Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Hepatic Encephalopathy หรือโรคสมองจากโรคตับ (การวินิจฉัย (. (การตรวจเลือด…
Hepatic Encephalopathy หรือโรคสมองจากโรคตับ
ป็นภาวะแทรกซ้อนจากการที่ตับเสียหายจนไม่สามารถกำจัดสารพิษออกจากเลือดได้หมด ทำให้มีสารพิษสะสมในระบบไหลเวียนโลหิตและเข้าสู่สมองจนก่อให้เกิดความเสียหาย โรคสมองจากโรคตับอาจเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันหรือเรื้อรัง ผู้ป่วยบางรายที่มีอาการรุนแรงอาจเข้าสู่ภาวะโคม่าและเสียชีวิตได้
อาการ
อาการที่เป็นสัญญาณของ Hepatic Encephalopathy มีดังนี้
.
ลมหายใจมีกลิ่นหวานหรือเหม็นอับ เนื่องจากตับไม่สามารถกำจัดของเสียได้
มีปัญหาเกี่ยวกับการเขียนหรือการเคลื่อนไหวของมือ
มีปัญหาเกี่ยวกับการคิดและการตัดสินใจ
ไม่มีสมาธิ
บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง
มีอาการมึนงง
หลงลืม
มีปัญหาในการนอนหลับ เช่น ง่วงนอนในระหว่างวัน หรือนอนไม่หลับในเวลากลางคืน
หากความเสียหายของสมองรุนแรงขึ้น ผู้ป่วยอาจมีอาการดังต่อไปนี้
.
สับสน มึนงง
วิตกกังวล
ง่วงซึม อ่อนเพลีย
บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
ชัก
มีปัญหาในการเรียบเรียงคำพูด
มีปัญหาในการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น มือสั่น เคลื่อนไหวร่างกายช้าลง เป็นต้น
ชัก
สาเหตุ
มีสาเหตุมาจากความเสียหายของตับ ส่งผลให้ตับไม่สามารถกำจัดสารพิษที่ได้รับจากภายนอก เช่น ยา สารเคมีต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งสารที่ร่างกายสร้างขึ้นเองอย่างแอมโมเนีย ทำให้สารพิษเหล่านี้สะสมในกระแสเลือดและเข้าไปสู่ระบบประสาทและสมองจนเกิดความเสียหายในที่สุด
สาเหตุที่มักทำให้ตับเสียหายและเสี่ยงต่อโรคสมองจากโรคตับ ได้แก่
,
ตับอักเสบจากการติดเชื้อไวรัส เช่น ไวรัสตับอักเสบบี หรือไวรัสตับอักเสบซี
โรคตับแข็ง
โรคไรน์ซินโดรม (Reye's Syndrome) หรืออาการแพ้ยาแอสไพรินที่เกิดขึ้นในเด็ก ส่งผลให้สมองและตับบวมอักเสบอย่างเฉียบพลัน
การอุดตันของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงตับ
ภาวะเป็นพิษต่อตับจากสารเคมี สารพิษ ยา หรือแอลกอฮอล์
นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่ตับมีความเสียหายอยู่แล้วอาจเสี่ยงเกิด Hepatic Encephalopathy มากขึ้น หากมีปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ เช่น
.
ภาวะขาดน้ำ
การรับประทานโปรตีนมากเกินไป
ระดับโพแทสเซียมหรือโซเดียมในร่างกายต่ำ
ระดับออกซิเจนในร่างกายต่ำ
การใช้ยาระงับปวดชนิดเสพติดหรือยากล่อมประสาท
มีเลือดออกในหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร หรือลำไส้
การติดเชื้อ เช่น ปอดบวม
ปัญหาเกี่ยวกับไต
การผ่าตัด
ภาวะแทรกซ้อนจากการทำทางเชื่อมระหว่างโพรงสมองเพื่อรักษาภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ
การวินิจฉัย
โดยการตรวจร่างกายเบื้องต้นและสอบถามเกี่ยวกับอาการรวมทั้งประวัติการรักษา จากนั้นอาจตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้
.
การตรวจเลือด เพื่อวัดระดับแร่ธาตุ การทำงานของตับ การทำงานของไต และค่าของเสียในร่างกาย
การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด การมีจำนวนเซลล์เม็ดเลือดแดงต่ำหรือภาวะโลหิตจางอาจบ่งบอกถึงการสูญเสียเลือดและการขาดออกซิเจนซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้ตับเกิดความเสียหายได้
การตรวจการทำงานของตับ ค่าระดับเอนไซม์ตับที่เพิ่มขึ้นอาจบ่งบอกถึงความเสียหายของตับได้
การทำ CT Scan หรือ MRI Scan ที่สมอง เพื่อหาสาเหตุและความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับสมอง
การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง เป็นการตรวจดูการทำงานและความผิดปกติของสมอง
การรักษา
ผู้ป่วยบางคนอาจเกิดโรค Hepatic Encephalopathy ในช่วงเวลาสั้น ๆ และสามารถรักษาให้หายได้ แต่บางรายอาจกลับมาเป็นซ้ำหรือเกิดขึ้นอย่างถาวรได้หากมีปัญหาเรื้อรังเกี่ยวกับตับ
แพทย์จะพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ สิ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการ ลักษณะอาการของผู้ป่วย ความรุนแรงของอาการ ความรุนแรงของโรคตับที่เป็นอยู่ อายุ และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย
แพทย์อาจเริ่มรักษาโดยแนะนำให้ใช้ยาเพื่อช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ได้แก่
ยาแล็กทูโลส เป็นน้ำตาลสังเคราะห์ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทำให้ร่างกายขับสารพิษออกจากร่างกายผ่านการขับถ่ายได้
ยาปฏิชีวนะ เป็นยาที่มีฤทธิ์ในการควบคุมจำนวนแบคทีเรียที่สร้างสารพิษออกมาในระหว่างกระบวนการย่อยอาหาร
ผู้ป่วยอาจต้องจำกัดโปรตีนหากการรับประทานโปรตีนเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการ เนื่องจากอาหารชนิดนี้อาจทำให้ร่างกายสร้างแอมโมเนียมากเกินไปและกำจัดได้ไม่ทัน อาหารโปรตีนสูงที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ สัตว์ปีก เนื้อแดง ไข่ ปลา เป็นต้น โดยแพทย์หรือนักโภชนาการจะช่วยวางแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะสมให้กับผู้ป่วย เพื่อให้ได้รับโปรตีนอย่างเพียงพอโดยไม่กระทบกับโรค และต้องงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด เพราะการดื่มในปริมาณเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เสี่ยงเกิดความเสียหายต่อตับได้