Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการคลอด - Coggle Diagram
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการคลอด
หมายถึง
กระบวนการที่ทารก รก เยื้อหุ้มทารก และน้ำคร่ำถูกขับออกจากโพรงมดลูกสู่ภายนอก อายุครรภ์ตั้งแต่ 28 สัปดาห์ขึ้นไป
Fullterm Labor การคลอดเกิดขึ้น ขณะอายุครรภ์ 37-42 สัปดาห์
Preterm Labor การคลอดเกิดขึ้น ขณะอายุครรภ์ 28-36 สัปดาห
Posttern Labor การคลอดเกิดขึ้น เมื่ออายุครรภ์ตั้งแต่ 42 สัปดาห์ขึ้นไป
Abortion การสิ้นสุดของการตั้งครรภ์ก่อนอายุครรภ์ 28 สัปดาห์ หรือ ทารกคลอดน ้าหนักน้อยกว่า 1000 กรัม
ชนิดของการคลอด
การคลอดปกติ (Normal labor / Eutocia)
การคลอดที่สามารถคลอดได้เองทางช่องคลอด (Spontaneous labor)
Vertex Presentation & Occipito Anterior
Spontaneous
Fullternof Pregnancy
Total time to labor pain until placenta delivery within 24 hours
Complication
การคลอดผิดปกติ (Abnormal labor or dystocia)
การคลอดที่มีลักษณะผิดปกติอย่างน้อย 1 ข้อ ในองค์ประกอบของการคลอดปกติ สิ้นสุดโดยใช้หัตถการช่วยคลอด เช่น เครื่องดูดสูญญากาศ คีม หรือการผ่าตัดคลอด
Stage of Labor
ระยะของการคลอด เริ่มตั้งแต่เจ็บครรภ์จริงหรือปากมดลูกเริ่มมีการเปิดขยายจนถึง 2 ชั่วโมง หลังรกคลอดครบ
Fourth Stage of Labor
Third Stage of Labor or Stage of Placenta
First Stage of Labor or Stage of Cervical Dilatation
Second Stage of Labor or Stage of Expulsion
องค์ประกอบการคลอด
• สภาวะร่างกายของผู้คลอด (Physical Condition)
• สิ่งที่คลอดออกมา (Passenger or Uterine Content)
ทารก รก เยื้อหุ้มเด็ก น้ำคร่ำ ส่วนที่สำคัญในการคลอดคือ ทารก เนื่องจากขนาด รูปร่าง ลักษณะของทารก ต้องเหมาะสมกับช่องคลอด ลำตัวอยู่ในแนวยาว ใช้ศีรษะเป็นส่วนนำ อยู่ในทรงก้ม ท่าปกติ
กะโหลกศีรษะทารก
• กระดูกข้างขม่อม (Parietal Bone) จำนวน 2 ชิ้น
• กระดูกขมับ (Temporal Bone) จำนวน 2 ชิ้น
• กระดูกหน้าผาก (Frontal Bone) จำนวน 2 ชิ้น
• กระดูกท้ายทอย (Occipital Bone) จำนวน 1 ชิ้น
• รอยต่อ (Suture) ระหว่างกะโหลกศีรษะ
• Sagittal Suture รอยต่ออยู่ระหว่างกระดูกข้างขม่อม หรือ เรียกว่ารอยแสกกลาง
• Coronal Suture รอยต่ออยู่ระหว่างกระดูกหน้าผากและกระดูกข้างขม่อม
• Frontal Suture รอยต่ออยู่ระหว่างกระดูกหน้าผากทั้งสองข้าง
• Lambdoid Suture รอยต่ออยู่ระหว่างกระดูกข้างขม่อมทั้งสองข้าง และขอบบนของกระดูกท้ายทอย
• ขม่อม (Fontanel)
เป็นช่องยังไม่ปิดสนิทระหว่างรอยต่อของกระดูกกับรอยต่อแสกกลางบนศีรษะทารก
ขม่อมหน้า หรือ ขม่อมใหญ่ยู่ระหว่างรอยต่อของ Sagittal Suture, Coronal Suture และ Frontal Suture มีลักษณะคล้ายขนมเปียกปูน ปิดภายหลังเมื่อทารกอายประมาณ 16-1 สัปดาห์
ขม่อมหลัง หรือขม่อมเล็ก อยู่ทางด้านหลัง เกิดจากรอยต่อของ Sagittal Suture และ Lambdoidal Sutureปิดเมื่อทารกอายุประมาณ 6-8 สัปดาห
• สภาพจิตใจของผู้คลอด (Psyche or Psychological Factor)
• ช่องทางคลอด (Passage of Birth Canal)
ช่องทางที่ทารกในครรภ์ เคลื่อนออกมาสู่ภายนอก
ส่วนที่เป็นกระดูก แข็งแรงยืดขยายได้น้อย กระดูกที่มีอิทธิพลต่อการคลอด ขนาด รูปร่างของกระดูกเชิงกราน ความมากน้อยของปุ่มกระดูกที่ยื่นเข้ามาในช่องเชิงกราน
เชิงกรานแท้มี 3 ส่วน คือ ช่องเข้าเชิงกราน ช่องเชิงกราน ช่องออกเชิงกราน
ส่วนที่เป็นเนื้อเยื่อ เป็นกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อ ยืดขยาย ตัดให้ขาดหรือฉีกขาดได้ ประกอบด้วย มดลูกส่วนล่าง ปากมดลูก ช่องคลอด กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ฝีเย็บ
• ท่าของผู้คลอด (Position)
• แรงผลักดันในการคลอด (Power)
จากการหดรัดตัวของมดลูก
• เป็นแรงที่เกิดขึ้นอันดับแรกอยู่นอกเหนือจิตใจ ม่สามารถบังคับให้เกิดหรือ ยับยั้งได้
แรงเบ่ง
เกิดจากการหดรัดตัวของกล้ามเนื้อหน้าท้อง ทรวงอก และกระบังลม เกิดความดันภายในช่องท้อง เป็นแรงที่เกิดขึ้นภายหลัง
สภาพจิตใจของผู้คลอด
มีผลโดยตรงต่อความก้าวหน้าของการคลอด ความวิตกกังวล ยับยั้งการหดรัดตัวของมดลูกทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงรกน้อยลง ทารกขาดออกซิเจน ดังนั้นสภาพจิตใจของผู้คลอดจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อการคลอด
Position
• ท่าของผู้คลอดมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาในระยะคลอด การเปลี่ยนท่าบ่อยๆจะช่วยลดความเหมื่อยล้า ท าให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ผู้คลอดเกิดความรู้สึกสบายขึ้น
ความสัมพันธ์ในส่วนของตัวเด็กและส่วนของแม่กับเด็ก
Presentation
Breech
1.frank ท่าก้นที่งอข้อสะโพกหรือเหยียดข้อเข่า
2.footling ท่ายื่นเท้าลงมาโดยเหยียดต้นขา เหยียดเข่า แบ่งเป็น double footling, single footling
3.knee อยู่ในท่าเหยียดต้นขา แต่งอเข่า ลักษณะทั้งหมดที่กล่ามาจัดเป็น incomplete breech
4.complete ภาวะที่ทารกงอเข่า ข้อสะโพกหรืออยู่ในท่าขัดสมาธิ อยู่ในทรงเดียวกับ vertex แต่กลับหัวเป็นก้น กลับก้นเป็นหัว
Head
vertex อยู่ในทรงก้มงอ ส่วนยอดศีรษะอยู่ต่ำสุด
2.face เงยแหงน หน้าอยู่ต่ำสุด
3.brow เงย หน้าผากอยู่ต่ำสุด
shoulder อยู่ในท่า transverse lie
funic หรือ umbilical cord ภาวะที่สายสะดืออยู่ต่ำกว่าส่วนนำ ถุงน้ำทูนหัวยังไม่แตก ถ้าถุงน้ำทูนหัวแตกเรียกว่า prolapsed cord
compound ส่วนของทารกผ่านลงช่องเชิงกรานมากกว่าหนึ่งส่วนขึ้นไป เช่น มือกับศีรษะ หรือก้นกับมือ
Lie
โพรงมดลูกและลำตัวเด็ก
1.อยู่ในแนวตามยาวของโพรงมดลูก เด็กนอนตามยาวขนาดตามสตรีตั้งครรภ์ Longitudinal lie สันหลังเด็กขนานกับสันหลังมารดาเอาหัวลงหรือก้นลง
2.สันหลังเด็กอยู่แนวขวางกับความยาวของโพรงมดลูกหรือสันหลังมารดา Transverse lie เด็กจะเอาไหล่ลง ถ้าครบกำหนดจะไม่สามารถคลอดได้
Attitude
deflexion ศีรษะเงย
brow เงยมากขึ้นกว่าปกติ
face เงยเต็มที่ หลังแอ่นมาข้างหน้า
bregma เงยเล็กน้อย
flexion ศรีษะก้มคางชิดอก หลังโค้งงอมาข้างหน้า มือกอดอก ขางอขึ้น ต้นขาชิดหน้าท้อง
การเจ็บครรภ์และการหดตัว
phase 3
ระยะคืนสู่สภาพสงบ
มดลูกเปลี่ยนแปลงเพื่อกลับสู่สภาพปกติก่อนการตั้งครรภ์ และพร้อมที่จะตั้งครรภ์ได้ต่อไป
phase 2
active labour
ระยะมดลูกหดรัดตัวในช่วงเจ็บครรภ์คลอดจริง เกิดการเปิดขิงปากมดลูก
phase 1
ระยะเตรียมตัว
มีการเปลี่ยนการทำงานของมดลูก ปากมดลูกอาจตรวจพบระยะนี้ในช่วงท้ายๆของการตั้งครรภ์ คือ ปากมดลูกสุก มดลูกมีการหดรัดตัวเพิ่มขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงให้มดลูกไวต่อสารกระตุ้นการหดรัดตัวมากขึ้น เป็นระยะเข้าใกล้ระยะคลอด นับเป็นสัปดาห์ก่อนเจ็บครรภ์จริง
phase 0
ระยะสงบ
ไม่มีการหดรัดตัว ปากมดลูกแข็ง รูปโคน ระยะนี้เริ่มก่อนการฝังตัวของตัวอ่อนจนถึงอายุครรภ์ 36-38 wks.
การหดรัดตัวของมดลูกเกิดขึ้นเฉพาะบริเวณกล้ามเนื้อมดลูกส่วนบน เป็นส่วนที่active เมื่อมีการเจ็บครรภ์มากขึ้น ความหนาเพิ่มขึ้น กล้ามเนื้อมดลูกส่วนล่างเป็น passive segment บางลงทุกขณะ
การหดรัดตัวเกิดขึ้นเป็นระยะๆ หลังจากการคลายตัวแต่ละครั้ง เส้นใยกล้ามเนื้อจะยืดออกมาไม่เท่ากันกับก่อนจะมีการหดตัว ลักษณะใยกล้ามเนื้อสั้นลงแต่การหดรัดตัวอยู่เช่นเดิมเรียกว่า retraction และใยกล้ามเนื้อมีความยาวสั้นลงไป เรียกว่ามี brachystasis
ระยะแรก หดรัดตัวทุก 10-15 min. นานครั้งละ 15-20 วินาที
ปลายระยะที่ 1 การหดรัดตัวถี่ 2-3 min. นานครั้งละ 45-50 วินาที
อาการและอาการแสดงเมื่อใกล้คลอด
ปวดหลัง
เจ็บครรภ์เตือน
มีสารคัดหลั่งจากช่องคลอด
เมือกเหนียวๆ สีขาว
ถุงน้ำทูนหัวแตก
ปลายระยะที่ 1 หรือ ต้นระยะที่2 ของการคลอด
อาการน้ำหนักลดลงและการเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินอาหาร
ระยะท้ายๆ estrogen & progesterone ทำให้สูญเสียน้ำออกจากร่างกาย นน.ลด 0.5-1.5 kg. อาจมีท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน อาหารไม่ย่อย
การนุ่มของปากมดลูก
อาการท้องลด
พบ 10-14 days. ก่อนคลอดในครรภ์แรก
การทำกิจกรรมเพิ่มขึ้น
epinephrine เพิ่ม