ช็อกจากการเสียเลือดและน้ำ
Hypovolemic Shock
ความหมาย
เป็นภาวะช็อกที่เกิดจากการเสียเลือดหรือน้ำออกจากร่างกาย ทำให้สารน้ำและอิเล็กโทรไลต์ไม่สมดุล และการไหลเวียนเลือดไม่เพียงพอซึ่งการเสียเลือดมีทั้งเสียเลือดภายนอกและภายใน
สาเหตุ
ภายนอก
ภายใน
เสียเลือด
เสียพลาสมา
เสียน้ำออกจากร่างกาย
เสียเลือดภายใน
เสียน้ำเข้าไปในลำไส้ (fluid leak in to the interstinal)
เสียน้ำเข้าไปในส่วนที่สามของร่างกาย (third space) เช่น ascites
พยาธิสรีรภาพ
ปริมาณน้ำในระบบไหลเวียนลดลง
ไฟไหม้
การบาดเจ็บ
อาเจียนเป็นเลือด
คลอดบุตร
ความผิดปกติของฮอร์โมน
ภาวะวิกฤตของต่อมหมวกไต
เบาหวานที่มี osmotic diuresis
ปริมาณเลือดไหลกลับสู่หัวใจ (venous return) ลดลง
ปริมาณเลือดที่หัวใจบีบตัวแต่ละครั้ง (stroke volume) ลดลง
cardiac output ลดลง
การไหลเวียนของเลือด และการกำซาบของเนื้อเยื่อไม่เพียงพอ
เนื้อเยื่อขาดออกซิเจน
ความรุนแรงของภาวะช็อก
ระดับที่ 1
ระดับที่ 2
ระดับที่ 3
สูญเสียเลือดร้อยละ 15 ของปริมาณเลือดไหลเวียนทั้งหมดหรือ 750 มล.
ร่างกายสามารถปรับชดเชยรักษาปริมาณ cardiac output ไว้ได้
สูญเสียเลือดร้อยละ 15-30 ของปริมาณเลือดไหลเวียนทั้งหมด หรือ 750-1,500 มล.
กระสับกระส่าย
pulse pressure แคบ
หัวใจเต้นเร็ว 100-120 ครั้ง/นาที
Capillary refill นานเกิน 3 วินาที
สูญเสียเลือดร้อยละ 30-40 ของปริมาณเลือดที่ไหลเวียนทั้งหมดหรือ 1,500-2,000 มล.
กระสับกระส่าย
สับสน
ความดันโลหิตต่ำ
Pulse pressure แคบ
อัตราการเต้นของหัวใจ >120 ครั้ง/นาที
หายใจเร็ว 30-40 ครั้ง/นาที
ปัสสาวะออกน้อย 5-15 มล./ซม.
เมื่อเกิดภาวะช็อกจะทำให้มีผลกระทบต่ออวัยวะต่างๆ
ต่อมหมวกไต
หลักการในการรักษา
กระตุ้นการทำงานของหัวใจ
1.ระยะแรกควรให้สารน้ำทดแทนประมาณร้อยละ 20 ของปริมาณเลือดทั้งหมดในร่างกาย (total blood volume) ภายในเวลา 15 นาที เพื่อรักษาค่า MAP ให้มากกว่า 60-70 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งสารน้ำที่ให้ทดแทนเป็นกลุ่ม Isotonic solution เช่น Lactated Ringer,0.9% Sodium chloride เนื่องจากมีความเข้มข้นใกล้เคียงกับเลือดมากที่สุด
หัวใจ
2.ทดแทนปริมาณเลือดในระบบไหลเวียนต่อไปอีกร้อยละ 20-30 ของปริมาณเลือดทั้งหมดในร่างกายภายใน 30-60 นาที เพื่อให้ได้ปริมาณ cardiac output ที่เพียงพอที่จะทำให้ tissue perfusion เหมาะสม (ปัสสาวะออกมากกว่า 0.5-1 ml/kg/hr, skin perfusion ดีขึ้น)
บีบตัวแรงและถี่
ปริมาตรเลือดออกจากหัวใจลดลง
ชีพจรจึงเต้นเร็วและเบา
ปอด
หายใจเร็วขึ้น (tachypnea)
เพิ่มออกซิเจนมากขึ้น แต่จะไม่สามารถชดเชยได้
- พิจารณาชนิด จำนวน อัตราเร็วของสารน้ำที่จะให้ต่อไป เพื่อรักษาองค์ประกอบของเลือดให้เหมาะสม ได้แก่ Hematocrit (Hct) มากกว่า 30%, platelet (Plt) มากกว่า 75,000-100,000/mm, international normalized ratio (INR) น้อยกว่า 1.5, ค่า Acid-base,electrolyte,blood sugar อยู่ในเกณฑ์ปกติ
เลือด
ไหลเวียนของเลือดลดลง
การพยาบาล
ระดับที่ 4
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่ 4 การขับเสมหะไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากระดับความรู้สึกตัวลดลง
สูญเสียเลือดร้อยละ > 40 ของปริมาณเลือดที่ไหลเวียนทั้งหมดหรือ > 2,000 มล.
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลข้อที่ 1 ปริมาณเลือดออกจากหัวใจใน 1 นาทีลดลง เนื่องจากปริมาตรเลือดและน้ำในร่างกายลดลง
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่ 3 การและเปลี่ยนก๊าซลดลง (impaired gas exchange) เนื่องจากการนำออกซิเจนของเม็ดเลือดแดงไม่มีประสิทธิภาพ/การหายใจลดลง
อัตราการเต้นของหัวใจ >140
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่ 2 การกำซาบเนื้อเยื่อไม่มีประสิทธิภาพ (ineffective tissue pertusion) เนื่องจากการไหลเวียนของเลือดถูกขัดขวาง/ปริมาตรเลือดพร่อง/ภาวะซีด/การไหลกลับของเลือดลดลง/การขยายตัวของหลอดเลือด
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่ 5 ผู้ป่วย/และครอบครัวมีความวิตกกังวลเนื่องจากภาวะเจ็บป่วยวิกฤต/การทำหัตถการในการรักษา/สภาพแวดล้อมในห้องหอซียู
ไม่รู้สึกตัว
ความดันโลหิตลดลง
Pulse pressure แคบ
สับสนมาก
ไม่ปัสสาวะ
หายใจเร็ว > 40
Pulse pressure แคบ
Capillary refill ช้า