Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่ถูกสัตว์กัดต่อย (สุนัข/แมว (สาเหตุ (การถูกกัด, ถูกข่วน,…
การพยาบาลเด็กที่ถูกสัตว์กัดต่อย
สุนัข/แมว
ความหมาย
ซึ่งอาจเกิดจากการกัด หรือ ข่วน จากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น สุนัข แมว หนู เป็นต้น
สาเหตุ
การถูกกัด
ถูกข่วน
เลีย หรือ มีน้ำลายกระเด็นเข้าตาและจมูก
พยาธิสรีรภาพ
การติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าในคนเกิดจากขึ้นได้ โดยเชื้อไวรัสออกมากับน้ำลายสัตว์ที่ติดเชื้อและเข้าสู่ร่างกายคนทางบาดแผล
ระยะฟักตัวของโรคพิษสุนัขบ้า
ระยะฟักตัวในคนประมาณ 3 สัปดาห์ จนถึง 4 เดือน
อาการและอาการแสดง
มีบาดแผล
รอยข่วน/ถลอก
มีเลือดออก
การวินิจฉัย
1.ซักประวัติ
2.ตรวจร่างกาย ดูขนาดแผล ความลึก
3.ทางห้องปฏิบัติการ
ตรวจหาแอนติเจนต่อเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้าด้วยวิธี Fluorescent Antibody Technic
ตรวจยืนยันด้วยการแยกเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้าในกรณีที่ผลการตรวจหาแอนติเจนด้วยวิธี FAT เป็นลบ
Mouse Inoculaltion Test (MIT) Cell Isolation
การรักษา
1.ไม่เย็บแผลทันที ปล่อยไว้2-3วัน ถ้าแผลใหญ่ให้เย็บหลวม
2.วัคซีน ฉีดวันที่0 3 4 7 14 30 90 หลังถูกกัด
การปฐมพยาบาล
1.รีบทำความสะอาดแผลด้วนน้ำสบู่หลายๆครั้ง
2.ใส่ยาฆ่าเชื้อ
ข้อวินฉัยทางการพยาบาล
1.ปวดเนื่องจากมีแผลเปิดจากการถูกกัด
ภาวะแทรกซ้อน
โรคพิษสุนัขบ้า
ติดเชื้อ capnocytophaga spp
บาดทะยัก
งูกัด
ชนิดของงู
Elapidae มีเขี้ยวพิษอยู่ที่กรามบนด้านหน้า ไม่เห็นรอยเขี้ยว
งูเห่า
งูจงอาง
งูสามเหลี่ยม
งูทับสมิงคลา
งูพริก
งูปล้องหวาย
Viperidae มีเขี้ยวพิษอยู่กรามบนด้านหน้า จะเห็นรอยเขี้ยว
Cratalinae จะมีรูอยู่ระหว่างจมูกกับตา
งูกะปะ
งูเขียวหางไหม้
Viperinae จะไม่มีรูอยู่ระหว่างจมูกกับตา
งูแมวเซา
Hydrophiidae มีเขี้ยวพิษอยู่ที่กรามบนด้านหน้าไม่เห็นรอยเขี้ยว
งูทะเล
Colubridae มีเขี้ยวพิษอยู่ที่กรามบนอยู่ด้านในสุด
งูลายสาบคอแดง
งูปล้องทอง
งูหลาม
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
1.ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ เนื่องจากมีอัมพาตของกล้ามเนื้อช่วยหายใจ
2.มีโอกาสเสี่ยงต่อภาวะแพ้สารต้านพิษงู
3.ปวดแผลเนื่องจากงูกัด
4.ผู้ป่วยมีโอการเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแผลติดเชื้อเนื่องจากบาดแผลไม่สะอาด
อาการและอาการแสดง
งูในกลุ่ม Elapidae
ทั่วไป : งูสามเหลี่ยม และงูทับสมิงคลากัด จะไม่พบอาการบวมแดงหรือแผลเน่า งูเห่าหรืองูจงอางกัดจะเกิดแผลเน่า
เฉพาะ : ตาพร่า พูดไม่ชัด หนังตาตก
งูในกลุ่ม Viperidae
ทั่วไป : ตุ่มพุพอง
เฉพาะ : เลือดออกในที่ต่างๆ
งูในกลุ่ม Hydrophiidae
ทั่วไป : ปวด บวม กระหายน้ำ
เฉพาะ : อ้าปากไม่ได้ อัมพาต
งูในกลุ่ม Colubridae
ทั่วไป : ปวดเล็กน้อย
เฉพาะ : จ้ำเลือด เลือดออก
วินิจฉัย
1.ซักประวัติ
2.ตรวจร่างกาย
3.ห้องปฏิบัติการ
เม็ดเลือดขาวสูงได้ตั้งแต่ 10,000-20,000 ตัวต่อลบ.ซม.
ค่าฮีมาโตคริตจะสูง ต่อมาฮีมาโตคริตจะต่ำได้
เกล็ดเลือดจะต่ำ
FDP สูง
SGOT SGPT CPK จะสูง
พยาธิสรีรภาพ
การรักษา
การปฐมพยาบาล
ความสะอาดแผลที่ถูกงูกัดด้วยยาฆ่าเชื้อ
ตำแหน่งขาหรือแขนที่ถูกกัดควรให้เคลื่อนไหวน้อยที่สุด
รัดเนื้อแผล ปล่อยทุก 15 นาที
ภาวะแทรกซ้อน
ผึ้ง แตน และต่อต่อย
พยาธิสรีรภาพ
พิษของผึ้งจะประกอบไปด้วยโปรตีนที่เรียกว่า melitin เป็นองค์ประกอบสำคัญ ประมาณร้อยละ 50 ของพิษ สาร melitin มีผลทำให้เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และไลโซไซม์แตก
สาเหตุ : การถุกต่อย
อาการ
ไม่รุนแรง
ปวดเล็กน้อย
ผื่นแดง
คัน
รุนแรง
ลิ้น ตา ปาก บวม
อาเจียน
หายใจลำบาก
ช็อก
อ่อนเพลีย
แน่นหน้าอก
หายใจลำบาก
หายใจเสียงดัง
การปฐมพยาบาล
พันผ้าเหนือบริเวณที่ถูกกัด 2-4 นิ้ว และทำความสะอาดตรงตำแหน่งที่ถูกกัดด้วยน้ำ และสบู่
ฉีด epinephrine
3.หยิบเหล็กไนออก
ภาวะแทรกซ้อน
ภาวะแทรกซ้อน
ไตวายเฉียบพลัน
การรักษา
ให้ยาต้านฮีสตามีนเพื่อลดอาการคัน
ให้ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอ]
ถ้าบวมมากให้สเตอรอยด์ เช่น เพรดนิโซโลน 50 มิลลิกรัม /วัน เป็นเวลา 3 วัน
ยาปฏิชีวนะส่วนใหญ่ไม่จำเป็นในแผลที่ถูกผึ้งต่อย แต่จำเป็นในแผลที่ ต่อ แตนต่อย
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
1.เสี่ยงต่อการสูญเสียความสมบูรณ์ของผิวหนังเนื่องจากถูกแมลงสัตว์กัดต่อย
วินิจฉัย