Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กำเนิดโลก (แผ่นดินไหว (บริเวณที่เกิด (บริเวณขอบของแผ่นเปลือกโลก,…
กำเนิดโลก
-
หลักฐานและข้อมูล
-
รอยแยก
-
การค้นพบหินบะซอลต์ที่บริเวณร่องลึกหรือรอยแยกบริเวณเทือกเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติกและยังพบอีกว่าหินบะซอลต์ที่อยู่ไกลจากรอยแยกมีอายุมากกว่าหินบะซอลต์ที่อยู่ใกล้รอยแยก
ซากดึกดำบรรพ์
ส่วนใหญ่มาจากส่วนที่แข็ง ๆของสัตว์และพืช เช่น เปลือกหอยกระดูก ฟัน หรือไม้ ซึ่งอาจจะเปลี่ยนแปลงไปจากรูปเดิมหรือไม่ก็เปลี่ยนเป็นแร่ธาตตสัตว์และพืชจะถูกเก็บอยู่ในหนองซึ่งทับถมกันจนด้าเกือบเป็นน้้ามัน น้้าแข็งและอ้าพัน ยางของต้นไม้โบราณ ไข่
เปลี่ยนแปลงอากาศ
ท้าให้เกิดการสะสมตัวของตะกอนในบริเวณต่างๆของโลก เช่น หินที่เกิดจากตะกอนธารน้้าแข็ง ซึ่งควรจะ
เกิดขึ้นบริเวณขั้วโลก แต่ปัจจุบันพบหินลักษณะนี้ในบริเวณชายทะเลตอนใต้ของแอฟริกาและอินเดีย
สนามแม่เหล็กโบราณ
หลักฐานที่ใช้พิสูจน์ทฤษฎีการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีภาค โดยใช้หลักที่ว่าในอดีตเหล็กที่เกิดปนอยู่กับแร่อื่นๆ ก่อนจะมีการแข็งตัวกลายเป็นหินจะมีการเรียงตัวในรูปแบบที่เกิดจากการเหนี่ยวน้าของสนามแม่เหล็กโลกในขณะนั้น
การเลื่อนของแผ่นธรณีภาค
พ.ศ. 2458 ชาวเยอรมันชื่อ ดร.อัลเฟรด เวเกเนอร์ (Dr. Alfred Wegener) ตั้งสมมุติฐานเกี่ยวกับการเลื่อนของแผ่นธรณีภาคจากอดีตถึงปัจจุบัน โดยก้าหนดว่า เมื่อประมาณ 3,002,200 ล้านปีมาแล้ว ผืนแผ่นดินทั้งหมดบนโลกเป็นแผ่นดินผืนเดียวกันเรียกว่า พันเจีย
2,002,135 ล้านปี พันเจียเริ่มแยกออกเป็นทวีปใหญ่ 2 ทวีป คือ
ลอเรเซียทางตอนเหนือ และกอนด์วานาทางตอนใต้ โดยกอนด์วานาจะแตกและเคลื่อนแยกจากกันเป็นอินเดีย อเมริกาใต้ และแอฟริกาในขณะที่ออสเตรเลียยังคงเป็นส่วนหนึ่งของกอนด์วานา
135,265 ล้านปี มหาสมุทรแอตแลนติกแยกตัวกว้างขึ้น ท้าให้
แอฟริกาเคลื่อนที่ห่างออกไปจากอเมริกาใต้ แต่ออสเตรเลียยังคงเชื่อมอยู่กับแอนตาร์กติกา และอเมริกาเหนือกับยุโรปยังคงต่อเนื่องกัน
65 ล้านปี ปัจจุบัน มหาสมุทรแอตแลนติกขยายกว้างขึ้นอีก อเมริกา
เหนือและยุโรปแยกจากกัน อเมริกาเหนือโค้งเว้าเข้าเชื่อมกับอเมริกาใต้ออสเตรเลียแยกจากแอนตาร์กติกา และอินเดียเคลื่อนไปชนกับเอเชียจนเกิดเป็นภูเขาหิมาลัย
ลักษณะการเคลื่อนที่
แยกออกจาก
แนวขอบของแผ่นธรณีภาคที่แยกออกจากกัน เนื่องจากการดันตัวของแมกมาในชั้นธรณีภาค ท้าให้เกิดรอยแตกในชั้นหินแข็ง จนแมกมาสามารถถ่ายโอนความร้อนสู่ชั้นเปลือกโลกได้ ---หุบเขาทรุด
เข้าหากัน
มหาสมุทรกับธรณี
แผ่นธรณีภาคแผ่นหนึ่งจะมุดลงใต้แผ่นธรณี
ภาคอีกแผ่นหนึ่ง ปลายของแผ่นธรณีภาคที่มุดลง จะหลอมตัวกลายเป็นแมกมาประทุขึ้นมา เกิดเป็นแนวภูเขาไฟกลางมหาสมุทร เช่นที่ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์
ธรณีกับธรณี
มหาสมุทรหนักกว่าจะมุดลงใต้ ท้าให้เกิดรอยคดโค้งเป็นเทือกเขาบนแผ่นธรณีภาคภาคพื้นทวีป เช่นที่ อเมริกาใต้แถบตะวันตก แนวชายฝั่งโอเรกอน
ทวีปกับทวีป
ชนกันท้าให้ส่วนหนึ่งมุดตัวลงอีกส่วนหนึ่งเกยอยู่ด้านบน เกิดเป็นเทือกเขาสูง เช่นเทือกเขาหิมาลัย เทือกเขาแอลป
ผ่านกัน
มักเกิดใต้มหาสมุทร ภาคพื้นทวีปก็มี เนื่องจากการเคลื่อนตัวของ
แมกมาในชั้นเนื้อโลกไมเท่ากัน ท้าให้แผ่นธรณีภาคเคลื่อนที่ไม่เท่ากันด้วยเกิดการเลื่อนผ่านและเฉือนกัน เป็นรอยเลื่อนระนาบด้านข้างขนาดใหญ
โครงสร้าง
นอก
-
อุทกภัย
ส่วนที่เป็นน้ าทั้งหมดบนพื้นผิวโลก เช่น แม่น้ า ล าคลอง
ทะเล มหาสมุทร ฯลฯ ตลอดจนน้ าที่อยู่ใต้ดิน ซึ่งแทรก
อยู่ตามช่องว่างในรูพรุนและรอยแตกของหิน ในส่วนที่
เป็นน้ าที่อยู่บนโลกนั้นมีอยู่ 3 ใน 4 ส่วนของโลก
ชีวมณฑล
บริเวณพื้นผิวที่สิ่งต่างๆที่มีชีวิตเกิดขึ้น ทั้งที่มีชีวิต
อยู่และตายไปแล้วก็ตาม ในส่วนของพวกที่ตาย ถ้าไม่มี
การเน่าเปื่อย ผุพัง ก็จะกลายเป็นซากดึกด าบรรพ์
(Fossils) ก่อให้เกิดแหล่งถ่านหิน หรือแหล่งน้ามัน
ธรณีภาค
ส่วนของแข็งที่ห่อหุ้มอยู่รอบนอกสุดของโลก
ประกอบด้วย ดิน แร่ หินต่าง ๆ มีความหนาประมาณ
45 กิโลเมตร ธรณีภาคนั้นมีความส าคัญที่สุดทางด้าน
ธรณีวิทยาบนพื้นผิวโลก
ใน
เปลือก
ชั้นนอกสุดของธรณีภาคมีความหนาประมาณ 30 - 45 กม. มี
องค์ประกอบส่วนใหญ่เป็น ซิลิคอนออกไซด์
และอะลูมิเนียมออกไซด
เนื้อ
หนาประมาณ 2,900 กม. หินที่ประกอบ
เป็นเปลือกโลกชั้นในคือ หินอัคนีที่มีสีเข้มมาก
ไหลเวียนอย่างช้า ๆ มีองค์ประกอบหลักเป็น
ซิลิคอนออกไซด์ แมกนีเซียมออกไซด์และเหล็ก
ออกไซด
แกน
นอก
ส่วนใหญ่มีธาตุนิเกิลและเหล็ก
ความหนา 2,200 กม. ประกอบด้วยสารละลาย
ที่เรียกว่าของเหลวหนัก
ใน
หนาประมาณ 1,270 กม.ประกอบด้วยหิน
ที่มีความถ่วงจ าเพาะสูงมาก เนื่องจากอยู่ใน
ระดับลึกจึงถูกความดันบีบอัดมาก หรือหินนี้
อาจจะหลุดจากดาวนพเคราะห์ดวงอื่น ๆ
-
เมื่อประมาณ 4,600 ล้านปีมาแล้ว กลุ่มก๊าซใน เอกภพบริเวณนี้ ได้รวมตัวกันเป็นหมอกเพลิงมีชื่อว่า “โซลาร์เนบิวลา” แรงโน้มถ่วงท าให้กลุ่มก๊าซยุบตัวและหมุนตัวเป็นรูปจาน ใจกลางมีความร้อนสูงเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์แบบฟิวชั่น กลายเป็น ดวงอาทิตย์ ส่วนวัสดุที่อยู่รอบๆ มีอุณหภูมิต่ ากว่า รวมตัวเป็นกลุ่มๆ มีมวลสารและความหนาแน่นมากขึ้นเป็นชั้นๆ และกลายเป็นดาวเคราะห์