Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษา (หมวดที่ ๒ บททั่วไป…
พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษา
หมวดที่๖ วินัยและการรักษาวินัย
สนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา
มีความตรงต่อเวลา
ไม่คัดลอกหรือลอกเลียนผลงานทางวิชการของผู้อื่นโดยมิชอบ
ต้องวางตนเป็นกลางทางการเมือง
รักษาเกียรติตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนä
การลงโทษเป็นไปตามระเบียบของ ก.ค.ศ
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้ามหรือไม่ปฏิบัติตามจะต้องได้รับโทษที่บัญญัติไว้ในหมวด ๗ มี ๕ สถาน คือ
๔.ปลดออก
๕.ไล่ออก
๓.ลดขั้นเงินเดือน
๒.ตัดเงินเดือน
๑.ภาคทัณฑ์
หมวที่๗ การดาเนินการทางวินัย
การดำเนินการทางวินัยแก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาซึ่งมี กรณีอันมีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทาผิดวินัย ให้ผู้บังคับบัญชาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน
การสอบสวนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่ากระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรงให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา ๕๓ เป็นผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน และต้องมีกรณีอันมีมูลว่ากระทาผิดวินัยอย่าง ร้ายแรงเท่านั้น เว้นแต่กรณีที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากระทำผิดวินัยร่วมกัน
ในกรณีที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต่างหน่วยงานการศึกษาหรือต่างเขต พื้นที่การศึกษา กระทาผิดวินัยร่วมกัน ให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา ๕๓ ของผู้ถูกกล่าวหาแต่ละราย ประสานการดำเนินการร่วมกันในการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน
กรณีที่มีเหตุผลและความจำเป็นเพื่อ รักษาประโยชน์ของทางราชการ หรือจะทำให้การสอบสวนนั้นเสร็จไปโดยเร็วและยุติธรรมก็ให้ผู้ มีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดดังกล่าวมีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นสอบสวนแทนได้
ในกรณีที่กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงต้องลงโทษปลดออก หรือไล่ออก ถ้ามีเหตุอัน ควรลดหย่อนผ่อนโทษห้ามมิให้ลดโทษต่ากว่าปลดออก
ในกรณีกระทำผิดวินัยเล็กน้อยและมีเหตุอันควรงดโทษ จะงดโทษให้โดยให้ทำทัณฑ์บน เป็นหนังสือหรือว่ากล่าวตักเตือนก็ได้
การสั่งลงโทษตามวรรคหนึ่ง
หมวดที่ ๘ การออกจากราชการ
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดประสงค์จะลาออกจากข้าราชการให้ยื่นหนังสือขอลาออกจากผู้บังคับบัญชา
มีอำนาจสั่งให้ข้าราชการครุและบุคลากรทางการศึกษาออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จบำนาญตามกฎหมาย เมื่อผู้ถูกสั่งให้ออกมีสิทธิได้รับบำเหน็จบำนาญ
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาออกจากราชการเมื่อ ตาย พ้นจากราชการตามกฎหมาย ลาออกจากราชการ ถูกสั่งให้ออก ปลดออกเเละถุกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
เมื่อข้าราชการครุและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดต้องรับโทษจำคุกโดยคำสั่งศาลหรือผิดลหุโทษ ผู้มีอำนาจจะสั่งให้ผู้นั้นออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จบำนาญเหตุทดแทนตามกำหมาย
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดมีกรณีถูกตั้งกรรมการสอบสวนหรือผู้มีอำนาจ
หากผุ้ใดรับราชการทหารตามกฎหมาย ผู้มัอำนาจสั่งให้ผู้นั้นออกจากราชการ
ข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดมีกรณีถูกกล่าวหามีเหตุอันควรสงสัย บกพร่องในหน้าที่ราชการหรือประพฤติตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ราชการ
หมวดที่ ๙ การอุทธรณ์และการร้องทุกข์
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดถูกสั่งลงโทษภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือนหรือลดขั้นเงินเดือน ให้มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ อ.ก.ค.ศ
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดถูกสั่งลงโทษปลดออก ไล่ออก หรือถูกสั่งให้ออก มีสิทธิอุทธรณ์หรือร้องทุกข์
หลักเกณฑ์และวิธีการในเรื่องที่เกี่ยวกับการอุทธรณ์และพิจารณาอุทธรณ์ การร้องทุกข์และพิจารณาร้องทุกข์
ผู้ใดเห็นว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือความคับข้องใจเนื่องจากการกระทำของผู้บังคับบัญชาหรือการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยให้ผู้นั้นมีสิทธิร้องทุกข์ต่อ อ.ก.ค.ศ
หมวดที่ ๑ คณะกรรมการบริหารงานบคคลของข้าราชการครูและบคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.)
ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย และบริหารเงินทุน ตลอดจนสวัสดิการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
กำกับ ติดตาม และตรวจสอบการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ของหน่วยงานการศึกษาและเขตพื้นที่การศึกษา
ศึกษา วิเคราะห์ เสนอแนะนโยบาย ประสานงานและดำเนินการเกี่ยวกับการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
พัฒนาระบบข้อมูล และจัดทำแผนกำลังคนสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
จัดทำรายงานประจำปีเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเสนอ ก.ค.ศ.
ศึกษา วิเคราะห์เกี่ยวกับมาตรฐาน หลักเกณฑ์และวิธีการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ กฎหมายอื่น หรือตามที่ ก.ค.ศ.มอบหมาย
วิเคราะห์และวิจัยเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากร
เป็นเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการดำเนินงานในหน้าที่ของ ก.ค.ศ.
หมวดที่ ๓ การกําหนดตำแหน่ง
วิทยฐานะ และการให้ได้รับเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจําตําแหน่ง
ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามี 3 ประเภท คือ
(1) ตำแหน่งซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้สอนในหน่วยงานการศึกษา
(2) ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาและผู้บริหารการศึกษา
(3) ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น
ให้ ก.ค.ศ. จัดทำมาตรฐานตำแหน่ง มาตรฐานวิทยฐานะและมาตรฐานตำแหน่งทางวิชาการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไว้เป็นบรรทัดฐานทุกตำแหน่ง ทุกวิทยฐานะเพื่อใช้ในการปฏิบัติงาน ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงมาตรฐานวิชาชีพ คุณวุฒิการศึกษา การอบรม ประสบการณ์ ระยะเวลาการปฏิบัติงาน คุณภาพการปฏิบัติงาน หรือผลงานที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติหน้าที่
ผู้ใดจะได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใด วิทยฐานะใด จะได้รับเงินเดือนอย่างใด ให้เป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด โดยให้ได้รับเงินเดือนในขั้นต่ำของอันดับ ในกรณีที่จะให้ได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำหรือสูงกว่าขั้นสูงของอันดับ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎ ก.ค.ศ.
หมวดที่ ๒ บททั่วไป
เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น
ไม่เป็นคนไร้ความสามารถ หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
หรือเป็นโรคตามที่กำหนดในกฎ ก.ค.ศ.
ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักราชการ ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามกฎหมายอื่น หรือถูกสั่งพัก หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎหมายองค์กรวิชาชีพนั้นๆ
ไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีสำหรับการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพครูและบุคลากร ทางการศึกษา
ไม่เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
ไม่เป็นผู้เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ หรือองค์การระหว่างประเทศ
ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกเพราะกระทำผิดวินัยตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามกฎหมายอื่น
มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์
มีสัญชาติไทย
ผู้ซึ่งจะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาได้ต้องมีคุณสมบัติทั่วไป ดังต่อไปนี้
ไม่เป็นผู้เคยกระทำการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการ
หรือเข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ
หมวดที่ ๔ การบรรจุและการเเต่งตั้ง
การบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการทางการศึกษาเพื่อเเต่งตั้งให้ดำรงตำเเหน่ง ให้บรรจุเเละเเต่งตั้งจากผู้สอบเเข่งขันได้สำหรับตำแหน่งนั้นโดยเเต่งตั้งตามลำดับ
ผู้สมัครสอบการเเข่งขันเพื่อเเต่งตั้งเป็นข้าราชการครูเเละบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งใด ต้องมีคุณสมบัติทั่วไป เเละต้องมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำเเหน่งมาตรฐาน
การเปลี่ยนตำเเหน่ง การย้ายเเละการโอนของข้าราชการครูเเละบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการครูเเละบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดถูกพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพตามกฏหมายว่าด้วยสภาครูเเละบุคลากรทางการศึกษา ผู้นั้นอาจถูกเปลี่ยนตำเเหน่งได้
ข้าราชการครูเเละบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดได้รับการเเต่งตั้งให้เลื่อนตำแหน่งหรือวิทยฐานะ โดยไม่เข้าเกณฑ์มาตรฐานตำแหน่ง หรือมาตรฐานวิทยฐานะหรือไม่ผ่านกระบวนการเลื่อนตำเเหน่งหรือกระบวนการเลื่อนวิทยฐานะตามกฏหมายหลักเกณฑ์
ผู้ที่ถูกสั่งให้กลับไปดำลงตำเเหน่งหรือวิทยะฐานะเดิมตามวรรคหนึ่ง ให้ได้รับเงินเดือนที่พึ่งจะได้รับตามสถานะเดิมถ้าหากว่าผู้นั้นไม่ได้เลื่อนตำเเหน่งหรือวิทยฐานะ
ข้าราชการครูเเละบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดได้ออกจากราชการเเล้ว เเล้วเเละมิใช่เป็นการออกจากราชการในระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ ถ้าสมัครเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูเเละทางราชการประสงค์จะได้รับผู้นั้นเข้ารับราชการ
หมวดที่๕ การเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ
ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่ประเมินผลงานปฏิบัติงานของข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษาโดยยึดหลักปฏิบัติตนที่เหมาะสมกับการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรศึกาาและปฏิบัติราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งเป็นการบันทึกคำชมเชยรางวัลเครื่องเชิดชูเกียรติ และการเลื่อนขั้นเงินเดือนไหนการบริหารงานบุคคลในเรื่องอื่น
การเลื่อนขั้น การเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ผู้บังคับบัญชาแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาเรื่องการพิจารณาให้เห็นหลักคุณธรรมมีความเที่ยงธรรมเปิดเผยโปร่งใสพิจารณาจากการปฏิบัติงานเป็นหลักความประพฤติในการรักษาวินัยคุณธรรมจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ
ให้ ให้ส่วนราชการและหน่วยงานการศึกษามีหน้าที่จัดสวัสดิการให้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามความเหมาะสมกับภาระทางสังคมและวิชาชีพเพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจให้ปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ