Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน (:star: Action Research (:check:…
การวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน
:star:
Action Research
:check:
ความหมาย
การวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) คือ การค้นหาข้อเท็จจริงโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้ได้สรุปมาแก้ปัญหา โดยผู้วิจัยสามารถดำเนินการได้หลาย ๆ ครั้ง จนบรรลุวัตถุประสงค์หรือแก้ปัญหาได้สำเร็จ
:check:
ความสำคัญ และจุดมุ่งหมาย
เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของการปฏิบัติงานประจำให้ดีขึ้น โดยวิเคราะห์หาสาเหตุที่ทำให้งานนั้นไม่ประสบผลสำเร็จ และหาข้อมูลและวิธีการมาแก้ปัญหา จากนั้นสะท้อนวิธีดังกล่าวไปใช้กับกลุ่มอื่น
:check:
ลักษณะของการวิจัยเชิงปฏิบัติการ
:silhouette:
ยาใจ พงษ์บริบูรณ์ (2537)
เน้นการปฏิบัติการ
เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ดีขึ้น
ใช้การวิเคราะห์วิจารณ์
มีการร่วมกันวิเคราะห์จากสิ่งที่สังเกตเห็นได้
ทั้งนี้เพื่อนำไปสู่การปรับแผนวิจัยให้เหมาะสม (อย่างสมเหตุสมผล)
เป็นการวิจัยที่มีส่วนร่วมและมีการร่วมมือ
เป็นการทำงานเป็นกลุ่ม
ผู้วิจัยทุกคนมีบทบาทหน้าสำคัญเท่าเทียมกัน
ในการร่วมกันวางแผนและปฏิบัติงาน
ใช้วงจรการปฏิบัติการ (The Action Research Spiral)
ตามแนวคิดของ Kimmis & McTaggart
ในการวางแผน (Planning)
และปรับปรุงผล (Re-planning)
:silhouette:
องอาจ นัยพัฒน์ (2548)
มีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อการทำความเข้าใจสภาพปัญหา
มุ่งเน้นการตีความหมายเหตุการณ์ หรือสภาวการณ์ของปัญหาที่เกิดขึ้น
เกี่ยวข้องกับปัญหาทางด้านการปฏิบัติงาน มากกว่าด้านทฤษฎี
เสนอผลการวิจัยในรูปแบบเรียบง่าย
มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมในกระบวนการวิจัย
ผ่อนคลายความเข้มงวดเกี่ยวกับระเบียบวิธีการศึกษาวิจัย
ไม่เน้นการสรุปอ้างอิงผลการศึกษาวิจัยข้ามไปยังบริบทอื่น
สร้างดุลยภาพและความเสมอภาคระหว่างทัศนะของบุคคลภายในและ
ภายนอก
นักวิจัยเชิงปฏิบัติการที่เป็นบุคคลภายใน (insider)
บุคคลภายนอก (outsider)
ของสถานที่ทำการศึกษาวิจัย
:check:
ขั้นตอนและกระบวนการดำเนินการ
:silhouette:
Kemmis &
:silhouette: McTaggart (1988 )
ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนหลัก
ลงมือปฏิบัติการตามแผน (action)
สังเกตการณ์ (observation)
1.การวางแผนเพื่อไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น (planning)
สะท้อนกลับ (reflection)
หากปัญหายังคงอยู่ ให้เริ่มกระบวนการใหม่ (ทำกระบวนการเดิมซ้ำ)
:silhouette:
Stringer (1999)
แบ่งเป็น 3 ขั้นตอนหลัก
1) การพินิจพิเคราะห์ (มอง)
3) การปฏิบัติการ (ปฏิบัติ)
2) การคิดวิเคราะห์ (คิด)
:silhouette:
Coghlan & Brannick (2001)
เป็นการแบ่งขั้นตอนเบื้องต้น 1 ขั้นตอน
การทำความเข้าใจบริบทของปัญหาที่
ต้องการแก้ไขและการกำหนดจุดมุ่งหมายการปฏิบัติการ
และมีขั้นตอนหลัก 4 ขั้นตอน
2) การวางแผนปฏิบัติการ (planning)
3) การลงมือปฏิบัติการ (taking action)
1) การวินิจฉัย (diagnosing)
4) การประเมินผลการปฏิบัติการ (evaluation action)
ขั้นตอนการดำเนินการโดยภาพรวม
จำแนกหรือพิจารณาปัญหาที่ประสงค์จะศึกษา
เลือกปัญหาสำคัญที่เป็นสาระควรแก่การศึกษาวิจัย
เลือกเครื่องมือดำเนินการวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง
ะเครื่องมือที่ใช้สำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูล
บันทึกเหตุการณ์อย่างละเอียดในแต่ละขั้นตอน
(แนวคิดของแต่ละคน)
บันทึกผลของการเปลี่ยนแปลงกิจกรรมและการฝึกปฏิบัต
บันทึกผลของการเปลี่ยนแปลงการใช้ภาษาและการสื่อสาร
บันทึกผลของการเปลี่ยนแปลงการสัมพันธภาพทางสังคมและการจัดระบบ
บันทึกผลของการพัฒนาการที่เป็นข้อค้นพบที่สำคัญของการวิจัย
วิเคราะห์ความสัมพันธ์ในด้านต่างๆ ของข้อมูลที่ได้รวบรวมไว
ตรวจสอบข้อมูลที่กลุ่มวิจัยได้ร่วมกันพิจารณาไว้แล้วอีกครั้งหนึ่ง
เพื่อสรุปหาคำตอบที่เป็นสาเหตุ
วิธีการแก้ปัญหา
และผลที่ได้รับ
:star:
Classroom Research
:check: ลักษณะ
จัดทำโดยครูผู้สอน
มุ่งศึกษากระบวนการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนให้ได้ผลตรงตามความต้องการ
ผลการวิจัยไม่จำเป็นต้องสรุปอ้างอิงไปถึงผู้เรียนกลุ่มอื่น
ไม่จำเป็นต้องใช้สถิติขั้นสูง
ทำกับนักเรียนกลุ่มเล็ก
:check:
ความสำคัญ และจุดมุ่งหมาย
แก้ปัญหา/พัฒนาผู้เรียน
ด้วยกระบวนการวิจัยที่ครูเป็นผู้ปฏิบัติ
ครูใกล้ชิดสุด > เห็นปัญหามากสุด
ครูต้องศึกษา ค้นคว้าการแก้ปัญหาอื่นที่มีผู้ทำวิจัยไว้ เพื่อนำเป็นฐาน
ครูควรปรึกษาแลกเปลี่ยนกับผู้รู้
เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้
ตามความถนัด
ตามความสนใจ
ตามความต้องการ
เป็นประโยชน์ต่อครูผู้สอน
ครูผู้สอนนำกระบวนการวิจัยมาผสมผสาน/บูรณาการจัดการเรียนรู้
เพื่อให้ผู้สอน
ออกแบบการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน
วางแผนการสอนอย่างเป็นระบบ
เกิดความริเริ่มสร้างสรรค์ ในการแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม
:check:
ขั้นตอน
ศึกษาหาวิธีการในการแก้ปัญหา
ครูต้องศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น แนวคิดทฤษฎีการเรียนรู้ หลักสูตร ตำรา
วิธีการแก้ปัญหา
บทเรียนสำเร็จรูป บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) คอมพิวเตอร์ช่วยการเรียนรู้ (CAL)
กิจกรรมต่าง ๆ
พัฒนานวัตกรรมหรือวิธีการแก้ปัญหา
ครูได้ทางแก้ปัญหาจากขั้น 3
ครูต้องศึกษา+ออกแบบ+พัฒนา
นวัตกรรม
วิธีการ
สื่อช่วยกันเรียนรู้ที่ใช้ในการแก้ปัญหา
หาคุณภาพ
จากผู้รู้/ผู้เชี่ยวชาญ
นำนวัตกรรม วิธีการ สื่อ ที่พัฒนาไปให้เพื่อนครูตรวจสอบ
นำข้อเสนอแนะ มาปรับปรุงแก้ไข
วิเคราะห์สาเหตุของปัญหา
การสอนหรือการใช้สื่อหรือการวัดผลของครู
ทัศนคติ
พื้นฐานภูมิหลัง
ระดับความยากหรือปริมาณของเนื้อหาวิชา
บรรยากาศการเรียนรู้ที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น ห้องเรียนคับแคบ ร้อน
นำนวัตกรรมหรือวิธีการแก้ปัญหาไปใช้
นำนวัตกรรม/วิธีการในขั้น 4 ไปใช้
ระบุขั้นตอนดำเนินการอย่างชัดเจน
เก็บรวบรวมข้อมูล
สังเกต+บันทึกพฤติกรรม
ก่อน
ระหว่าง
หลัง
วิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลง
สร้างเครื่องมือที่เหมาะสม
ใช้แบบสังเกตพฤติกรรม
แบบประเมินการปฏิบัติงาน
แบบทดสอบ
สร้างแนวทางการวิเคราะห์ข้อมูล
วิเคราะห์สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นในชั้นเรียน
วิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
สังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน
ตรวจสมุดแบบฝึกหัด
ตรวจสอบและสรุปผล
โดยใช้การแจกแจง/สถิติที่เหมาะสม > สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล
หากแก้ไขไม่ได้ ต้องย้อนไปปรับปรุงแก้ไข ในแต่ละขั้นตอนจนแก้ปัญหาได้
เขียนสรุปผลตั้งแต่ขั้น 1 - 5
ผลที่ได้ก็จะเป็นการแก้ไข/ปรับปรุง/พัฒนาการเรียนรู้
:check:
ความหมาย
เป็นกระบวนการในการแก้ปัญหาหรือพัฒนาการจัดการเรียนรู้ เพื่อหาสาเหตุของปัญหาและหาวิธีแก้ไขที่เชื่อถือได้
Classroom Action Research
:checkered_flag:
:warning: เหตุและปัจจัยที่ผู้สอนต้องทำ CAR
:star: พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2545 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)
กำหหนดให้ผู้สอนต้องทำวิจัยเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอน
(มาตราที่ 30)
ผู้สอนใช้การวิจัยเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนและผู้สอน
(มาตราที่ 24(5))
:star: คุรุสภา
กำหนดให้ผู้ที่จะปฏิบัติงานในวิชาชีพครูต้องมี 'มาตราฐานความรู้/มาตราฐานวิชาชีพทางการศึกษา (9ข้อ)' ในด้าน
"การวิจัยทางการศึกษา"
ให้บัณฑิต(ผู้ที่จะได้รับใบประกอบวิชาชีพครู) ผู้ฝึกปฏิบัติการสอนให้มีการทำวิจัยในโรงเรียนเพื่อพัฒนาผู้เรียน ตรงไปตามมาตราฐานวิชาชีพทางการศึกษา
:star: สมศ.
การใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนและการสอนของตนเอง (1ใน7กิจกรรม)
:fire: แนวคิด
เป็นกิจกกรมและเป้นเครื่องมือในการเรียนรู้และสร้างความรู้ในการปฏิบัติงานยังส่งผลให้ผู้สอนเกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและสร้างสรรค์ในสภาพความสำเร็จและปัญหาของการปฏิบัติงานจัดการเรียนการสอนของตน
:fire: หลักกการ
บูรณาการอยู่ในการปฏิบัติงานการจัดการเรียนการสอนปกติของครู
แหล่งเรียนรู้ที่สำคัญมากของครู
ผู้เรียนเป็นทั้งเหตุและเป็นทั้งผลของการปฏิบัติงานของผู้สอน
:fire: คุณค่าของการวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน
การเรียนรู้และสร้างความรู้เพื่อสู่การเปลี่ยนแปลงแนวคิดและแนวปฏิบัติของผู้สอน
:recycle: แผนภาพโปรแกรมการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน
คลิกเพื่อดูภาพขนาดเต็ม
คลิกเพื่อดูภาพขนาดเต็ม
CAR1 :red_flag: การวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล
ครูต้องการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลเพื่อวางแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
การจัดเก็บข้อมูล/การวิเคราะห์ข้อมูล
ภูมิหลังและพัฒนาการทุกด้าน
ความสนใจ ความถนัด ศักยภาพและความต้องการจำเป็น
SWOT Analysis
4 more items...
CAR2 :red_flag: การประเมินเพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้และการสอนของตนเอง
ครูต้องการประเมินการสอนของตนเองเพื่อพัฒนาแนวคิดและแนวปฏิบัติในการออกแบบ (แผนการจัดการเรียนรู้แบะพฤติกรรมการสอนของตนเอง)
การจัดเก็บข้อมูล/การวิเคราะห์ข้อมูล
บันทึกระหว่างการสอนและหลังสอน
การสังเกตพฤติกรรมนักเรียนทั้งในและนอกชั้นเรียน
การสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้อง
วิเคราะห์ประสิทธิภาพและประสิทธิผล
CAR3 :red_flag: กรณีศึกษานักเรียน
ครูสังเกตเห็นว่านักเรียนบางคนมีปัญหาที่ครูต้องเข้าใจและช่วยคลี่คลายและแก้ไข
การจัดเก็บข้อมูล/การวิเคราะห์ข้อมูล
การสังเกตบริบทต่าง ๆ ทั้งในและนอกชั้นเรียน
การสัมภาษณ์ผู้เรียนและผู้เกี่ยวข้อง
วิเคราะห์ผลงานนักเรียนและเอกสารต่าง ๆ
CAR4 :red_flag: การพัฒนานวัตกรรมในการจัดการเรียนรู้
ครูต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการจัดกิจกรรม การเรียนรู้จึงสร้างนวัตกรรมเพื่อพัฒนาการเพื่อการเรียนรู้
การจัดเก็บข้อมูล/การวิเคราะห์ข้อมูล
ข้อมูลพัฒนาทางพฤติกรรมและผลการเรียนรู้ของผู้เรียน
ข้อมูลสภาวะเริ่มต้น
ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงผลสัมฤทธิ์และคุณลักษณะของนักเรียน