Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา อริยสัจ๔ (มรรค : ธรรมที่ควรเจริญ (โภคอาทิย ๕…
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา อริยสัจ๔
ทุกข์ : ธรรมที่ควรรู้เท่าทัน โลกธรรม๘
โลกธรรม๘ เป็นหลักธรรมที่ปรากฎในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๓ อังคุตตรนิกายอัฏฐกนิบาตข้อ๖ว่าด้วยเรื่องโลกธรรม๘ คือ ธรรมของโลก โดยแบ่งออกเป็น ๒ ฝ่าย
๑.โลกธรรมฝ่ายอิฏฐารมณ์ คือ สิ่งที่น่าพอใจ ๔ ประการ
๑.มีลาภ หมายถึง สิ่งที่ได้มาทำไห้เกิดประโยชน์
๒.มียศ หมายถึง ได้รับการมีอำนาจ
๓.สรรเสริญ หมายถึง ได้รับการยกย่อง คำยอ คำสดุดีต่างๆ
๔.สุข หมายถึง ความพอใจประสบกับสิ่งที่สมหวังสมปราถนา
๒.โลกธรรมฝ่ายอนิฏฐารมณ์ คือ สิ่งที่ไม่น่าพอใจ ๔ ประการ
๑.เสื่อมลาภ หมานถึง สิ่งที่ได้มาแล้วเสียไป
๒.เสื่อมยศ หมายถึง การถูกถอดจากอำนาจที่เคยมี เช่น เสียทรัพย์ เป็นต้น
๓.นินทา หมายถึง การถูกตำหนิติเตียนทั้งต่อหน้าและลับหลัง
๔.ทุกข์ หมายถึง ความไม่พอใจ ความพลัดพราก ความไม่พอใจ ไม่สบายกาย ไม่สบายใจ
สมุทัย : ธรรมที่ควรละ
กฎแห่งกรรม : นิยาม ๕ ประการ
๑.อุตุนิยาม เป็นกฎธรรมชาติที่เกี่ยวกับความเป็นไปของธรรมชาติแวดล้อม
๒.พีชนิยาม เป็นกฎธรรมชาติที่เกี่ยวกับการสืบพันธุ์หรือพันธุกรรมต่างๆ
๓.จิตตนิยาม เป็นกฎธรรมชาติที่เกี่ยวกับการทำงานของจิต
๔.กรรมนิยาม เป็นกฎธรรมชาติที่เกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์
๕.ธรรมนิยาม เป็นกฎธรรมชาติที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์และความเป็นไปของสรรพสิ่งในโลก
กรรมนิยาม : มี๑๒อย่าง ๓หมวด ดังนี้
หมวดที่ ๑ จำแนกตามกาลเวลาที่กรรมไห้ผล
๑.กรรมไห้ผลปัจจุบัน(ทิฏฐธัมมเวทนียกาม)
๒.กรรมไห้ผลในภพที่จะไปเกิด(อุปปัชชเวทนียกรรม
๓.กรรมไหผลภพต่อๆไป(อปราปริยเวทนียกรรม)
๔.กรรมที่เลิกไห้ผล(อโหสิกรรม)
หมวดที่ ๒ จำแนกการให้ผลตามหน้าที่
๕.กรรมที่เป็นตัวนำไปเกิดใหม่(ชนกกรรม)
๖.กรรมสนับสนุน(อุปตถัมภกกรรม)
๗.กรรมบีบคั้น(อุปปีฬกกรรม)
๘.กรรมตันรอด(อุปฆาตกกรรม)
หมวดที่ ๓ จำแนกการให้ผลตามหน้าที่
๙.กรรมหนักไห้ผลก่อน(ครุกกรรม)
๑๐.กรรมทำมากหรือทำประจำ(พหุลกรรม)
๑๑.กรรมจวนเจียนหรือกรรมใกล้ตาย(อาสันนกรรม)
๑๒.กรรมที่ทำด้วยเจตนาอ่อน ไม่ได้เจตนาเช่นนั้นโดยตรง(กตัตตากรรมหรือกตัตตาวาปนกรรม
มิจฉาวณิชชา ๕ คือการค้าขายที่ผิดศิลไม่ควรประกอบอาชชีพ ๕ อย่าง คือ
๔.ค้าของมึนเมา (มัชชวณิชชา)
๒.ค้ามนุษย์ (สัตตวณิชชา
๑.ค้าอาวุธ (สัตถวณิชชา)
๓.ค้าสัตว์สำหรับฆ่าเป้นอาหาร (มังสวณิชชา)
๕.ค้ายาพิษ (วิสวณิชชา) ได้แก่ ยาเสพติดทุกชนิด
นิโรธ : ธรรมที่ควรบรรงุ
วิมุตติ ๕ คือ ความหลุกพ้นจากกิเลส มี ๕ อย่าง ดังนี้
๓.สมุจเฉทวิมุตติ การหลุดพ้นจากกิเลสด้วยการตัดขาด
๑.วิกขัมภนวิมุตติ การหลุดพ้นจากกิเลสด้วยการข่มกิเลสไว้ด้วยอำนาจสมาธิ
๕.นิสสรณวิมุตติ การหลุดพ้นจากกิเลสอย่างถาวร
๔.ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ การหลุดพ้นจากกิเลสด้วยความสงบ
๒.ตทังควิมุตติ การหลุดพ้นจากกิเลสด้วยธรรมที่เป็นฝ่ายตรงข้าม
มรรค : ธรรมที่ควรเจริญ
อปริหานิยธรรม ๗ คือธรรมที่ทำไห้ไม่เสื่อมมี๒ฝ่ายดังนี้
๑.ฝ่ายบ้านเมือง(วัชชีอปริหานิยธรรม)มี ๗ ประการดัวนี้
๑.หมั่นประชุมกันเป็นนิตย์ การอยู่ร่วมกันการทำงานกับคนหมู่มาก
๒.พร้อมเพรียงกันประชุม และพร้อมเพรียงกันเลิกประชุม
๓.ไม่บัญญัติสิางที่ไม่ได้บัญญัติ ไม่เพิกถอนสิ่งที่บัญญัติไว้แล้ว
๔.เคารพนับถือผู้ที่เป็นใหญ่และเชื่อฟังคำของท่าน
๕.คุ้มครองป้องกันสตรีและเด็กไม่ไห้ถูกข่มเหงรังแก
๖.เคารพบูชา สักการะนับถือปูชนียสถานที่สำคัญ
๗.จัดไห้ความอารักขา คุ้มครองป้องกันอันชอบธรรมแก่พระอรหันต์ทั้งหลาย
๒.ฝ่ายคณะสงฆ์(ภิกขุอปริหานิยธรรม มี ๗ ประการ ดังนี้
๑.หมั่นประชุมกันประจำ
๒.เมื่อมีประชุมก็พร้อมเพรียงกันประชุม
๕.ไม่ลุอำนาจแก่ความอยากที่เกิดขึ้น
๓.ไม่บัญญัติสิ่งที่พระพุธเจ้าบัญญัติขึ้น
๖.ยินดีในเสนาสนะป่าหมายถึง ภิกษุควรหาโอกาสปลีกวิเวกเพื่อปฏิบัติธรรมบ้าง
๔.เคารพภิกษุผู้เป็นใหญ่ในคณะสงฆ์เชื่อฟังถ้อยคำท่าน
๗.ตั้งใอยู่ว่า เพื่อนภิกษุสามเณร ซึ่งเป็นผู้มีศิล ซึ่งยังไม่มาสู่อาวาส ขอไห้มา ที่มาแล้วขอไห้อยู่เป็นสุข หมายถึงให้ภิกษุมีเมตตาต่อกัน
ปาปณิกธรรม ๓ มี๓ประการดังนี้
๓.นิสสยสัมปันโน มีแหล่งทุนให้พึ่งพาอาศัย
๒.วิธูโร มีความชำนาญในธุรกิจ
๑.จักขุมา มีตาดีดูของเป็น
ทิฏฐธัมมิกัตถสังวัตตนิกธรรม ๔ มี๔ประการ ดังนี้
๑.อุฏฐานสัมปทา มีความขยันหมั่นเพียรในการศึกษา
๒.อารักขสัมปทา รู้จักรักษาทรัพย์สินที่หามาได้
๓.กัลยาณมิตตตา รู้จักคบแต่คนดีเป็นเพื่อน
๔.สมชีวตา ใช่จ่ายทรัพย์สินที่หามาได้อย่างพอดีพอควร
โภคอาทิย ๕ ประโยชน์ที่ควรได้จากโภคทรัพย์ มี๕ ประการดังนี้
๒.เลี้ยงเพื่อนฝูง และผู้ร่วมกิจการงานไห้เป็นสุข
๓.ใช้ป้องกันภยันตราย
๔.ทำพลี(การเสียสละเพื่อช่วยหรืบูชา)
๕.อุปถัมภ์บำรุงสมณพราหมณ์ ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ
๑.เลี้ยงตัว มารดา บิดา บุตร ภรรยา และคนในปกครองไห้เป็สุข
อริยวัฑฒิ ๕ ความเจริญอันประเสริฐ ๕ ประการดังนี้
๑.ศรัทธา ความเชื่อในพระพุทธศาสนา
๕.ปัญญา ความรู้ความเข้าใจในเรื่องต่างๆ
๔.จาคะ การเผื่อแผ่หรือการเสียสละ
๒.ศิล การประพฤติปฏิบัติดี
๓.สุตะ การสดับฟัง
มงคล ๓๘ แต่จะได้เรียน๔เรื่อง ดังนี้
๔.จิตเกษม
๒.จิตไม่เศร้าโศก
๑.ถูกต้องโลกธรรม จิตไม่หวั่นไหว
๓.จิตไม่มัวหมอง จิตปราศจากธุลี