Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
6006510096 (บทที่ 8 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิด …
6006510096
*บทที่5
ไวรัสของคอมพิวเตอร์*
ความหมายของไวรัสคอมพิวเตอร์
ไวรัสคอมพิวเตอร์ คือโปรแกรมชนิด
หนึ่งซึ่งถูกเขียนขึ้นโดยมีจุดมุ่งหมายที่
สร้างผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ ให้กับ
ระบบคอมพิวเตอร์ที่เรียกใช้งาน
โปรแกรมนี้ ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้
กับระบบในรูปแบบต่างๆ
อาการของเครื่องคอมพิวเตอร์
เมื่อมีไวรัส
การทำงานของคอมพิวเตอร์ช้ากว่าปกติ
text
คอมพิวเตอร์หยุดทำงานโดยไม่ทราบ
สาเหตุ
ข้อมูลหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ
ไฟล์ในแผ่นดิสก์ หรือฮาร์ดดิสก์ถูกเปลี่ยน
เป็นขยะหรือตัวอักษรประหลาดๆ
เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วบูตเครื่องจาก
ช่องทางในการแพร่กระจายของ
ไวรัสคอมพิวเตอร์
หน่วยความจำสำรอง โดยผ่านการใช้
งานจาก Handy Drive หรือ Flash Drive , แผ่น
ฟลอปปีดิสก์, ม้วนเทป, แผ่นซีดี ที่มี
โปรแกรมไวรัสอยู่
ระบบเครือข่าย โดยการรับหรือคัดลอก
แฟ้มผ่านระบบเครือข่าย รวมทั้งการรับ
จดหมายอีเมล์ที่มีแฟ้มไวรัสแนบมาด้วย
ประเภทของไวรัสคอมพิวเตอร์
บูตเซกเตอร์ไวรัส เป็นไวรัสที่เก็บตัวเองอยู่
ในบูตเซกเตอร์ของดิสก์ และจะฝังตัวเข้าแทน
ที่ระบบปฏิบัติการ
ไฟล์ไวรัส เป็นไวรัสที่เก็บตัวเองอยู่ในแฟ้ม
ข้อมูล ได้แก่ไฟล์ประเภท .EXE .COM .DLL
เป็นต้น
หนอนคอมพิวเตอร์ เป็นไวรัสที่ทำงานอยู่บน
หน่วยความจำของคอมพิวเตอร์และจะทำการ
สร้างตัวเองส่งไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่อง
อื่นๆที่เชื่อมต่อกันอยู่บนระบบเครือข่าย
ประเภทของไวรัสคอม
มาโครไวรัส ไวรัสที่เขียนด้วยภาษามา
โครของซอฟต์แวร์ประยุกต์ตัวใดตัวหนึ่ง
และจะแทรกตัวเองอยู่ในแฟ้มข้อมูลของ
ซอฟต์แวร์ตัวนั้น
ม้าโทรจัน เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้น
มา ให้ทำตัวเหมือนว่าเป็นโปรแกรม
ธรรมดาทั่วๆ ไป แต่เมื่อถูกเรียกขึ้นมา
แล้ว ก็จะเริ่มทำลายตามที่โปรแกรมได้
กำหนดไว้ ซึ่งโปรแกรมตรวจสอบไวรัสธร
รมดาจะตรวจจับได้ยาก
วิธีการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์
ให้ทำการสำรองข้อมูล ที่สำคัญไว้
ติดตั้งโปรแกรมกำจัดไวรัส และตรวจ
สอบเป็นประจำ
ปรับปรุง หรืออัปเดทโปรแกรมกำจัด
ไวรัส *
ตรวจสอบแผ่นดิสก์จากการใช้งาน
ร่วมกับผู้อื่น
สังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นในแต่ละ
วัน
หลีกเลี่ยงการ ก๊อปปี้โปรแกรมจาก
การเเก้ปัญหาเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์มีไวรัส
หาโปรแกรมที่สามารถตรวจสอบ และกำจัดไวรัสได้
ตรวจสอบโดยการสแกนไวรัสจากอุปกรณ์สำรองข้อมูล
ทุกครั้งก่อนใช้งาน
เช่น แผ่น Floppy Disk, Flash Drive, แผ่น CD เป็นต้น
ปิดเครื่อง เมื่อพบไวรัสในเครื่องคอมพิวเตอร์และให้ทำ
การบันทึกข้อมูลที่กำลังทำงานอยู่ แล้วออกจากระบบ
งาน เพราะไวรัสจะแพร่กระจายเข้าสู่หน่วยความจำและ
โปรแกรมต่างๆได้
ทำการถ่ายเทข้อมูล หรือกู้ข้อมูลเท่าที่จะกู้ได้
โปรแกรมตรวจสอบและกำจัด
PersonalEdition Classic
Program: Trend Micro
CWShredder
Program: a squared - Emsi
Software Gmbh
Program: ClamWin
antivirus
โปรแกรมตรวจสอบและกำจัด
ไวรัส
Program: AVAST! antivirus
Program: Bitdefender Free
Edition
Program: AVG Anti-Virus -
Grisofte Inc
Program: NOD32 antivirus
เทคนิคการใช้งานอินเทอร์เน็ต
ลบไฟล์ขยะ หลังจากเลิกเล่นเน็ต
ช่วยลดปัญหาไวรัสได้
เวลาเราเข้าเว็บไซต์ต่างๆ โปรแกรม IE ก็จะทำการ
download ข้อมูลมาเก็บไว้ในเครื่องของเราก่อน จาก
นั้นถ้าเราเลิกเล่น ไฟล์เหล่านี้ก็จะค้างในเครื่องของเรา
นอกจากปัญหาไฟล์ในเครื่องที่อาจจะเพิ่มมากขึ้น ทำให้
เนื้อที่ใน harddisk ของเราไม่เพียงพอแล้ว อาจมีไว
รัสแอบแฝงเข้ามาในเครื่องคอมฯ ของเราได้ด้วย
ดังนั้นวิธีการจัดการอย่างหนึ่งที่ง่ายก็คือ กำหนดให้
โปรแกรม IE ลบไฟล์ขยะเหล่านี้อัตโนม้ติทุกครั้งที่ปิด
โปรแกรม สำหรับขั้นตอนก็สั้นๆ ครับ
เทคนิคการใช้งานอินเทอร์เน็ต
วิธีกำหนดให้ลบไฟล์ขยะจากอิน
เตอร์เน็ตแบบอัตโนมัติ
คลิกเมนู Tools
เลือกคำสั่ง Internet Options
เลิกเลือกแท็ป Advanced
เลื่อนลงมาที่หัวข้อ Security
จากนั้น คลิกหัวข้อ Empty Temporaly Internet Files
Folder when browser is closed
กดปุ่ม Apply อีกครั้งเพื่อยืนยัน
แล้วนี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว
บทที่6 การสื่อสารเเละระบบเครื่อข่าย
การสื่อสารข้อมูล
เริ่มต้นของยุคสื่อสาร
เมื่อประมาณ พ.ศ. 2513 –
2515 การติดต่อสื่อสาร
ข้อมูลสมัยใหม่นี้ ใช้การ
เชื่อมต่อระหว่าง
คอมพิวเตอร์ กับ
คอมพิวเตอร์
และความต้องการในการ
ติดต่อระหว่าง เครื่อง
ระบบเครือข่าย (network
system)หมายถึง ระบบที่
มีการเชื่อมต่อเครื่อง
คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่
มีความ สามารถในการรับ-
ส่งข้อมูลตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป
เข้าด้วยกัน เพื่อ
แลกเปลี่ยนข้อมูลทาง
อิเลคทรอนิกส์ระหว่างกัน
องค์ประกอบของการสื่อสาร
ข้อมูล
สามารถแบ่งได้เป็น 5
องค์ประกอบ
ผู้ส่ง (Sender)
ผู้รับ (Receiver)
ข่าวสารหรือข้อมูล
(Message)
สื่อกลาง (Media)
โปรโตคอล
(Protocol)
การเชื่อมต่อการ
สื่อสารข้อมูลผ่าน
เครือข่ายท้องถิ่น
(LAN) เพื่อ
แลกเปลี่ยนข้อมูล
ระหว่างกัน รวมถึง
ร่วมกันใช้ทรัพยากร
อื่นๆ เช่น เครื่องพริ้น
เตอร์ เครื่องสแกน
เนอร์ เป็นต้น
ชนิดของสันญานเเละทิศทาง
วิธีการถ่ายโอนข้อมูล
การถ่ายโอนข้อมูลแบบขนาน
การถ่ายโอนข้อมูลแบบอนุกรม
การถ่ายโอนข้อมูลเเบบขนาน
ข้อดี : สามารถส่งข้อมูลได้รวดเร็ว เนื่องจากทำการส่งข้อมูล
พร้อมกันได้ครั้งละหลายๆ บิต
ข้อเสีย : จำนวนสายส่งข้อมูลที่ใช้ต้องมีเท่ากับจำนวนบิตที่ส่ง
ทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายสูงตามไปด้วย นิยมใช้กับการส่งข้อมูล
การถ่ายโอนข้อมูลเเบบอนุกรม
สามารถส่งข้อมูลได้ครั้งละบิต โดยจะส่งผ่านไป
ตามสายส่งเรียงลำดับตามกันไป
และจะใช้สายส่งเพียงเส้นเดียว จึงทำให้ประหยัดค่าใช้
จ่ายในการส่ง
และนิยมส่งในระยะทางไกลๆ แต่ความเร็วในการส่งจะ
น้อยกว่าการส่งแบบขนาน
การประมวลผลกับการ
สื่อสารข้อมูล
องค์ประกอบพื้นฐานของ
ระบบเครือข่าย
คอมพิวเตอร์
เน็ตเวิร์กการ์ด (Network Interface
Card)
สื่อกลาง หรือ ช่องทางในการสื่อสาร
ข้อมูล (Medium)
โปรโตคอล (Protocol)
ระบบปฏิบัติการเครือข่าย (Network
Operating System)
คอมพิวเตอร์
ระบบการประมวลผลข้อมูลแบบมีศูนย์กลาง
การประมวลผลข้อมูลทั้งหมดจะเกิดขึ้นที่เครื่องหลักเพียง
เครื่องเดียว
การประมวลผลทางไกล (Teleprocessing)
ระบบการประมวลผลข้อมูลแบบไคลเอนต์-
เซิร์ฟเวอร์
แบ่งการประมวลผลมาทำงานที่ เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วน
บุคคล (PC)
PC ติดต่อและรับข้อมูลจาก Server มาแสดงผล
รับหน้าที่ในส่วนของการโต้ตอบและรับข้อมูลจากผู้ใช้ด้วย
ระบบการประมวลผลข้อมูลแบบกระจาย
มีกระจายภาระการประมวลผลไปยังเครื่องต่างๆที่เชื่อมต่อ
กันอยู่เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และนำผลลัพธ์ที่ได้มา
รวมกัน ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม
ลดจำนวนข้อมูลที่ส่งผ่านเครือข่าย
เน็ตเวิร์กการ์ดหรือ NIC
(Network Interface
Card)
เป็นอุปกรณ์ที่ถูกติดตั้งในคอมพิวเตอร์เพื่อเชื่อม
กับเคเบิ้ลในระบบเน็ตเวิร์ก ทำหน้าที่ รับและส่งข้อมูล
จากคอมพิวเตอร์กับเน็ตเวิร์กโดยผ่านสายเคเบิ้ล จะ
แปลงสัญญาณที่ได้รับจากเคเบิ้ลให้เป็นข้อมูลที่
คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ และแปลงสัญญาณจาก
คอมพิวเตอร์ให้อยู่ในรูปแบบที่สามารถเดินทางไปในสายเคเบิ้ลได้
สื่อกลาง หรือช่องทาง
ในการสื่อสารข้อมูล
สื่อกลางประเภทมีสาย
สายคู่บิดเกลียว (twisted
pair)
สายโคแอกเชียล (coaxial)
เส้นใยนำแสง (fiber optic)
สื่อกลางประเภทไร้สาย
ไมโครเวฟ (micro wave)
ดาวเทียม (satellit)
สื่อกลางประเภทมีสาย
สายคู่บิดเกลียว
(Twisted Pair)
แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
สาย UTP : (Unshielded Twisted-Pair)
มีราคาถูกที่สุด ประกอบด้วยลวดทองแดงที่มีฉนวน
พลาสติกหุ้ม 2 เส้นนำมาพันเป็นเกลียว ทำให้สามารถ
ลดเสียงรบกวนจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าได้ และ
ส่งสัญญาณได้ไม่เกิน 100 เมตร เช่น สายโทรศัพท์ ,
สาย LAN
สายโคแอกเชียล
(Coaxial)
สื่อกลางประเภทมีสาย
เป็นสายเส้นกลม มีไส้กลางเป็นทองแดงหุ้มด้วย
พลาสติก ชั้นถัดมาประกอบด้วยโลหะฟอยด์ที่ทอมาหุ้ม
เพื่อป้องกันสัญญาณรบกวน ชั้นนอกหุ้มพลาสติกอีกชั้น
สามารถทนต่อการรบกวนของสัญญาณภายนอกได้ดี
กว่าแบบสายคู่บิดเกลียว
( Twisted Pair ) แต่ความนิยมใช้งานน้อยกว่าแบบ
Twisted Pair และราคาแพงกว่า
เช่น สายเคเบิลทีวี
Optic)
**เส้นใยนำแสง (Fiber
Optic)**
ประกอบด้วยส่วนกลางที่ทำด้วยแก้ว แท่งแก้ว หรือ
พลาสติก ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยเส้นใย แล้วมีพลาสติกหุ้ม
ชั้นนอกสุดเพื่อป้องกันการสูญเสียสูญหายของสัญญาณ
จะนำส่งสัญญาณโดยใช้แสง โดยจะเปลี่ยนจาก
สัญญาณไฟฟ้าให้เป็นแสง
สัญญาณต่างๆ ภายนอกไม่สามารถรบกวนได้เลย ใน
ขณะที่สายอื่นๆ สัญญาณจะอ่อนลงเรื่อยๆ เมื่อมีระยะ
ทางไกลขึ้น ราคาจึงสูงมาก
ยากต่อการติดตั้งและดูแลรักษา ถ้าเกิดเสียหายหรือ
หัก การซ่อมแซมทำได้ลำบาก
สามารถส่งสัญญาณได้ในทิศทางเดียว ดังนั้นในการ
ติดตั้งจึงต้องมี 2 เส้นคู่กัน
สื่อกลางประเภทไร้สาย
ใช้วิธีส่งสัญญาณที่มีความถี่
สูงกว่าคลื่นวิทยุ
ส่งสัญญาณเป็นทอดๆ จาก
สถานีหนึ่ง
ไปยังอีกสถานีหนึ่ง
สถานีต้องตั้งอยู่ในที่สูง เช่น
บนตึกสูง ,
บนภูเขาสูง เป็นต้น เพื่อช่วย
ให้ส่งสัญญาณ
ไปได้ไกล และลดจำนวนของ
ระบบปฏิบัติการเครือ
ข่าย
บริการหลักของ (NOS : Network Operating
System)
บริการจัดเก็บไฟล์และการพิมพ์ (File and
Print Services)
บริการดูแลและจัดการระบบ
(Management Services)
บริการรักษาความปลอดภัย (Security
Services)
บริการอินเตอร์เน็ตและอินทราเน็ต
(Internet/Intranet Services)
อุปกรณ์เครือข่าย
เกตเวย์
(Gateway)
ทำหน้าที่ เชื่อมต่อ และ แปลง
ข้อมูลระหว่าง
เครือข่ายที่ต่างกัน ทั้งในส่วน
ของโปรโตคอล
และสถาปัตยกรรม
เช่น เครือข่ายที่เป็นเครื่อง
คอมพิวเตอร์
ส่วนบุคคล (Personal
Computer) อาจเชื่อมต่อ
กับระบบเมนเฟรม
ประเภทของระบบเครือ
ข่าย
สามารถแบงออกได้ เป็น 3 ประเภทด้วยกัน คือ
ระบบเครือข่ายท้องถิ่น (Local Area
Network : LAN)
ระบบเครือข่ายระดับเมือง (Metropolitan
Area Network : MAN)
ระบบเครือข่ายท้องถิ่น
(Local Area
Network : LAN)
เป็นเครือข่ายสื่อสารในระยะใกล้ ซึ่ง
ครอบคลุมพื้นที่บริเวณเดียวกันหรือใกล้
เคียงกันที่มีระยะทางไม่เกิน 1 ไมล์
โดยอาจการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หรือ
อุปกรณ์ต่างๆ ภายในสำนักงานที่อยู่ในตึก
เดียวกันหรือระหว่างตึกที่ใกล้เคียงกันเข้า
เป็นเครือข่าย
เช่น การแชร์ไฟล์ข้อมูล , การแชร์ฐาน
ระบบเครือข่ายระดับเมือง
(Metropolitan
Area Network : MAN)
เป็นเครือข่ายสื่อสารที่ครอบคลุมพื้นที่ใน
ระยะทางที่ไกลกว่า LAN ซึ่งอาจจะเป็นการ
เชื่อมต่อกันระหว่างเมืองกับเมืองหรือระหว่าง
จังหวัดกับจังหวัด
มักเกิดจากการเชื่อมโยงเครือข่าย LAN ใน
บริเวณเดียวกันเข้าด้วยกัน
เช่น เครือข่ายของบริษัทที่มีสาขาต่างๆ
บทที่ 7
เทคโนโลยีสารสนเทศ
*
1. เทคโนโลยีสารสนเทศ
สารสนเทศ (Information) หมายถึง ข่าวสาร
ที่ได้จากการนำ ข้อมูลดิบ (Raw data) มา
คำนวณทางสถิติหรือประมวลผลอย่างใดอย่าง
หนึ่ง ซึ่งข่าวสารที่ได้ออกมานั้นจะอยู่ในรูปที่
สามารถนำไปใช้งานได้ทันที
เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง
กระบวนการต่างๆ และระบบงานที่ช่วยให้
ได้สารสนเทศที่ต้องการ โดยจะรวมถึง
เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น
คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์โทรคมนาคม
กระบวนการ (ในการนำเครื่องมือ ใช้งาน
คุณสมบัติของสารสนเทศที่ดี
มีความถูกต้องชัดเจน
ตรงกับความต้องการ
มีความกะทัดรัด ปริมาณพอเพียง
เป็นปัจจุบัน ทันสมัย
สะดวก รวดเร็ว ทันต่อการใช้งาน
เชื่อถือได้
เป็นระบบต่อเนื่องในการนำมาใช้งาน
กระบวนการของระบบ
สารสนเทศ
ขั้นเก็บข้อมูล
ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล
ขั้นรายงาน
ขั้นเผยแพร่
ขั้นนำไปใช้
แบบโครงสร้างโมเดลของ
องค์กรตามลำดับชั้น
บุคลากรในแต่ละระดับชั้นมีหน้าที่ดังนี้
ระดับปฏิบัติการ
จะเกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศในฐานะเป็น
ผู้จัดหาข้อมูลเข้าสู่ระบบ
ระดับวางแผนปฏิบัติการ
จะเป็นผู้บริหารขั้นต้นมีหน้าที่ควบคุมการ
ปฏิบัติงานประจำวัน และวางแผนบริหารงานที่
มีระยะเวลาสั้นๆ
ระดับวางแผนการบริหาร
จะเป็นผู้บริหารระดับกลาง มีหน้าที่ในการ
วางแผนให้บรรลุเป้าหมายต่างๆ ตามที่ผู้
บริหารระดับสูงกำหนดมา
ระดับวางแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว
จะเป็นผู้บริหารระดับสูงสุด จะเน้นในเรื่อง
เป้าประสงค์ขององค์กร และการวิเคราะห์
แนวโน้มในอนาคต (Trend Analysis)
ระบบประมวลผลรายการ
(TPS : Transaction Processing
Systems)
จะให้สารสนเทศสำหรับระดับปฏิบัติการ
เท่านั้น
มีการใช้งานแยกจากกันในแต่ละฝ่าย
ไม่มีความยืดหยุ่น
ไม่ตอบสนองทันทีทันใด ต้องรอให้ถึงเวลา
สรุป
เช่น เจ้าหน้าที่ทำการป้อนข้อมูลในระบบการ
จองตั๋วเครื่องบิน
เทคโนโลยีสารสนเทศ
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
(MIS:Management Information
System)
สร้างสารสนเทศสำหรับผู้บริหารทั้งระดับกลาง
และระดับสูง ช่วยในการ
ควบคุม/ตรวจสอบการดำเนินงาน
วางแผน
ตัดสินใจ
ข้อมูลอาจมาจากฐานข้อมูลของระบบประมวลผล
ธุรกรรม มาสรุป เปรียบเทียบ ทำสถิติ
วิเคราะห์ เป็นต้น
ผู้บริหารเรียกใช้สารสนเทศประกอบการตัดสินใจ
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
(DSS :Decision Support
Systems)
ช่วยให้การตัดสินใจของผู้บริหารเป็นไปได้
อย่างสะดวก และง่ายต่อการเรียนรู้ และการใช้
งาน
สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็วและมี
ประสิทธิภาพ
มีข้อมูลและแบบจำลองสำหรับสนับสนุนการ
ตัดสินใจที่เหมาะสมและสอดคล้องกับลักษณะ
ของปัญหา
มีความยืดหยุ่นที่จะสนองความต้องการที่
เปลี่ยนแปลงไป
เป็นแผนยุทธศาสตร์ที่กำหนดทิศทาง
ระบบผู้เชี่ยวชาญ
(Expert Systems)
เกี่ยวข้องกับการจัดการ ความรู้ (Knowledge)
มากกว่าสารสนเทศ
ใช้หลักการทำงานด้วย ระบบปัญญาประดิษฐ์
(Artificial Intelligence) เช่น Neural
Network
ช่วยลดการพึ่งพาบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เก็บข้อมูลและ
กฎเกณฑ์ของความรู้ ซึ่งรวบรวมจากสาขา
วิชาที่ต้องการความเชี่ยวชาญไว้ในฐาน
ความรู้ (knowledge base) และโปรแกรม
จะดำเนินการเมื่อมีการป้อนข้อมูลโดยผู้ใช้
ในลักษณะการถามตอบและประมวลคำตอบ
เพื่อหาข้อสรุป
เช่น Neural Network
เป็นระบบปัญญาประดิษฐ์ประเภทหนึ่งมีค
วามสามารถในการเรียนรู้ เพราะว่าได้ถูก
ตัวอย่างของ (Expert Systems)
ที่นำไปใช้ในงานด้านต่างๆ
1) ด้านการแพทย์ : การให้คำแนะนำแก่หมอ
ในการสั่งยาปฏิชีวนะให้คนไข้ซึ่งต้องคำนึงถึง
ปัจจัยต่างๆ หลายประการ เช่น ประวัติการ
เจ็บป่วยของคนไข้ แหล่งติดเชื้อ ราคาของยา
2) ด้านการผลิต : การให้คำแนะนำแก่โรงงาน
ในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ชิ้นส่วน
เครื่องบิน
3) ด้านธรณีวิทยา : ให้คำแนะนำแก่นัก
ธรณีวิทยาในการวิเคราะห์ดินและน้ำมัน เพื่อ
พิจารณาในการขุดเจาะน้ำมัน
เทคโนโลยีสารสนเทศ
ตัวอย่างของ (Expert Systems)
ที่นำไปใช้ในงานด้านต่างๆ
4) ด้านกระบวนการผลิต : ให้คำแนะนำในการ
กำหนดตารางเวลาในกระบวนการผลิต
(Expert Systems Scheduling) ซึ่งทำให้
บริษัทสามารถปรับตารางเวลาการการผลิต ให้
สอดคล้องกับความต้องการในการเปลี่ยนแปลง
การผลิตหรือเงื่อนไขของโรงงานที่เปลี่ยนไป
อย่างรวดเร็ว
5) ด้านกระบวนการทำงานของบริษัทบัตร
เครดิต : ใช้ ES ช่วยในกระบวนการทำงาน
ตั้งแต่การประมวลการสมัครของลูกค้า การ
อนุมัติเครดิต การรวมบัญชีที่ค้างชำระเกิน
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
และ
ขบวนการทางธุรกิจ
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้าน
การเงิน
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการ
ผลิต
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการ
ตลาด
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้าน
ทรัพยากรมนุษย์
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการ
บัญชี
เทคโนโลยีสารสนเทศ
ผลกระทบของเทคโนโลยี
สารสนเทศ
ผลกระทบในทางบวก
ช่วยส่งเสริมความสะดวกสบายของมนุษย์
ช่วยทำให้การผลิตในอุตสาหกรรมดีขึ้น
ช่วยส่งเสริมการค้นคว้าวิจัยให้มีความสะดวก
ช่วยส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
ช่วยส่งเสริมสติปัญญาของมนุษย์
เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้เศรษฐกิจเจริญ
รุ่งเรือง
ช่วยให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างกัน
เทคโนโลยีสารสนเทศ
ผลกระทบของเทคโนโลยี
สารสนเทศ
ผลกระทบในทางลบ
ทำให้เกิดอาชญากรรม
ทำให้ความสัมพันธ์ของมนุษย์เสื่อมถอย
ทำให้เกิดความวิตกกังวล
ทำให้เกิดการเสี่ยงภัยทางด้านธุรกิจ
ทำให้มีการพัฒนาอาวุธที่มีอำนาจทำลายสูง
ทำให้ข้อมูลหรือโปรแกรมถูกทำลายได้
บทที่ 8 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิด
เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็น
องค์ประกอบในการกระทำความผิดทั้ง
ทางตรง และ ทางอ้อม โดยเกี่ยวข้องกับ
อาชญากรรมในหลาย ๆ รูปแบบ ดังนี้
ใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด
เป็นเป้าหมายในการกระทำความผิด
ใช้ในการเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการกระ
ทำความผิด
Company Logo
www.themegallery.com
(Traditional Computer Crimes
เป็นอาชญากรรมรูปแบบใหม่ซึ่งกฎหมายที่มีอยู่เดิม
ไม่เพียงพอที่จะปรับใช้และดำเนินคดีได้ต้องใช้พ.ร.บ.ว่า
ด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
ได้แก
การเจาะระบบคอมพิวเตอร์ (การ
บุกรุก)
∙ การดักรับข้อมูลในเครือข่าย
คอมพิวเตอร์ (Sniffer)
∙ การขโมย เพิ่ม แก้ไข เปลี่ยนแปลง
ทำลายข้อมูล
(Virus , Trojan , Backdoor)
∙ Spam Mail
∙ การก่อการร้ายทางไซเบอร์
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์
ลักษณะการกระทำความผิดที่พบในประเทศไทย
คดีหมิ่นประมาท / ก่อความเดือดร้อน
รำคาญ∙ หมิ่นประมาทบนกระดานข่าว, เว็บบอร์ด ,
เว็บไซต์
ประชาชนทั่วไป
สถาบันพระมหากษัตริย์ : เว็บไซต์,
กระดานข่าว, รูปภาพ
ความมั่นคงฯ (การเมือง?)
∙ ก่อความเดือดร้อนรำคาญ/หมิ่นประมาท
โดยใส่เบอร์โทรศัพท์
ของผู้อื่นลงบนกระดานข่าว ทำนอง
ต้องการเพื่อนแก้เหงา หรือ
ขายบริการทางเพศ
∙ หมิ่นประมาทด้วยการตัดต่อภาพ (มาตรา
16)
∙ ข่มขู่ผู้นำประเทศอื่นผ่านทางอีเมล์
มาตรา
14(3)
ลักษณะทั่วไปของอาชญากรรม
ทางคอมพิวเตอร์
ผู้กระทำความผิดอยู่ตรงไหนก็ได้ใน
โลก
ความเสียหายกระทบถึงคนจำนวน
มากและรวดเร็ว
ใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนในการกระ
ทำความผิด
ยากต่อการตรวจพบร่องรอยการกระ
ทำความผิด
ยากต่อการจับกุมและนำผู้กระทำผิด
สาเหตุการกระทำความผิด
ความคึกคะนอง
เพราะอยากแก้แค้น
เพื่อการทำโจรกรรม
ส่งไวรัส โปรแกรมหนอน โทรจัน และ
สปายแวร์
สรุปการกระทำความผิดบน
ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต มาก
ที่สุด
Phishing การหลอกล่อข้อมูลผ่านหน้า
เว็บไซต์ต่าง ๆ ที่พยายามทำให้เหมือน
Carding การขโมยบัตรเครดิต ซึ่ง
เป็นการทดสอบบัตรว่าใช้ได้หรือไม่ และ
มีการทำธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ตด้วย
Malware / Virus ซอฟต์แวร์ที่หวังร้าย
Spam mail Attack อีเมล์ไม่พึ่งประสงค์
พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
ชื่อกฎหมาย : พระราชบัญญัติว่าด้วย
การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
พ.ศ. 2550
วันบังคับใช้กฎหมาย : 18 กรกฎาคม
2550
ผู้รักษาการ : รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
(ไอซีที)
ระบบคอมพิวเตอร์
“ระบบคอมพิวเตอร์” หมายความ
ว่า อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ของ
คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมการทำงาน
เข้าด้วยกัน โดยได้มีการกำหนด
คำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใด
และแนวทางปฏิบัติงานให้
อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ทำ
หน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดย
ข้อมูลคอมพิวเตอร์
“ข้อมูลคอมพิวเตอร์” หมายความว่า
ข้อมูล ข้อความ คำสั่ง ชุดคำสั่ง
หรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่อยู่ในระบบ
คอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบ
คอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้
และให้หมายความรวมถึงข้อมูล
อิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วย
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วย
ข้อมูลจราจรทาง
คอมพิวเตอร์
“ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์” หมายความ
ว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารของ
ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งแสดงถึงแหล่งกำเนิด
ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่
ปริมาณ ระยะเวลาชนิดของบริการ หรือ
อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารของ
ระบบคอมพิวเตอร์นั้น
การเข้าถึงระบบ
คอมพิวเตอร์โดยมิชอบ
มาตรา ๕ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบ
คอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึง
โดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับ
ตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน
หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้ง
ปรับ
การเปิดเผยมาตรการ
ป้องกันการเข้าถึง
มาตรา ๖ ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกัน
การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำ
ขึ้นเป็นการเฉพาะ ถ้านำมาตรการดัง
กล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบในประการที่น่า
จะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวาง
โทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกิน
สองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์
โดยมิชอบ
มาตรา ๗ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูล
คอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึง
โดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับ
ตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือ
ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การพิจารณาฐานความผิด
การกระทำซึ่งเป็นความผิดตาม มาตรา 7
อาจต้องมีการกระทำความผิดตามมาตรา 5
เสียก่อน
การดักข้อมูลคอมพิวเตอร์
โดยมิชอบ
มาตรา ๘ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิ
ชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับไว้
ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการ
ส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์
นั้นมิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อให้
บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้ ต้องระวางโทษจำ
คุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
แอบบันทึก
การแก้ไข ข้อมูล
คอมพิวเตอร์
มาตรา ๙ ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย
แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่า
ทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูล
คอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต้อง
ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่
เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การรบกวนระบบ
คอมพิวเตอร์
“มาตรา ๑๐ ผู้ใดกระทำด้วยประการใด
โดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบ
คอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ
ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงาน
ตามปกติได้
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับ
ไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เหตุผล การกำหนดฐานความผิดคำนึงถึง
การก่อให้เกิดการปฏิเสธการให้บริการ
(Denial of Service) เป็นสำคัญ
สแปมเมล์ (Spam Mail)
มาตรา ๑๑ ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์
หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่น
โดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของ
การส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวน
การใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดย
ปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่ง
แสนบาท
การกระทำซึ่งก่อให้เกิดผลกระ
ทบต่อความมั่นคง
มาตรา ๑๒ ถ้าการกระทำความผิดตาม
มาตรา ๙ หรือมาตรา ๑๐
(๑) ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ไม่
ว่าความเสียหายนั้นจะเกิดขึ้นในทันทีหรือใน
ภายหลังและไม่ว่าจะเกิดขึ้นพร้อมกันหรือไม่
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่
เกินสองแสนบาท
เหตุผล กำหนดโทษหนักขึ้น
ตามความเสียหายที่เกิดขึ้น
การใช้อุปกรณ์/ชุดคำสั่ง
ในทางมิชอบ
มาตรา ๑๓ ผู้ใดจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุด
คำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็น
เครื่องมือในการกระทำความผิดตามมาตรา ๕
มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙
มาตรา ๑๐ หรือมาตรา ๑๑ ต้องระวางโทษจำ
คุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
เหตุผล จำกัดเฉพาะกรณีโปรแกรมคอมพิวเตอร์
เท่านั้น ซึ่งแต่เดิมรวมถึงฮาร์ดแวร์ (อุปกรณ์) ด้วย
การนำเข้า/เผยแพร่เนื้อหาอันไม่
เหมาะสม
มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้
ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี
หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้ง
ปรับ
(๑) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูล
คอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดย
ประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือ
ประชาชน
(๒) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูล
คอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะ
การกำหนดบทลงโทษผู้ให้
บริการ
มาตรา ๑๕ ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจสนับสนุน
หรือยินยอมให้มีการกระทำความผิดตาม
มาตรา ๑๔ ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความ
ควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้
กระทำความผิดตามมาตรา ๑๔
เหตุผล ผู้ให้บริการในที่นี้มุ่งประสงค์ถึง
เจ้าของเว็บไซต์ ซึ่งมีการพิจารณาว่า ควรต้อง
มีหน้าที่ลบเนื้อหาอันไม่เหมาะสมด้วย
การเผยแพร่ภาพซึ่งตัดต่อใน
ลักษณะหมิ่นประมาท
มาตรา ๑๖ ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่
ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์
ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่
เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติมหรือดัดแปลงด้วย
วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดย
ประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น
ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษ
จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือ
ทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำตามวรรคหนึ่ง เป็นการนำเข้าข้อมูล
คอมพิวเตอร์โดยสุจริต ผู้กระทำไม่มีความผิด
ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความ