Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การประเมินสภาวะทารกในครรภ์, ถ้าดิ้น< 10 ครั้ง/วัน ให้มาพบแพทย์ก่อนนัด…

- - - - เป็นภาวะที่มดลูกหดรัดตัวมากกว่า 5 ครั้งใน 10 นาที ทารกในครรภ์เสี่ยงเกิดการภาวะขาดออกซิเจน
        
        การดูแลรักษา
        
        ให้ออกซิเจน
        
        ใช้ prostaglandin เหน็บช่องคลอดให้นำเม็ดยาออก
        
        ใช้ oxytocin ให้หยุดการให้ยาหรือลดปริมาณลง
        
        หลังจากหยุดยาหรือเอาเม็ดยาออกแล้วยังมี tachysystole อยู่ แก้ไขด้วย tocolytic drugs เช่น terbutaline(Bricanyl) 0.25 mg ฉีดใต้ผิวหนังหรือทางหลอดเลือด
        
        เตรียมผ่าตัดคลอด หลังจากแก้ไขด้วยวิธีข้างต้นแล้วยังไม่สามารถได้
- - - - count to ten & cardift นับทารกดิ้น 10 ครั้ง ใน 4 ชม.
      - sadovsky นับดิ้นวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 ชม. หลังอาหารเช้า กลางวัน เย็น ผลรวม ดิ้น 3 เวลา มากกว่าาหรือเท่ากับ 10 ครั้ง = สุขภาพทารกปกติ
      - การพยาบาล
        
        -สร้างสัมพันธภาพ ท่าทางเป็นมิตร
        
        ประเมินอายุครรภ์ / ซักประวัติความรู้สึกทารกดิ้นในครรภ์
        
        อธิบายลักษณะการดิ้น : กลิ้งตัว การยืดหาลำแขน ขา สะอึก
        
        แนะนำวิธิบันทึกการดิ้น
        
        เปิดโอกาสซักถาม
  - - - ค่าปกติ AFP = 2.5 MoM ถ้า>2.5 =เสี่ยงท่อประสาทเปิด <2.5 = เสี่ยงเป็นดาวน์
      - ตรวจเมื่ออายุครรภ์ 15 wks.
    - - trancervical chorionic villus sampling จะเมื่ออายุครรภ์ 10-14 wks.
      - transaddominal cdorionic villus samplinh
    - - -ตรวจโครโมโซมประเมินDown syndome
      - ประเมินระหว่างอายุครรภ์15-18 wks. ทดสอบความสมบูรณ์ของทารก
      - ประเมินระหว่างอายุครรภ์36-37 wks. เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดภาวะ respiratory distress syndome
      - การพยาบาล
        
        ก่อนเจาะน้ำคร่ำ
        
        สร้างสัมพันธภาพ
        
        อธิบายเหตุผล ขั้นตอนการเจาะ
        
        ประเมินอายุครรภ์ก่อนเจาะ
        
        อธิบายการดูแลตนเองขณะทำและหลังทำ
        
        เปิดให้ซักถาม
        
        ปัสสาวะก่อนทำ
        
        ให้กำลังใจ
        
        หลังเจาะน้ำคร่ำ
        
        ให้นอนพัก15-30 นาที หลังเจาะ
        
        สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้อง เลือดออก
        
        ตรวจหาโครโมโซมเสี่ยงเป็นดาวน์ นัดฟังผล 4 wks.
  - - - bradycardia < 110 ครั้ง/นาที
      - tachycardia > 160 ครั้ง/นาที
    - - <32 wks. FHR สูงจาก baseline >10 bpm in 10 sec.
      - 32wks FHR สูงจาก baseline > 15 bpm in 15 sec.
    - - NST
        
        เป็นการตรวจดูอัตราการเต้นของหัวใจที่มีการเคลื่อนไหว
        
        ทำเมื่อทารกดิ้นน้อยลง ตั้งครรภ์เกินกำหนด ทารกเจริญเติบโตในครรภ์ช้า มีภาวะแทรกซ้อนร่วมกับตั้งครรภ์เช่น เบาหวาน ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด ครรภ์แฝด มีภาวะRh isoimmunization อายุ> 35 yr. มีประวัติทารกตายในครรภ์
        
        การพยาบาล
        
        อธิบายเหตุผล ขั้นตอนการทำNST
        
        ปัสสาวะก่อนตรวจ
        
        หัวมารดาสูง 30 องศา
        
        ตรวจหาตำแหน่งหลังส่วนสะบักด้วยวิธีleopold maneuver คาดสายรัดหน้าท้อง โดยให้หัว ultrasonic transducer วางบนตำแหน่งที่ฟีงหัวใจได้ชัดเจน
        
        ถ้าเด็กไม่ดิ่นเพราะอาจหลับ กระตุ้นหน้าท้องด้วย fetal acustic stimulator
        
        CST
        
        เป็นการตรวจดูการเปลี่ยนแปลงอัตราการเต้นของหัวใจทารกเมื่อมดลูกหดรัดตัว
        
        การพยาบาล
        
        สร้างสัมพันธภาพ
        
        อธิบายเหตุผลของการตรวจสุขภาพ CST
        
        ให้มารดานอนท่า semi-fowler position เพื่อป้องกัน supine hypotensive syndrome
        
        เตรียมoxytocin 5 U in nss 500 ml rate 5-10 drop/min จนกระทั่งมดลูกหดรัดตัว 3 ครั้งใน 10 นาที นานครั้งละ 40-60 วิ.
  - - - การเคลื่อนไหวแสดงถึงการหายใจ
        
        ใน 30 นาที เห็นการเคลื่อนไหว แสดงหายใจนาน 30 วินาที อย่างน้อย 1 ครั้ง
        
        ผิดปกติ = ใน 30 นาที เห็นการเคลื่อนไหว แสดงหายใจไม่ถึง 30 วินาที
      - การเคลื่อนไหวของลำตัว แขน ขา
        
        ใน 30 นาที มีหมุนตัวแขน ขาไปมา อย่างน้อย 3 ครั้ง
        
        ใน 30 นามี มีหมุนตัวแขน ขาไปมา น้อยกว่า 2 ครั้ง
      - -กำลังกล้ามเนื้อ
        
        เห็นแขน ขาหรือลำตัวเหยียดออกและหดเข้าบิดไปมาแล้วคืนสภาะหรือเห็นแบมือ กำมือ
        
        ไม่เห็นทารกเคลื่อนไหว หรือเคลื่อนไหวแขน ขาอย่างช้าๆ
      - การนับอัตราเต้นหัวใจ
        
        ใน20-40 นาที มีการเคลื่อนไหวของทารกและP เร็วขึ้นมากกว่า 15 ครั้ง/นาที นาน 15 วินาที อย่างน้อย 2 ครั้ง
        
        ใน20-40 น. P<15 ครั้ง/นาที และ <2 ครั้ง
      - ปริมาณน้ำคร่ำ
        
        ในแนวดิ่งเห็นน้ำคร่ำอย่างน้อย 1 ช่อง ขนาดไม่น้อยกว่า 2 cm.
        
        ไม่เห็นน้ำคร่ำหรือวัดในแนวดิ่งน้อยกว่า 2 cm.
  - - - Identify ชื่อผู้ป่วย วันที่ เวลา
      - ความเร็วของกระดาษ แบบ 1 cm/นาทีแบบ 3 cm/นาที
      - ลักษณะ Uterine contraction คุณภาพ ระยะห่าง เวลาที่มีการหดรัดตัวแต่ละครั้ง
      - FHR Baseline
      - variability
      - Acceleration
      - Deceleration
        
        สาเหตุ ศีรษะของทารกถูกกด ส่วนใหญ่เกิดในช่วงที่มีการเปิดของปากมดลูก 4-7 cm.
        
        การพยาบาล
        
        อธิบายให้ทราบว่าเป็นภาวะปกติ
        
        แนะนำให้นอนตะแคงหรือศีรษะสูง
        
        สังเกตการหดรัดตัวของมดลูก ระดับ FHR
        
        ดูแลเตรียมคลอดตามปกติ
        
        Late Deceleration : FHR ค่อยๆลดกลับสู่ Baseline ไม่สัมพันธ์กับการหดรัดตัวของมดลูก
        
        เกิดขึ้นตามหลังการหดรัดตัวของมดลูกที่สูงที่สุด พบใน Utero-placental insufficiency
        
        การพยาบาล
        
        -ให้นอนตะแคงซ้าย ลดการกดทับ inferior vena cava
        
        หยุดให้ oxytocin
        
        รายงานแพทย์ ถ้า Late deceleration ยังคงอยู่
        
        -Variable deceleration : มีการลดของ FHR ต่ำกว่า baseline มากกว่า 15 bpm เวลามากกว่า 15 วินาทีแต่น้อยกว่า 2 นาที ความลึก ระยะเวลา ไม่สัมพันธ์กับการหดรัดตัว เกิดจากภาวะที่สายสะดือของทารกถูกกด
        
        severe variable decelerations : ลักษณะของ late component กลับสู่สภาวะการเต้นของหัวใจที่ปกติช้า หลังการหดรัดตัวสิ้นสุดลง pH ของทารกลดลง
        
        ลักษณะการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ที่ลดลงทันทอาจสัมพันธ์หรือไม่สัมพันธ์กับการหดรัดตัวลักษณะคล้ายกราฟ U-, V- หรือ W- shapedmild หรือ moderate variable decelerations ไม่มีลักษณะ late component ระยะเวลาการเกิดสั้นัตราการเต้นของหัวใจลดลงไม่มาก
        
        การพยาบาล
        
        ให้ o2 mask 5 L/m
        
        ประเมิน BP ภาวะขาดน้ำ การเปลี่ยนแปลง FHR baseline
        
        รายงานแพทย์ เพื่อเตรียมคลอด