองครีมๆจนถึงสีขาว และปริมาณลดลง จนไม่มีน้ำคาวปลา น้ำคาวปลาที่ผิดปกติ จะมีสีเขียว กลิ่นเหม็นมาก หรือมีสีแดงสด มีกลิ่นและปริมาณมาก ควรรีบมาพบแพทย์
แผลฝีเย็บ ควรทำความสะอาดทุกครั้งหลังปัสสาวะหรืออุจจาระด้วยสบู่และน้ำสะอาด ทำความสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลัง ไม่ย้อนกลับ และซับให้แห้ง ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 2-3 ชั่วโมง ห้ามใช้ผ้าอนามัยแบบสอด
น้ำนม ควรกระตุ้นให้ทารกดูดนมทุก 2-3ชั่วโมงหรือเมื่อทารกร้องหิวนม และควรอมลึกถึงลานนม ดูดให้เกลี้ยงเต้า และดูแลให้ทารกได้รับนมแม่เพียงอย่างเดียวจนถึง6เดือน เริ่มให้ทารกได้รับอาหารเสริม เช่น ฟักทองบด เป็นต้น เต้านมคัดตึง ควรใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นจัดประคบและนวดบริเวณเต้านมจนรู้สึกว่าเต้านมเริ่มนิ่ม หัวนมแตกมารดาสามารถใช้น้ำนมป้ายบริเวณหัวนมแทนการทาครีมบำรุงได้ ไม่ควรฟอกสบู่บริเวณหัวนมเพราะอาจทำให้หัวนมแตกเพิ่มมากขึ้น
การมีเพศสัมพันธุ์ ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ใน 6สัปดาห์หลังคลอดเนื่องจากมารดาหลังคลอดยังมีการเปิดของปากมดลูก อาจทำให้มีการติดเชื้อได้และฮอร์โมนยังต่ำอยู่ ทำให้ปากมดลูกแห้ง
การรับประทานอาหาร
มารดาควรรับประทานอาหารให้ครบ5หมู่ รับประทานอาหารเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากร่างกายต้องนำพลังงานในการสร้างน้ำนม เน้นรับประทานโปรตีน เช่น เนื้อ นม ไข่ เดื่อให้ร่างกายนำสารอาหารไปเสริมสร้างซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ควรรับประทานผักใบเขียวมากๆ เนื่องจากจะไปเสริมธาตุเหล็กในร่างกาย ผลไม้ควรรับประทานผลไม้ที่มีวิตามินซี เนื่องจากจะไปกระตุ้นการดูดซึมของธาตุเหล็กเพิ่มมากขึ้น เช่น มะละกอ ชมพู่ ลูกพีช ไม่แนะนำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม สับปะรด เนื่องจากอาจส่งผลให้ทารกท้องเสียได้ อาหารที่ช่วยเสริมสร้างการสร้างน้ำนม เช่น หัวปลี แกงเลียง ขิง ใบกระเพรา งดรับประทานอาหารหมักดอง อาหารสุกๆดิบๆ เพราะอาจส่งผลให้ทารกท้องเสียได้ งดรับประทานอาหารรสจัด และชากาแฟ แอลกอฮอล์
การพักผ่อนนอนหลับ
มารดาหลังคลอดใน2สัปดาห์แรกควรได้รับการพักผ่อนนอนหลับ วันละ 8-10 ชั่วโมง เนื่องจากร่างกายเหนื่อยล้าจากการคลอด
ประจำเดือน
มารดาหลังคลอดที่ ให้นมบุตรเองจะไม่มีประจำเดือน แต่ถ้าระหว่างให้นมบุตรก็สามารถมีประจำเดือนได้ไม่ถือว่าผิดปกติ โดยการให้นมแม่ไม่ใช่การคุมกำเนิด หากเกิน3เดือนไปแล้วสามารถตกไข่เมื่อใดก็ได้ถ้าไม่มีการคุมกำเนิดประเภทอื่น ก็อาจตั้งครรภ์ได้
การบริหารร่างกายหลังคลอด
แนะนำให้มารดาหลังคลอดทำ Kegel Exercise หรือการขมิบช่องคลอด ซึ่งช่วยให้กล้ามเนื้อช่องคลอดกลับมาสู่ ภาวะปกติได้เร็วขึ้น และไม่ควรออกกำลังกายหนักๆหรือยกของหนักเพราะอาจทำให้มดลูกหย่อนได้ ให้ออกกำลังกายโดยการทำงานบ้านเบาๆ ไม่ขึ้นลงบันไดบ่อยๆ
การทำความสะอาดร่างกาย
มารดาอาบน้ำได้ตามปกติ แต่ไม่ควรแช่น้ำในอ่างหรือว่ายน้ำ เนื่องจากปากมดลูกยังปิดไม่สนิทอาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ทางช่องคลอดเกิดการติดเชื้อได้
พยาธิสภาพของหญิงตั้งครรภ์หลังคลอดที่เปลี่ยนแปลงไป. 🦠
การมีประจำเดือน หญิงหลังคลอดจะไม่มีประจำเดือนจากการที่ระหว่างการตั้งครรภ์รังไข่หยุดทำงานและการเพิ่มของ Estrogen HM และ Progesterone HM มารดาที่เลี้ยงทารกด้วยนมตนเองจะเริ่มมีประจำเดือน 9เดือนหลังคลอด มารดาที่ไม่ได้เลี้ยงทารกด้วยนมตนเองจะเริ่มมีประจำเดือน 7-9สัปดาห์หลังคลอด
แผลฝีเย็บ. หลังคลอดจะมีอาการปวดบริเวณฝีเย็บ จะมีลักษณะบวม อาจมีเลือดออกใต้ผิวหนัง Labia minora และ Labia majora เหี่ยวและอ่อนนุ่มมากขึ้น โดยจะหายเป็นปกติภายใน 5-7วัน
ปากมดลูก. หลังคลอดปากมดลูกอ่อนนุ่ม มีรอยช้ำและรอยฉีกขาดเล็ก 1สัปดาห์ เริ่มกลับสู่สภาพเดิมเกือบสมบูรณ์ 6สัปดาห์ เป็นรูปยาวรีไม่กลมเหมือนก่อนตั้งครรภ์
ช่องคลอดและเชิงกราน. หลังคลอดเยื่อบุช่องคลอดจะบางลงรอยย่นลดลงและยืดขยายได้มากขึ้น. หลังจาก 3สัปดาห์ ช่องคลอดจะค่อยๆกลับสู่สภาพเดิม กล้ามเนื้อบริเวณเชิงกรานจะมีความตึงตัว และจะดีขึ้นในสัปดาห์ที่ 4สามารถขมิบช่องคลอด(Kegel Exercise)เพื่อให้กล้ามเนื้อมีการตึงตัวได้
ทางเดินอาหาร. มารดาอาจมีอาการท้องผูก เนื่องจากกล้ามเนื้อหน้าท้องหย่อนตัว การเคลื่อนไหวของลำไส้ช้าลง และการสูญเสียแรงดันภายในช่องท้องทันที
ผิวหนังและอุณหภูมิ หลังคลอดฝ้าบริเวณใบหน้าซึ่งมีมากในระยะตั้งครรภ์จะค่อยๆหายไป Linea nigra จะหายไปใน6สัปดาห์หลังคลอดส่วน Striae gravidarum จะไม่หายไปแต่สีจะจางลง อุณหภูมิ 24ชั่วโมงแรกอาจมีอถณหภูมิของร่างกายสูงขึ้นได้ แต่ไม่เกิน 38 องศาเซลเซียส เรียกว่า Reactionary fever จากการขาดน้ำและการเสียพลังงาน
น้ำคาวปลา (Lochia)
Lochia rubra 2-3วันแรกหลังคลอด ลักษณะสีแดงคล้ำและข้น ประกอบด้วยเลือดเป็นส่วนใหญ่
Lochia serosa 4-9วัน ลักษณะสีจางแดงชมพู หรือค่อนข้างเหลือง เนื่องจากมีเม็ดเลือดขาวน้ำเหลืองปน
Lochia alba 10วันหลังคลอด ลักษณะสีเหลืองจางๆหรือสีขาว ปริมาณจะค่อยๆน้อยลงจนถึงไม่มี
Foul loch น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็นเน่า
มดลูก (Uterus) ลดขนาดลงวันละ 1/2 - 1 นิ้ว. โดยภายหลังคลอดทันทีมดลูกจะอยู่ระหว่างสะดือกับหัวหน่าวและมีน้ำหนักประมาณ 1,000 กรัม. 1ชั่วโมงต่อมามดลูกจะลอยตัวขึ้นมาอยู่ระหว่างสะดือ. 7 วันหลังคลอดมดลูกอยู่ระหว่างหัวหน่าวกับสะดือประมาณ3นิ้ว 2สัปดาห์หลังคลอดมดลูกอยู่ระหว่างหัวหน่าวหรือคลำไม่พบทางหน้าท้อง 6สัปดาห์หลังคลอดมดลูกมีขนาดเท่ากับก่อนตั้งครรภ์คือประมาณ 50 กรัม
เต้านม. Estrogen , Progesterone HM ลดลง. Anterior pituitary gland หลั่ง prolactin ผลิตน้ำนม Posterior pituitary gland หลั่ง oxytocin หลั่งน้ำนมและทำให้มดลูกหดรัดตัว
ระบบทางเดินปัสสาวะและไต. ใน24 ชั่วโมงแรกหลังคลอดเยื่อบุกระเพราะปัสสาวะอาจบวมแดงและมีอาการบวมช้ำรอบๆ รูเปิดของท่อปัสสาวะ การยืดขยายของกระเพราะปัสสาวะลดลง ทำให้ความไวต่อแรงกดจะลดลง ทำให้กระเพราะปัสสาวะเต็มและมีปัสสาวะค้างอยู่หลังถ่ายปัสสาวะทุกครั้ง จึงควรกระตุ้นให้ถ่ายปัสสาวะทุก 4-6 ชั่วโมง
น้ำหนักตัว (Weight loss) หลังคลอดทันทีน้ำหนักตัวจะลดลง ประมาณ 5-6 กิโลกรัม ในระยะ 1สัปดาห์ น้ำหนักจะลดลงอีก 2-4กิโลกรัม 6สัปดาห์ จะคงที่เท่ากับก่อนตั้งครรภ์
จิตใจ
ระยะที่1 Taking in phase มารดาอ่อนเพลียต้องการพิ่งพา ช่วยเหลือ ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
ระยะที่2 Taking hold phase มารดาสนใจบุตรมากขึ้น และเริ่มให้นมบุตร สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
ระยะที่3 Letting go phase ผู้ป่วยเริ่มปรับตัวเข้าสู่บทบาท ต้องการพึ่งพาอาศัยกันระหว่างสามีภรรยา
การคุมกำเนิด. 🌡
มารดาหลังคลอดที่เลี้ยงลูกด้วยนมบุตรควรคุมกำเนิดโดยวิธีการคุมกำเนิดแบบไม่มีฮอรโมนหรือคุมกำเนิดแบบที่มีฮอร์โมนเดี่ยวเนื่องจาก ฮอร์โมน Estrogen อาจทำให้ปริมาณน้ำนมลดลงได้
การคุมกำเนิดที่ไม่มีฮอร์โมน -ถุงยางอนามัย เป็นวิธีคุมกำเนิดที่สามารถซื้อได้ง่ายและช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ง่าย -ห่วงกำเนิดที่มีทองแดง เป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงคุมกำเนิดได้ 3-5ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของห่วงไม่มีผลข้างเคียงจากฮอร์โมนประจำเดือนจึงมาสม่ำเสมอ แต่ในข่วง 3-6เดือนแรกหลังใส่ห่วง อาจมีประจำเดือนมากขึ้นและปวดมดลูกมากขึ้น -การทำหมันหญิง เป็นการคุมกำเนิดแบบถาวร จึงเหมาะสำหรับสตรีที่มีบุตรเพียงพอแล้ว สามารถทำหมันได้ขณะผ่าตัดคลอดบุตรหรือหลังคลอดบุตรทางช่องคลอดแล้ว 24-48 ชั่วโมง
การคุมกำเนิดที่มีฮอรโมนควรเป็นชนิดที่มีฮอรโมนโปรเจสเตอโรนชนิดเดียว เนื่องจากไม่มีผลต่อปริมาณหรือคุณภาพของน้ำนมไม่มีผลต่อการเจริญเติบโตหรือพัฒนาการของทารกสามารถเริ่มใช้ได้ตั้งแต่ 6สัปดาห์หลังคลอด
การคุมกำเนิดชนิดฮอรโมนรวมทีมีทั้งฮอรโมนEstrogen และProgesterone เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอรโมนรวม ยาฉีดคุมกำเนิดชนิดฮอรโมนรวม แผ่นแปะคุมกำเนิด และวงแหวนคุมกำเนิด
13B
Background
G1P0 GA 38+6 Wks. คลอด Normal Labor ทารกเพศหญิง น้ำหนัก 3,020 กรัม
ปฏิเสธประวัติการเจ็บป่วย
ปฏิเสธการแพ้อาหาร และยา
ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา ไม่มีประวัติการผ่าตัด
Body Condition.
Day 0 : ไม่มีซีด อ่อนเพลียเล็กน้อย พยาบาลช่วยเหลือกิจกรรมบนเตียงบางส่วน.
Day 1: มารดามีสีหน้าดีขึ้น สามารถช่วยเหลือตนเองได้
Body Temperature & Blood presure
วันที่ 19/12/63 T : 37.2 องศาเซลเซียส BP : 12/84 mmHg PR : 86ครั้ง/นาที RR : 20ครั้ง/นาที PS : =2 ปวดมดลูก =2 ปวดแผลฝีเย็บ
วันที่ 20/12/63 T : 36.7 องศาเซลเซียส BP : 120/80mmHg PR : 78ครั้ง/นาที RR : 18ครั้ง/นาที PS : =1 ปวดมดลูก =1 ปวดแผลฝีเย็บ
วันที่ 21/12/63 T : 36.3 องศาเซลเซียส BP : 120/80mmHg PR : 78ครั้ง/นาที RR : 18ครั้ง/นาที PS : =0 ปวดมดลูก =0 ปวดแผลฝีเย็บ
Breast and Lactation
หัวนมไม่สั้น ไม่บอด ลานนมนุ่ม เต้านมคัดตึงเล็กน้อย น้ำนมไม่ค่อยไหล
Belly & Fundus
ระดับยอดมดลูก (21/12/63) 4นิ้วเหนือหัวหน่าว มดลูกหดรัดตัวดี
Bladder
ไม่พบปัญหา bladder Full มารดาสามารถ Void ได้เอง
Bleeding & Lochia
Day 0 : Bleeding per vagina 120 ml in 12 hrs. น้ำคาวปลาสีแดงเข้ม ไม่มีกลิ่นเหม็น
Day 1 : Bleeding per vagina 20 ml น้ำคาวปลาสีแดงจางๆไม่มีกลิ่นเหม็น.
Bottom
ตัดฝีเย็บแบบ Right Mediolateral episiotomy tear degree ประเมินแผลฝีเย็บตาม REEDA :ไม่แดง ไม่บวม ไม่มีช้ำ ไม่มีจ้ำเลือด ไม่มี Dischargeซึม แผลชิดติดกันดี
Bowel Movement
Day 0 : ยังไม่ถ่ายอุจจาระ มีท้องอืดเล็กน้อย.
Day 1 : ยังไม่ถ่ายอุจจาระ มีท้องอืดเล็กน้อย
Blue.
Day 0 : มารดาไม่มีอ่อนเพลีย
Day 1 : ,มารดาสนใจบุตร นำบุตรมานอนไว้ข้างๆ ให้ความสนใจบุตร
Baby
ทารกไม่มีแผลบริเวณศีรษะและใบหน้า หายใจปกติ ไม่มีretraction สีแดงดี ไม่มีภาวะซีด ร้องเสียงดัง สะดือสดไม่มี Discharge
Bonding.
มารดาสนใจและเป็นห่วงบุตรเอาลูกมานอนข้างๆตัวเสมอ
Belief
มารดารับประทานอาหารครบ5หมู่ ไม่อยู่ไฟหลังคลอด
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
เสี่ยงต่อภาวะตกเลือดหลังคลอด (Day 0)
ข้อมูลสนับสนุน. OD: เสียเลือดระหว่างการคลอด 100 ml.
-คลอดทารกน้ำหนัก 3,020 กรัม
-ตัดฝีเย็บแบบ RML แผล 2 degree tear
-มีแผลในโพรงมดลูก
กิจกรรมการพยาบาล
ตรวจวัดสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง โดยเฉพาะความดันโลหิตสูง ถ้าพบว่าสัญญาณชีพผิดปกติ เช่น ชีพจรเบาเร็ หายใจเร็วขึ้น ความดันโลหิต เพิ่มขึ้นในระยะแรกและเริ่มลดต่ำลงในระยะหลัง ควรรายงานแพทย์ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการช่วยเหลือทันที
สังเกตและตรวจการหดรัดตัวของมดลูก โดยคลึหน้าท้องบริเวณยอดมดลูกทุก 2-3ชั่วโมงคลึงให้มดลูกกลมแข็ง และคลึงอย่งนุ่มนวล เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อมดลูกหดรัดตัวดีขึ้น และถ้าตรวจพบว่ามดลูกลอยอยู่สูงผิดปกติ เนื่องจากปัสสาวะเต็ม ขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก ต้องดูแลให้ผู้ป่วยปัสสาวะทุก 4 ชั่วโมง
สังเกตลักษณะ สี กลิ่น และปริมาณเลือดที่ออกจกช่องคลอดและแผลฝีเย็บโดยใส่ผ้า
อนามัยไว้ ประเมินและบันทึกทุก 2-3 ชั่วโมง ในระยะ 24ชั่วโมงแรก ไม่เกิน 500 ml และ
ควรเปลี่ยนผ้าอนมัยทุก 2-3 ชั่วโมง และในส่วนของการประเมินแผลฝีเย็บ สังเกตลักษณะ
แผลฝีเย็บว่ามีบวมแดง ช้ำ Hematoma มีDischage ซึม แผลแห้งติดกันดีหรือไม่
ประเมินและกระตุ้นให้มารดา Voidได้เองใน 6-8 ชั่วโมงหลังคลอด หลังจากนั้น Void ทุก 3-4 ชั่วโมง ในระยะ 24 ชั่วโมงแรก เนื่องจากป้องกันภาวะ Bladder Full ขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก และประเมินภาวะขาดน้ำจากการเสียเลือด
ประเมินและสังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการเสียเลือด คือ กระสับกระส่าย ใจสั่น ตัวเย็น หนมืด เหงื่อออกมาก ชีด อ่อนเพลีย และมีเลือดออกมาก หรือปวดบริเวณแผลฝีเย็บมาก
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับการพักผ่อนบนเตียง ลดการใช้พลังงาน และจัดทนอนศีรษะต่ำ เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้อย่างเพียงพอ**
วัตถุประสงค์ : เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะตกเลือดหลังคลอด
เกณฑ์การประเมินผล.
V/S อยู่ในเกณฑ์ปกติ
BP : 90-120/60-80 mmHg.
PR : 60-100 ครั้ง/นาที
RR : 14-22 ครั้ง/นาที
PS : = 0คะแนน
มดลูกหดรัดตัวดี คลำได้เป็นก้อนกลมแข็ง.
ปริมาณเลือดออกทางช่องคลอดไม่เกิน 500 cc ใน 24
ชั่วโมงแผลฝีเย็บไม่บวมแดง ไม่ช้ำ ไม่มี Hematoma ไม่มีDischarge ซึม แผลแห้งติดกันดี
4.ไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากการเสียเลือด คือ กระสับ
กระส่าย ใสั่น ตัวเย็น หน้ามืด เหงื่อออกมาก ซีดอ่อนเพลีย
5.ไม่พบอาการขาดน้ำ
การประเมินผล
V/S อยู่ในเกณฑ์ปกติ
-T : 36.7 องศาเซลเซียส
BP: 120/80 mmHg
PR: 78ครั้ง/นาที
RR: 18ครั้ง/ นาทีPS=2(ปวดมดลูก) = 2(ปวดแผลฝีเย็บ) 2. มดลูกหดรัดตัวดี คลำได้เป็นก้อนกลมแข็ง โดยระดับยอดมดลูกอยู่ที่ 3.5นิ้ว เหนือกระดูกหัวหน่าว
Bleeding per vagina 20 ml.
มารดาอ่อนเพลียเล็กน้อยแต่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากการเสียเลือด เช่น กระสับกระส่าย ใจสั่น ตัวเย็น หน้ามืด เหงื่ออกมาก และไม่มีอาการขาดน้ำ
ผู้ป่วยมีภาวะไม่สุขสบายเนื่องจากมีอาการปวดจากการหดรัดตัวของมดลูกและเจ็บแผลฝีเย็บ (Day 0)
ข้อมูลสนับสนุน
OD: - Pain Score ที่โพรงมดลูกและแผลฝีเย็บ=1คะแนน(20/12/63)
-ผู้ป่วยมีแผลจากการตัดฝีเย็บแบบ RMLแผล 2 degree tear
วัตถุประสงค์ ผู้ป่วยสุขสบายขึ้น มีอาการเจ็บปวดลดลง
เกณฑ์การประเมินผล
-ระดับการปวดของแผลฝีเย็บและมดลูกลดลง มีสีหน้าสดชื่นสามารถทำกิจวัตรประจำวันด้วยตนเองได้
กิจกรรมการพยาบาล.
ประเมินความเจ็บปวดของมารดาหลังคลอดเกี่ยวกับ ลักษณะความรุนแรงของความเจ็บปวดเพื่อให้การช่วยเหลืออย่างถูกต้อง โดยการประเมิน สังเกตอาการแสดงความเจ็บปวด เช่น สีหน้า แสดงความเจ็บปวด ซักถามถึงอาการปวดต่างๆหลังคลอด
แนะนำท่านอนในท่าที่สบายบรรเทาความเจ็บปวดเช่น แนะนำให้นอนตะแคงด้านตรงข้ามกับที่มีแผลฝีเย็บ ให้ขมิบก้นก่อนนั่ง เพื่อป้องกันการบาดเจ๋บโดยตรงที่มีแผลฝีเย็บ
แนะนำการเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เพื่อลดการกระทบกระเทือนแผลฝีเย็บ
4.แนะนำและจัดให้นอนคว่ำใช้หมอนรองบริเวณหน้าท้องจะช่วยให้น้ำคาวปลาไหลสะดวก ลดอาการปวดมดลูกและให้บริหารกล้ามเนื้อเชิงกรานโดยการขมิบช่องคลอดจะช่วยให้เลือดไหลเวียนดี
5.ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษาของแพทย์คือ paracetamal(500mg) 1เม็ด เมื่อจำเป้นและสังเกตผลข้างเคียงคือมีอาการไข้ หนาวสั่น อุจจาระเป็นเลือดหรือมีผื่นคัน เจ็บคอ
ดูแลไม่ให้เต้านมคัดตึง โดยในรายที่ไม่สามารถให้บุตรดูดนมได้ควรปฏิบัติดังนี้ 1.สวมเสื้อยกทรงพยุงเต้านมไว้ หรือใช้ผ้ารัดเต้านมไว้ 2. หลีกเลี่ยงการกระตุ้นการหลั่งน้ำนมไว้หรือใช้ผ้ารัดเต้านมไว้
พูดคุยให้กำลังใจ พูดอย่างนุ่มนวล ส่งเสริมสัมพันธภาพในครอบครัว ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดลดลง
การประเมินผล ผู้ป่วยมีสหน้าสดชื่น ไม่บ่นเจ็บปวดมดลูกและแผลฝีเย็บ สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ตามปกติ เจ็บปวดให้น้อยลงและพักผ่อนนอนวันละ 8ชั่วโมง
3.เสี่ยงต่อการติดเชื้อหลังคลอด (Day 1)
ข้อมูลสนับสนุน
OD: - ผู้ป่วยตัดฝีเย็บแบบ RML แผล 2 degree tear
แผลฝีเย็บไม่มีบวมหรือแดง ไม่มี Discharge ซึม แผลแห้งติดกันดี
น้ำคาวปลาสีแดงจาง ไม่มีกลิ่นเหม็น
วัตถุประสงค์ ป้องกันการติดเชื้อที่โพรงมดลูกและแผลฝีเย็บ
เกณฑ์การประเมินผล
V/S อยู่ในเกณฑ์ปกติ
T: 36.5-37.4 องศาเซลเซียส
BP : 90-120/60-80 mmHg
PR: 60-100 ครั้ง/นาที
RR: 14-22ครั้ง/นาที
PS: 0
มดลูกหดรัดตัวดี คลำได้เป็นก้อนกลมแข็ง
ปริมาณเลือดออกทางช่องคลอดไม่เกิน 500 CC ใน 24 ชั่วโมง 4. แผลฝีเย็บไม่บวมแดง ไม่ช้ำ ไม่มีHematoma ไม่มี Discharge ซึม แผลแห้งติดกันดี 5. น้ำคาวปลาไม่มีความผิดปกติ ไม่มีสีเหลือง เขียวหรือมีกลิ่นเหม็น
กิจกรรมการพยาบาล
ล้างมือให้สะอาดอย่างถูกวิธีก่อนและหลังการให้พยาบาลทุกครั้ง และให้การพยาบาลโดยใช้หลักเทคนิกปลอดเชื้อ
ตรวจวัดสัญญาณชีพ ทุก4ชั่วโมง เพื่อประเมินอาการนำของการติดเชื้อ
ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกอย่างน้อยวันละ2ครั้งและเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 2-3ชั่วโมงหรือเมื่อชึ่มเต็มแผ่น
ติดตามประเมินและสังเกตลักษณะแผลฝีเย็บทุกวันถ้ามีอาการอักเสบ บวมแดงอสจเกิดการติดเชื้อได้ ควรรีบรายงานแพทย์
สังเกต จำนวน สี ลักษณะและกลิ่นของน้ำคาวปลา ถ้ามีความผิดปกติกลิ่นเหม็นเน่าอาจเกิดการติดเชื้อได้ ควรรีบรายงานแพทย์
ตรวจวัดระดับยอดมดลูกและลงบันทึกทุกวันว่าลดหรือไม่ โดยระดับยอดมดลูกควรลดลงวันละ 0.5-1นิ้ว
ดูแลให้คำแนะนำการรักษาความสะอาดของปากฟัน ความสะอาดของร่างกายสามารถอาบน้ำได้ตามปกติแต่ไม่ควรแช่อ่างอาบน้ำหรือว่ายน้ำและเน้นยำกาทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธ์ุภายนอก โดยล้างจากด้านหน้าไปด้านหลัง
ประเมินการคั่งค้างของปัสสาวะเมื่อปัสสาวะมีอาการเจ็บปวดแสบ หรือถ่ายปัสสาวะบ่อยๆหรือกลั้นไม่อยู่ ให้รายงานแพทย์
การประเมินผล
V/S อยู่ในเกณฑ์ปกติ
-T : 36.7 องศาเซลเซียส
BP: 120/80 mmHg
PR: 78ครั้ง/นาที
RR: 18ครั้ง/นาที
PS=2(ปวดมดลูก) = 2(ปวดแผลฝีเย็บ)
มดลูกหดรัดตัวดี คลำได้เป็นก้อนกลมแข็ง โดยระดับยอดมดลูกอยู่ที่3.5นิ้ว เหนือกระดูกหัวหน่าว
Bleeding per vagina 20 ml.
4.มารดาพร่องความรู้ในการดูแลตนเองเมื่อกลับบ้าน
ข้อมูลสนับสนุน เป็นการตั้งครรภ์ครั้งแรก
วัตถุประสงค์
มารดาหลังคลอดสามารถปฏิบัติตนหลังคลอดได้ถูกวิธี
เกณฑ์การประเมิน
มารดามีความเข้าใจในการปฏิบัติตัว และสามารถปฏิบัติได้ถูกต้อง
กิจกรรมการพยาบาล
แนะนำให้มารดารับประทานอาหารให้ครบ5หมู่ เน้นรับประทานโปรตีน เพราะจะช่วยไปซ่อมแซมร่างกาย และรับประทานผักใบเขียว มาก เเพราะจะช่วยเพิ่มธาตุเหล็กในร่างกาย.
การให้นมบุตร ควรกระตุ้นให้ทารกดูดนมทุก2-3ชั่วโมง โดยการให้ทารกดูดให้ถึงลานนม และดูดให้เกลี้ยงเต้า เต้านมคัดตึง ควรใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นจัดประคบและนวดบริเวณเต้านมจนรู้สึกว่าเต้านมเริ่มนิ่ม หัวนมแตกสามารถใช้น้ำนมป้ายบริเวณหัวนม แทนการทาครีมบำรุงได้ ไม่ควรฟอกสบบู่บริเวณหัวนมเพราะอาจทำให้หัวนมแตกเพิ่มมากขึ้น
การออกกำลังกาย ไม่ควรออกกำลังกายหนักๆหรือยกของหนัก เพราะอาจทำให้มดลูกหย่อนได้ ให้ออกกำลังกายโดยการทไงานเบาๆไม่ขึ้นลงบันไดบ่อยๆ
การพักผ่อนนอนหลับ มารดาหลังคลอดควรได้รับการนอนหลับวันละ8-10ชั่วโมง เนื่องจากร่างกายเหนื่อยล้าจากการคลอด
การมีเพศสัมพันธ์ ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ ใน6สัปดาห์แรกหลังคลอด เนื่องจากมมารดาหลังคลอดยังมีการเปิดของปากมดลูก อาจทำให้เกิดการติดดเชื้อได้ และฮอร์โมนยังต่ำอยู่ ทำให้ปากมดลูกแห้ง
มารดาไม่จำเป็นต้องทายาบริเวณแผลฝีเย็บ ควรล้างทำความสะอาดทึกครั้ง หลังปัสสาวะหรืออุจจาระโดยการล้างจากด้านหน้าไปด้านหลัง และซับให้แห้งทุกครั้งและควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 2-4ชั่วโมง เพราะอาจทำให้เกิดการหมักหมม ของเชื้อโรคได้
แนะนำให้มารดาคลึงมดลูก ขนาดมดลูกควรลด 0.5-1นิ้วเมื่อครบ 2สัปดาห์ไม่สามารถคลำพบมดลูกได้ หากยังคลำพบอยูแสดงว่ามดลูกยังไม่เข้าอู่ ควรรีบมาพบแพทย์
การประเมินผล
มารดามีความรู้ความเข้าใจจในการปฏิบัติตัว และตอบคำถามเมื่อซักถามย้อนกลับได้