Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทบาทของสตรีไทยในประวัติศาสตร์ไทย - Coggle Diagram
บทบาทของสตรีไทยในประวัติศาสตร์ไทย
ช่วงเวลานับตั้งแต่มีการบันทึกหลักฐานมาถึงสมัยรัตนนโกสินทร์ตอนต้น
บทบาทด้านวัฒนธรรม
เจ้าฟ้ากุณฑลและเจ้าฟ้ามงกุฎ
ทรงนิพนธ์บทละครเรื่องดาหลังและอิเหนา โดยนำโครงเรื่องของชวามาดัดแปลงใหม่ให้เป็นกลอนบทละครไทย
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากุกรมหลวงนรินทรเทวี
ทรงนิพนธ์จดหมายเหตุความทรงจำบันทึกเรื่องราวเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ตั้งแต่เสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่าใน พ.ศ.๒๓๑o จนถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศล้านภาลัย
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ามณฑา พระเจ้าบรมเธอ พระองค์เจ้าอุบล
นิพนธ์กุมารคำฉันท์ เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าสตรีไทย โดยเฉพาะสมาชิกราชกุลมีการศึกษาที่เจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยโบราณ
คุณพุ่ม(บุษบาท่าเรือจ้าง)
และคุณสุวรรณ ได้รับการยกย่องว่าเป็นกวีหญิง งานได้แก่ เพลงยาวบวงสรวงสระน้ำที่บางโขมด อรุณรุทร้อยเรื่อง พระมะเหลเถไถ ฯลฯ
บทบาทด้านการศึกษา
เจ้าฟ้าพินทวดี
ทรงรอบรู้เชี่ยวชาญในขนบธรรมเนียมโบราญราชประเพณี พระองค์ทรงเป็นกำลังสำคัญการจัดทำตำราโบราชประเพณี
พระองค์เจ้าบุตรี(พระบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวรเสรฐสุดา)
ได้รับการยอมรับว่ามีความเชี่ยวชาญ แตกฉาน รอบรู้ในวิชาการต่างๆ เช่น ตำนาน โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน
บทบาทด้านการปกครอง
พระนางจอมเทวี
ปฐมกษัตริแห่งนครหริภุญชัยแห่งเมืองลำพูน ในสมัยของพระนางบ้านเมืองได้เจริญรุ่งเรือง มีการขยายอำนาจออกไปตั้งเมืองคู่แฝด พระนางและพระราชวงค์ได้อุถัมถ์ทำนุบำรุงกิจการทางศาสนา
แม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์
พระนางได้ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดินของพระยอดฟ้า ต่อพระนางได้ขึ้นเป็นปกครองกรุงศรีอยุธยาคู่กับขุนวรวงศาธิราช แต่เนื่องจากขาดฐานสนับสนุนจึงถูกยึดอำนาจ
พระมหาเทวีล้านนา
ในตำนานได้กล่าวถึงสตรีที่มีบทบาททางการปกครองไว้หลายองค์ คือ
-พระมหาเทวีโลกจุลกะเทวี ผลักดันพระราชโอรส คือ พระเจ้าสามฝั่งแกน ขึ้นเป็นกัตริย์ปกครองเมืองเชี่ยงใหม่
-พระมหาเทวีชนนีของพระเจ้าติโลกราช พระนางทรงมีบทบาททางการเมืองร่วมกับพระราชโอรส ทั้งยังครุมกองทัพรบเมืองแพร่เพื่อเป็นการขยายอำนาจของล้านนา
-พระมหาเทวีจิรประภา ขึ้นครองเมืองเชี่ยงใหม่เนื่องจากภาวะวิกฤตจากการแตกแยกภายในและการคุกคามจากภาย ด้วยพระปรีชาพระนางสามารถนำพาบ้านเมืองให้รอดพ้นจากภัยต่างๆได้
-พระมหาเทวีวิสุทธิเทวี พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองได้สถปนาพระนางขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองเชี่ยงใหม่ในช่วงที่เชี่ยงใหม่ตกอยู่ในฐานะประเทศราชของพม่า
พระนางมหาเทวีสุโขทัย
มีบทบาทในการปกครองกรุงสุดขทัยในระหว่างที่พระมหาธรรมราชาที่ไปปกครองเมืองสรลววงแคว และพนะนางทรงอยู่ในฐานะขุนหลวงพะงั่ว
กรมหลวงโยธาเทพ(เจ้าฟ้าศรีสุพรรณ)
ทรงเป็นเจ้านายกรม สามารถจัดเก็บส่วยสาอากรขนอนตลาด มีเลกสมสังกัด นอกจากนี้ยังมีกองทัพทหารและทหารสังกัดพระองค์อีกจำนวนมาก พระองค์มีอำนางขาดสิทธ์การปกครองราชสำนักฝ่ายใน
สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี
พระบรมราชินีนาถ
ในร.๕ได้ดำรงดำแหน่งผู้สำเร็จราชาการแผ่นดินในระหว่างที่ร.๕ทรงเสด็จประพาสยุโรป
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เมื่อครั้งร.๙ เสด็จผนวช
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ทรงดำรงตำแหน่งเมือคราวที่ร.๙ เสด็จเยือนต่างประเทศ
บทบาทด้านศาสนา
สตรีสูงศักดิ์ของไทยนับตั้งแต่สมัยสุโขทัยเป็นต้นมาจะมีศรัทาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ปรากฎในจารึกต่างๆ และสละพระราชทรัพย์เพื่อก่อสร้างและปฏิสังขรณ์พระอาราม
บทบาทในด้านการรบและการทำสงคราม
สตรีสูงศักดิ์แห่งล้านนา
มีบทบาทในการรบเพื่อปกครองบ้านเมืองและช่วยขยายอำนาจ
สมเด็จพระสุริโยทัย
พระองค์ได้โดยเสด็จพระสวามีในการปกกันบ้านเมืองจากพม่า และถูกพระแปรฟันด้วยพระแสงของ้าวสิ้นพระชนม์
เจ้าศรีอโนชา
รวบรวมบริวาลปกครองครองครัวและช่วยเหลือพระยาสุริยอภัย ป้องกันเหตุวุ่นวายในกรุงธนบุรี และร่วมมือแต่งทัพเรือเข้าช่วยปราบกบฏแตกพ่ายหนีไป
รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
วีรกรรมของคุณผู้หญิงคุณหญิงจันภรรยาพระยาถลางและคุณมุก นำประชาชนต่อต้านพม่าที่มาตีเมืองถลางในคราวสงครามเก้าทัพจนได้รับชัยชนะ
รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
คุณหญิงโมวางแผนและต่อสู้กับกองทัพเจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทร์
บทบาทในการสร้างสัมพันธไมตรีทางเครือญาติ
การสร้างเสริมสัมพันธไมตรี
ดังเช่น สมเด็จพระมหาจักรพรรดิพระราชทานพระธิดาพระวิสุทธิกษัตรีให้แก่ ขุนพิเรนทรเทพ เพื่อสร้างความจงรักภักดีและความมั่นคงของบัลลังก์
การแสวงหาพันธมิตร
เจริญสัมพันกับไมตรีกับกรุงศรีสัตนานหุตล้านช้าง ทรงพระราชทานพระเทพกษัตรีและพระแก้วฟ้าให้ไปอภิเษกกับพระไชยเชษฐาธิราช
เมื่อตกอยู่ใต้อำนาจอาณาจักรอื่น
การสร้างสัมพันธไมตรีจะเป็นการถวายพระธิดา ดั่งเช่น พระธรรมราชายยกพระสุพรรณกัลยาให้เจ้ากรุงหงสาวดีบุเรงนอง
เมื่อมีการเปลี่ยนผู้นำ
สมเด็จพระเจ้าปราสาททองที่แต่งตั้งพระธิดาของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมขึ้นเป็นพระมเหสี
สมัยรัชกาลที่ ๕ ถึงสงครามโลกครั้งที่2
2.กลุ่มสตรีที่ได้รับการศึกษาแผนใหม่
ด้านการแพทย์และสังคมสงเคราะห์
หม่อมเจ้าหญิงมัณฑารพ กมลาศน์
ทรงเข้าศึกษาวิชาพยาบาลที่โรงเรียนพยาบาลสภากาชาดสยาม หลังจากนั้นได้รับหน้าที่บริหารรงเรียนพยาบาลปละสถานการพยาบาล ทรงได้จัดระเบียบการรักษาพยาบาลและปรับมาตรฐานการศึกษาให้ทันสมัย
แพทย์หญิง ดร.คุณเพียร เวชบุล
บำบัดรักษาและป้องกันกามโรคทั้งบุรุษและหญิงขายบริการ ท่านอุทิศกำลังกายละกำลังทรัพย์ช่วยเหลือสตรีที่ประสบปัญหาชีวิตในครอบครัว ก่อตั้งสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านอกสมรส นอกจากนี้ยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบ้านเกร็ดตระการเพื่อช่วยเหลือหญิงขายบริการและเด็กกำพร้า
ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม
ด้านสังคมสงเคราะห์
ก่อตั้งสโมสรวัฒนธรรมฝ่ายหญิง จัดตั้งองค์กรส่งเสริมการสมรสและจัดการสมรสหมูเพื่อรักษาระบบครอบครัวและประเพณีไทย จัดตั้งโรงเรียนส่งเสริมอาชีพ จัดอบรมบุคลากร อาสาสมัครด้านสังคมสงเคราะห์ ริเริ่มจัดตั้งโรงเรียนสงเคราะห์หญิงมีครรภ์และบุตร
ด้านการเมือง
พยายามยกสถานภาพของสตรี เช่น สิทธิความเสมอภาคในการดำนงตำแหน่งราชการ ก่อตั้งศาลเด็กและเยาวชน ได้รับการแต่งตั้งเป็นวุฒิสมาชิกและได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในจังจังหวัดนครนายก
ด้านการประกอบอาชีพและกิจกรรมสังคม
หม่อมเจ้าหญิงพูนพิสมัย ดิศกุล
ทรงมีความรอบรู้ในเรื่องกิจการบ้านเมือง เรื่องต่างประเทศ และศิลปวัฒนธรรมต่างๆ มีงานพระราชนิพนธ์ทั้งด้านการท่องเที่ยว ขนบธรรมเนียมไทย เหตุการณ์บ้านเมืองโดยเฉพาะกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ทรงมีส่วนร่วมก่อตั้งองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก และดำรงตำแห่งประธานองค์กรนี้เป็นระยะเวลายาวนาน
หม่อมศรีพรหมมา กฤดากร (เจ้าศรีพรหมมา ณ น่าน)
เป็นธิดาเจ้าผู้ครองนครน่านองค์สุดท้าย หลังจากเสกสมรสได้ตามพระสวามีออกไปใช้ชีวิตชาวไร่ที่ฟาร์มบางเบิด ท่านได้เป็นคู่คิดที่ดีของสวามีในการนำเทคโนโลยีและวิถีชีวิตแบบตะวันตกมาประยุกต์ใช้ในฟาร์มและครอบครัว รวมทั้งเป็นผู้นำครอบครัวเมื่อพระสวามีประสบปัญหาการเมือง
ท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงศ์
ท่านได้มีส่วนสนับสนุนการพัฒนาสถนภาพของสตรีในพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ เช่น การก่อตั้งสภาอุณาโลมแดง การรับตำแห่งผู้บริหารโรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์และหญิงพยาบาล จัดพิมพ์ตำราอาหารคาวหวานทั้งไทยและเทศเล่มแรกของไทย
กลุ่มสตรีที่ประกอบอาชีพด้านกฎหมาย
มีบทบาทสำคัญในการเรียกร้องสิทธิสตรีและยกระดับสถานภาพให้ทัดเทียมบุรุษ ซึ่งปรากฏบทบาทการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นในช่วงหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง เช่น คุณหญิงแร่ม พรหโมบาล คุณหญิงสุภัทรา สิงหลกะ การดำเนินการมีทั้งผ่านสภาสตรีแห่งชาติและการช่วยเหลือสตรีที่ประสบปัญหาเป็นรายบุคคล
กลุ่มสตรีที่ประกอบอาชีพด้านการศึกษา
สตรีกลุ่มนี้มีทั้งสำเร็จการศึกษาจากในประเทศและต่างประเทศ ได้เข้ามาประกอบอาชีพครู ถึงแม้ว่าในระยะแรกจะไม่ได้รับสิทธิ์ประโยชน์ทัดเทียมกับครูชาย แต่บุคลากรเหล่านี้ยังคงบำเพ็ญคุณประโยชน์สั่งสอนอบรมเยาวชนสตรีให้เติบใหญ่อย่างมีคุณค่า และมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศชาติให้มีความมั่นคง
สตรีจากราชสกุลกุญชร
คือ หม่อมหลวงบุปผา(กุญชร) นิมมานเหมินท์ เข้าของนามปากกาดอกไม้สด ผลงานคือการเขียนนวนิยาย นับเป็นวรรณกรรมที่ทรงคุณค่าทั้งภาษาและเนื้อหาที่สะท้อนสภาพสังคมไทยในยุคนั้น อีกท่านคือ หม่อมหลวงบุญเหลือ(กุญชร) เทพยสุวรรณ บทบาทสำคัญคือด้านการศึกษา โดยเฉพาะด้านภาษาศาสตร์และงานวิจัยเกี่ยวกับตระกูลภาษาไท วรรณคดีไทยและวิธีการสอน
หม่อมหลวงพวงร้อย (สนิทวงศ์) อภัยวงศ์
ท่านมีความโดเด่นทางด้านดนตรีและได้ประพันธ์บทเพลงที่ไพเราะและทรงคุณค่าไว้มาก ทั้งเพลงเทิดพระเกียรติ เพลงปลุกใจ และเพลงประกอบภาพยนตร์
1.กลุ่มพระมเหสีเทวีของรัชกาลที่5
สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ
ด้านการปกครอง
เมื่อครั้งที่ ร.๕ เสด็จเยือนนาๆประเทศในยุโรป พระองค์ได้รับการสถาปนาเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแทน ในช่วงเวลานี้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติหลายๆฉบับ
ด้านการศึกษา
ทรงบริจาคพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อจัดตั้งโรงเรียนสตรีขึ้นหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯและหัวเมือง ด้านสาธารณสุขและการแพทย์ สนับสนุนกุลสตรีไทยให้ใช้วิธีการคลอดแบบตะวันตก มีการก่อตั้งโรงเรียนผดุงครรภ์ขึ้นในโรงพยาบาลศิริราช นอกจากนี้ยังทรงริเริ่มก่อตั้งสภาอุณาโลมแดง(สภากาชาดไทย) พระองค์ยังโปรดให้สร้างรูปพระแม่ธรณบีบมวยผมที่เชิงผ่านพิภพลีลาเพื่อให้ปวงชนมีน้ำบริสุทธิ์บริโภค
สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี
จัดตั้งโรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรีราชา การสอนหนังสือและอาชีพแก่ชาวบ้าน โดยเฉพาะการทอผ้า โครงการเหล่านี้ได้รับการสืบสานต่อจากพระราชธิดาและพระประยูรญาติในราชสกุลมหิดล
สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลศรี พระอัครราชเทวี
ทรงเชี่ยวชาญด้านอักษรศาสตร์ ได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งราชเลขานุการฝ่ายใน ทรงจัดให้วังบางขุนพรหมเป็นแหล่งศึกษาที่ทันสมัยสำหรับสตีสูงศักดิ์ในสมัยนั้น ยังทรงสร้างอาคารเรียนให้แก่วัดพิชยญาติการามวรวิหาร
พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์
ทรงมีความเชี่ยวชาญด้านโภชนาการ สำนักของพระองค์จึงเป็นแหล่งประสิทธิ์ประสาทวิชาแม่เรื่อนี่สำคัญของกุลสตรี รวมทั้งปลูกฝังเรื่องศิลปวัฒนธรรมไทย อุทิศทรัพย์สินส่วนพระองค์สร้างโรงเลี้ยงเด็กกำพร้าและสงเคราะห์ผู้ยากจน งานต่างๆถูกสืบสานโดยพระราชธิดา
พระราชชายาเจ้าดารารัศมี
ทรงนำวัฒนธรรมสยามไปปรับประยุกต์ใช้ในล้านนา เป็นผู้เชื่อมดินแดนทั้งสองให้เป็นเอกภาพ สนับสนุนการก่อตั้งและการดำเนินงานของโรงเรียนต่างๆในเชียงใหม่ ทรงริเริ่มสวนทดลองปลูกพืชเมืองหนาวและดอกไม้ประดับที่เผยแพร่สู่ชาวบ้าน การฟ้อนพื้นเมืองมาแสดงในงานเฉลิมฉลอง รวมทั้งทรงให้อุปถัมภ์ศิลปะและหัตถกรรมพื้นบ้าน
เจ้าจอมมารดาแพ
บทบาทส่วนใหญ่เป็นสนองพระราโชบายในการปรับปรุงภาพลักษณ์ แก้ไขขนบธรรมเนียมต่างๆให้ทันสมัย ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่านยังได้ส่งเสริมด้านสาธารณสุขด้วยการจัดตั้งสุขศาลาให้การสงเคราะห์แก้ประชาชนทั่วไป