Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การประเมินความสามารถในการมองเห็น ( visual acuity ) หรือที่เรียกกันว่า…
การประเมินความสามารถในการมองเห็น ( visual acuity ) หรือที่เรียกกันว่า การวัดสายตา ( V.A. )
ส่วนประกอบตา
อวัยวะภายในลูกตาส่วนหลัง ( posterior eye segment )
จอประสาทตา ( retina )
เส้นประสาทตา ( optic nerve )
น้ำวุ้นตา ( vitreous )
อวัยวะภายในลูกตาส่วนหน้า ( anterior eye segment )
น้ำเอเควียส ( aqueous humor )
ช่องหน้าม่านตา ( anterior chamber )
ตาขาว ( sclera )
มุมของช่องหน้าม่านตา ( anterior chamber angle )
กระจกตา ( cornea )
ช่องหลังม่านตา ( posterior chamber )
ส่วนของ ยูเวีย
( uveal tract )
ซีเลียรี บอดี ( cilliary body )
ม่านตา ( iris )
แก้วตา ( lens )
อวัยวะภายนอกลูกตา ( external eye segment )
เปลือกตาหรือหนังตา ( eyelid )
เบ้าตา ( orbit )
ขนตา ( eyelashes or cillia )
เยื่อบุตา ( conjunctiva )
คิ้ว ( eyebrows )
ระบบท่อระบายน้ำตา ( lacrimal system )
กลไกการมองเห็น ( visual mechanisms )
ผลของแสงต่อลูกตา
เมื่อ visual pigment ใน rods และ cones cells ดูดซึมคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จะเกิดกระแสประสาท ( nerve impulse ) ส่งผ่านจากตาไปยังสมอง ทำให้รับรู้เกิดการมองเห็น
Dark adaptation
การเพิ่มความไวของตาในการรับแสงในที่มืด ในช่วงเวลานี้รูม่านตาจะขยาย และมีการเปลี่ยนแปลงในจอประสาทตา
Light adaptation
เมื่อตาที่เคยอยู่ในที่มืดต้องเปลี่ยนไปอยู่ในที่สว่างความไวต่อแสงจะลดลงอย่างมาก ในช่วงนี้จะมีการสลาย rhodopsin และรูม่านตาหดเล็กลง
หลักของการวัดความสามารถในการมองเห็น
( Principle of Visual Acuity Test )
ขนาดของภาพที่ปรากฎที่จอตา ( retinal image size ) ขึ้นอยู่กับขนาดของวัตถุ ( object size ) และระยะห่างจากลูกตา ( distance )
การเตรียมสถานที่สำหรับวัดสายตาจะต้องจัดให้มีระยะห่างระหว่างแผ่นป้ายถึงผู้ป่วย 20 ฟุต ( snellen system ) หรือ 6 เมตร ( Metric system )
ผู้ที่มีสายตาปกติจะอ่านตัวเลขใน Snellen chart ได้ถูกต้องทุกตัวตั้งแต่แถวแรกจนถึงแถวที่ 7
เครื่องมือที่ใช้
ไฟฉาย
แผ่น E game เดี่ยว ๆซึ่งมีค่าเทียบเท่าเลขเศษส่วน 20/200
Pinhole ( PH )
ที่ปิดตา ( occluder )
กรอบแว่นตาที่เป็นโลหะ ( trial frame )
ความสว่างของแสงไฟ 100 แรงเทียน ส่องบริเวณ Snellen chart
Snellen chart ทั้งชนิดที่เป็นตัวเลขและ E chart
แบบวัดสายตาแผ่นป้ายมาตรฐาน
ที่นิยมใช้กันคือ แผ่นป้ายสเนลเลน ( snallen chart ) ซึ่งประกอบด้วยตัวเลขขนาดต่างๆ ตัวอักษรอี ( E chart ) และรูปภาพ
reduced snellen charts หรือเรียกกันทั่วไปว่า near cards ซึ่งใช้วัดสายตาในระยะใกล้ ( near vision )
โดยให้ผู้ป่วยถือNear cards อ่านในระยะห่าง 14 นิ้ว นิยมใช้ในกรณีตรวจวัดสายตาในบุคคลที่สายตายาวเนื่องจากอายุมาก คือ 40 ปีขึ้นไป ที่เรียกกันว่าสายตายาวในผู้สูงอายุ ( presbyopia )
ค่าสายตาที่วัดได้จะบันทึกเป็นตัวเลขเศษส่วน บอกค่าเป็นระยะทาง
เลขเศษ หมายถึง ระยะทางที่คนสายตาผิดปกติสามารถเห็นได้ชัดที่สุด
เลขส่วน หมายถึง ระยะทางที่คนสายตาปกติสามารถเห็นได้ชัดที่สุด
ตัวเลขแสดงเศษส่วนบอกค่าเป็นระยะทางและค่าเทียบเท่าโดยประมาณ
Snellen System ( feet)
แถวที่ 1 20/200
แถวที่ 2 20/100
แถวที่ 3 20/70
แถวที่ 4 20/50
แถวที่ 5 20/40
แถวที่ 6 20/30
แถวที่ 7 20/20
Metric System ( metre )
แถวที่ 1 6/60
แถวที่ 2 6/30
แถวที่ 3 6/21
แถวที่ 4 6/15
แถวที่ 5 6/12
แถวที่ 6 6/9
แถวที่ 7 6/6
วิธีการวัด
วัดตาเปล่า ( uncorrected หรือ sc )
วัดสายตาทีละข้าง โดยให้วัดตาขวาก่อนเสมอ ทั้งนี้เพื่อความถูกต้องในการบันทึกผลและป้องกันความสับสน ( ยกเว้นกรณีที่เกิดจากอุบัติเหตุ ให้วัดสายตาข้างที่บาดเจ็บก่อน ) โดยให้ผู้ป่วยใช้ที่ปิดตาชนิดทึบแสงปิดตาอีกข้างหนึ่งไว้ให้มิดชิด
ให้อ่านตัวเลขบนแผ่นป้ายตั้งแต่แถวที่ 1 โดยอ่านลงไปเรื่อยๆ ถ้าสายตาปกติจะอ่านได้ถึงแถวที่ 7 ให้ลงบันทึกในช่อง sc 20/20 เป็นอันเสร็จสิ้นการวัดสายตาข้างนั้น
ให้ผู้ป่วยนั่งบนเก้าอี้ที่วางไว้ข้างหน้าแผ่นป้ายตามระยะทางที่กำหนด คือ 20 ฟุต หรือ 6 เมตร โดยให้นั่งตัวตรง ห้านโน้มตัวไปข้างหน้าขณะอ่านเพราะระยะทางจะคลาดเคลื่อน และห้ามเอียงคอขณะอ่านเพราะนั่นคือผู้ป่วยแอบใช้ตาข้างที่ปกติมาช่วยอ่านทำให้ไม่ได้ค่าสายตาที่แท้จริง
ถ้าผู้ที่มีสายตาผิดปกติ ให้บันทึกผลตามตัวอย่าง
ถ้าอ่านมาถึงแถวที่ 5 ( ตัวเลขเศษส่วนจะเท่ากับ 20/40 ) ซึ่งมีจำนวนตัวเลขในแถวนี้ 6 ตัว ผู้ป่วยอ่านผิด 2 ตัว และ เมื่อให้อ่านต่อไปในแถวที่ 6 ก็อ่านผิดมากกว่าครึ่งหนึ่ง หรืออ่านไม่ได้ ให้บันทึกว่า 20/40-2
แต่ถ้าอ่านตัวเลขในแถวที่ 5 ได้ถูกหมดทุกตัว และสามารถอ่านแถวที่ 6 ได้เพิ่มอีก 2 ตัว ให้บันทึกว่า 20/40+2
วัดขณะมองผ่าน Pinhole หรือ c PH
เมื่อให้ผู้ป่วยอ่านด้วยตาเปล่าแล้ว แต่อ่านได้ไม่ถึงแถวที่ 7 ขั้นต่อไปจึงให้ผู้ป่วยอ่านตัวเลขบนแผ่นป้ายโดยมองผ่าน pinhole
ถ้าผู้ป่วยสามารถอ่านตัวเลขได้เพิ่มขึ้น หรืออ่านได้ถึงแถวที่ 7 แสดงว่าสายตาที่ผิดปกตินั้นอาจเกิดจากกำลังสายตาผิดปกติ ( refractive error )
แต่ถ้ามองผ่าน pinhole แล้วยังเห็นไม่ชัด หรือมัวมากกว่าอ่านด้วยตาเปล่าแสดงว่าเป็นโรคตาโรคใดโรคหนึ่ง
ยกเว้นในผู้ที่มีกำลังสายตาผิดปกติ เช่น สายตาสั้น และมีแว่นสายตาแล้วให้สวมแว่นตาอ่านได้เลย
วัดขณะสวมแว่นตา
ซึ่งวิธี
ถ้าเป็นแว่นสำหรับอ่านหนังสือในบุคคลที่อายุ 40 ปีขึ้นไปเรียกว่า presbyopia จะใช้ไม่ได้เพราะเป็นแว่นตาที่ใช้มองระยะใกล้เท่านั้น
สำหรับผู้ที่มีแว่นสายตาซึ่งจะต้องเป็นแว่นตาสำหรับมองระยะไกลเท่านั้นจึงจะใช้ได้
การวัดให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับวิธีวัดด้วยตาเปล่า เพียงแต่ให้ลงบันทึกในช่อง cc
แต่ถ้าผู้ป่วยใส่เลนส์สัมผัส ( contact lens ) มาตรวจก็ให้วัดขณะที่ใส่เลนส์สัมผัสก่อนวัดก่อนด้วยตาเปล่า
ถ้าอ่านได้ถูกต้องจนถึงแถวที่ 7 ให้ใช้ pinhole วางต่อหน้ากระจกแว่นตาแล้วให้อ่านอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นบันทึกค่าที่วัดได้ในช่อง c PH
การเลื่อนระยะทาง
โดยผู้วัดถือ อี-เกมส์ ซึ่งมีค่าเท่ากับตัวเลขแถวที่ 1 คือ 20/200 ยืนห่างจากผู้ป่วยในระยะ 15 ฟุต . 10 ฟุต หรือ 5 ฟุต ระยะใด ระยะหนึ่ง
ถ้าผู้ป่วยบอกได้ถูกต้องว่าขาตัวอีชี้ไปทิศทางใดถูกต้องทั้ง 4 ทิศทาง คือ บน ล่าง ซ้าย ขวา หรือบอกทิศทางได้ถูกต้อง 4
กรณีที่ผู้ป่วยมีสายตาผิดปกติมากจนกระทั่งไม่สามารถมองเห็นตัวเลขในแถวที่ 1 ได้ ให้ใช้วิธีเลื่อนระยะทางเข้าไปใกล้ผู้ป่วยโดยใช้ อี-เกมส์ ( E-game ) ครั้งละ 5 ฟุต