Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เบญจวรรณ มณีโชติ 6006510063 (บทที่6การสื่อสารข้อมูล
และระบบเครือ
ข่าย,…
เบญจวรรณ มณีโชติ 6006510063
บทที่5 ไวรัสคอมพิวเตอร์
5.1ความหมายของไวรัสคอม
พิวเตอร์
ไวรัสคอมพิวเตอร์ คือโปรแกรมชนิดหนึ่งซึ่งถูกเขียนขึ้นโดยมีจุดมุ่งหมายที่
สร้างผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ ให้กับระบบคอมพิวเตอร์ที่เรียกใช้งานโปรแกรมนี้ ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับระบบในรูปแบบต่างๆอาการของเครื่องคอมพิวเตอร์เมื่อมีไวรัส
การทำงานของคอมพิวเตอร์ช้ากว่าปกติ
คอมพิวเตอร์หยุดทำงานโดยไม่ทราบ
สาเหตุ
ข้อมูลหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ
ไฟล์ในแผ่นดิสก์ หรือฮาร์ดดิสก์ถูกเปลี่ยน
เป็นขยะหรือตัวอักษรประหลาดๆ
เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วบูตเครื่องจาก
ฮาร์ดดิสก์ไม่ได้
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
5.2ช่องทางในการแพร่กระจายของไวรัสคอมพิวเตอร์
หน่วยความจำสำรอง โดยผ่านการใช้งานจาก Handy Drive หรือ Flash Drive , แผ่น
ฟลอปปีดิสก์, ม้วนเทป, แผ่นซีดี ที่มีโปรแกรมไวรัสอยู่
ระบบเครือข่าย โดยการรับหรือคัดลอก
แฟ้มผ่านระบบเครือข่าย รวมทั้งการรับ
จดหมายอีเมล์ที่มีแฟ้มไวรัสแนบมาด้วย
5.3ประเภทของไวรัสคอม
พิวเตอร์
บูตเซกเตอร์ไวรัส เป็นไวรัสที่เก็บตัวเองอยู่
ในบูตเซกเตอร์ของดิสก์ และจะฝังตัวเข้าแทน
ที่ระบบปฏิบัติการ
ไฟล์ไวรัส เป็นไวรัสที่เก็บตัวเองอยู่ในแฟ้ม
ข้อมูล ได้แก่ไฟล์ประเภท .EXE .COM .DLL
เป็นต้น
หนอนคอมพิวเตอร์ เป็นไวรัสที่ทำงานอยู่บน
หน่วยความจำของคอมพิวเตอร์และจะทำการ
สร้างตัวเองส่งไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่อง
อื่นๆที่เชื่อมต่อกันอยู่บนระบบเครือข่าย
มาโครไวรัส ไวรัสที่เขียนด้วยภาษามา
โครของซอฟต์แวร์ประยุกต์ตัวใดตัวหนึ่ง
และจะแทรกตัวเองอยู่ในแฟ้มข้อมูลของ
ซอฟต์แวร์ตัวนั้น
ม้าโทรจัน เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้น
มา ให้ทำตัวเหมือนว่าเป็นโปรแกรม
ธรรมดาทั่วๆ ไป แต่เมื่อถูกเรียกขึ้นมา
แล้ว ก็จะเริ่มทำลายตามที่โปรแกรมได้
กำหนดไว้ ซึ่งโปรแกรมตรวจสอบไวรัสธร
รมดาจะตรวจจับได้ยาก
5.4วิธีการป้องกันไวรัสคอม
พิวเตอร์
ให้ทำการสำรองข้อมูล ที่สำคัญไว้
ติดตั้งโปรแกรมกำจัดไวรัส และตรวจ
สอบเป็นประจำ
ปรับปรุง หรืออัปเดทโปรแกรมกำจัด
ไวรัส *
ตรวจสอบแผ่นดิสก์จากการใช้งาน
ร่วมกับผู้อื่น
สังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นในแต่ละ
วัน
หลีกเลี่ยงการ ก๊อปปี้โปรแกรมจาก
5.5 การแก้ปัญหาเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์มีไวรัส
หาโปรแกรมที่สามารถตรวจสอบ และกำจัดไวรัสได้
ตรวจสอบโดยการสแกนไวรัสจากอุปกรณ์สำรองข้อมูล
ทุกครั้งก่อนใช้งาน
เช่น แผ่น Floppy Disk, Flash Drive, แผ่น CD เป็นต้น
ปิดเครื่อง เมื่อพบไวรัสในเครื่องคอมพิวเตอร์และให้ทำ
การบันทึกข้อมูลที่กำลังทำงานอยู่ แล้วออกจากระบบ
งาน เพราะไวรัสจะแพร่กระจายเข้าสู่หน่วยความจำและ
โปรแกรมต่างๆได้
ทำการถ่ายเทข้อมูล หรือกู้ข้อมูลเท่าที่จะกู้ได้
เทคนิคการใช้งานอินเทอร์เน็ต
ลบไฟล์ขยะ หลังจากเลิกเล่นเน็ต
ช่วยลดปัญหาไวรัสได้
เวลาเราเข้าเว็บไซต์ต่างๆ โปรแกรม IE ก็จะทำการ
download ข้อมูลมาเก็บไว้ในเครื่องของเราก่อน จาก
นั้นถ้าเราเลิกเล่น ไฟล์เหล่านี้ก็จะค้างในเครื่องของเรา
นอกจากปัญหาไฟล์ในเครื่องที่อาจจะเพิ่มมากขึ้น ทำให้
เนื้อที่ใน harddisk ของเราไม่เพียงพอแล้ว อาจมีไว
รัสแอบแฝงเข้ามาในเครื่องคอมฯ ของเราได้ด้วย
ดังนั้นวิธีการจัดการอย่างหนึ่งที่ง่ายก็คือ กำหนดให้
โปรแกรม IE ลบไฟล์ขยะเหล่านี้อัตโนม้ติทุกครั้งที่ปิด
โปรแกรม สำหรับขั้นตอนก็สั้นๆ ครับ เพียงทำตามราย
ละเอียดข้างล่างนี้
เทคนิคการใช้งานอินเทอร์เน็ต
ลบไฟล์ขยะ หลังจากเลิกเล่นเน็ต
ช่วยลดปัญหาไวรัสได้
เวลาเราเข้าเว็บไซต์ต่างๆ โปรแกรม IE ก็จะทำการ
download ข้อมูลมาเก็บไว้ในเครื่องของเราก่อน จาก
นั้นถ้าเราเลิกเล่น ไฟล์เหล่านี้ก็จะค้างในเครื่องของเรา
นอกจากปัญหาไฟล์ในเครื่องที่อาจจะเพิ่มมากขึ้น ทำให้
เนื้อที่ใน harddisk ของเราไม่เพียงพอแล้ว อาจมีไว
รัสแอบแฝงเข้ามาในเครื่องคอมฯ ของเราได้ด้วย
ดังนั้นวิธีการจัดการอย่างหนึ่งที่ง่ายก็คือ กำหนดให้
โปรแกรม IE ลบไฟล์ขยะเหล่านี้อัตโนม้ติทุกครั้งที่ปิด
โปรแกรม สำหรับขั้นตอนก็สั้นๆ ครับ เพียงทำตามราย
ละเอียดข้างล่างนี้
-
7เทคโนโลยีสารสนเทศ
- เทคโนโลยี
สารสนเทศ (Information) หมายถึง ข่าวสาร
ที่ได้จากการนำ ข้อมูลดิบ (Raw data) มา
คำนวณทางสถิติหรือประมวลผลอย่างใดอย่าง
หนึ่ง ซึ่งข่าวสารที่ได้ออกมานั้นจะอยู่ในรูปที่
สามารถนำไปใช้งานได้ทันที
เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึงกระบวนการต่างๆ และระบบงานที่ช่วยให้ได้สารสนเทศที่ต้องการ โดยจะรวมถึงเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ เช่นคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์โทรคมนาคมกระบวนการ (ในการนำเครื่องมือ ใช้งาน
คุณสมบัติของสารสนเทศที่ดี
1มีความถูกต้องชัดเจน
2ตรงกับความต้องการ
3มีความกะทัดรัด ปริมาณพอเพียง
4เป็นปัจจุบัน ทันสมัย
5สะดวก รวดเร็ว ทันต่อการใช้งาน
6เชื่อถือได้
7เป็นระบบต่อเนื่องในการนำมาใช้งาน
-
แบบโครงสร้างโมเดลขององค์กรตามลำดับชั้น
บุคลากรในแต่ละระดับชั้นมีหน้าที่ดังนี้
-ระดับปฏิบัติการ จะเกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศในฐานะเป็น
ผู้จัดหาข้อมูลเข้าสู่ระบบ
-ระดับวางแผนปฏิบัติการจะเป็นผู้บริหารขั้นต้นมีหน้าที่ควบคุมการ
ปฏิบัติงานประจำวัน และวางแผนบริหารงานที่
มีระยะเวลาสั้นๆ
-ระดับวางแผนการบริหารจะเป็นผู้บริหารระดับกลาง มีหน้าที่ในการ
วางแผนให้บรรลุเป้าหมายต่างๆ ตามที่ผู้
บริหารระดับสูงกำหนดมา
-ระดับวางแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวจะเป็นผู้บริหารระดับสูงสุด จะเน้นในเรื่อง
เป้าประสงค์ขององค์กร และการวิเคราะห์
แนวโน้มในอนาคต (Trend Analysis)
2.1 ระบบประมวลผลรายการ(TPS : Transaction ProcessingSystems)
จะให้สารสนเทศสำหรับระดับปฏิบัติการ
เท่านั้น
มีการใช้งานแยกจากกันในแต่ละฝ่าย
ไม่มีความยืดหยุ่น
ไม่ตอบสนองทันทีทันใด ต้องรอให้ถึงเวลา
สรุปเช่น เจ้าหน้าที่ทำการป้อนข้อมูลในระบบการ
จองตั๋วเครื่องบิน
2.2 ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ(MIS:Management Information
System)สร้างสารสนเทศสำหรับผู้บริหารทั้งระดับกลาง
และระดับสูง ช่วยในการ
ควบคุม/ตรวจสอบการดำเนินงาน
วางแผน
*ตัดสินใจ
ข้อมูลอาจมาจากฐานข้อมูลของระบบประมวลผล
ธุรกรรม มาสรุป เปรียบเทียบ ทำสถิติ
วิเคราะห์ เป็นต้o
ผู้บริหารเรียกใช้สารสนเทศประกอบการตัดสินใจ
ได้ดีกว่า ระบบ TPS
2.3 ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ(DSS :Decision SupportSystems)
ช่วยให้การตัดสินใจของผู้บริหารเป็นไปได้
อย่างสะดวก และง่ายต่อการเรียนรู้ และการใช้
งาน
สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็วและมี
ประสิทธิภาพ
มีข้อมูลและแบบจำลองสำหรับสนับสนุนการ
ตัดสินใจที่เหมาะสมและสอดคล้องกับลักษณะ
ของปัญหา
มีความยืดหยุ่นที่จะสนองความต้องการที่
เปลี่ยนแปลงไป
เป็นแผนยุทธศาสตร์ที่กำหนดทิศทาง และวาง
แผนในอนาคต
เพื่อกำหนดเป้าหมาย นโยบาย และวัตถุ
ประสงค์ขององค์การ
2.4 ระบบสารสนเทศเพื่อผู้บริหารระดับสูง(EIS :Executive InformationSystems)จุดเด่นของระบบคือการใช้งานไม่จำเป็นต้องมีค
วามรู้เรื่องคอมพิวเตอร์
นำข้อมูลจากภายในองค์กร และจากภายนอก มา
จัดทำข้อสรุป
เรียกใช้ได้ง่าย รวดเร็ว ดูเข้าใจง่าย
*ตัวอย่างของรายงาน เช่น รายงานเกี่ยวกับการเงิน
และสถานภาพทางธุรกิจ ของบริษัท
2.5 ระบบผู้เชี่ยวชาญ(Expert Systems)
เกี่ยวข้องกับการจัดการ ความรู้ (Knowledge)
มากกว่าสารสนเทศ
ใช้หลักการทำงานด้วย ระบบปัญญาประดิษฐ์
(Artificial Intelligence) เช่น Neural
Network
*ช่วยลดการพึ่งพาบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
ตัวอย่างของ (Expert Systems)ที่นำไปใช้ในงานด้านต่างๆ
1) ด้านการแพทย์ : การให้คำแนะนำแก่หมอ
ในการสั่งยาปฏิชีวนะให้คนไข้ซึ่งต้องคำนึงถึง
ปัจจัยต่างๆ หลายประการ เช่น ประวัติการ
เจ็บป่วยของคนไข้ แหล่งติดเชื้อ ราคาของยา
2) ด้านการผลิต : การให้คำแนะนำแก่โรงงาน
ในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ชิ้นส่วน
เครื่องบิน
3) ด้านธรณีวิทยา : ให้คำแนะนำแก่นัก
ธรณีวิทยาในการวิเคราะห์ดินและน้ำมัน เพื่อ
พิจารณาในการขุดเจาะน้ำมัน
4) ด้านกระบวนการผลิต : ให้คำแนะนำในการ
กำหนดตารางเวลาในกระบวนการผลิต
(Expert Systems Scheduling) ซึ่งทำให้
บริษัทสามารถปรับตารางเวลาการการผลิต ให้
สอดคล้องกับความต้องการในการเปลี่ยนแปลง
การผลิตหรือเงื่อนไขของโรงงานที่เปลี่ยนไป
อย่างรวดเร็ว
5) ด้านกระบวนการทำงานของบริษัทบัตร
เครดิต : ใช้ ES ช่วยในกระบวนการทำงาน
ตั้งแต่การประมวลการสมัครของลูกค้า การ
อนุมัติเครดิต การรวมบัญชีที่ค้างชำระเกิน
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
และขบวนการทางธุรกิจ
*ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้าน
การเงิน
*ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการ
ผลิต
*ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการ
ตลาด
*ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้าน
ทรัพยากรมนุษย์
*ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการ
บัญชี
ผลกระทบของเทคโนโลยี
สารสนเทศ
ผลกระทบในทางบวก
ช่วยส่งเสริมความสะดวกสบายของมนุษย์
ช่วยทำให้การผลิตในอุตสาหกรรมดีขึ้น
ช่วยส่งเสริมการค้นคว้าวิจัยให้มีความสะดวก
ช่วยส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
ช่วยส่งเสริมสติปัญญาของมนุษย์
เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้เศรษฐกิจเจริญ
รุ่งเรือง
*ช่วยให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างกัน
ผลกระทบในทางลบ
ทำให้เกิดอาชญากรรม
ทำให้ความสัมพันธ์ของมนุษย์เสื่อมถอย
ทำให้เกิดความวิตกกังวล
ทำให้เกิดการเสี่ยงภัยทางด้านธุรกิจ
ทำให้มีการพัฒนาอาวุธที่มีอำนาจทำลายสูง
ทำให้ข้อมูลหรือโปรแกรมถูกทำลายได้text**
-
-
-
-