Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะช็อคจากหัวใจ(Cardiogenic Shock) (อาการและการแสดง (Systoloic ต่ำกว่า 90…
ภาวะช็อคจากหัวใจ(Cardiogenic Shock)
ความหมาย
เกิดจากหัวใจที่ไม่มีประสิทธิภาพ ลักษณะสำคัญคือ Systolic ต่ำกว่า 80 mmHg ตรวจร่างกายจะพบ Neck Engorgement ชีพจรมากกว่า 100 ครั้ง/นาที ไม่สม่ำเสมอ
สาเหตุ
1.การสูญเสียประสิทธิภาพในการบีบตัวของหล้ามเนื้อหัวใจ ที่พบบ่อยย เช่น
ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย
การอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจ
กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง
2.การอุดกั้นการไหลของเลือด
3.สาเหตุอื่นๆ ได้แก่ โรคลิ้นหัวใจที่ทำให้ช่องลิ้นหัวใจมีขนาดเล็กลง เลือดผ่านเข้าออกได้น้อยหรือลิ้นหัวใจรั่ว
aortic stenosis
mitral regurgitation
myocardial aneurysm
การเต้นของหัวใจผิดจังหวะ
อาการและการแสดง
Systoloic ต่ำกว่า 90 mmHg
ความดันโลหิตลดลงอย่างเฉียบพลันมากกว่า 30 mmHg
อัตราการเต้นของหัวใจมากกว่า 100 ครั้้ง/นาที
ชีพจรเบาเร็ว
พบเสียง crackle ในปอด
เสียงหัวใจเต้นเบาลง
ประสาทการรับรู้เปลี่ยนแปลง
ผิวหนังเย็น ซีด ชื้น
Cardiac index < 2,2 L/min/m2
Pulmonary artery occlusion pressure เพิ่มขึ้น
Systemic vascular resistance เพิ่มขึ้น
หลักการรักษา
1.เพิ่มประสิทธิภาพในการบีบตัวของหัวใจ โดยให้ยากลุ่ม Inotropic agents และ Vasopressors
Dobutamine
Dopamine
Milinone
2.การรักษาภาวะสมดุลของ Preload และ After load โดดยการให้ยาขับปัสสาวะและยาขยายหลอดลม
3.เพิ่มปริมาณเลือดที่ออกจากหัวใจ โดยการทำ Intra-aortic ballloon pump (IAMP)
4.การป้องกันการเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Arrhythmia) โดยการทำ Digitallis หรือ Cordarone
เกณฑ์การวินิจฉัย
1.SBP < 90 mmHg มากกว่าหรือเท่ากับ 1 ชั่วโมง โดยที่
ไม่ตอบสนองต่อการให้สารน้ำทดแทนเพียงอย่างเดียว
แรงดันเลือดที่ต่ำลงมีสาเหตุจากความผิดปกติของหัวใจ
มีอาการแสดงของ hypoperfusion หรือ cardiac index มากกว่า 18 mmHg
2.ผู้ป่วยมีลักษณะดังต่อไปนี้
ผู้ป่วยมี SBP > 90 mmHg ภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากการได้รับยากระตุ้นการบีบตัวของหัวใจ โดยมีเกณฑ์วินิจฉัยตามข้อที่ 1
ผู้ป่วยที่เสียชีวิตภายใน 1 ชั่วโมงหลังเกิดภาวะ hypotension โดยมีเกณฑ์วินิจฉัยตามข้อที่ 1
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
1.เสี่ยงต่อภาวะเนื้อเยื่อขาดออกซิเจน เนื่องจากปริมาณเลือดที่สูบฉีดออกจากหัวใจใน 1 นาที ลดลงจากสาเหตุต่างๆ ของภาวะช็อค
2.การกำซาบของเนื้อเยื่อลดลงเนื่องจากปริมาตรเลือดหรือของเหลวในร่างกายลดลง ความสามารถในการสูบฉีดเลือดของหัวใจลดลง และความต้านทานของหลอดเลือดเพิ่มขึ้น
3.เสี่ยงต่อการเกิดภาวะขาดสารอาหารเนื่องจากมีการเพิ่มการเผาผลาญภายในร่างกายและการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
4.ผู้ป่วยและครอบครัวมีความวิตกกังวลต่อความเจ็บป่วย เนื่องจากภาวะคุกคามต่อชีวิต
5.เสี่ยงต่อการเกิดการรับความรู้สึกผิดปกติเนื่องจากประสาทรับความรู้สึกถูกกระตุ้นมากเกินไปหรือขาดสิ่งกระตุ้นประสาทความรู้สึก
6.เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เนื่องจากเกิดภาวะช็อค
7.เสี่ยงต่อการเกิดความรู้สึกสูญเสียพลังอำนาจ เนื่องจากภาวะช็อค การขาดความรู้เกี่ยวกับโรคและการรักษาพยาบาล
8.เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากการใช้เครื่องมืออละอุปกรณ์ในการเฝ้าระวังผู้ป่วย