Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ESRD (ผลกระทบของภาวะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายต่อระบบต่าง ๆ…

- - - - มีน้ำและโซเดียมคั่งมาก
      - มีการกระตุ้นการหลั่งเรนิน แองจิโอเทนซินและอัลโดสเตอร์โรน
        
        กลไกการเกิดความดันโลหิตสูงจากไต (พบร้อยละ 10 ของความดันโลหิตสูงทั้งหมด) เกิดจากการลดอัตราการไหลเวียนเลือดมาไตน้อยลง มีการกระตุ้น Juxtaglomerular apparatus หลั่งเอนไซม์เรนิน ซึ่งกระตุ้นการสร้างแองจิโอเทซิน I, II ทำให้หลอดเลือดส่วนปลายหดตัว และไปกระตุ้นต่อมหมวกไต ส่วนเมดดูล่าหลั่ง aldosterone ร่างกายจึงกักเก็บโซเดียมและน้ำมากขึ้น ความดันโลหิตจึงสูงขึ้น
    - - ความดันโลหิตสูง
      - ภาวะน้ำและโซเดียมในร่างกายสูงมากเกินไป
      - ภาวะโลหิตจาง
    - - มักพบร่วมกับภาวะมีน้ำในช่องเยื่อหุ้มหัวใจ อาจมีหรือไม่มีอาการหรือมีเพียงเจ็บหน้าอก เวลาหายใจเข้า อาจฟังได้ pericardial friction rub มีไข้ต่ำ ๆ ร่วมกับการตรวจพบระดับยูเรียในเลือดมากกว่า 100 mg%
  - - - เริ่มตั้งแต่มีอาการซึมลง ขาดความมีสมาธิ ตั้งใจทำงานลดลง การตัดสินใจไม่ดี เมื่อเป็นมากขึ้นอาจเกิดอาการสับสน ไม่รู้วัน เวลา บุคคล สถานที่ ประสาทหลอน และกลายเป็นโรคจิต ทั้งนี้ขึ้นกับบุคลิกภาพก่อนเจ็บป่วยของแต่ละคน อาการปวดศีรษะอ่อนเพลีย นอนไม่ค่อยหลับในเวลากลางคืน แต่มักง่วงซึมในเวลากลางวัน ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขจะมีอาการกระตุก ชัก เพ้อ และหมดสติในที่สุด
    - - ระบบประสาทส่วนปลาย มักพบว่ามีอาการ restless leg syndrome ซึ่งเริ่มมีอาการร้อนที่เท้า ถูกต้องแล้วเจ็บ มีอาการขยับเท้าตลอดเวลาต่อมาจะมีอาการชา ผู้ป่วยมักเดินเท้าห่าง ทำให้ทรงตัวได้ไม่ดี
  - - - แผลในปาก, แผลกระเพาะอาหาร, แผลลำไส้เล็กส่วนต้น, แผลลำไส้ใหญ่
      - เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ท้องเดิน ท้องผูก มีเลือดออก การรับรู้รสเฝื่อน และมีอาการสะอึก
      - หายใจได้กลิ่นปัสสาวะ (uremic fetor)
  - - - มีการสร้างฮอร์โมน erytroproietin น้อยลง ทำให้การกระตุ้นไขกระดูกให้สร้างเม็ดเลือดแดงน้อยลง
      - มีการสูญเสียเลือดไปกับระบบทางเดินอาหาร เจาะเลือดไปตรวจบ่อย ๆ และการรักษาด้วยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ประมาณเดือนละ 400 – 600 มล. ทำให้มีการสูญเสียเหล็กไปด้วย (เลือด 20 มล. มีเหล็ก 5 มก.) ฉะนั้นผู้ป่วยจึงมีภาวะซีดจากการขาดเหล็กเป็นส่วนใหญ่ (Iron deficiency anemia) ควรเสริมอาหารที่มีเหล็ก
      - เม็ดเลือดแดงมีอายุสั้นกว่าปกติ เนื่องจากร่างกายมีภาวะเป็นกรด มีสารพิษมากเช่น กัวนิดิน (guanidin) ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกง่าย มีอายุสั้นกว่าปกติ ร้อยละ 30 – 50 ของอายุของเม็ดเลือดแดง
      - มีการหลั่งฮอร์โมนพาราไธรอยด์มาก เนื่องจากการกระตุ้นของการขาดแคลเซียมในเลือด มีผลทำให้ไขกระดูกเกิดไฟโปรสัส ไขกระดูกฝ่อไม่สามารถสร้างเม็ดเลือดแดงได้
- - - - 3.1 ให้ cation – exchange เช่น เคเอกซาเลท (sodium polystyrene sulfate) ให้ทางปากหรือสวนเข้าทางทวารหนัก มีกลไก คือ จะมีการแลกเปลี่ยนกับโซเดียม แล้วโปตัสเซียมจะถูกขับออกมากับอุจจาระ
      - 3.2 ให้อินซุลินและกลูโคส มีผลทำให้กลูโคสเข้าเซลพร้อมดึงโปตัสเซียมเข้าสู่เซลด้วย
      - 3.3 ให้แคลเซียมไบคาร์บอเนต เป็นการช่วยให้โปตัสเซียมเข้าสู่เซลมากขึ้น
      - 3.4 การทำไดอะไลซิส (dialysis)